Lookalike Audience คืออะไร ? เทคนิคยิงแอดที่เจ้าของแบรนด์ต้องรู้!

Lookalike Audience คือตัวเลือกการกำหนดกลุ่มเป้าหมายของการยิงแอด Facebook ที่จะช่วยให้คุณหากลุ่มลูกค้าใหม่ ที่มีความใกล้เคียงกับกลุ่มลูกค้าเดิมได้อย่างง่ายดาย ซึ่งนักการตลาดออนไลน์ทุกคนต้องศึกษา เพราะการทำ Lookalike Audience นั้นมีความสำคัญต่อการวางกลยุทธ์การตลาด และการทำ Social Media Marketing ในปัจจุบัน

ในบทความนี้ Digital Tips จะมาเล่าให้ทุกคนฟังว่า Lookalike Audience คืออะไร ? ทำไมถึงเป็นเทคนิคยิงแอดที่เจ้าของแบรนด์ต้องรู้! หากพร้อมแล้วไปติดตามกันได้เลยค่ะ

Lookalike Audience คือ

Lookalike Audience คือเทคนิคในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายสำหรับการยิงแอด ที่จะช่วยให้คุณหากลุ่มเป้าหมาย/กลุ่มผู้เข้าชมใหม่ ๆ ที่มีความชอบหรือพฤติกรรมที่คล้ายกับกลุ่มเป้าหมายเดิมที่คุณมีข้อมูลอยู่แล้ว ซึ่งโดยปกติแล้วเวลาคุณกำหนดกลุ่มเป้าหมายสำหรับการยิงแอด คุณก็จะเลือกจากการกำหนด Demographics, Interests หรือ Behaviors ทั่วไปใช่ไหมคะ

แต่ว่าการทำ Lookalike Audience นั้นจะให้คุณสร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ลักษณะคล้าย ๆ กลุ่มเป้าหมายเดิมได้ เพื่อเป็นส่วนช่วยให้การทำโฆษณาของแบรนด์คุณส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ที่อาจจะยังไม่รู้จักธุรกิจของคุณให้กลายมาเป็นลูกค้าหรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ ๆ ให้ธุรกิจนั่นเอง

>> หากยังไม่เข้าใจ Digital Tips มีคอร์สเรียนยิงแอด มีเนื้อหาตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้น Advance

Lookalike Audience ทำงานอย่างไร

การทำงาน Lookalike Audience นั้นมีหลักการที่ไม่ซับซ้อน ตรงนี้จะขอยกตัวอย่างเป็น ‘นาย Peter’ เขามีพฤติกรรมชอบสร้าง Engagement บน Facebook ชอบเล่นเกมร่วมสนุกลุ้นรับกิจกรรมจากแบรนด์ดังต่าง ๆ ซึ่งการทำ Lookalike Audience นั้นก็จะเป็นการหาผู้ใช้ Facebook คนอื่น ๆ ที่มีพฤติกรรมคล้ายกับนาย Peter คือชอบสร้าง Engagement อยู่บ่อย ๆ

จากนั้น Facebook ก็จะไปหากลุ่มคนเหล่านั้นให้เราเพื่อหาคนที่คล้ายกับนาย Peter มาเป็นกลุ่มเป้าหมายสำหรับการยิงแอด โดยคุณสามารถเลือกได้ด้วยนะคะว่าอยากให้เหมือนกับพฤติกรรมต้นแบบมากน้อยแค่ไหนตาม % แต่ยิ่งคุณเลือกให้หาคนที่มีความคล้ายคลึงเหมือนมากเท่าไร (% สูง) จำนวนของกลุ่มเป้าหมายก็จะเล็กลงเรื่อย ๆ (สามารถทำได้ใหญ่สุดคือ 10%)

หรือพูดง่าย ๆ ว่าประเทศไทยมีประชากรทั้งหมด 60 ล้านคนเมื่อเราทำ Lookalike 1% เราก็จะได้ Audience ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเราจำนวน 600,000 คนนั่นเองค่ะ

