AI คืออะไร

เป็นที่ทราบกันดีว่า สำหรับยุค Metaverse  ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI คือ หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของทุก ๆ เครื่องมือ โปรแกรม และแพลตฟอร์ม Social Media ต่าง ๆ ทุก ๆ บริษัทห้างร้านล้วนเอ่ยถึงการทำงานของ AI และเป้าหมายของนักพัฒนาก็ล้วนมุ่งเข้าหา AI ในบทความนี้ Digital Tips จะพาคุณไปไขข้อสงสัย ว่าแท้จริงแล้ว AI คืออะไร ประเภทของ AI มีอะไรบ้าง และมีหลักการทำงานอย่างไร และที่สำคัญที่สุด คือมี AI ตัวไหน เกี่ยวข้องกับงาน Digital Marketing หรือไม่ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกัน!


Highlight

  • AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence หมายถึง วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่สร้างความฉลาดเทียมให้กับสิ่งไม่มีชีวิต
  • AI ประกอบไปด้วย 5 สาขาย่อย ได้แก่ Machine Learning, Deep Learning, Natural Language Processing (NLP), Robotics และ Fuzzy Logic
  • หลักการทำงานของ AI คือการใช้ข้อมูลและอัลกอริทึมในการเรียนรู้และตัดสินใจอย่างชาญฉลาด โดยเริ่มจากการรวบรวมและประมวลผลข้อมูล เพื่อสร้างแบบจำลองสำหรับวิเคราะห์ข้อมูลใหม่ ๆ
  • ปัจจุบันมีเครื่องมือ AI ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ ChatGPT 4o, Gemini, Semrush และ Botnoi Voice 


AI คืออะไร สำคัญอย่างไรกับโลกธุรกิจ 

AI - Artificial Intelligence
ที่มา: https://www.fool.com/terms/a/artificial-intelligence/ 

AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence หมายถึง วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่สร้างความฉลาดเทียมให้กับสิ่งไม่มีชีวิต (ดังที่คำแปลภาษาไทยให้ชื่อว่า ‘ปัญญาประดิษฐ์’) ซึ่งแม้จะพัฒนาจากความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมเป็นหลัก แต่ก็ผนวกเข้ากับความรู้ด้านจิตวิทยา ชีววิทยา ปรัชญา และภาษาศาสตร์ร่วมด้วย จุดประสงค์หลักของการสร้าง AI คือ การเนรมิตชุดเทคโนโลยีที่สามารถคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาแทนมนุษย์ได้ แม้จะไม่สามารถทำได้สมบูรณ์ 100% แต่ก็สามารถจุดประกายไอเดียใหม่ ๆ หรือมอบคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ให้กับมนุษย์ได้ เช่น การถือกำเนิดของแชตบอตอย่าง ChatGPT และ Gemini เป็นต้น


5 สาขาย่อยของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI

AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ มีหลายสาขาย่อยที่ครอบคลุมถึงการพัฒนาระบบให้สามารถเรียนรู้ วิเคราะห์ และทำงานได้อย่างชาญฉลาด โดยแบ่งออกเป็น 5 สาขา ดังนี้

Machine Learning

สาขานี้เกี่ยวข้องกับการใช้ในการสร้างแบบจำลองการคาดการณ์ของ AI โดยใช้ข้อมูลตัวอย่างในการฝึกโมเดล เพื่อให้สามารถเรียนรู้และปรับปรุงประสิทธิภาพในการตัดสินใจได้เอง ไม่ต้องเขียนโปรแกรมคำสั่งโดยละเอียดในทุกขั้นตอน

Deep Learning

การใช้โครงข่ายประสาทเทียม (Neural Network) ในการเรียนรู้รูปแบบของข้อมูลที่ซับซ้อน เช่น การจดจำภาพ เสียง และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP)

Natural Language Processing

การใช้ในการประมวลผลและเข้าใจภาษาที่มนุษย์ใช้จริง เช่น การแปลภาษา การสรุปเนื้อหา และการโต้ตอบด้วยภาษามนุษย์ในรูปแบบ Chatbots หรือผู้ช่วยเสมือน

Robotics

หุ่นยนต์จะใช้โปรแกรม AI เพื่อพัฒนาและออกแบบหุ่นยนต์หรือเครื่องจักร ที่สามารถทำงานโดยอัตโนมัติหรือกึ่งอัตโนมัติ โดยทั่วไปหุ่นยนต์จะเกี่ยวข้องกับส่วนประกอบอื่น ๆ ของเทคโนโลยี AI เช่น NLP หรือ ML หรือการรับรู้ ปัจจุบันหุ่นยนต์ที่ใช้ AI มีอยู่ในหลายอุตสาหกรรม เช่น การดูแลสุขภาพ การค้าปลีก และการผลิต 

