Social Media Marketing (SMM) คืออะไร ส่งผลต่อธุรกิจของคุณอย่างไร

หากพูดถึงหนึ่งในเทคนิคการทำงานของ Digital Marketing หนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อของ Social media marketing (SMM) หรือการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียอยู่ในนั้นด้วยแน่นอน ด้วยข้อดีที่ส่งผลต่อธุรกิจของคุณหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การช่วยเพิ่มการรับรู้ให้แบรนด์ สร้างยอดขาย สร้างการเติบโตให้ธุรกิจ ไปจนถึงการเก็บข้อมูล ทำการสำรวจกลุ่มเป้าหมาย ฯลฯ

โดยในปัจจุบันก็มีแพลตฟอร์ม Social Media ให้เลือกใช้งานเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, LINE, Twitter, YouTube หรือ TikTok ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นแพลตฟอร์มที่คุณสามารถนำไปใช้งานในการทำ Social media marketing ได้

ในบทความนี้เราเลยขอมาอธิบายว่าจริง ๆ แล้ว Social Media Marketing (SMM) คืออะไร ส่งผลต่อธุรกิจของคุณอย่างไร เพื่อให้คุณนำเอาความรู้ที่ได้ไปต่อยอดในการทำ Social Media Marketing ของธุรกิจคุณต่อไป

Social Media Marketing (SMM) คือ

ก่อนที่จะทราบถึงความหมายของการทำ Social Media Marketing คุณจำเป็นต้องทราบก่อนว่านิยามที่แท้จริงของคำว่า Social Media คืออะไร เพื่อที่จะทำให้คุณเข้าใจถึงแก่นของ Social Media Marketing ได้ง่ายขึ้น

Social Media คือ

Social Media คือ แพลตฟอร์มสำหรับให้ผู้คนได้แบ่งปันประสบการณ์ ถ่ายทอดเรื่องราวและกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของแต่ละคนร่วมกันบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งทำให้เกิดเป็นสังคมใหม่บนโลกออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram, LINE, Twitter, TikTok ฯลฯ โดยเมื่อ Social Media มีผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น ก็จะทำให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นทำเลทองของการทำธุรกิจ ส่งผลให้ในปัจจุบันมีธุรกิจมากมาย ทั้งเก่าและใหม่ที่ดำเนินธุรกิจผ่านช่องทาง Social Media จนกลายเป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจในทุกวันนี้

อ่านวิธีสร้างเพจ Facebook อย่างละเอียดที่บทความของเรา >> วิธีสร้างเพจ Facebook

Social Media Marketing (SMM) คือ

Social media marketing (SMM) คือ เทคนิคกลยุทธ์การตลาด ในการ สร้างคอนเทนต์ ยิงแอด สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้ช่องทาง Social Media เช่น Facebook, Instagram, LINE, Twitter, YouTube, TikTok, LinkedIn ฯลฯ เป็นสื่อช่องทางหลัก ในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าและโปรโมทแบรนด์หรือโปรโมทเพจให้เกิดการรับรู้มากที่สุด หรือใช้ในการสื่อสารให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจของคุณให้ได้มากที่สุด

ซึ่งลักษณะของ Social media marketing จะมีวิธีการทำงานรวมถึง ตัวชี้วัดในการทำงานที่แตกต่างจากกลยุทธ์การตลาดแบบอื่น โดยทั้งหมดจะเป็นตัวชี้วัดที่สามารถทำงานได้เฉพาะแพลตฟอร์ม Social Media ซึ่งมีตัวชี้วัดดังนี้

• Profile optimization – การปรับแต่งหน้าโปรไฟล์ ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ในการเยี่ยมชมที่ดีที่สุด
• Posting – การโพสต์หรือเผยแพร่ คอนเทนต์ ลงในแพลตฟอร์ม Social Media ต่าง ๆ เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารกับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย
• Engaging – การมีปฏิสัมพันธ์ เช่น ไลค์ คอมเมนต์ แชร์ ของผู้ติดตามใน Social Media ช่วยทำให้เห็นว่าธุรกิจสามารถสื่อสาร และสร้างสังคมออนไลน์ให้กับผู้ใช้งานได้จริง
• Advertising – การทำโฆษณา หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า ยิงแอด ซึ่งแพลตฟอร์ม Social Media แต่ละตัวก็จะมีกระบวนการในการทำโฆษณาที่แตกต่างกันออกไป ตามพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าและธรรมชาติของแต่ละแพลตฟอร์ม Social Media
• Measuring – การวัดผล ประสิทธิภาพการทำงาน ของการทำการตลาดผ่าน Social Media แต่ละตัว ซึ่งสามารถวัดผลได้ ผ่านเครื่องมือต่าง ๆ เช่น Facebook Business, Twitter Business, TikTok Business, LINE OA เป็นต้น