Lookalike Audience กับ Custom Audience ต่างกันยังไง

ต้องอธิบายก่อนว่า Custom Audience คือ การตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายที่รู้จักและเคยมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มาก่อนแล้วหรืออธิบายง่าย ๆ ก็คือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่คุณมีข้อมูลของพวกเขาอยู่แล้ว เช่นคนที่เคยคลิก Ads เข้ามาหรือเคยกดเข้ามาดูรายละเอียดสินค้าหรือบริการในเว็บไซต์ของคุณแล้ว ซึ่งคุณสามารถใช้กลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นในการยิงแอด Facebook แบบ Retargeting ตรงไปหากลุ่มคนเหล่านั้นได้

ส่วน Lookalike Audience คือ การตั้งกลุ่มเป้าหมายใหม่ โดยใช้การหากลุ่มคนที่มีลักษณะพฤติกรรมและปัจจัยอื่น ๆ เหมือน Custom Audience ที่คุณมีอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถหากลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ในการยิงแอด Facebook และช่วยสเกลการเติบโตให้กับธุรกิจของคุณได้มากกว่าเดิม

Lookalike Audience , Broad Audience และ Audience Targeting เหมือนกันหรือไม่

Lookalike Audience , Broad Audience และ Audience Targeting ทั้ง 3 อย่างนี้มีความแตกต่างกันค่ะ แต่อย่างไรก็ตามทั้ง 3 อย่างนี้ก็เป็นวิธีในการตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายในการยิงแอด Facebook เหมือนกัน แต่จะมีรายละเอียดที่ต่างกันเล็กน้อย

โดย Broad Audience คือ การยิงแอด Facebook ไปตามกลุ่ม Target ต่าง ๆ ที่คุณตั้งขึ้นมาใหม่ทั้งหมดเป็นอีกหนึ่งวิธีในการหากลุ่มลูกค้าใหม่ให้ธุรกิจแต่วิธี Broad Audience นั้นจะเป็นเหมือนการหาลูกค้าทั้งกลุ่มเป้าหมายไม่ได้หาจากกลุ่มคนที่มีความคล้ายคลึงกันเหมือน Lookalike Audience ซึ่งทำให้การตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย Broad Audiencse จะมีความกว้างกว่าและอาจต้องใช้เงินมากกว่า

ส่วน Audience Targeting คือตัวเลือก ความสนใจ ความชอบของกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการจะยิงแอด Facebook ไปโดยสิ่งนี้มีความสำคัญในการทำ Lookalike Audience เพราะว่าเป็นหนึ่งในการหาแนวโน้มความสนใจของกลุ่มเป้าหมายโดยส่วนมากการทำ Audience Targeting มักจะทำโดยการแบ่งกลุ่มของกลุ่มเป้าหมายแบ่งเป็น Segment เช่นแบ่งตามข้อมูลประชากร (ที่อยู่, สถานะ, การศึกษา ฯลฯ), ความสนใจ, พฤติกรรมการซื้อสินค้า, ช่องทางในการรับสาร, ความตั้งใจหรือจำเป็นที่จะต้องซื้อและอื่น ๆ เป็นต้น

จะสังเกตได้ว่าทั้ง Broad Audience และ Audience Targeting นั้นแม้จะไม่เหมือนกับ Lookalike Audience แต่ก็เป็นองค์ประกอบเล็ก ๆ ที่จะช่วยทำให้การยิงแอด Facebook ของคุณประสบความสำเร็จได้นั่นเอง

ทำไม Lookalike Audience ถึงจำเป็นต่อธุรกิจ

ช่วยให้แบรนด์สามารถหากลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ในการยิงแอด Facebook
เพิ่มยอดขายสินค้า/บริการให้แก่ธุรกิจ
ธุรกิจได้ฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและขยายฐานได้ในวงกว้าง
เป็นวิธีหาที่ทำให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าใหม่ด้วยการใช้งบประมาณที่ไม่สูงจนเกินไป
อัตราการเติบโตของ Facebook ที่มีการเติบโตขึ้นทุกวัน ทำให้ Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่คุ้มค่าต่อการโฆษณามากกว่าช่องทางอื่น ๆ
ใช้ Lookalike Audience ในการหาฐานลูกค้าต่างประเทศได้
สร้าง Brand Awareness ให้เพิ่มมากขึ้น
เป็นเทคนิคการยิงแอด Facebook ที่กำลังได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับจากนักการตลาดว่าเป็นตัวเลือกการตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพ

สอนขั้นตอนกำหนด Lookalike Audience Size

การกำหนดขนาดของกลุ่มคนที่มีความคล้ายคลึงกัน (Lookalike Audience Size) เพื่อหากลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ที่คล้ายคลึงกับกลุ่มเป้าหมายที่เรามีข้อมูลอยู่แล้ว ขั้นตอนการกำหนด Lookalike Audience Size นั้นจะคิดตามเปอร์เซ็นต์ (%) เช่น หากกลุ่มเป้าหมายที่เจอมีความคล้ายคลึงกับฐานข้อมูลลูกค้าเดิมมีเปอร์เซ็นต์ ต่ำแค่ไหนความคล้ายคลึงก็จะมากแต่จำนวนของกลุ่มคนที่ได้มาก็จะน้อย

แต่กลับกันหากเปอร์เซ็นต์ที่คุณกำหนดไว้สูง การยิงแอด Lookalike Audience ของคุณก็จะได้กลุ่มเป้าหมายใหม่มาในจำนวนมากแต่ว่าความคล้ายคลึงกับกลุ่มเป้าหมายเดิมก็จะลดลงค่ะ ดังนั้นการกำหนด Lookalike Audience Size ที่เหมาะสมนั้นก็จะต้องอยู่ที่เป้าหมายของธุรกิจคุณ ถ้าต้องการเน้น Awareness อยากเข้าถึงผู้คนให้ได้เยอะ ๆ ก็กำหนดเปอร์เซ็นต์ให้สูง ๆ เข้าไว้แต่ถ้าต้องการสร้าง Conversion ปิดการขายชัวร์ ๆ ก็เลือกกำหนดเปอร์เซ็นต์ให้ต่ำลงค่ะ

สอนขั้นตอนสร้าง Lookalike Audience มือใหม่ก็ทำได้

ขั้นตอนการสร้าง Lookalike Audience สำหรับการยิงแอด Facebook นั้นจะทำได้แค่บนคอมพิวเตอร์เท่านั้นและจะต้องมีบัญชีโฆษณาที่มีตัวจัดการโฆษณา Facebook (Facebook Ads Manager) ก่อนถึงจะใช้งาน Lookalike Audience ได้โดยเราจะมาสอนมีขั้นตอนสร้าง Lookalike Audience แบบง่าย ๆ ที่มือใหม่ก็ทำตามได้

1: เปิด Facebook Ads Manager

ให้เข้าสู่หน้าเว็บไซต์และ Login เข้าสู่ระบบ Facebook Ads Manager ให้เรียบร้อยและหากใครที่ยังไม่มีสามารถดูวิธีการสร้าง ตัวจัดการโฆษณา Facebook (Facebook Ads Manager) ก่อนได้เลย

2: เข้าสู่เมนู “เครื่องมือธุรกิจ” และเลือกเมนูย่อย “กลุ่มเป้าหมาย”

เมื่อคุณเข้าสู่ Facebook Ads Manager ในหน้าแรกได้แล้วให้เลือกไปที่เมนู เครื่องมือธุรกิจ และเลือกเมนูย่อย กลุ่มเป้าหมาย

3 : เลือก “สร้างกลุ่มเป้าหมาย”

จากข้อที่แล้วระบบจะพาคุณมาอยู่ที่หน้ารวมกลุ่มเป้าหมาย ให้คุณกดไปที่สร้างกลุ่มเป้าหมาย แล้วกดเลือก กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน (Lookalike Audience) ได้เลย

4 : ตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย

จากข้อที่แล้วให้คุณกดไปที่ แหล่งที่มาที่คล้ายกัน ถึงตรงนี้คุณสามารถเลือกได้ว่าจะเลือกจาก Custom Audience หรือกลุ่มเป้าหมายเดิมที่กำหนดเองไว้แล้วก็ได้ จากนั้นกดตั้งค่า ตำแหน่งที่ตั้งของกลุ่มเป้าหมาย ที่จะให้คุณกำหนด Location ของกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ระดับภูมิภาค ประเทศ หรือระดับโลกก็ทำได้เช่นกัน

5 : กำหนด Lookalike Audience Size

เหมือนกับที่เราอธิบายไปแล้วในช่วงด้านบน ขั้นตอนนี้คือการเลือกเปอร์เซ็นต์ความคล้ายคลึงของกลุ่มเป้าหมายใหม่ โดยค่าเริ่มต้นจะถูกตั้งอยู่ที่ 1% โดย Facebook จะทำการคำนวณและวิเคราะห์ให้จากพื้นที่ที่เราได้เลือกเอาไว้นั่นเอง

6: กดสร้างกลุ่มเป้าหมาย แค่นี้ก็เสร็จแล้ว!

