สำหรับใครที่ทำ Facebook สำหรับการตลาดหรือทำธุรกิจย่อมอยากที่จะได้ “ยอดไลค์” จำนวนมากเพื่อเป็นเครื่องการันตีว่า Facebook Page หรือ Facebook Post ที่ทำการปล่อยออกไปได้รับการยอมรับ และได้รับความสนใจในวงกว้าง ซึ่งการที่จะได้มาซึ่งยอดไลค์เยอะ ๆ ก็ต้องมาจากการแชร์โพสต์ มีผู้ที่ให้ความสนใจในโพสต์ที่ลง ไปจนถึงการมี Engagement กับโพสต์นั้น ๆ
ทำให้หลายคนมองหาตัวช่วยที่เป็นวิธีเพิ่ม Facebook Like แบบทางลัด เนื่องจากอยากได้ไลค์เยอะ ๆ เช่น การหาบริษัทปั๊มไลค์เพจ Facebook ซึ่งเป็นการเพิ่มยอดไลค์แบบระยะสั้น ใช้ไม่ได้ผลในระยะยาว ดังนั้นจะดีกว่าไหม? ถ้าใช้วิธีเพิ่ม Facebook Like สำหรับเพจเปิดใหม่แบบสายขาวที่มีคุณภาพ และให้ผลลัพธ์ที่ดีได้ในระยะยาว ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้ถึง 22 วิธีปั้มไลค์เฟสบุ๊คฟรี ๆ ได้อย่างไม่ผิดกฎ แถมยังได้คนเข้ามากดไลค์ กดแชร์ และเพิ่มการมีส่วนร่วมให้กับเพจของคุณมากขึ้นด้วย
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตลาดดิจิทัลได้ ในบทความ “Digital Marketing“
22 วิธีปั้มไลค์บนเพจ Facebook
1. มีการทำแผนกลยุทธ์ Social Media Marketing
สำหรับการมีแผนกลยุทธ Social Media Marketing หรือ การทำการตลาดบนโซเชียลมีเดีย ควรที่จะมีแผนกลยุทธ์ที่ช่วยให้ดำเนินงานได้อย่างเป็นขั้นตอน และนำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้ง่ายมากขึ้น โดยเราได้รวบรวมขั้นตอนมาให้ทั้งหมด 8 ขั้นตอน ดังนี้
1. เลือกเป้าหมายการตลาดโซเชียลมีเดียที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ
ขั้นตอนแรกในการสร้างกลยุทธ์โซเชียลมีเดีย คือ การกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมาย เพื่อที่จะได้วัดความสำเร็จและผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้
โดยในที่นี้แนะนำให้ใช้เป็น S.M.A.R.T. Goal ที่ประกอบด้วย
- S – Specific : การตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ไม่กว้างจนเกินไป
- M – Measurable : การตั้งเป้าหมายที่วัดผลได้ มีตัวชี้วัดผลลัพธ์
- A – Attainable : การตั้งเป้าหมายที่เป็นจริงและสามารถจับต้องได้
- R – Relevant : การตั้งเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
- T- Time-bound (กำหนดเวลา) : การตั้งเป้าหมายที่มีขอบเขตระยะเวลา
หลังจากทำการวางแผนวัตถุประสงค์และเป้าหมายแล้ว ก็ควรที่จะติดตามผลลัพธ์ที่ใช่ เช่น การมีส่วนร่วม การคลิกผ่าน และอัตรา Conversion มากกว่าการเน้นวัดกันที่ยอดคนติดตาม หรือสนใจแต่วิธีการเพิ่มไลค์เฟสบุ๊คเท่านั้นหรือถ้าอยากเรียนรู้รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูรายละเอียดได้ที่ “คอร์สเรียนยิงแอด“
2. เรียนรู้เกี่ยวกับกลุ่ม Audience ที่มี
เริ่มต้นจากการทำ Audience Personas ซึ่งเป็นการกำหนดตัวแทนกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าในอุดมคติ ในทุก ๆ ด้าน ทั้งอายุ สถานที่ รายได้เฉลี่ย ตำแหน่งงานทั่วไป ความสนใจ ฯลฯ เพื่อศึกษา ทำความเข้าใจกับพฤติกรรมและความชอบของพวกเขา แล้วนำมาวางแผนการตลาดที่เหมาะสมต่อไป เช่น Jugnoo ธุรกิจบริการที่คล้ายกับ Uber สำหรับรถสามล้ออัตโนมัติในอินเดีย ธุรกิจนี้ใช้ Facebook Analytics เพื่อเรียนรู้ว่า 90% ของผู้ใช้ที่แนะนำลูกค้ารายอื่น ๆ มีอายุระหว่าง 18 ถึง 34 ปี และ 65% ของกลุ่มนั้นใช้ Android พวกเขาใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อกำหนดเป้าหมายโฆษณา ส่งผลให้ต้นทุนต่อการอ้างอิงลดลง 40% เลยทีเดียว