เจาะลึกเกี่ยวกับการยิงแอด ด้วยบทความ “ยิงแอดคืออะไร” (ยิงแอดโฆษณา)

7 ข้อดีของ Social media

ในเมื่อ Social media marketing คือ การทำการตลาดผ่านช่องทาง Social Media ซึ่งหลังจากที่เราได้รู้ความหมายไปแล้ว อย่างที่ได้เกริ่นไปตั้งแต่ช่วงต้นว่า การทำ Social Media Marketing นั้นมีประโยชน์ มีข้อดี ที่ส่งผลต่อธุรกิจของคุณมากมาย โดยเราจะขอยกตัวอย่างมาอธิบายให้คุณได้ทราบกัน ดังนี้

1. Social media ช่วยสร้าง Brand awareness

การใช้งาน Social Media นั้น ช่วยสร้าง Brand awareness หรือการรับรู้ในแบรนด์ให้แก่กลุ่ม Audience หรือกลุ่มเป้าหมาย (Targeting) ได้เป็นอย่างดี เพราะ Social Media เป็นช่องทางที่จะทำให้แบรนด์ของคุณสามารถพรีเซนต์ภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity หรือ Corporate Identity) ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งทำให้ Audience ได้เข้าถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ รู้จักธุรกิจของคุณได้มากกว่าช่องทางไหน ๆ ผ่านการสร้างโปรไฟล์ สร้างคอนเทนต์ ที่พรีเซนต์ Brand Identity ของธุรกิจของคุณในแพลตฟอร์ม Social Media

2. Social media ช่วยเพิ่ม Traffic และ Engagement ที่เข้าสู่ Website

Social media ช่วยเพิ่ม Traffic และ Engagement ให้เข้าสู่ Website ได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากวิธีการทำ SEO เพราะธรรมชาติของแพลตฟอร์ม Social Media ที่มีผู้ใช้งานเข้ามาใช้งานตลอดทั้งวัน (ไม่เหมือนกับเว็บไซต์) ซึ่งถ้าคุณรู้จักใช้งาน Social Media ในการเป็นพื้นที่ กระบอกเสียง สร้าง Organic Content ที่น่าสนใจและแปะลิงก์ที่ส่ง Traffic กลับไปยังเว็บไซต์ ก็จะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณได้ทั้ง Traffic และ Engagement มากขึ้น

3. Social media ช่วยสร้าง Leads และ Conversion ให้ธุรกิจ

Social media ช่วยสร้าง Lead Generations และ Conversion ให้ธุรกิจได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถเข้าถึงผู้คนได้เป็นจำนวนมาก ทั้งการสร้างสรรค์คอนเทนต์และการยิงแอด ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจได้ Lead Generations ที่ช่วยดึงดูดให้ลูกค้าได้สนใจถึงตัวผลิตภัณฑ์/บริการของธุรกิจเรา และส่งผลต่อเนื่องไปยังการสร้าง Conversion หรือการตัดสินใจซื้อสินค้า, สมัครสมาชิก ฯลฯ ยอมเป็นลูกค้ากับธุรกิจเรา

4. Social media ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย

ในมุมธุรกิจเองก็สามารถใช้ Social Media เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้การเข้าถึงลูกค้าได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมายเป็นเรื่องง่าย เพราะธรรมชาติของ Social Media นั้น Audience จะสามารถเลือกติดตามเฉพาะสิ่งที่ตัวเองสนใจได้ ทำให้คุณมั่นใจได้ในระดับนึงว่าผู้ติดตามของ Social Media คุณนั้นก็ต้องเป็นที่สนใจในลักษณะธุรกิจของคุณ รวมถึงการทำโฆษณาด้วย Social Media จะสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ที่ต้องการให้โฆษณาไปปรากฏได้อีกด้วย