Fuzzy Logic

ระบบตรรกะที่ถูกออกแบบมาเพื่อจำลองการตัดสินใจของมนุษย์ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและไม่ชัดเจน ตรงข้ามกับระบบตรรกะแบบคลาสสิกที่ใช้ค่าจริงหรือเท็จ (True หรือ False) เท่านั้น โดยในระบบ Fuzzy Logic ค่าเหตุการณ์หรือเงื่อนไขต่าง ๆ สามารถอยู่ในช่วงระหว่าง 0 ถึง 1 ตามระดับความเป็นจริงหรือความน่าจะเป็นของเงื่อนไขนั้น ๆ ซึ่งจะทำให้การทำงานของ AI แม่นยำขึ้น


ประเภทของ AI 

เราอาจกล่าวได้ว่า Artificial Intelligence หรือ AI คือ ผู้ช่วยคนสำคัญสำหรับคนทำงานในยุคนี้ แล้ว AI แบ่งออกได้เป็นกี่ประเภท และแต่ละประเภททำงานอย่างไร Digital Tips จำแนกมาให้ดังนี้

ประเภทของ AI ตามการประมวลผล

  • Reactive Machines

ลักษณะโดยทั่วไปของ Reactive Machines AI คือ ไม่มีหน่วยความจำเป็นของตัวเอง และไม่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง ทำได้เพียงมีปฏิกิริยาโต้ตอบกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น แต่ข้อดีคือทำงานได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จึงเหมาะสำหรับงานรับข้อมูลและแสดงผล อาทิ เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว ระบบป้องกันอัคคีภัย หรือ ระบบอ่านเกมของคู่ต่อสู้บนกระดานหมากรุก 

  • Limited Memory

AI ประเภทนี้ พัฒนาขึ้นจาก Reactive Machines กล่าวคือ มีหน่วยความจำเป็นของตัวเอง สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านข้อมูลชุดเก่า ๆ ได้ แต่หน่วยความจำที่มียังเป็นหน่วยความจำขนาดเล็ก เก็บข้อมูลได้จำกัด ข้อดีของ Limited Memory AI คือ สามารถเรียนรู้และปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ได้ดี จึงเหมาะกับงานที่ซับซ้อนขึ้นมาอีกขั้น เช่น รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ระบบรักษาความปลอดภัย หรือระบบแปลภาษา

  • Theory Of Mind

ทั้ง 2 ประเภทก่อนหน้า คือปัญญาประดิษฐ์ที่มีใช้งานจริงในปัจจุบัน แต่สำหรับ AI ประเภท Theory Of Mind คือ AI ที่ยังอยู่ในขั้นตอนของการวิจัย มีจุดเด่นคือ สามารถเข้าใจอารมณ์ ความรู้สึก และวัฒนธรรมของมนุษย์ได้ รวมทั้งสามารถประมวลผลคำพูดออกมาเป็นการกระทำได้ หากพัฒนาได้สำเร็จแล้วจะถูกนำไปใช้กับงานที่ซับซ้อน เช่น ระบบแชตบอตที่เข้าใจความรู้สึกของมนุษย์ หรือหุ่นยนต์ที่ช่วยมนุษย์ตัดสินใจได้

  • Self-Awareness

ปลายทางสุดท้ายของการพัฒนา AI คือ การสร้างชุดเทคโนโลยีที่สามารถตระหนักรู้ได้ด้วยตนเอง มีความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ อย่างมีสติ และแสดงความคิดเห็นได้อย่างลึกซึ้งเฉกเช่นมนุษย์ 

ประเภทของ AI ตามความสามารถและการใช้งาน

  • Artificial Narrow Intelligence (ANI)

ประเภทแรกของ AI คือ ปัญญาประดิษฐ์ที่มุ่งเน้นการทำงานเฉพาะด้านอย่างยอดเยี่ยม ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ทำงานอย่างเดียว จึงมีข้อดีที่ความเชี่ยวชาญอย่างยิ่งยวด ภายใต้ข้อจำกัดปกติของ AI คือ ความไม่ยืดหยุ่น ไม่เปลี่ยนแปลง และมักจะไม่เข้าใจบริบทรอบข้าง ตัวอย่างของ AI ประเภทนี้ ก็คือเครื่องมือพื้นฐานที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบัน เช่น Siri, Google Assistant หรือ Google Translate 

  • Artificial General Intelligence (AGI)