3. ทำความรู้จักคู่แข่งของคุณ
การที่จะมองภาพรวม สภาพแวดล้อมของธุรกิจ สภาวะการแข่งขัน และจำนวนคู่แข่งในการตลาด จำเป็นต้องทำการวิเคราะห์คู่แข่ง (Competitive Analysis) โดยขั้นแรกให้ทำการรวบรวมรายชื่อคู่แข่งทั้งหมดในตลาดนำมาแยกว่า เป็นคู่แข่งขันทางตรง (Direct Competitor) หรือคู่แข่งขันทางอ้อม (Indirect Competitor)หลังจากนั้นให้วิเคราะห์กลยุทธ์และความสามารถของคู่แข่ง ก่อนจะนำมาวิเคราะห์ตัวเองเพื่อหาจุดเด่นที่เหนือกว่าให้ได้
4. ทำการปรับปรุงกลยุทธ์ Social Media
คุณควรที่จะทำการปรับปรุงกลยุทธ์ Social Media อย่างสม่ำเสมอ โดยการตรวจสอบว่า บัญชีโซเชียลมีเดียแต่ละรายการของคุณมีจุดประสงค์อะไร หากจุดประสงค์ของบัญชีไม่ชัดเจน ให้คิดว่าควรเก็บแผนนั้นไว้หรือไม่ หรือถ้าไม่ยังดีพอควรแก้ไขอย่างไร
5. ตั้งค่าบัญชีและปรับปรุงโปรไฟล์
คุณจะต้องกำหนดกลยุทธ์ของ Social Media สำหรับแต่ละแพลตฟอร์มด้วย เช่น เลือกใช้ Facebook สำหรับปล่อยภาพอินโฟกราฟิกเพื่อให้ความรู้ ส่วน TikTok เน้นลงวิดีโอสั้นที่สอนทริคง่าย ๆ หลังจากนั้นให้ตั้งค่าโปรไฟล์ ทั้งโลโก้ ชื่อ URL รวมถึงเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ผู้คนจะใช้เพื่อค้นหาธุรกิจของคุณด้วย
รู้จักกับ Facebook ads manager ได้จากบทความของเรา! “ตัวจัดการโฆษณา Facebook“
6. สร้างตารางสำหรับลง Social Media Content
กำหนดตารางเวลาการโพสต์ของคุณ เพื่อให้สามารถลงคอนเทนต์ได้อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ควรที่จะกำหนดจำนวนของคอนเทนต์ในแต่ละช่องทางให้ตอบโจทย์กับเป้าหมายที่ตั้งไว้
7. สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ
ควรที่จะระบุรูปแบบ ประเภท และเนื้อของคอนเทนต์ที่จะนำมาลงในช่องทางโซเชียลมีเดียที่ชัดเจน เช่น TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับวิดีโอสั้น ๆ และเน้นความสมจริง จึงควรที่จะวางแผนการทำคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับ TikTok เอาไว้ด้วย
8. ติดตามประสิทธิภาพและปรับกลยุทธ์โซเชียลมีเดียของคุณให้เหมาะสม
การทำ Tracking เพื่อวัดผลลัพธ์ที่ถูกต้องจะช่วยทำให้การเพิ่มยอดไลค์ ยอดแชร์ การมีส่วนร่วม หรือผลลัพธ์อื่น ๆ ที่ต้องการทำได้ง่ายมากขึ้น เนื่องจากธุรกิจจะสามารถเห็นผลลัพธ์ของโพสต์ที่ดีและไม่ดี ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของคอนเทนต์ที่ตรงใจของผู้ติดตามได้มากยิ่งขึ้น
2. รู้ในสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจต้องการ
เพื่อการปั๊มไลค์เพจ Facebook ที่มีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญเลยก็คือ การรู้ถึง Insight ของกลุ่มเป้าหมายว่า พวกเขาต้องการเสพคอนเทนต์แบบใดบ้าง พวกเขามีพฤติกรรมและความสนใจอย่างไร โดยการวิเคราะห์จาก Facebook Page Insight ซึ่งเป็นเครื่องมือแสดงข้อมูลหลังบ้านของ Facebook Page โดยเฉพาะ เช่น จำนวนการเข้าถึง การมีส่วนร่วม ฯลฯ หรือถ้าใครทำการยิงแอด Facebook อาจจะใช้ Facebook Business Manager ในการดูผลลัพธ์จากการยิงแอดในคอนเทนต์ประเภทต่าง ๆ ร่วมด้วยก็ได้เช่นกัน
