Digital Marketing คือ

Digital Marketing (อ่านว่า ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง) หรือ การตลาดดิจิทัล คือ เรื่องที่คนทำธุรกิจและนักการตลาดในยุคนี้รู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่องจากเราไม่สามารถทำการตลาดแบบเดิม ๆ แล้วจะคาดหวังความสำเร็จเหมือนในอดีตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2024 ที่มีทั้ง Social Media Marketing และเครื่องมือ AI ซึ่งผลักดันให้นักการตลาดในยุคปัจจุบันต้องปรับตัว และในบทความนี้ Digital Tips จะพาคุณไปดูว่ามีอะไรที่คุณต้องเริ่มทำบ้าง ยาก – ง่าย แค่ไหน รวมทั้ง Martech ที่เหมาะแก่การทำ Digital Marketing ในปี 2024 ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลย


Highlight

  • Digital Marketing คือ การทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์หรือสื่อดิจิทัล โดยจำเป็นต้องรู้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับแบรนด์ เข้าใจแบรนด์ รวมทั้งเข้าใจตัวผลิตภัณฑ์ก่อน
  • ข้อดีของ Digital Marketing คือใช้งบประมาณต่ำกว่าการตลาดแบบดั้งเดิม แต่ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น เพราะสามารถวัดผลได้
  • Digital Marketing และ Online Marketing มีความหมายใกล้เคียงกัน แต่ Digital Marketing จะมีความหมายครอบคลุมกว่า เพราะรวมแพลตฟอร์มที่ไม่ได้ใช้อินเทอร์เน็ตด้วย
  • ปัจจุบันมี Martech มากมายที่จำเป็นต่องาน Digital Marketing อาทิ Google Search Console, Google Tag Manager, WordPress หรือ CRM ต่าง ๆ 


Digital Marketing คืออะไร

Digital Marketing คือ การทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์หรือสื่อดิจิทัล (Digital Media) โดยองค์ประกอบสำคัญของ Digital Marketing จริง ๆ แล้ว แทบไม่ต่างจากการทำการตลาดทั่วไป เพราะธุรกิจจำเป็นต้องเข้าใจเรื่อง Brand Position, 4P และ SWOT ของตัวเองก่อน แล้วจึงมาวางแผนว่า จะทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของคุณอย่างไร เพียงแต่มีคำว่า “Digital” เข้ามากำกับ คอนเทนต์ที่เราสร้างขึ้นบนช่องทางดิจิทัล โดยตัวอย่างช่องทางในการทำ Digital Marketing ที่เป็นเทรนด์การตลาดในปี 2024 มีดังนี้ :

  • Search Engine (เครื่องมือที่เราเอาไว้ใช้สืบค้นข้อมูล เช่น Google, Yahoo!, Bing)
  • เว็บไซต์
  • Social Media เช่น Facebook, X, Instagram, LINE OA, TikTok หรือ Threads
  • อีเมล
  • Mobile Application ต่าง ๆ
surveysparrow
ขอบคุณรูปภาพจาก surveysparrow.com

อย่างไรก็ดี โอกาสที่แฝงอยู่ในการตลาดแบบ Digital Marketing ยังเป็นอีกเหตุผลสำคัญ ที่สนับสนุนให้คุณเข้าสู่โลกดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ไม่ว่าจะเป็น การที่คุณสามารถเริ่มทำ Digital Marketing ได้เลย แม้ไม่มีงบประมาณ หรือการที่กลยุทธ์นี้เป็นการสื่อสารแบบ 2-ways Communication กล่าวคือ แบรนด์สามารถโต้ตอบ พูดคุยกับกลุ่มเป้าหมายหรือผู้ติดตามได้ ทำให้แบรนด์และผู้คนคุ้นเคยกันมากขึ้น พลิกแพลงกลยุทธ์การตลาดได้หลากหลาย และที่สำคัญดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง คือ การตลาดที่สามารถวัดผลได้! ทำให้เรารู้ว่าอะไรที่ได้ผล อะไรที่ต้องปรับปรุง ต้องปรับปรุงตรงไหน และทำให้แบรนด์รู้จักกลุ่มลูกค้าของตัวเองดียิ่งขึ้น