AGI หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป”หมายถึง AI ที่มีความสามารถทัดเทียมกับมนุษย์ คิดแบบที่มนุษย์คิด ทำอย่างที่มนุษย์ทำ และสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ แทนมนุษย์ได้ ปัจจุบัน AGI ยังอยู่ในขั้นพัฒนา ยังไม่มีตัวอย่างจริงออกมา แต่ก็สามารถเกิดขึ้นจริงได้ไม่ยากนัก หากนำเทคโนโลยีของ ANI มาพัฒนาประกอบกัน

  • Artificial Super Intelligence (ASI)

ASI หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสุดยอด” สามารถคิด ตัดสินใจ วิเคราะห์ และประมวลผลได้ดีและแม่นยำกว่ามนุษย์ในทุก ๆ ด้าน แต่อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อมวลมนุษยชาติ อย่างไรก็ตาม ASI ยังคงเป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง ณ ขณะนี้

หลักการทำงานของ AI 

หากจำเป็นต้องอธิบายการทำงานของ AI โดยสังเขป พบว่ามีหลักการง่าย ๆ คือ “การใช้ข้อมูลและอัลกอริทึมในการเรียนรู้และตัดสินใจอย่างชาญฉลาด” โดยเริ่มจากการรวบรวมและประมวลผลข้อมูล เพื่อสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ จากนั้นใช้แบบจำลองนี้เพื่อทำนายหรือวิเคราะห์ข้อมูลใหม่ ๆ 

ทั้งนี้ กระบวนการเรียนรู้ของ AI มักประกอบด้วยการฝึกโมเดลด้วยข้อมูลที่มีการติดป้ายกำกับ (Supervised Learning) หรือข้อมูลที่ไม่มีการติดป้ายกำกับ (Unsupervised Learning) เพื่อให้ระบบสามารถปรับปรุงความแม่นยำได้เอง จากนั้นโมเดลจะทำการทำนายหรือวิเคราะห์ข้อมูลใหม่ และปรับปรุงตัวเองโดยอิงจากผลลัพธ์ที่ได้ (Optimization) ยิ่งไปกว่านั้น การทำงานของ AI ยังรวมถึงการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และการรู้จำภาพ (Computer Vision) เพื่อทำงานในหลากหลายด้าน เช่น การจดจำใบหน้า การแปลภาษา หรือการควบคุมหุ่นยนต์ จึงสามารถกล่าวได้ว่า AI คือ เครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้มนุษย์ตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และยังช่วยอำนวยความสะดวกให้ชีวิตง่ายขึ้นอีกด้วย


ประโยชน์ของ AI ที่มีต่อวงการธุรกิจ

ความสามารถของ AI ช่วยให้การประกอบธุรกิจของคุณง่ายขึ้นในทุก ๆ ด้าน เพราะไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจประเภทไหน AI คุณก็สามารถใช้เครื่องมือ AI ช่วยรวบรวม หรือวิเคราะห์ข้อมูลสำคัญแทนได้ ดังตัวอย่างประโยชน์ต่อไปนี้

ประโยชน์ของ AI
ที่มา: https://www.bankrate.com/investing/investing-in-artificial-intelligence-ai/

ช่วยในการสร้างแบรนด์เพื่อเริ่มต้นธุรกิจใหม่

สำหรับธุรกิจที่กำลังสร้างแบรนด์ AI คือ พาร์ทเนอร์ที่ดีที่สุด ตั้งแต่การช่วยคิดคอนเซ็ปต์แบรนด์ ออกแบบ CI แบรนด์ สำรวจเทรนด์การตลาด ออกแบบ Marketing Plan ไปจนถึงการแนะนำแนวทางเพื่อสร้าง Customer Experience ที่สมบูรณ์แบบ

เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กร

AI คือ เครื่องมือที่สามารถช่วยให้ธุรกิจทำงานได้เร็วขึ้น และลดต้นทุนด้วยการทำงานอัตโนมัติ เช่น การประมวลผลข้อมูล การตรวจสอบข้อมูลทางการเงิน หรือการคาดการณ์ยอดขาย ซึ่งช่วยให้พนักงานสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่ต้องใช้ทักษะและความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น

>> อ่านเพิ่มเติม: Marketing Automation 

ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลที่จำเป็นต่อการวางกลยุทธ์

การใช้ AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ตอบโจทย์การทำงานยุค Data Driven เช่น การทำนายแนวโน้มการขาย การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค หรือการระบุรูปแบบของตลาด ทำให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันเวลา

>> อ่านเพิ่มเติม: data analytic คือ 

สร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้า

รู้หรือไม่? คุณสามารถใช้งานปัญญาประดิษฐ์ในรูปแบบของ Chatbot และผู้ช่วยเสมือน เพื่อช่วยตอบคำถามและให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการแนะนำสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า เพื่ออัปเกรด Customer Experience ให้อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจมากขึ้น

ช่วยวางแผนการตลาด และทำคอนเทนต์ส่งเสริมการตลาด

ประโยชน์ที่เด่นชัดที่สุดของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI คือ การใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อวางแผนทำการตลาด เช่น วางแพลน Social Media Marketing หรือใช้ร่วมกับ Martect อื่น ๆ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ยิ่งไปกว่านั้น ยังมี AI บางประเภทที่สามารถช่วยคุณเขียนคอนเทนต์ ออกแบบกราฟิก หรือคิด Call to action ให้เหมาะกับเนื้อหาได้อีกด้วย

ช่วยวางแผนการตลาด
ประโยชน์ของการนำเทคโนโลยี ai มาใช้ในทางธุรกิจ

ตัวอย่างการใช้ AI ในปัจจุบัน

ปัจจุบันมีการใช้ AI เข้ามาปรับใช้ในด้านใดบ้าง Digital Tips ขอยกตัวอย่างให้เห็นชัด ๆ ผ่านการใช้งาน 3 ลักษณะ ดังนี้

Process Automation 

การนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการทำให้กระบวนการทำงานต่าง ๆ ในองค์กรเป็นไปอย่างอัตโนมัติ โดยลดการทำงานด้วยมือของมนุษย์และทำให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การทำงานแบบอัตโนมัติสามารถทำได้ตั้งแต่กระบวนการง่ายๆ เช่น การส่งอีเมลตอบกลับอัตโนมัติ ไปจนถึงกระบวนการที่ซับซ้อน เช่น การจัดการคำสั่งซื้อหรือการทำงานของระบบ ERP (Enterprise Resource Planning)

>> อ่านเพิ่มเติม: CRM คือ

Cognitive Insight

การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เช่น Machine Learning และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) เพื่อวิเคราะห์และทำความเข้าใจข้อมูลในรูปแบบที่ซับซ้อน เช่น ข้อความ รูปภาพ เสียง หรือข้อมูลที่ไม่เป็นโครงสร้าง (Unstructured Data) ซึ่งต่างจากการวิเคราะห์ข้อมูลแบบดั้งเดิมที่เน้นการใช้ข้อมูลเชิงตัวเลข (Structured Data) 

Cognitive Engagement

การใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างการมีส่วนร่วมและการสื่อสารกับผู้ใช้อย่างชาญฉลาด โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติและตรงจุดมากขึ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการใช้ Chatbots, ผู้ช่วยเสมือน (Virtual Assistants) และระบบโต้ตอบอัตโนมัติที่สามารถสนทนาและแก้ไขปัญหาให้กับผู้ใช้ได้เสมือนมนุษย์


แนะนำเครื่องมือ AI ที่มีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจ 

Google Bard
ที่มา: https://www.ipvanish.com/blog/what-is-google-bard/ 
  • Gemini: เครื่องมือ Generative AI คู่แข่งของ ChatGPT มีจุดเด่นที่การให้รายละเอียดทั้ง Pros และ Cons คู่กันเสมอ ไม่ว่าคุณจะพิมพ์คำถามเกี่ยวกับเรื่องอะไร ที่สำคัญ Gemini รองรับภาษาไทยได้ จึงเหมาะแก่การขอคำแนะนำในเรื่องง่าย ๆ เช่น แปลภาษา เรียบเรียงคำโฆษณาให้เข้าใจง่ายขึ้น หรือขอข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งสิ่งที่ Gemini ช่วยได้จะเกี่ยวข้องกับการทำคอนเทนต์เป็นส่วนใหญ่
  • ChatGPT 4o: ประโยชน์ของ AI คือ การช่วยแบ่งเบาภาระมนุษย์ ด้วยเหตุนี้ ChatGPT 4o โปรแกรม AI เวอร์ชันล่าสุดของ ChatGPT จึงเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ฮอตฮิตที่สุดใน เทรนด์การตลาด 2024 เพราะสามารถทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น ด้วยการผสมผสานการทำงานที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของการเรียนรู้เชิงลึก สร้างประสบการณ์การสนทนาที่ใกล้เคียงกับมนุษย์มากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานในหลายบริบท เช่น การให้บริการลูกค้า การวิเคราะห์ภาพ และการแปลภาษาได้มากถึง 50 ภาษา
  • Semrush: เป็นเครื่องมือ AI ครบวงจรสำหรับธุรกิจที่เน้นทำ SEO และ Content Marketing บน Social Media ข้อดีของ Semrush คือสามารถสำรวจทิศทางการทำ SEO ของคู่แข่งได้ ตลอดจนช่วยค้นหา Keyword และทำ Topic Research ก่อนเริ่มทำ SEO ได้ โดยไม่ต้องใช้เวลานาน และแสดงให้คุณเห็นว่า AI คือ ที่ปรึกษาทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมเพียงใด
  • Botnoi Voice: โปรแกรมแปลงข้อความเป็นเสียงพูด ที่มีความสมจริงและเป็นธรรมชาติ มีให้เลือกใช้มากกว่า 80 เสียงในหลากหลายภาษา เช่น ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม และอื่นๆ อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งเสียงพูดได้หลายรูปแบบ เช่น น้ำเสียง เพศ อายุ และความเร็วในการพูด เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละสถานการณ์ เช่น การพากย์เสียงในวิดีโอ การทำ Presentation หรือหนังสือเสียง 