สำหรับใครที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับการยิงแอดโฆษณา สามารถอ่านบทความของเราได้เลย “ยิงแอดคืออะไร“
3. รู้ว่ากลุ่มเป้าหมาย Active เวลาไหนบ้าง
ช่วงเวลาในการลงคอนเทนต์ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยปั๊มไลค์ facebook เยอะ ๆ ได้ เพราะการรู้เวลาที่มีกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ Active มากที่สุดจะช่วยทำให้พวกเขาเข้าถึงคอนเทนต์ได้ในจำนวนที่มากขึ้น และยังเพิ่มโอกาสทำให้ได้ยอดไลค์เพิ่มง่ายมากขึ้น
ขอบคุณภาพจาก : sproutsocial.com
จากการวิเคราะห์ของ sproutsocial เวลาโพสต์ที่ดีของ Facebook จะเป็นช่วงวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 9.00 น. ช่วงวันอังคาร เวลา 10.00 น. และ 12.00 น. ส่วนวันที่โพสต์แนะนำเป็นช่วงวันอังคารถึงวันศุกร์ ส่วนวันที่โพสต์ที่มีโอกาสได้ยอดไลค์น้อยจะเป็นช่วงวันเสาร์ ซึ่งหลังจากรู้ว่าควรจะลงโพสต์วันไหนแล้ว ก็สามารถทำการตั้งตารางลงโพสต์บนเฟซบุ๊กเอาไว้ ทำให้ทีมงานทำคอนเทนต์สามารถวางแผนคอนเทนต์ล่วงหน้าได้อีกด้วย
4. ปั๊มไลค์ด้วยการทำคอนเทนต์
หลายธุรกิจมักจะเน้นคอนเทนต์ขายของ เพราะต้องการสร้าง Conversion ให้กับธุรกิจ แต่นอกจากการทำคอนเทนต์ขายของแล้ว ธุรกิจควรให้ความสำคัญกับการส่งมอบคอนเทนต์ที่มีคุณค่ามากกว่าเรื่องโปรโมชันหรือคุณสมบัติสินค้า เช่น คอนเทนต์ให้ความรู้เชิงลึก มีการแชร์เทคนิคแบบ Tips & Tricks ในเรื่องที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ แต่ก็ตรงกับสิ่งที่ธุรกิจทำอยู่ วิธีนี้ก็จะช่วยปั๊มไลค์โดยไม่จำเป็นต้องซื้อ Like Facebook ซึ่งเสี่ยงที่ทาง Facebook จะแบนเพจคุณได้ด้วย
5. การโพสต์ให้สม่ำเสมอช่วยเพิ่มยอดไลค์ได้
การทำ Content Marketing ที่ดีเพื่อเรียกยอดไลค์บน Facebook ควรที่จะลงโพสต์ให้สม่ำเสมอ เพราะจะทำให้ผู้ติดตามปัจจุบันเห็นโพสต์จากธุรกิจของคุณเป็นประจำ อีกทั้งยังอาจจะได้ผู้ติดตามหรือคนกดไลค์ใหม่ ๆ ด้วย ซึ่งความถี่ในการลงโพสต์บน Facebook ควรอยู่ระหว่าง 5-10 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่เช่นนั้นอาจจะมากเกินไปจนทำให้ผู้ติดตามเกิดความรำคาญได้
6. เพิ่มไลค์ด้วยการทำ Video
ขอบคุณภาพจาก : developers.facebook.com
นอกจากวิธีเพิ่มยอดไลค์ด้วยการแชร์ลิงก์ หรือลงรูปทั้งในแบบ Single Image และ Photo Album แล้ววิธีปั้มไลค์ Facebook ด้วยการทำวิดีโอก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้มียอดไลค์พุ่งสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่เทรนด์การทำวิดีโอสั้น (Short Video) กำลังมา เนื่องจากตั้งแต่ปี 2020 ที่สัดส่วนประมาณ 17% ของเนื้อหาทั้งหมดใน Facebook เป็นรูปแบบวิดีโอ และก็ได้รับความนิยมอย่างมากมาจนถึงปัจจุบันนี้ ดังนั้น การทำคอนเทนต์ด้วยวิดีโอจึงเป็นสูตรลัดที่ทำให้สร้างยอดไลค์ Facebook ได้ดี ซึ่งในปัจจุบันก็ไม่ได้มีแค่วิดีโอที่โพสต์ลงบนไทม์ไลน์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการโพสต์ Story และ Reel อีกด้วย
7. เพิ่มจำนวนไลค์ด้วยการลงรูป (Image)
