การจะวางกลยุทธ์การตลาดให้ดี จำเป็นต้องมีเครื่องมือการตลาด หรือ Digital Marketing Tools ที่เชื่อถือได้ และมีฟังก์ชันการทำงานที่เหมาะสมกับเทคโนโลยีในช่วงนั้น ๆ หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อใช้วางกลยุทธ์ในปี 2024 Digital Tips ขอนำเสนอ 5 เครื่องมือดี ๆ ที่น่าจะตอบโจทย์นักการตลาดตัวยงเช่นคุณ!
>> อ่านเพิ่มเติม: 6 AI Marketing Tools เตรียมพร้อมพาธุรกิจให้เติบโตในปี 2024
1. Slack – Digital Marketing Tools ที่จะมาแทนโปรแกรมแชตกลุ่ม
หลาย ๆ บริษัทในไทยอาจใช้แอปพลิเคชัน LINE เป็นช่องทางหลักในการสื่อสาร นอกจากจะส่งผลเสียต่อการแยกเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงานแล้ว LINE ยังมีข้อจำกัดเรื่องวันหมดอายุของไฟล์อีกด้วย และเพื่อแก้ปัญหานี้ บางบริษัทจึงเริ่มทดลองใช้ Slack แพลตฟอร์มสำหรับสื่อสารธุรกิจจากอเมริกา ที่คิดค้นมาเพื่อคนทำงานโดยเฉพาะ
ที่มา: https://www.uctoday.com/collaboration/slack-launches-redesign-to-boost-user-productivity/
ข้อดีของ Slack
-
- ช่วยให้สมาชิกในทีมสามารถติดต่อสื่อสารกันได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องรบกวนเบอร์โทรศัพท์ หรือช่องทาง Social Media ส่วนตัว
- จะสนทนาผ่านข้อความแชต หรือวิดีโอคอล แชร์สไลด์ แชร์หน้าจอ ก็ได้หมด!
- มีฟีเจอร์ที่ถ่ายโอนข้อมูลจากแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้ เช่น Google Calendat, Trello, หรือ Google Drive
- รับ – ส่งไฟล์ และย้อนกลับไปดาวน์โหลดไฟล์เดิมได้ทุกเมื่อ ไม่มีวันหมดอายุ (แตกต่างกับ LINE ที่ไฟล์จะสามารถเก็บได้เพียง 7 วัน)
- สามารถใช้งานผ่านเว็บเบราเซอร์ได้ทันที ไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมลงในเครื่อง และแน่นอนว่า ใช้ได้งานทั้งบน Desktop และ Mobile
ทั้งนี้ Slack คือ แพลตฟอร์มที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2013 และมียอดผู้ใช้งานเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยในปี 2023 นี้ Slack มีผู้ใช้งานเฉลี่ย 32.3 ล้านคนต่อวัน และคาดว่าจะพุ่งสูงถึง 38.8 ล้านคนต่อวันในปี 2024
2. Trello – Digital Marketing Tools ช่วยจัดระเบียบงาน
เคยไหม? เวลามีงานค้างอยู่ในมือมาก ๆ แล้วอยากได้กระดานสรุปงาน เพื่อเรียงลำดับว่างานไหน กำลังอยู่ใน Process ใด หากคุณกำลังมองหา Digital Marketing Tools ลักษณะนี้ Trello ช่วยคุณได้! เพราะนี่คือโปรแกรม Dashboard สรุปงานมืออาชีพ ช่วยให้คุณสามารถจัดลำดับการทำงานของตัวเอง และยังสามารถใช้วางแผนร่วมกับทีมได้อีกด้วย
ที่มา: https://trello.com/th
ข้อดีของ Trello
- ช่วยสร้างกระดานสำหรับจัดระเบียบงานส่วนตัวแบบเข้าใจง่าย เพียงเพิ่มชื่อหมวดหมู่ที่ต้องการลงไป เช่น To Do (งานที่ต้องทำ), On Process (งานที่กำลังทำ), Review (งานที่รอตรวจสอบ) หรือ Done (งานที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว) จากนั้นเพิ่ม Card งานแต่ละงาน ลงในหมวดหมู่นั้น ๆ
- ภายใน Card คุณสามารถแนบไฟล์ ติด Tag เพิ่มวงกำหนดส่งงาน หรือกด Add ชื่อของสมาชิกในทีมเข้ามาใช้ Card ร่วมกันได้
- Trello เป็นโปรแกรมที่สามารถใช้งานได้ฟรี เพียงแต่มีข้อจำกัดเล็กน้อย คือเวอร์ชันฟรี จะสามารถอัปโหลดไฟล์ใส่ไว้ได้เพียง 10MB ในขณะที่เวอร์ชันฟรีเมียม สามารถฝากไฟล์ไว้ได้ถึง 250MB
- สามารถเปลี่ยน Template เปลี่ยน Background หรือเพิ่มสติกเกอร์น่ารัก ๆ ให้ Dashboard งานดูมีสีสันมากขึ้นได้
3. Canva – Digital Marketing Tools เพื่องานกราฟิกแบบครบวงจร
ในโลกแห่งการทำงาน (โดยเฉพาะสายงานเกี่ยวกับ Digital Marketing) แม้การทำกราฟิกจะไม่ใช่สิ่งที่คุณถนัด แต่ก็มักจะมีจังหวะที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หลายครั้ง อาทิ ตอนที่ต้องทำ Presentation นำเสนองานลูกค้า หรือตอนที่ต้อง Mock-up งานออกแบบ เพื่อทำบรีฟให้กับทีมกราฟิก และ Digital Marketing Tools ที่อำนวยความสะดวกให้คุณได้มากที่สุดในชั่วโมงนี้ ก็คงหนีไม่พ้น Canva เพื่อนคู่คิดงานออกแบบ ที่เสกงานระดับเทพให้คุณได้ภายในไม่กี่นาที!
ที่มา: https://www.canva.com/th_th/features/stickers/
ข้อดีของ Canva
- มี Template งานออกแบบให้เลือกมากมายตามการใช้งาน ทั้งงานนำเสนอ งานเมนูอาหาร ออกแบบโลโก้ ออกแบบโปสการ์ด ฯลฯ
- มีภาพและวิดีโอในสต็อกให้ดาวน์โหลดฟรีฃ
- มีไอคอน, เวกเตอร์ และฟอนต์ที่จำเป็นให้เลือกใช้มากมาย
- เครื่องมือเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจบงานไว ไม่ซับซ้อน
- มีเครื่องมือแปลงไฟล์ให้ใช้งาน
- ในแพ็กเกจแบบพรีเมียม จะมีเวอรชันทีม สำหรับใช้งานร่วมกันในองค์กรด้วย
ปัจจุบัน Canva เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนผู้ใช้งานมากถึง 170 ล้านคน จาก 190 ประเทศทั่วโลก
4. Survey Anyplace – Digital Marketing Tools เพื่องานทำแบบสำรวจ
บริษัทไหนที่จำเป็นต้องสร้างแบบสำรวจข้อมูลจากลูกค้า พนักงาน หรือผู้ใช้งานทั่วไป เพื่อพัฒนาบริการให้ดียิ่งขึ้น ไม่ต้องจากคนไปเดินแจกแบบสำรวจให้วุ่นวาย เพียงแค่เปิดใช้งาน Survey Anyplace – Digital Marketing Tools สำหรับสร้างแบบทดสอบ แบบประเมิน และแบบสำรวจ พร้อมฟีเจอร์วิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงในตัว
ที่มา: https://edshelf.com/tool/survey-anyplace/
ข้อดีของ Survey Anyplace
- ช่วยรวบรวมข้อมูลเชิงลึกทั้งจากลูกค้าเป้าหมาย คู่ค้า และพนักงานได้อย่างง่ายดาย
- อ่านและวิเคราะห์ข้อมูลได้แบบเรียลไทม์
- ปรับแต่งแบบสำรวจได้เองตามความเหมาะสม
- อำนวยความสะดวกในการทำความเข้าใจตลาด และการตัดสินใจให้แม่นยำมากขึ้น
5. Loomly – Digital Marketing Tools สำหรับบริหารจัดการ Social Media
นักการตลาดทุกคนต่างก็ทราบดีว่า ทุก ๆ แพลตฟอร์มจะมีตัวช่วยตั้งเวลาโพสต์ล่วงหน้า (Schedule Post) ให้บริการอยู่แล้ว แต่จะดีแค่ไหน หากมีเครื่องมือที่ช่วยให้คุณและทีมสามารถบริหารจัดการ Social Media ทุก ๆ ช่องทางได้พร้อม ๆ กัน! และนั่นก็คือคุณสมบัติของ Loomly อีกหนึ่งเครื่องมือการตลาดดี ๆ ที่กำลังฮอตฮิตติดลมบน
ที่มา: https://clickydrip.com/loomly-vs-later/
ข้อดีของ Loomly
- สามารถเชื่อมต่อกับ Social Media ได้หลายช่องทางพร้อมกัน (ในแพ็กเกจต่ำสุด อนุญาตให้มีผู้ใช้งานร่วมกัน 2 User และจัดการ Social Media ได้ 10 Accounts)
- มีมุมมองปฏิทินสำหรับตั้งเวลาโพสต์ให้ดู
- UX และ UI ค่อนข้างโมเดิร์น ใช้งานง่าย เรียนรู้ได้ไว
- อำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกับคนอื่น ๆ ในทีม
สรุป
และนี่คือ 5 Digital Marketing Tools ที่เรามั่นใจว่าจะมาแรงในปี 2024 และแม้ว่าเครื่องมือบางตัวจะเป็นที่รู้จักมาแล้วหลายปี แต่จากพฤติกรรมคนทำงานในช่วง 1-2 ปีมานี้ ที่เน้นทำงานในออฟฟิศสลับกับการทำงานนอกสถานที่ ก็ทำให้เราอนุมานได้ว่า เครื่องมือที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนทำงานในปัจจุบันได้ จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
อ้างอิง
Great Learning. Top 20 Digital Marketing Tools for 2024
Available from: https://www.mygreatlearning.com/blog/digital-marketing-tools/#4-canva-business
Canva. Reflecting on 2023: Canva’s 10th and biggest year yet
Available from: https://www.canva.com/newsroom/news/canva-2023-wrap/
Influencer Marketing Hub: Loomly
Available from: https://influencermarketinghub.com/loomly/