5. Social media ช่วยสร้าง Relationships กับลูกค้า

Social Media บางแพลตฟอร์มเช่น Facebook, Instagram นั้นสามารถทำให้แบรนด์สื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรงผ่านฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น คอมเมนต์, แชต ทำให้แบรนด์สามารถสร้าง Relationships หรือความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าได้ ผ่านการสนทนา พูดคุย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการโน้มน้าวใจและทำให้ลูกค้าเกิดการซื้อซ้ำ (Retention) กับธุรกิจของคุณได้ หากคุณมีการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีในการสื่อสาร

รู้เคล็ดลับการเพิ่มไลค์ในเฟสบุ๊ค ด้วยบทความ “วิธีเพิ่มไลค์เฟสบุ๊ค” ได้เลย

6. Social media เป็นช่องทางการศึกษาพฤติกรรมลูกค้า (Consumer Behavior)

Social Media สามารถใช้เพื่อศึกษาและทำความเข้าใจกับพฤติกรรมลูกค้าและกลุ่มเป้าหมาย (targeting) ของตัวเองได้ ผ่านการสังเกตพฤติกรรมของพวกเขาเมื่ออยู่บนแพลตฟอร์ม Social Media ของคุณเช่นการ Like, Share, หรือ Comment โพสต์ต่างๆ และ Social Media บางตัวยังมีเครื่องมือในการวัดผล ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าที่ช่วยเป็นอีกช่องทางให้ธุรกิจศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น

7. Social media เป็นช่องทางศึกษาธุรกิจคู่แข่ง (Competitor analysis)

เพราะในปัจจุบันการที่ธุรกิจหันมาใช้ช่องทาง Social Media ในการทำการตลาด กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าในอุตสาหกรรมของธุรกิจคุณ ก็คงไม่ได้มีแค่ตัวคุณเองแต่เพียงแบรนด์เดียวแน่นอน เพราะฉะนั้นคุณควรใช้ Social Media ในการศึกษาคู่แข่งของธุรกิจคุณว่า พวกเขามีการทำคอนเทนต์ประเภทไหน มีการทำแคมเปญการตลาดต่าง ๆ อย่างไรหรือศึกษาวิธีในการดูแลธุรกิจด้วยช่องทาง Social Media ของคู่แข่งก็ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ตัวคุณได้ Solution ใหม่ ๆ ไปพัฒนาและปรับใช้กับธุรกิจของคุณเองในอนาคต

สถิติการใช้ Social Media

เราลองมาดูสถิติการใช้ Social Media ที่น่าสนใจ จากทั่วทุกมุมโลกกันว่าทุกวันนี้มีตัวเลขสถิติด้านการใช้งาน Social Media ที่เติบโตขึ้นอย่างไรบ้าง

• มีธุรกิจขนาดใหญ่กว่า 91% ทั่วโลกที่ใช้งาน Social Media Marketing
• การใช้งาน Social Media เป็นช่องทางในการทำ Marketing Campaign ช่วยทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้นได้มากกว่า 92%
• กลุ่มผู้ใหญ่ (Adults) ในประเทศสหรัฐอเมริกามีการใช้งาน Social Media มากกว่า 2.25 ชั่วโมงในทุก ๆ วัน
• มากกว่า 70% ของผู้คนที่มีประสบการณ์ที่ดี ที่เกิดขึ้นจาก Social Media ของแบรนด์นั้น ๆ มีแนวโน้มที่จะแชร์ หรือบอกเล่าเรื่องราวดังกล่าวลงใน Social Media ของตนเอง
• ผู้ใช้งาน Facebook ทุกคนมีแนวโน้มที่จะกด Ads ที่ปรากฏขึ้นบนหน้าฟีด มากกว่า 12 ครั้งต่อวัน
• 81% ของผู้ใช้งาน Instagram จะเลือกใช้แพลตฟอร์มนี้ในการสำรวจผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ ที่พวกเขาต้องการ
• กว่า 80% ของผู้ใช้งาน Twitter มีความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์ ถ้าพวกเขาได้ทำการ Retweet ลงใน Twitter ของตัวเอง
• 4 ใน 5 ของผู้ใช้งาน LinkedIn จะใช้แพลตฟอร์มนี้ ในการตัดสินใจอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตัวเอง
• 46% ของผู้ใช้งาน TikTok จะมีปฏิสัมพันธ์กับแพลตฟอร์มนี้ โดยไม่สนใจสิ่งรบกวนอื่นเลยเมื่อใช้งาน
• 75% ของนักการตลาดทั่วโลก ยอมรับว่าการใช้งาน Social Media ช่วยเพิ่ม Traffic ให้เว็บไซต์ของธุรกิจนั้น ๆ ได้จริง
• การสร้างสรรค์ Video Content แล้วเผยแพร่ลงใน Social Media สามารถช่วยเพิ่มลูกค้าใหม่ให้ธุรกิจได้ถึง 93%

Social Media Marketing ที่ประสบความสำเร็จ มักมีสิ่งนี้

จากการสำรวจ พบว่าธุรกิจส่วนใหญ่ที่ใช้งานกลยุทธ์ Social Media Marketing จนประสบความสำเร็จ พวกเขาจะมีกระบวนการทำงานที่ ‘คล้ายกัน’ อยู่บางอย่าง ซึ่งเราได้ทำการสรุปมาให้คุณแล้ว ดังต่อไปนี้ (ใครอยากทำ Social Media Marketing ให้ประสบความสำเร็จ ต้องอ่าน!)

• รู้ข้อมูลของกลุ่ม Target – หรือรู้ว่ากลุ่มเป้าหมาย (targeting) กลุ่มผู้ติดตามของ Social Media ตัวเองคือใคร และสร้างสรรค์คอนเทนต์ ทำโฆษณา หรือแผนการตลาดอื่น ๆ ให้ตอบโจทย์คนกลุ่มนั้น
• มี Brand identity – มีภาพลักษณ์ของแบรนด์ (branding) ที่ชัดเจน ไม่เหมือนใคร ต่างจากคู่แข่ง มีจุดเด่น Audience จะเกิด Brand Awareness ได้ง่ายขึ้น
• มี content strategy – มีกลยุทธ์ในการทำคอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพ รู้ว่า Audience ของธุรกิจชื่นชอบคอนเทนต์แบบไหน ออกแบบคอนเทนต์ตาม customer journey และสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ตรงตามความต้องการของพวกเขาได้จริง ซึ่งรวมถึงการสร้าง marketing campaign ด้วย
• มีการวิเคราะห์ลูกค้าและคู่แข่ง – ศึกษาพฤติกรรมของลูกค้า ทำ marketing analysis และวิเคราะห์คู่แข่งอยู่ตลอด จะช่วยให้ธุรกิจของคุณกำหนดทิศทางและเป้าหมายได้อย่างชัดเจน ไม่ทำการตลาด เผาเงินทิ้งไปวัน ๆ
• มีการลง content อย่างสม่ำเสมอ – ความสม่ำเสมอคือสิ่งสำคัญ เพราะเทคนิคการลงคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ Audience รู้สึกว่าธุรกิจของคุณยัง Active อยู่ และใกล้ชิดกับแบรนด์คุณมากขึ้น
• สร้าง content ที่มีประโยชน์และน่าสนใจ – เพราะคอนเทนต์ที่ดี ต้องเป็นคอนเทนต์ที่มีประโยชน์และน่าสนใจ ถึงจะกระตุ้นให้เกิด Engagement บน Social Media ได้ และถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ๆ ในการทำ Social Media Marketing ให้ประสบความสำเร็จ

7 ช่องทางการทำ Social Media Marketing

1. Facebook

ลักษณะของช่องทางนี้ : Social Media ขนาดใหญ่ที่สุด มีผู้ใช้กว่า 3 พันล้านคนทั่วโลก เป็นแพลตฟอร์ม Social Media ที่หลายคนมักจะคิดถึงเป็นอันดับแรก สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้เป็นจำนวนมาก เหมาะกับการทำธุรกิจมากที่สุด
จุดเด่น : มีเครื่องมือในการทำ Facebook marketing ได้อย่าง Facebook business , Facebook ads ที่ช่วยในการ ยิงแอด Facebook และวัดผลประสิทธิภาพของการทำธุรกิจด้วย Facebook
ผู้ใช้งาน : มีผู้ใช้งานหลากหลายเพศและช่วงวัย ตั้งแต่ 18-70 ปี

 

ลักษณะของช่องทางนี้ : เป็นแพลตฟอร์ม Social Media ที่เน้นไปที่การลงคอนเทนต์ที่เป็น รูปภาพทั้งภาพเดียวและอัลบั้ม, วิดีโอ, วิดีโอสั้น มีผู้ใช้งานมาก ไม่เหมาะสำหรับการลงคอนเทนต์ที่เป็นบทความยาว
จุดเด่น : Instagram เป็นช่องทางที่ธุรกิจสามารถสื่อสารกับลูกค้าผ่าน Visual (การมองเห็น) ได้ดีที่สุด เหมาะกับแบรนด์ที่เน้นขายสินค้าและบริการที่ต้องการถ่ายทอดรูปภาพ วิดีโอ ให้ลูกค้าได้เห็น
ผู้ใช้งาน : 51% ของผู้ใช้งานจะเป็นผู้หญิง 49% เป็นผู้ชาย ช่วงอายุตั้งแต่นักเรียน นักศึกษา วัยรุ่น วัยทำงาน และส่วนน้อยจะเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ

3. Twitter

ลักษณะของช่องทางนี้ : เป็นแพลตฟอร์มถ่ายทอดตัวหนังสือ สั้น ๆ เน้นความรวดเร็วในการเข้าถึง มีผู้ใช้งานเยอะ แต่มีข้อจำกัดคือไม่สามารถลงคอนเทนต์ที่มีตัวหนังสือเกิน 280 ตัวอักษรได้ โน้มน้าวใจ Audience ได้ดี
จุดเด่น : เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการสร้าง Real Time Content หรือต้องการสร้างกระแส (Trending) ให้กับผลิตภัณฑ์/บริการของตัวเอง เพราะ Algorithm ของ Twitter จะแสดงผลหน้า Feed ที่มีการอัปเดตที่ถี่กว่าแพลตฟอร์มอื่น
ผู้ใช้งาน : ส่วนใหญ่จะอายุตั้งแต่ 15-35 ปี 44% ของผู้ใช้งานทั่วโลกเป็นผู้หญิง 56% เป็นผู้ชาย

4. LINE OA

 

ลักษณะของช่องทางนี้ : แพลตฟอร์มสื่อสาร ประเภทส่งข้อความ ที่คนไทยทุกคนที่มีสมาร์ทโฟนต้องมี มีจำนวนผู้ใช้งานเยอะ แบรนด์สามารถสร้าง Official Account หรือ Account สำหรับธุรกิจที่ใช้ในการสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง
จุดเด่น : ช่วยสร้าง engagement กับลูกค้าได้ดี ด้วยฟีเจอร์ในการ Broadcast message และยังสามารถตั้งค่าการทำงาน เพื่อตอบกลับอัตโนมัติได้เช่นเดียวกัน ไม่ต้องใช้แรงมนุษย์ในการตอบคำถามลูกค้า
ผู้ใช้งาน : หลายช่วงอายุตั้งแต่ 18-65 ปี (แต่เยอะสุดในช่วงอายุ 25-34 ปี) 59% เป็นผู้หญิง 41% เป็นผู้ชาย

5. TikTok

 

ลักษณะของช่องทางนี้ : เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเผยแพร่คอนเทนต์วิดีโอ ความยาวไม่เกิน 3 นาที มีระบบการแสดงผลหน้า Feed ด้วย Algorithm ตามความสนใจของผู้ใช้งาน
จุดเด่น : แบรนด์สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอได้ในสไตล์ของตัวเอง ไม่มีรูปแบบตายตัว สร้างความน่าสนใจให้แบรนด์ได้เป็นอย่างดี แต่ต้องสื่อสารภายในระยะเวลาที่ทาง TikTok กำหนดไว้
ผู้ใช้งาน : กลุ่ม Gen Z ทุกเพศ

6. LinkedIn

 

ลักษณะของช่องทางนี้ : Social Media ที่มีจุดประสงค์ในการใช้งานเชิงธุรกิจ B2B หรือสมัครและค้นหาตำแหน่งงาน มีผู้ใช้งานน้อย ไม่เหมาะสำหรับแบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์ B2C
จุดเด่น : เหมาะสำหรับธุรกิจ B2B และสามารถใช้เป็นช่องทางในการสร้าง Network ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเพิ่มภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ
ผู้ใช้งาน : วัยทำงาน ทุกเพศ

 

7. YouTube

 

 

ลักษณะของช่องทางนี้ : Social Media ประเภท Video Search Engine จาก Google เป็นสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่รวบรวมวิดีโอแทบทุกประเภทมาไว้ในที่เดียว สามารถทำการโฆษณาได้หลายรูปแบบผ่าน Google Display Network หรือ Google Ads
จุดเด่น : ไม่จำกัดความยาวของ Video Content ผู้ใช้งานมีมากราว 2,000 ล้านคนทั่วโลก มีทิศทางในการเติบโตมากขึ้นกว่าปัจจุบัน จึงเหมาะกับแบรนด์ที่ถนัดหรืออยากสร้างสรรค์คอนเทนต์แนววิดีโอ
ผู้ใช้งาน : ตั้งแต่เด็ก จนถึงวัยสูงอายุ อายุไม่เกิน 65 ปี ทุกเพศ

 

8. Blockdit

 

ลักษณะของช่องทางนี้ : Social Media สัญชาติไทย เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเผยแพร่ Content บทความทั้งยาวและสั้น รวมถึงคอนเทนต์ประเภทอื่น ๆ เช่น Podcast, Video ทุกคนสามารถเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้
จุดเด่น : เหมาะสำหรับเป็นแพลตฟอร์มในการสร้างคอนเทนต์ ที่ต้องการให้ความรู้แก่ผู้ใช้งาน
ผู้ใช้งาน : เพศชาย 55% เพศหญิง 45% กลุ่มที่ใช้งานส่วนใหญ่คือช่วงอายุ 18 – 54 ปี

6 ขั้นตอนการทำ Social Media Marketing ให้ประสบความสำเร็จ

ในการทำ Social Media Marketing ให้ประสบความสำเร็จนั้นจะต้องรู้กระบวนการทำงาน
6 ขั้นตอน ซึ่งเป็นรากฐานที่ดีในการทำ Social Media Marketing ที่ได้รับความนิยมจากเหล่านักการตลาด ดังนี้

1. Know your business

หรือการรู้จักธุรกิจของตัวเอง คุณจำเป็นต้องทราบก่อนว่าตอนนี้ธุรกิจของคุณอยู่ในตำแหน่งของการทำการตลาด มีคู่แข่งเยอะมากน้อยแค่ไหน โอกาส อุปสรรค จุดแข็ง จุดอ่อนของตัวเอง คืออะไร ช่องทางในการสร้างรายได้ของคุณจะมาจากช่องทางไหนบ้าง และเมื่อคุณรู้ว่าธุรกิจตัวเองเป็นยังไงแล้ว ต้องเลือก platforms ที่ based on target audience

 

ซึ่งในส่วนนี้คุณสามารถใช้ Framework ในการทำการตลาดเพื่อช่วยให้คุณรู้จักธุรกิจของตัวเองได้ เช่น Business model canvas , SWOT analysis ได้

2. Know your audience

หรือการรู้จักลูกค้าของแบรนด์ หลังจากที่คุณรู้จักธุรกิจของตัวเองแล้ว สิ่งต่อมาที่คุณต้องรู้คือการรู้จักกับลูกค้า ว่ากลุ่มลูกค้า หรือแม้แต่กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจคุณคือใคร เป็นคนแบบไหน อายุประมาณเท่าไร เพศอะไร รายได้เท่าไร อาศัยอยู่ที่ไหน มีความชอบความสนใจเกี่ยวกับเรื่องอะไร หรือการทำ customer persona ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถกำหนดกลยุทธ์การทำ Social Media Marketing ได้ถูกต้องตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

3. Set Goals & Objectives

หรือการตั้งเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ของการทำ Social Media Marketing ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถกำหนดเป้าหมาย วัตถุประสงค์ต่าง ๆ กำหนดงบประมาณ ระยะเวลา ในการทำการตลาดได้อย่างถูกต้อง เราแนะนำให้คุณใช้ Framework ที่ชื่อว่า SMART goal setting ในการช่วยตั้งเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการทำการตลาด

โดย SMART คือ Framework หลักการตั้งเป้าหมายในธุรกิจ เพื่อให้เป้าหมายมีความเจาะจง วัดผลได้ บรรลุผลได้ สอดคล้องกับความเป็นจริง และอยู่ในกรอบเวลา หรือ Specific (เป้าหมายต้องเจาะจงได้), Measurable (ต้องวัดผลเป็นตัวเลขได้), Achievable (สามารถทำให้บรรลุผลได้จริง แต่ก็ต้องไม่ง่ายจนเกินไป), Realistic (ต้องทำให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจจริง), และ Timely (มีระยะเวลาในการกำหนดผลที่ชัดเจน)

4. Plan and curate contents

หรือการวางแผนคอนเทนต์ เพราะการทำ Social Media Marketing นั้นจะต้องใช้การสร้าง content ที่แปลกใหม่ มีประโยชน์ มีคุณค่า ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ช่วยแก้ปัญหาให้พวกเขาได้เป็นอย่างดี ซึ่งการสร้างคอนเทนต์ที่แตกต่างและมีประโยชน์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้การทำ Social Media Marketing ของคุณประสบความสำเร็จ ซึ่งต้องเริ่มตั้งแต่การสร้างเพจ facebook เลย

 

 

>> หาไอเดียในการทำคอนเทนต์ใหม่ ๆ ผ่านปัญญาประดิษฐ์สุดล้ำด้วย Alisa AI เป็นตัวช่วยในการคิดคอนเทนต์ภาษาไทย

5. Use tools หรือการใช้เครื่องมือช่วยเหลือ

ใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์ (platform’s analytics) ที่จะช่วยทำให้คุณรู้ถึงเทรนด์ความสนใจของกลุ่มเป้าหมายอยู่ในทุกวันนี้ เช่น Google trends , Answer the public และยังช่วยให้คุณได้ทราบอีกด้วยว่ากระแสเทรนด์ของตลาดตอนนี้เป็นอย่างไร หรือลองใช้เครื่องมือในการเพิ่มผู้ติดตามการใส่ hashtag ฯลฯ ลงในคอนเทนต์ด้วย

6. Analyze and optimize หรือการวิเคราะห์ผลลัพธ์

และสุดท้ายคือต้องวัดผล วิเคราะห์ผลลัพธ์ในการทำงานอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะทำให้คุณได้รู้ว่า กลยุทธ์ต่าง ๆ ที่คุณทำไปนั้น สามารถเปลี่ยนเป็นผลลัพธ์ สร้างการเติบโตให้ธุรกิจได้มากแค่ไหน แล้วถ้า Campaign ไหนที่ไม่สำเร็จ จะมีวิธีการแก้ไข Optimization อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ

 

Tips การทำ Social Media Marketing

ขอแนะนำ Tips เทคนิคดี ๆ ในการทำ Social Media Marketing ให้ประสบความสำเร็จที่เราอยากจะมาแนะนำด้วย ดังนี้

• สร้าง content ที่มีความคิดสร้างสรรค์ และแปลกใหม่ เช่น How-to, Quick tips, Local and industry news, Data and insights, Polls, Questions, Contests , Updates and announcements
• มีความสม่ำเสมอในการสร้าง content ต้องทำเป็นประจำอย่าให้ขาด
• มีส่วนร่วมกับ audience เช่นการพูดคุยโต้ตอบ หรือการสร้างกิจกรรม Campaign ต่าง ๆ
• ใช้เครื่องมือในการสร้าง content เช่น Paid Content , social media influencer ในการช่วยสร้างคอนเทนต์ให้คุณ โดยที่คุณไม่ต้องเสียแรงสร้างเอง
• มีการ repost , repurpose , recycle
• มีเครื่องมือในการวิเคราะห์ที่ช่วยให้คุณเห็นประสิทธิภาพของการทำงานได้อย่างชัดเจน เช่น Google Analytics, Buffer ฯลฯ
• การใช้ Advertise เช่นการ ยิงแอด Facebook , ยิงแอด TikTok , ยิงแอด LINE (LINE Ads Platform) เป็นตัวช่วยให้การทำ Social Media Marketing ของคุณประสบความสำเร็จมากขึ้น

อยากเรียนรู้การทำ Content ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย Digitaltips ขอแนะนำ “คอร์สออนไลน์ เรียน Content Marketing Mastery ทบทวนได้ตลอดชีพ”

 

สรุป

Social media marketing (SMM) กำลังจะกลายเป็นเรื่องปกติในการทำการตลาดออนไลน์ของธุรกิจทุกขนาดในปัจจุบัน เพราะว่าการที่ธุรกิจใช้ Social Media Marketing นั้นสามารถให้ช่วยสร้างการเติบโตได้หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการรู้จักลูกค้า การสร้างการรับรู้ของแบรนด์ที่ต่อยอดไปถึงการซื้อสินค้าจากลูกค้าของคุณเอง

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้การทำ Social media marketing (SMM) ของคุณประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้นะคะ

 

 

อ้างอิง : https://blog.hubspot.com/marketing/social-media-marketing
https://www.techtarget.com/whatis/definition/social-media-marketing-SMM
https://www.investopedia.com/terms/s/social-media-marketing-smm.asp

• แชร์
• ทวิต
• แชร์ไลน์