วิธีทําให้คนไลค์รูปเยอะ ๆ facebook ย่อมต้องการให้เจ้าของเพจนำเสนอรูปภาพที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวที่ดี โดยอาจจะออกมาในรูปแบบของ Infographic ที่ให้สาระความรู้จนใครเห็นก็อยากจะกดไลค์ กดแชร์เอาไว้อ่าน หรืออาจจะทำเป็นรูปหลาย ๆ รูปที่เป็นเนื้อเรื่องที่เรียงต่อกันเป็น Photo Album ซึ่งก็ได้รับ Engagment ที่ดีด้วยเช่นกัน
ขนาดรูปก็มีผลต่อ Facebook นะ! อ่านบทความ “ขนาดรูป Facebook” เพื่อทำให้ Facebook ชอบ content ของคุณกันเถอะ!
8. Facebook Live ช่วยปั๊มยอดไลค์ได้รัว ๆ
Facebook Live เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ยอดนิยมของทาง Facebook ที่หลายธุรกิจใช้เพื่อ LIVE ขายสินค้าซึ่งผลพวงที่ได้กลับมาก็จะเป็นการไลค์เพจหรือยอด Engagement แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับลีลาของพ่อค้าแม่ค้าแต่ละท่านว่าสามารถทำให้คนกลับมาติดตามเพจได้หรือไม่ โดยเทคนิคง่าย ๆ เลยก็คือ การจัดโปรโมชัน มีกิจกรรมให้ร่วมสนุก รวมถึงภาพ เสียงต้องมีความคมชัด และควรมีสคริปต์ต่าง ๆ ในช่วง LIVE เอาไว้ด้วยจะได้ไม่พลาดประเด็นสำคัญที่อยากจะบอกกับคนดูไป
9. Influencer ช่วยดันยอดไลค์ได้ปังมาก
Influencer คือ กลุ่มคนที่มีอิทธิพลทางด้านความคิดต่อผู้บริโภค ดังนั้น จึงมีความสามารถในการโน้มน้าวใจคนได้สูง หากเลือกใช้ Influencer ได้ตรงกับคนที่กลุ่มเป้าหมายติดตาม เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ และผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพก็จะสามารถนำพายอดไลค์ ยอด Engagement และความน่าเชื่อถือกลับมาสู่ธุรกิจได้
10. การมีกิจกรรมหรือโปรโมชันในเพจ Facebook
โพสต์ประเภทกิจกรรมหรือโปรโมชันมักจะได้รับความนิยมมากพอสมควร เนื่องจากผู้คนมักอยากที่จะลุ้นรับรางวัลฟรี ซึ่งคุณก็อาจจะตั้งให้มีกติกาให้กดไลค์หรือแท็กเพื่อนมากดไลค์ เพื่อปั๊มไลค์ให้กับโพสต์หรือเพจให้มากขึ้น หลังจากนั้นจึงค่อย ๆ ส่งมอบคอนเทนต์ที่ดี มีคุณค่าออกมาให้พวกเขาเหล่านั้นติดตามเราไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าได้ในที่สุด
สำหรับใครที่ยังไม่มีเพจ Facebook และต้องการส้รางเพจ แต่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร บทความของเรามีคำตอบ “วิธีสร้างเพจ Facebook“
11. ใช้ปุ่ม Pin to top ในโพสต์ที่ได้รับความนิยม
สำหรับ Facebook Page ที่มีโพสต์คุณภาพที่มี Engagement สูง หรือเป็นโพสต์ที่บ่งบอกความเป็นแบรนด์ได้ดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถใช้ปุ่ม Pin to top ในโพสต์ที่ได้รับความนิยมนั้น ๆ ให้ขึ้นไปอยู่บนสุดของหน้า Facebook Page ได้ แล้วโพสต์นั้น ๆ ก็จะถูกเห็นเป็นโพสต์แรก ๆ เมื่อมีคนเข้ามาเยี่ยมเพจ และสุดท้ายก็จะกลายเป็นวิธีปั้มไลค์ Facebook อันทรงพลังให้กับคุณได้เช่นเดียวกัน
12. ใส่ใจรูปโปรไฟล์ (Profile Image) และ รูปหน้าปก (Cover Image)
เนื่องจาก โปรไฟล์ (Profile Image) และรูปหน้าปก (Cover Image) นับเป็นภาพจำของ Facebook Page นั้น ๆ เพราะเป็นสิ่งแรก ๆ ที่คนจะเห็น ดังนั้น จึงควรออกแบบมาให้เหมาะสมด้วยขนาดที่ถูกต้อง โดยขนาดรูปสำหรับขนาดของโปรไฟล์ (Profile Image) จะอยู่ที่ 851 x 315 px และ รูปหน้าปก (Cover Image) จะมีขนาดอยู่ที่ 820 x 312 px.