Digital Marketing กับ Online Marketing ต่างกันอย่างไรบ้าง

Digital Marketing คือ การทำการตลาดบนสื่อดิจิทัลหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใด ๆ ก็ตาม ‘ทั้งใช้และไม่ใช้อินเทอร์เน็ต’ ไม่ว่าจะเป็นบนสมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ SMS Message หรือแม้กระทั่งบิลบอร์ดที่เป็นจอ LED หรือแม้กระทั่งจอ LED Display ขนาดยักษ์ ที่ Time Square ส่วน Online Marketing คือ การทำการตลาดผ่านสื่อหรือเทคโนโลยีที่ ‘ต้องใช้อินเทอร์เน็ต’ มีการเชื่อมต่อกันระหว่างคอนเทนต์และผู้รับสารแบบออนไลน์ ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย SEO PPC ฯลฯ

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า Online Marketing คือ Subset ของ Digital Marketing หรือก็คือ Digital Marketing เป็นคำที่กินความหมายกว้างกว่าและครอบคลุมคำว่า “Online Marketing” นั่นเอง


แนะนำ 5 อาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับ Digital Marketing 

Digital Marketing Career
ที่มา: https://www.sprintzeal.com/blog/career-opportunities-in-digital-marketing

“งาน Digital Marketing ทำอะไร?” คือคำถามที่คนรุ่นใหม่สนใจกันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่านักศึกษาจากสาขาไหน ๆ ก็มักจะอยากตบเท้าเข้าสู่วงการการตลาดทั้งสิ้น และนี่คือ 5 อาชีพที่เกี่ยวข้องกับสายงานนี้

  • Strategic Planner: อาชีพที่เรียกได้ว่าเป็นต้นน้ำของการทำ Digital Marketing เลยก็ว่าได้ เพราะจะต้องเป็นคนวางกลยุทธ์ให้กับทีม ว่าควรสื่อสารอย่างไร ภายใต้กรอบเวลาเท่าไหร่ วัดผลอย่างไร
  • Content Creator: ผู้ควบคุมและกำกับดูแลงาน Content Marketing ตั้งแต่ตอนคิดคอนเทนต์ วาง Content Pillar วาง Content Calendar ไปจนถึงการเขียนและทำงานร่วมกับ Graphic Designer หรือ Video Creator
  • Graphic Designer: ผู้รับหน้าที่สร้างสรรค์ชิ้นงาน ตาม Direction งานที่ได้จาก Content Creator
  • Account Executive: ผู้รับผิดชอบบริหารจัดการโปรเจ็กต์ ทำหน้าที่ติดตามฟีดแบคจากลูกค้า และเป็นตัวประสานงานระหว่างลูกค้ากับทีมทำงาน
  • Digital Marketer: ผู้รับหน้าที่ดูแลเรื่องการจัดสรรงบประมาณสำหรับทำ Marketing รวมทั้งการวางแผนยิงแอดบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ

จุดเด่นของ Digital Marketing 

  • Digital Marketing คือ รูปแบบการตลาดที่ใช้งบประมาณต่ำกว่าทำโฆษณาแบบดั้งเดิม (Traditional Marketing) ลองคิดดูว่า หากต้องการลงโฆษณาบนโทรทัศน์หรือบิลบอร์ดทางด่วน เพียง 1 สัปดาห์ ธุรกิจอาจต้องเตรียมงบไว้ตั้งแต่หลักแสนหรือล้าน ในขณะที่โฆษณาออนไลน์ทำได้เจาะจงกว่า และยังใช้งบประมาณเบื้องต้นเพียงไม่กี่สิบบาท
  • มีเทคโนโลยีและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Digital Marketing ได้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบัน ที่มี Machine Learning ใหม่ ๆ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก
  • Digital Marketing ทำให้เราสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายหรือ Audience ในการทำการตลาดได้แบบเจาะจง นำไปสู่การทำ Data Driven Marketing ที่ประหยัดงบประมาณและได้เพิ่มประสิทธิภาพ
  • ความพิเศษของ Digital Marketing คือ Channels ที่หลากหลาย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากมาย และสามารถออกแบบกลยุทธ์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านการใช้ช่องทางต่าง ๆ ให้เหมาะกับจุดประสงค์การตลาดได้
  • การทำแคมเปญการตลาด (Marketing Campaigns) บนโลกออนไลน์ ทำได้รวดเร็ว และใช้ต้นทุนน้อย สามารถวัดผลลัพธ์ ทดลองวิธีการได้ เอื้อทำให้ธุรกิจสามารถคิดหาวิธีทำการตลาดใหม่ ๆ 

9 ช่องทางที่จำเป็นต่อการทำ Digital Marketing (อัปเดต 2024)

Digital Marketing Platform
ที่มา: https://www.educba.com/digital-marketing-platforms/

ดังที่เราได้เกริ่นไปตอนต้นบทความว่า ในปี 2024 มีช่องทางสำหรับทำ Digital Marketing เกิดขึ้นมากมาย และทั้งหมดนี้คือ 9 ช่องทางที่ยังคงเป็นนิยมอยู่ ลองเช็กแล้วนำไปปรับกลยุทธ์การตลาดของคุณได้เลย!

1. Paid search (PPC)

PPC หรือที่เรียกติดปากกันว่า SEM คือการซื้อโฆษณาบน Search Engine เพื่อให้ลูกค้าที่ Search Keyword เกี่ยวกับสินค้าและบริการของคุณ ค้นเจอเว็บไซต์ของแบรนด์คุณก่อนแบรนด์คู่แข่ง โดยจะต้องจ่ายเงินในลักษณะของการประมูลคำโฆษณา (Bidding) เพื่อช่วงชิงตำแหน่งในหน้าแรกของ Search Engine กับแบรนด์ที่พยายามจะใช้ keyword เดียวกัน

2. SEO (Search engine optimization)

สำหรับการทำ SEO จะคล้ายกับ PPC ตรงที่เป็นการช่วงชิงพื้นที่บนหน้าแรกของ Search Engine เช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือ SEO จะไม่ใช้การอัดฉีดงบประมาณเพื่อประมูลคำโฆษณา แต่จะใช้การปรับปรุงคอนเทนต์และโครงสร้างของเว็บไซต์ เพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานของอัลกอริทึมแทน แน่นอนว่าใช้เวลามากกว่า แต่ผลลัพธ์ที่ได้มักจะยั่งยืนกว่า

3. Social Media Marketing 

Social Media Marketing ก็คือการทำการตลาดบน Social Media โดยมุ่งหวังที่จะเพิ่ม Brand Awareness, Engagement หรือแม้แต่เพิ่ม Conversion จากการกดสั่งซื้อออนไลน์จากคอนเทนต์ที่ Boost Post

4. Content Marketing

จุดเด่นของการทำ Content Marketing ก็คือการสื่อสารสิ่งที่แบรนด์อยากพูดกับผู้บริโภคผ่านคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์แบบบทความ แบบอัลบั้มภาพ หรือแบบวิดีโอ 

5. Affiliate Marketing

Affiliate Marketing คือ กลยุทธ์การตลาดที่ธุรกิจหรือบริษัทจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับพันธมิตร เพื่อส่งเสริมและขายผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทนั้น ๆ โดยพันธมิตรจะได้รับค่าตอบแทนเมื่อเกิดการขายหรือการกระทำที่ต้องการ (เช่น การลงทะเบียน หรือการคลิกที่ลิงก์) ผ่านลิงก์หรือโฆษณาที่พวกเขาโปรโมต