AI จะส่งผลต่อชีวิตมนุษย์ในอนาคตอย่างไร? 

โดยสรุปแล้ว AI คือ ชุดเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุก ๆ มิติของชีวิตมนุษย์ ทั้งการทำธุรกิจ สุขภาพ ความปลอดภัย การเดินทาง ฯลฯ ให้มนุษย์สามารถใช้ชีวิตได้สมบูรณ์แบบมากขึ้น เพราะ AI จะทำให้ทุกอย่างสะดวก รวดเร็วขึ้น จนมนุษย์มีเวลาเหลือเพื่อพักผ่อนและหาความสุขได้มากกว่าเดิม อย่างไรก็ดี สิ่งที่เราต้องเตรียมรับมือหลังจากนี้ คือการมาของปัญญาประดิษฐ์จะทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไป และมนุษย์อาจต้องพยายามทำสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นเป็น 2 เท่า เพื่อรักษาบทบาทของตัวเองไว้ ไม่ให้ถูกแทนที่ด้วย AI

หากคุณอยากเรียนรู้วิธีการใช้ AI เพื่อทำการตลาดออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมติดตามสารพัดคอร์สเรียนจาก Digital Tips ผ่านทาง Facebook: Digital Tips Acadamy และหน้ารวมคอร์สบนเว็บไซต์นี้ คลิกเลย!


อ้างอิง

Google Cloud. What is Artificial Intelligence (AI)?
Available from: https://cloud.google.com/learn/what-is-artificial-intelligence 

IBM. What is artificial intelligence?
Available from: https://www.ibm.com/topics/artificial-intelligence 

coursera. 4 Types of AI: Getting to Know Artificial Intelligence
Available from: https://www.coursera.org/articles/types-of-ai 

EJable. Theory of Mind AI in Artificial Intelligence
Available from: https://www.ejable.com/tech-corner/ai-machine-learning-and-deep-learning/theory-of-mind-ai-in-artificial-intelligence/

10 body languages for presentation
Marketing Psychology
ลิสต์ 10 ภาษากายเพื่อการพรีเซนต์งาน สำหรับพนักงานมือโปร 

Topic Summary คนทำงานเตรียมแชร์ไว้ 10 ภาษากายเพื่อการพรีเซนต์งาน เพิ่มสกิลการเป็นมือโปร และทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในตัวคุณ! ในบรรดาความรู้เรื่อง Body Language ทั้งหมด ภาษากายที่ใช้ในการพรีเซนต์งาน…

body languages
Marketing Psychology
เช็กก่อนใคร! ตำแหน่งของ Body Language ตัวช่วยอ่านพฤติกรรมคนจากภาษากาย

Topic Summary อยากรู้ไหม? เวลาอ่านใจคนจากภาษากาย ตำแหน่งของ Body Language ส่วนใดบ้างที่คุณต้องดู และแต่ละตำแหน่งมีความสำคัญอย่างไร ใคร ๆ ก็อยากเชี่ยวชาญการอ่านใจคนด้วยภาษากาย…

what is psychology of pricing
News
เข้าใจจิตวิทยาราคา พร้อมแจกกลยุทธ์การตั้งราคา ให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็วกว่าที่เคย

เพิ่งเปิดธุรกิจใหม่ ควรตั้งราคาอย่างไรดี Digital Tips แชร์เทคนิคการตั้งราคาตามหลักจิตวิทยา พร้อมเคลียร์ชัดความหมายของจิตวิทยาราคา อ่านแล้วเข้าใจได้ทันที! Content Summary  จิตวิทยาราคา คือ การกำหนดราคาสินค้าโดยอ้างอิงจากการรับรู้ทางจิตวิทยา…