13. เชิญกลุ่มเป้าหมายมา Like Page
เชิญกลุ่มเป้าหมายมา Like Page วิธีนี้สามารถเพิ่มผู้ติดตามให้กับเพจได้ค่อนข้างรวดเร็ว เพราะเราอาจจะเชิญเพื่อนที่มีอยู่ใน Facebook มาช่วยกันปั๊มไลค์เพจให้เพิ่มมากขึ้นได้ แต่ก็จะเหมาะกับคนที่มีเพื่อนใน Facebook เป็นจำนวนมาก หรือสำหรับใครที่ไม่ได้มีเพื่อนเยอะ ก็อาจจะใช้วิธีการเชิญคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับเพจ อย่างคนที่มากดไลค์โพสต์ของเราให้กลับมาไลค์เพจของเราอีกต่อหนึ่งได้
14. เข้าร่วม Group Facebook ที่เกี่ยวข้อง
การเข้า Group Facebook ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณเป็นอีกหนึ่งวิธีปั๊มไลค์เพจที่มีประสิทธิภาพ เพราะผู้คนที่อยู่ใน Facebook Grop นั้นย่อมเป็นคนที่สนใจ และมีโอกาสที่จะซื้อหรือใช้บริการของธุรกิจคุณได้ ทำให้เกิดการกดไลค์กดแชร์ทั้งโพสต์และเพจของคุณได้ง่ายเช่นกัน แต่วิธีนี้ควรที่จะใช้ด้วยความระมัดระวัง คุณควรที่จะอ่านกติกาของกรุ๊ปให้ดีเสียก่อนว่ามีข้อห้ามอะไรบ้าง รวมถึงอย่าแชร์โพสต์ถี่เกินไป เพราะอาจจะเสี่ยงในการถูกแบนออกจากกรุ๊ปได้นั่นเอง
15. โปรโมท Facebook Page ไปยังแพลตฟอร์มอื่น
นอกจากการโพสต์และแชร์แค่ใน Facebook แล้ว ยังมีวิธีทําให้ไลค์เยอะขึ้นอีกด้วยการแชร์โพสต์นั้น ๆ ข้ามไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Instagram, Youtube หรือ Twitter ที่เรียกว่า การ Cross Promote ระหว่างโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ หรือถ้าคุณมีช่องทางเว็บไซต์เป็นของตัวเองก็อย่าลืมใส่ Call-to-action ที่สามารถกดแชร์โพสต์ได้ รวมถึงใส่ Widget ที่ทำให้คนกดเข้าไป LIKE เพจได้ง่ายเอาไว้ด้วย
16. ปั้มไลค์จากผู้ติดตามเพจอื่น ด้วยการแชร์คอนเทนต์ของเขา
การแชร์คอนเทนต์ที่ดี และเป็นสิ่งที่ผู้ติดตามของคุณสนใจของเพจอื่นนั้น จะทำให้ผู้ติดตามของคุณมี Engagement กับคุณมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการที่ผู้ติดตามของคุณจะเข้ามาคอมเมนต์ หรือเอาโพสต์นั้น ๆ ไปแชร์ต่ออาจทำให้คนที่สนใจในเรื่องเดียวกันเข้ามากดไลค์เพจของคุณเอาไว้ด้วย อีกทั้งคุณยังไม่ต้องเสียแรงผลิตคอนเทนต์จำนวนมากเพื่อลงอย่างสม่ำเสมออีกด้วย
17. ตั้งค่า Audience ให้ตรง Target
ถ้าอยากให้โพสต์ส่งตรงไปหากลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการได้แบบตรงจุด คุณสามารถตั้งค่า Audience ได้ โดยการเข้าไปที่ปุ่มตั้งค่า >> เลือกทั่วไป >> เลือกกลุ่มเป้าหมายของฟีดและการแสดงโพสต์ จากนั้นคุณจะสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการได้ และเวลาที่คุณกำลังจะเผยแพร่โพสต์ของคุณก็จะสามารถเข้ามาตั้งค่ากลุ่ม Audience ที่คุณต้องการให้เห็นโพสต์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
18. Tag หรือ Mention เพจ Facebook อื่น ๆ