หลังจากที่ตั้งค่าทั้งหมดเสร็จแล้วก็คือการกดปุ่ม สร้างกลุ่มเป้าหมาย ที่อยู่ตรงด้านขวาที่มุมล่างก็เป็นอันว่าการทำ Lookalike Audience ของคุณเสร็จเรียบร้อยแล้ว

วิธีใช้ Lookalike Audience กับ Facebook Ads

แต่แค่นั้นยังไม่เสร็จทั้งหมดนะคะ เพราะว่าเราเพิ่งจะแค่ตั้งกลุ่มเป้าหมายใหม่ขึ้นมาเอง เพราะฉะนั้นขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการนำ Lookalike Audience ที่เรากำหนดมาเรียบร้อยแล้วมาใช้ในการยิง Facebook Ads นั่นเองโดยมีขั้นตอนดังนี้

1: ล็อคอินเข้าระบบ Facebook Ads Manager

ให้คุณล็อคอินเข้าสู่ระบบ Facebook Ads Manager อีกครั้ง (ทำได้เฉพาะในคอมพิวเตอร์เท่านั้น)

2: สร้างปุ่มโฆษณา ที่มุมซ้ายบน

เมื่อเข้ามาที่หน้าตัวจัดการโฆษณาได้แล้ว ให้คุณกดปุ่ม “สร้าง” สีเขียวฝั่งมุมบนซ้ายของจอ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการสร้าง Facebook Ads ปกติ

3: ตั้งค่ายิง Ads ตามปกติ

หลังจากนั้นให้คุณทำทุกอย่างเหมือนการสร้าง Ads Campaign และยิงแอด Facebook ปกติ ไม่มีอะไรต้องเปลี่ยนแปลงค่ะ แต่ถ้าหากใครที่ไม่เคยยิง Facebook Ads มาก่อน คุณสามารถกดเข้าไปอ่านบทความ

สอนยิงแอด Facebook ขั้นตอนลงโฆษณาเฟสบุ๊ค อัพเดตล่าสุด 2023 รวมถึงวิธีการสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้น่าสนใจก่อนได้เลยค่ะ

4: เลือกที่ “กลุ่มเป้าหมายกำหนดเอง” ในช่วงการตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย

เมื่อตั้งค่า Ads Campaign ต่าง ๆ ครบถ้วนจนมาถึงขั้นตอนการเลือกกลุ่มเป้าหมายให้คุณเลือกไปที่ “กลุ่มเป้าหมายกำหนดเอง” หรือ Lookalike Audience เพื่อให้ระบบแสดงกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดที่ได้สร้างและบันทึกเอาไว้จากนั้นคุณก็เลือกไปที่กลุ่มเป้าหมายแบบ Lookalike Audience ที่คุณสร้างขึ้นมาก่อนหน้านี้หลังจากนั้นก็รันตามขั้นตอนการยิงแอด Facebook ปกติได้เลยค่ะโฆษณาของคุณก็จะยิงไปหากลุ่มเป้าหมายใหม่เหล่านี้ทันที

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง CTR หรือ Click Through Rate คืออะไร สำคัญต่อการยิง Ads อย่างไรบ้าง

6 เทคนิค ที่ทำให้ Lookalike Audience มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

1. อัปเดต Lookalike Audience อยู่เสมอ

คุณควรหมั่นอัปเดตการตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายของ Lookalike Audience อยู่เสมอเพราะนานวันเข้าพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายหลักอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะส่งผลกระทบไปถึงการทำ Lookalike Audience ที่ไม่สามารถสร้าง Conversion ได้ แนะนำว่าคุณควรหมั่นอัปเดต Lookalike Audience ทุก ๆ 1-3 เดือนจะช่วยให้ Facebook หากลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจคุณมาได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

2. ใช้ข้อมูลหลายตัว เพื่อกำหนด 1%

ให้ใช้ข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายคุณภาพหลาย ๆ ตัวในการทำ Lookalike Audience เพื่อกำหนด 1% ของ Lookalike Audience Size เช่น คนที่ดูวิดีโอมากถึง 90-95% ต่อคลิป, คนที่เลือกสินค้าเหล่านั้นลงในตะกร้าเรียบร้อยหรือคนที่เคยกดเข้ามายังเว็บไซต์ในช่วง 7 วันหลังสุด เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มีโอกาสสูงที่จะซื้อนั่นเองเพราะพวกเขามีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นแล้วว่ามีความสนใจในสินค้าของคุณจริง ๆ

อ่านบทความเพิ่มเติม : Data-Driven Marketing กลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูล

3. กำหนด Lookalike Audience Size ให้เหมาะสมกับแคมเปญ

ในการกำหนด Lookalike Audience Size นั้นถึงแม้ว่าการกำหนดเปอร์เซ็นให้ต่ำเข้าไว้จะดูเป็นอะไรที่ทำให้โฆษณาของคุณส่งไปหากลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมและเปลี่ยนเป็น Conversion ได้ดีก็ไม่ได้ถูกต้องทั้งหมดเพราะหากแคมเปญโฆษณาของคุณมีเป้าหมายในการสร้าง Awareness เน้นเข้าหากลุ่มคนเยอะ ๆ ก็ควรต้องกำหนดเปอร์เซ็นต์ของ Audience Size ให้มากเข้าไว้แอดจะได้ส่งไปหากลุ่มคนที่หลากหลาย ดังนั้นการกำหนด Lookalike Audience Size ให้เหมาะสมกับแคมเปญและเป้าหมายของธุรกิจจึงเป็นสิ่งที่สำคัญค่ะ

4. เลือก Source ที่มีคุณภาพ

ข้อมูลหรือ Source ที่มีคุณภาพในที่นี้ก็คือรายชื่อของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายที่มีคุณภาพที่คุณมีอยู่แล้ว มาเป็นหัวเชื้อเพื่อใช้ Lookalike Audience ในการหากลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ โดยเลือก Lookalike Audience Size ให้ต่ำ ๆ เข้าไว้สัก 1-10% เพราะหากข้อมูลของคุณมีประสิทธิภาพอยู่แล้วก็จะทำให้การตั้งกลุ่มเป้าหมายแบบ Lookalike Audience ของคุณเห็นผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น

5. สร้าง Audience จากกลุ่มเป้าหมายที่มีมูลค่าสูง

การสร้าง Lookalike Audience จากกลุ่มเป้าหมายที่เคยมาซื้อสินค้า/บริการของคุณผ่านการยิงแอดไปแล้ว เป็นอีกวิธีที่เราอยากแนะนำค่ะ เพราะกลุ่มเป้าหมายกลุ่มนั้นเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีมูลค่าสูง มีคุณภาพและสร้าง Conversion ให้ธุรกิจเราได้จริง ดังนั้นถ้าคุณดึงเอาคนกลุ่มนั้นมาเป็นหัวเชื้อในการหา Lookalike Audience ก็จะช่วยให้ธุรกิจของคุณได้กลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ที่มีความคล้ายคลึงกับกลุ่มเป้าหมายคุณภาพเหล่านั้นได้ค่ะ

6. นำปริมาณมาทดแทนคุณในการทำ Lookalike Audience

การนำปริมาณมาทดแทนคุณภาพในการสร้าง Lookalike Audience คือการสร้างให้ครอบคลุมไซส์ทั้ง 10% เพราะการที่คุณกำหนด Audience Size (ปริมาณ) ที่มากขึ้นก็ช่วยให้ Facebook มีโอกาสค้นหาคนที่มีโอกาสที่จะเกิดการสร้าง Conversion เช่นซื้อสินค้า ซื้อบริการ หรือสร้าง Action อื่น ๆ ตามเป้าหมายของแอดที่คุณได้เลือกเอาไว้มากขึ้นค่ะ

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง Data Analytic คืออะไร? การใช้ Big Data สามารถต่อธุรกิจได้ขนาดไหน?