6. Influencer Marketing

Influencer Marketing คือ กลยุทธ์การตลาดที่ใช้ผู้มีอิทธิพลทางความคิดบน Social Media โปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการ ผู้มีอิทธิพลจะใช้ช่องทางของตนในการสร้างเนื้อหาที่แนะนำหรือรีวิวผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้กับผู้ติดตามของตน

7. Mobile Marketing

กลยุทธ์นี้ไม่มีอะไรซับซ้อน และมักถูกผนวกรวมเข้ากับกลยุทธ์อื่น ๆ ใน Digital Marketing เนื่องจาก Mobile Marketing จะเน้นเพียงการชักนำให้ผู้บริโภคมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ผ่านการใช้ Smartphone เช่น คิดค้น Mobile Application ให้ดาวน์โหลด หรือปรับเว็บไซต์ให้แสดงผลแบบ Mobile มากขึ้น

8. Email Marketing

ในปี 2024 ธุรกิจที่ยังคงหวังเพิ่มจำนวนลูกค้าแบบ B2B ยังคงใช้ EDM หรือ Email Marketing กันอยู่เป็นปกติ ผ่านระบบ CRM หรือ Digital Marketing Tools เฉพาะทางอย่าง Mailchimp

9. Marketing Automation 

Marketing Automation คือ การใช้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์เพื่ออัตโนมัติขั้นตอนต่าง ๆ ในกระบวนการการตลาด ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนในการดำเนินงานการตลาด โดยเฉพาะการจัดการแคมเปญการตลาด การติดตามลูกค้า และการวิเคราะห์ข้อมูล


มัดรวมเครื่องมือ (Martech) ที่เกี่ยวข้องกับการทำ Digital Marketing

การทำ Digital Marketing จะขาดเครื่องมือการตลาด หรือ MarTech (Marketing Technology) ไปไม่ได้ เพื่อที่เราจะเข้าใจความสนใจ ความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้าได้มากขึ้น รวมทั้งบริหารสื่อหรือทำการตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือแม้กระทั่งเทคโนโลยีที่ช่วยขายของแทนเราได้

ซึ่ง MarTech ที่นักการตลาดหน้าใหม่ควรทำความรู้จักเอาไว้ เราขอแนะนำ Digital Marketing Tools เหล่านี้:

  • Google Analytics: เครื่องมือสำหรับดูข้อมูลเว็บไซต์ของเรา ดูว่ามีคนเข้ามาเยี่ยมชมมากเท่าไหร่ เป็นใครบ้าง
  • Google Search Console: เครื่องมือสำหรับดูแลเว็บไซต์ ตรวจดูว่าเว็บไซต์ของเราอยู่อันดับที่เท่าไหร่บน Google 
  • Google Tag Manager: เครื่องมือสำหรับติดตั้งแท็กหรือสคริปต์ไว้บนเว็บไซต์แบบง่าย ๆ โดยที่ไม่ต้องเข้าไปรื้อโค้ดหลังบ้าน ช่วยให้การติดแท็ก และเปิด-ปิดการทำงานของแท็กทำได้สะดวก
  • Hotjar: เครื่องมือตรวจจับ Heatmap การใช้งานบนเว็บไซต์ รู้ว่าคนคลิกอะไร ใช้เวลาอ่านคอนเทนต์ส่วนไหนของเว็บไซต์ของเรามากที่สุด เหมาะสำหรับธุรกิจที่ทำ SEO ซึ่งเป็น Digital Marketing ที่ต้องอาศัยเวลา
  • Facebook Page, Facebook Business, Facebook Ads Manager: เครื่องมือสำหรับนักการตลาดสาย Facebook ใช้ดูข้อมูลผู้ติดตาม และใช้สำหรับยิงแอด Facebook
  • Google Ads (หรือ Google Adwords ชื่อเก่า): เครื่องมือสำหรับใช้ทำและยิงแอด Google หรือ PPC
  • WordPress: ระบบบริหารคอนเทนต์ (CMS: Content Management System) ช่วยให้การลงคอนเทนต์บนเว็บไซต์หรือสร้างเพจใหม่ ๆ ในเว็บไซต์เป็นเรื่องง่าย แม้จะเขียนโค้ดไม่เป็น
  • Similarweb: เครื่องมือใช้สืบข้อมูลเว็บไซต์ของคู่แข่ง
  • Keyword Research Tools: เครื่องมือสำหรับดู “คำค้น” หรือ “Keyword” ที่คนค้นหา ดูว่าคนค้นหาอะไร เพื่อทำคอนเทนต์และ SEO รวมถึงเลือกคำสำหรับทำ PPC
  • CRM: Customer Ralationship Management: เครื่องมือบริหารความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้า ช่วยติดตามและเก็บข้อมูลลูกค้า ตามหา Lead ใหม่ ๆ ตลอดจนเป็นเชื่อมต่อและใช้ทำ Email Marketing และ Marketing Automation
  • Chat GPT: เป็นหนึ่งใน AI ที่คนนิยมใช้ช่วยทำ Digital Marketing มากที่สุดในยุคปัจจุบัน สามารถช่วยในการหาไอเดียในการทำ Content การตลาดได้

สรุปเรื่อง Digital Marketing

การทำ Digital Marketing ให้กับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง หรือผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องฝ่าฟันทั้งอุปสรรคจากปัจจัยด้านเวลา งบประมาณ คู่แข่ง หรือแม้แต่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ในฐานะนักการตลาดหรือเจ้าของกิจการ คุณจึงจำเป็นต้องศึกษาเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง และเตรียมพร้อมรับมือทุกสถาณการณ์ อย่างไรก็ดี หากอ่านบทความนี้แล้วอยากศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ขอแนะนำ “คอร์สเรียน Social Media Strategy เครื่องมือสำคัญในการทำการตลาด คอร์สเดียวที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ สำรองที่นั่งได้ที่: https://lin.ee/pGEtoTR หรือ LINE: @digitaltips


10 body languages for presentation
Marketing Psychology
ลิสต์ 10 ภาษากายเพื่อการพรีเซนต์งาน สำหรับพนักงานมือโปร 

Topic Summary คนทำงานเตรียมแชร์ไว้ 10 ภาษากายเพื่อการพรีเซนต์งาน เพิ่มสกิลการเป็นมือโปร และทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในตัวคุณ! ในบรรดาความรู้เรื่อง Body Language ทั้งหมด ภาษากายที่ใช้ในการพรีเซนต์งาน…

body languages
Marketing Psychology
เช็กก่อนใคร! ตำแหน่งของ Body Language ตัวช่วยอ่านพฤติกรรมคนจากภาษากาย

Topic Summary อยากรู้ไหม? เวลาอ่านใจคนจากภาษากาย ตำแหน่งของ Body Language ส่วนใดบ้างที่คุณต้องดู และแต่ละตำแหน่งมีความสำคัญอย่างไร ใคร ๆ ก็อยากเชี่ยวชาญการอ่านใจคนด้วยภาษากาย…

what is psychology of pricing
News
เข้าใจจิตวิทยาราคา พร้อมแจกกลยุทธ์การตั้งราคา ให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็วกว่าที่เคย

เพิ่งเปิดธุรกิจใหม่ ควรตั้งราคาอย่างไรดี Digital Tips แชร์เทคนิคการตั้งราคาตามหลักจิตวิทยา พร้อมเคลียร์ชัดความหมายของจิตวิทยาราคา อ่านแล้วเข้าใจได้ทันที! Content Summary  จิตวิทยาราคา คือ การกำหนดราคาสินค้าโดยอ้างอิงจากการรับรู้ทางจิตวิทยา…