ธรรมชาติของการใช้ Social Media คือการมีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างคน ดังนั้น หากต้องการที่จะเป็นที่รู้จัก อยากมียอดไลค์เยอะ ๆ และได้ผู้ติดตามเพิ่มเติม เราก็ต้องสร้างสัมพันธ์อันดีกับ “เพื่อนบ้าน” หรือเพจที่ทำคอนเทนต์ดี ๆ และสามารถเชื่อมโยงกับธุรกิจของคุณด้วยการ Tag หรือ Mention เพจ Facebook นั้น ๆ เพื่อที่จะช่วยให้เจ้าของเพจนั้น ๆ เห็นเพจของคุณ และถ้าหากคุณเองก็ทำคอนเทนต์โดนใจเขาเช่นเดียวกันก็มีโอกาสที่เพจนั้น ๆ จะแชร์หรือ Mention ถึงคุณในอนาคตได้เหมือนกัน
19. โปรโมท Facebook ของคุณในช่องทางอื่น ๆ
ถ้าอยากได้ไลค์เยอะ ๆ ต้องอย่าลืมโปรโมทเพจของคุณในช่องทางอื่น ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสที่คนจากช่องทางอื่น ๆ กลับมากดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามเพจของคุณ โดยอาจจะทำ Call to action เอาไว้ในช่องทางต่าง ๆ เช่น บนเว็บไซต์ หรือ Social Media อื่น ๆ ไปจนถึงการทำการตลาดแบบ Offline คุณก็สามารถใส่ช่องทาง Facebook เอาไว้ให้กับลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการได้เห็น และอาจจะเข้าไปกดติดตามเพจเพิ่มเติมในภายหลัง
20. ใส่ Hashtag ที่เกี่ยวกับธุรกิจ
การใส่ Hashtag มีส่วนช่วยในการค้นหาสินค้าหรือบริการบน Facebook เพราะบางคนก็ใช้ Hastag ในการดูข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Hashtag นั้น ๆ เพิ่มเติม เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวกับการเสริมความงามที่กลุ่มเป้าหมายมักต้องการดูรีวิวเพิ่มเติม การใส่ Hashtag ที่สามารถกดเข้าไปดูโพสต์อื่น ๆ ที่พูดถึงสิ่งที่สนใจอยู่ก็มีโอกาสที่จะช่วยทำให้กลับมากดไลค์เพจ ไปจนถึงสอบถามเพื่อติดต่อขอรับเข้าบริการได้เลย
จากภาพตัวอย่างหากกดเข้าไปใน #ลูกสาวหมอน้ำ ก็จะเจอกับเคสรีวิวการทำจมูกจากคนไข้ ซึ่งเชิญชวนให้กลับมากดติดตามเพจ ไลค์โพสต์ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้มากขึ้น
21. ปั๊มไลค์อย่างมืออาชีพ ด้วยการใช้หลัก 70/20/10
การใช้หลัก 70/20/10 เป็นการกำหนดรูปแบบการโพสต์คอนเทนต์ลงบน Facebook ที่ถูกคิดค้นโดย
Crystal Vilkaitis, Social Media Director ของ SnapRetail ซึ่งจะแบ่งเนื้อหาทั้งหมดออกเป็น…
- 70% ของโพสต์ทั้งหมดควรจะโพสต์สิ่งที่มีคุณค่าต่อผู้ติดตาม
- 20% ของโพสต์ทั้งหมดควรจะดึงเอาโพสต์จากคนอื่น ๆ มาโพสต์
- 10% ของโพสต์ทั้งหมดควรจะใช้ในการโปรโมทแบรนด์และขายของ
การโพสต์ในรูปแบบนี้จะทำให้ผู้ที่เห็นโพสต์รู้สึกว่าเพจนี้มีคุณภาพ แน่นอนว่า คนเหล่านั้นก็ย่อมที่จะอยากติดตามเพจของคุณ เพราะต้องการที่จะเห็นโพสต์ที่มีคุณภาพจากคุณให้มากขึ้นนั่นเอง
22. การยิง Ad เพิ่มยอดไลค์
ในการทำโฆษณาบน Facebook แต่ละครั้ง แต่ละแคมเปญจะมีเป้าหมายในการยิงแอดแตกต่างกัน หากคุณต้องการยิง Ad เพิ่มยอดไลค์ ก็ต้องตั้งค่าเป้าหมายให้ถูกต้อง รวมถึงเลือก Ad targeting ที่ละเอียด เพื่อทำให้เนื้อหาคอนเทนต์ส่งตรงไปหาเป้าหมายได้ถูกที่ ถูกเวลา
ทำไมเราจึงไม่ควรปั้มไลค์?