ปัจจัยที่ทำให้การสร้าง Lookalike Audience ไม่สำเร็จ

สร้าง Lookalike Audience จาก Source ที่มีคุณภาพต่ำ

การนำเอากลุ่มเป้าหมายที่มีคุณภาพต่ำมาเป็นหัวเชื้อในการหา Lookalike Audience คือ วิธีที่เราไม่อยากให้คุณนำไปใช้งานค่ะ เพราะกลุ่มคนเหล่านั้นอาจไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายหลักจริง ๆ ของธุรกิจคุณซึ่งถ้าคุณใช้การทำ Lookalike Audience ผลลัพธ์ก็จะไม่มีอะไรดีขึ้น เป็นเหมือนการเผาเงินเล่น ดังนั้นก่อนจะเริ่มสร้าง Lookalike Audience แนะนำว่าให้เลือกจาก Sources กลุ่มเป้าหมายที่มีคุณภาพจะดีกว่าค่ะ

งบประมาณน้อย หรือ เวลาที่ใช้ในการรันโฆษณาสั้นเกินไป

เป็นธรรมดาของการยิงแอด Facebook อยู่แล้วที่ถ้าคุณตั้งงบประมาณน้อยหรือใช้เวลาในการรันโฆษณาสั้นเกินไป Facebook Ads ของคุณก็อาจจะไม่ได้ปรากฏสู่สายตาของกลุ่มเป้าหมายเยอะตามที่คุณคาดหวัง เพราะฉะนั้นการกำหนดงบประมาณและเวลาในการรันโฆษณาจะต้องมีความสัมพันธ์กันด้วย

ไม่อัปเดตข้อมูล

อย่างที่ได้เคยบอกไปด้านบนค่ะการทำ Lookalike Audience ที่ดีนั้นจะต้องหมั่นอัปเดตข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นหัวเชื้ออยู่เสมอเพื่อจะทำให้การโคลนนิ่งออกมาเป็น Lookalike Audience ของคุณเกิดประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการของธุรกิจมากที่สุด

คำถามที่พบบ่อย

ปริมาณ Source เท่าไหร่ จึงจะสามารถสร้าง Lookalike Audience ได้ ?

ในการทำ Lookalike Audience นั้นเราสามารถเลือก Source ได้เพียงแค่ 1 ต้นทางเท่านั้นไม่สามารถเลือกหลาย Source ผสมกันได้โดย Sources จะมาจาก 2 แหล่งคือคนที่กดไลก์เพจ (Page Like) และกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง (Custom Audience) แต่ถ้าจะใช้วิธีที่เป็นที่นิยมกันก็ต้องสร้าง Lookalike Audience จาก Custom Audience จะเห็นผลลัพธ์ได้ดีกว่าค่ะ

ควรอัปเดต Lookalike Audience บ่อยแค่ไหน ?

ควรอัปเดต Lookalike Audience ทุก 1-3 เดือนค่ะแต่ถ้าลองรันโฆษณาแล้วยอด Performance เริ่มตกลงก็ควรทำการอัปเดต Lookalike Audience ทันทีเพื่อจะได้อุดรอยรั่วของโฆษณาได้อย่างทันทีค่ะ เพราะฉะนั้นนักการตลาดอย่างเรา ๆ ควรหมั่นเข้ามาเช็กผลลัพธ์การทำงานของการยิงแอดกันบ่อย ๆ นะคะ

สรุป Lookalike Audience

Lookalike Audience คือเทคนิคสำคัญในการช่วยให้ธุรกิจค้นหากลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ และช่วยให้การยิงแอด Facebook มีประสิทธิภาพมากขึ้นจนสามารถสร้างการเติบโตให้ธุรกิจได้สำหรับแบรนด์ใดที่ช่วงนี้กำลังค้นหากลุ่มเป้าหมายใหม่หรือฐานลูกค้าใหม่ ๆ ให้ธุรกิจนั้นก็อย่าลืมนำเอาเทคนิคการทำ Lookalike Audience ไปประยุกต์ใช้กันดูนะคะ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้การยิงแอด Facebook ของแบรนด์คุณเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกันไม่มากก็น้อยค่ะ 🙂

อ้างอิงข้อมูล

Sara Nguyen, How to Use Facebook Lookalike Audiences [2023 Guide], December 15, 2022
https://blog.hootsuite.com/facebook-lookalike-audiences/

Jenny Weg, What Are Facebook Lookalike Audiences and When Should You Use Them, August 17, 2022 https://9clouds.com/blog/what-are-lookalike-audiences-when-should-you-use-them/

WordStream, How to Use Facebook Lookalike Audiences , https://www.wordstream.com/facebook-lookalike-audiences