“อยากเพิ่มยอดไลค์จะเลือกใช้วิธีไหนดี”
“ควรจะซื้อไลค์ดีหรือไม่”
“วิธีโกงไลค์ทำได้อย่างไร”
“จะใช้แอพเพิ่มยอดไลค์ Facebook ดีหรือเปล่า”
นี่คือ คำถามที่นักการตลาด คนทำเพจ หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มักสงสัยเกี่ยวกับวิธีเพิ่ม Facebook Like ว่าควรเลือกใช้บริการเว็บไซต์ที่รับปั้มไลค์ที่หาเจอได้บน Google หรือไม่ หรือถ้ามีวิธีเพิ่มไลค์ Facebook ด้วยวิธีการแบบธรรมชาติ ฉบับสายขาว โดยไม่ต้องพึ่งพาสูตรโกงจะทำได้อย่างไร
แน่นอนว่า วิธีปั้มไลค์เฟสบุ๊ค หรือซื้อ Like Facebook เป็นวิธีการที่ไม่แน่นอนและไม่ยั่งยืน เพราะ Facebok มีกฎเข้มงวดในการห้ามปั้มไลค์ด้วยเทคนิคสายดำ โดยบทลงโทษที่สูงที่สุดคือการแบนบัญชีผู้ใช้งาน อีกทั้ง
การปั้มยอดไลค์ยังส่งผลเสียหลายอย่าง เช่น ทำให้โฆษณา Facebook Ads ได้ไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย, ได้แฟนเพจที่ไม่มีคุณภาพ ฯลฯ
อ่านกฎต่าง ๆ เพิ่มเติมที่ : https://th-th.facebook.com/legal/terms
แต่สำหรับใครที่อยากเรียนรู้การทำการตลาดผ่าน Facebook แบบมืออาชีพที่นอกเหนือจากการปั๊มไลค์
แต่รวมไปถึงการยิง Facebook Ads การทำคอนเทนต์ ฯลฯ Digital Tips ยังมีคลังความรู้เกี่ยวกับ Facebook ที่สามารถเรียนรู้และยกระดับการทำงานของคุณให้ดียิ่งกว่าที่เคย
แอด LINE มาคุยกันได้เลยที่ https://lin.ee/rwKrQSP
สรุป
วิธีเพิ่ม Facebook Like หรือการปั้มไลค์แบบสายขาว จะไม่ได้เน้นการทำหัวข้อ Click Bait เน้นการสร้างบัญชีปลอม หรือเน้นกวาดต้อนทุกคนที่พบเห็นให้มาเพิ่มยอดไลค์ ยอดติดตามโดยไม่สนใจผลลัพธ์ทางการตลาด แต่จะเน้นไปที่การเพิ่มไลค์เฟสบุ๊คอย่างมีคุณภาพด้วยการทำคอนเทนต์ การส่งต่อคุณภาพ การเพิ่มโอกาสการมองเห็นจากช่องทางต่าง ๆ เป็นหลัก ซึ่งถ้าคอนเทนต์ดี การนำเสนอดี รวมถึงทำอย่างสม่ำเสมอก็ย่อมทำให้การเพิ่มยอดไลค์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป