User-generated content หรือ UGC คือ คอนเทนต์ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากลูกค้าของแบรนด์ตัวจริง ที่เนื้อหาของคอนเทนต์จะมีความเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของแบรนด์เช่นการรีวิวสินค้าบน Facebook, Instagram หรือการเขียนบทความแนะนำสินค้าบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ฯลฯ
ซึ่งประโยชน์ของการทำ UGC คือช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของคุณในยุคที่ผู้บริโภคเลือกใช้ช่องทางออนไลน์เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือบริการสักอย่าง เพราะฉะนั้นเพื่อให้คุณได้เข้าใจศาสตร์นี้กันให้มากขึ้น Digital Tips เลยขอมาอธิบายให้ว่า User-generated content (UGC) คืออะไร สำคัญต่อการทำแบรนด์อย่างไร? ไปติดตามกันค่ะ
UGC หรือ User-generated content คืออะไร
User-generated content หรือ UGC คือคอนเทนต์หรือเนื้อหาที่ถูกสร้างขึ้นมาจาก ‘ลูกค้า’ ของแบรนด์ ซึ่งเนื้อหาที่ว่านั้นต้องมีการพูดถึงสินค้าหรือบริการของแบรนด์ด้วย โดยสิ่งสำคัญของ UGC คือ การสร้างคอนเทนต์ต้องเป็นเนื้อหาที่ลูกค้าเต็มใจโพสต์โดยที่ทางแบรนด์ของคุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินจ้างเลยแม้แต่บาทเดียว ซึ่งการทำ User-generated content หรือ UGC นั้นถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทำ Content Marketing อีกด้วย
โดยตัวอย่างของการทำ UGC คือการรีวิวสินค้าบน Facebook ขายของใน TikTok หรือ Social Media แพลตฟอร์มอื่น ๆ, การเขียนบทความแนะนำสินค้าบนเว็บไซต์ต่าง ๆ กระทั่งการเขียนกระทู้รีวิวสินค้าบน Pantip ก็นับว่าเป็นการทำ User-generated content หรือ UGC ด้วยกันทั้งสิ้น
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : Social Media Marketing (SMM) คืออะไร ส่งผลต่อธุรกิจของคุณอย่างไร
ความสำคัญของ User-generated content
User-generated content หรือ UGC เข้ามามีความสำคัญต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้น เพราะอิทธิพลจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ทั้ง Social Media หรือเว็บไซต์ ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการบางอย่างจากผู้บริโภค ทำให้การทำ UGC กลายเป็นเทคนิคการทำ Content Marketing ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือก่อนการตัดสินใจซื้อให้กับแบรนด์ได้
“UGC คือคอนเทนต์ที่ผู้บริโภคกว่า 56% มองว่าสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ได้มากที่สุด”
แต่นอกจากนั้นการทำ User-generated content หรือ UGC ยังมีความสำคัญในด้านอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อธุรกิจคุณอีก ดังนี้
เพิ่ม Brand Loyalty ได้ดี
เพราะการทำ User-generated content หรือ UGC คือการให้ผู้บริโภคมีส่วนในการสร้างคอนเทนต์ขึ้นมาให้แบรนด์ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าแบรนด์มีการสร้างแคมเปญ User-generated content ขึ้นมาให้ลูกค้าได้สร้างสรรค์คอนเทนต์ต่าง ๆ ก็จะช่วยให้ลูกค้าเกิดความจงรักภักดีต่อแบรนด์ เห็นถึงความสำคัญที่แบรนด์มีต่อพวกเขา ซึ่งสิ่งนี้สามารถช่วยเพิ่ม Brand Loyalty และการทำ Branding ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณา
การทำ UGC คือตัวเลือกที่คุ้มค่ามาก ๆ สำหรับธุรกิจที่ต้องการโปรโมตแบรนด์ของตัวเองโดยที่ไม่ต้องเสียเงินเยอะแยะอะไรเลยค่ะ เพราะอย่างที่เราบอกไปว่าการทำ UGC นั้นลูกค้าที่สร้างสรรค์คอนเทนต์ขึ้นมาจะต้องเป็นเนื้อหาที่ลูกค้าเต็มใจโพสต์ (โดยที่แบรนด์ไม่ต้องบังคับหรือจ่ายเงินให้ลูกค้าเหล่านั้นเลย) ซึ่งการทำ UGC จะช่วยให้แบรนด์ได้พื้นที่ในการโปรโมตบนสื่อออนไลน์ไปเต็ม ๆ โดยที่ไม่ต้องเสียเงินโฆษณาเลย แถมยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ผู้บริโภคได้มากกว่าการทำโฆษณาจากทางแบรนด์อีกด้วย
เพิ่มประสิทธิภาพการทำ SEO
การทำ UGC ไม่จำเป็นต้องใช้ Social Media ในการเผยแพร่คอนเทนต์เสมอไป เพราะลูกค้ายังสามารถใช้ช่องทางอย่าง เว็บไซต์ ในการเผยแพร่คอนเทนต์บทความได้อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีบทความถูกเผยแพร่ลงเว็บไซต์ก็จะส่งผลดีต่อการทำ SEO ของแบรนด์ด้วย หากลูกค้าที่ทำ UGC เหล่านั้นมีการใส่ Keyword คำค้นหาหลักเป็นชื่อแบรนด์หรือชื่อสินค้าของคุณค่ะ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : SEO คืออะไร?
ช่วยให้แบรนด์ได้รับประสบการณ์จริงจากลูกค้า
การทำ User-generated content หรือ UGC นั้นจะช่วยให้แบรนด์ได้รับ Feedback หรือประสบการณ์การใช้งานจริงของลูกค้าที่เอามาถ่ายทอดลงในคอนเทนต์ (ที่อาจจะมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี) ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่ามีประโยชน์ต่อแบรนด์มาก เพราะแบรนด์จะได้รับทราบ Feedback ที่สำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของตัวเองและเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุง พัฒนาธุรกิจให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต
คอนเทนต์ของ UGC มาจากใครบ้าง
ถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนน่าจะสงสัยใช่ไหมคะว่าแล้วการทำคอนเทนต์ UGC ใครจะสามารถทำให้แบรนด์ได้บ้าง ซึ่งการทำ UGC นั้นสามารถทำขึ้นได้จากหลายกลุ่มคน เช่น
ลูกค้า (Customer)
ลูกค้าคือกลุ่มคนที่สำคัญที่สุดในการทำ User-generated content หรือ UGC เพราะกลุ่มคนเหล่านี้คือกลุ่มคนที่ใช้งานสินค้าหรือบริการของคุณจริง ๆ เช่นคอนเทนต์ Unbox แกะกล่องสินค้าใน Youtube หรือ TikTok , คอนเทนต์รีวิวสินค้าหลังใช้งานจริงมา 1 เดือนเป็นต้น ซึ่งการที่ทำให้พวกเขาเหล่านี้มาสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้คุณได้นั้นจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้มากที่สุด และยังช่วยในการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ ๆ ให้กับแบรนด์ได้ด้วยค่ะ
ผู้จงรักภักดีต่อแบรนด์ (Brand loyalists)
บางทีการทำ User-generated content หรือ UGC นั้นก็ไม่จำเป็นต้องมาจากลูกค้าเสมอไปก็ได้ค่ะ แต่สามารถเกิดขึ้นได้จาก ผู้จงรักภักดีต่อแบรนด์ (Brand loyalists) ซึ่งกลุ่มคนเหล่านั้นอาจไม่ใช่ลูกค้าของคุณแต่มีความชื่นชอบในแบรนด์หรือสินค้าของคุณเป็นพิเศษ โดยเราจะเห็นกลุ่มคนนี้ได้มากที่สุดในคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับการพูดถึงสินค้าที่มีราคาสูง เช่น รถยนต์ หรือ สินค้าแบรนด์เนม เป็นต้น
พนักงานในองค์กร (Employees)
พนักงานในองค์กรถือว่าเป็นอีกกลุ่มที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการทำ UGC ได้ดีอีกกลุ่มหนึ่งเลยค่ะ เพราะการที่ได้ User-generated content จากกลุ่มคนเหล่านี้จะแสดงให้เห็นถึงคุณค่าและเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์ของคุณเช่น รูปภาพของพนักงานบรรจุสินค้ารอการจัดส่งหรือวิดีโอของทีมของคุณที่พูดถึงสาเหตุที่พวกเขาชอบทำงานให้กับบริษัทของคุณ ฯลฯ
ครีเอเตอร์ที่แบรนด์จ้างทำคอนเท้นต์ (UGC creators)
จริงอยู่ว่าการทำ User-generated content หรือ UGC คือการที่แบรนด์ไม่ต้องเสียเงินในการทำโฆษณาหรือจ้าง Influencer แต่ในบางกรณีแบรนด์ก็สามารถจ้างกลุ่มคนที่เรียกว่า Content Creator มาช่วยในการสร้าง UGC ได้ แต่ต้องกำชับกับพวกเขาว่าให้พูดถึงสินค้าหรือบริการของคุณตามเนื้อผ้า เน้นเล่าเรื่องจริง ๆ ไม่ต้องแต่งเติมหรืออวยสินค้าของคุณจนเกินงาม
ซึ่งข้อดีของการใช้งานคนกลุ่มนี้ในการทำ UGC คือพวกเขาจะมีความ Creative ในการเล่าเรื่องและสร้างสรรค์คอนเทนต์ออกมาให้น่าสนใจ และยังมีฐานผู้ติดตาม ซึ่งทำให้ธุรกิจของคุณได้รับ Brand Awareness ได้เป็นอย่างดี
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : Affiliate Marketing คืออะไร มีองค์ประกอบอะไรบ้าง พร้อมตัวอย่าง
8 รูปแบบของ User-generated content
การทำ User-generated content หรือ UGC นั้นสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ออกมาได้อย่างหลากหลายถึง 8 รูปแบบด้วยกันดังนี้
1. รูปภาพ (Images)
การถ่ายรูปภาพของสินค้าหรือบริการของคุณแล้วนำไปโพสต์ลงยังเว็บไซต์ หรือ Social Media ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, TikTok, Twitter ฯลฯ ทั้งหมดนี้ก็นับว่าเป็นการทำ UGC ทันที เพราะถือว่าทำให้ผู้อื่นได้รับรู้แบรนด์ของคุณ
2. วิดีโอและไลฟ์สตรีม (Videos and live streams)
ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอคอนเทนต์ใน YouTube, Instagram Stories, วิดีโอที่ถ่ายทำเอง, สตรีมวิดีโอสดบน Facebook และแพลตฟอร์มอื่นๆ ทั้งหมดนี้ก็ล้วนเป็นการทำ User-generated content หรือ UGC ทั้งนั้นแถมยังมีข้อดีตรงที่การทำ UGC แบบวิดีโอจะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายของคุณเห็นถึงสินค้าและบริการได้อย่างชัดเจนรู้สึกถึงความเป็นจริงมากกว่าคอนเทนต์รูปแบบอื่น ๆ
3. คอนเทนต์ในโซเชียลมีเดีย (Social media content)
การสร้างคอนเทนต์ใน Social Media เช่น การโพสต์ข้อความโซเชียลมีเดียใดๆ ที่พูดถึงเกี่ยวกับแบรนด์ เช่น ทวีต โพสต์ Instagram หรือการอัปเดต Facebook ก็จัดว่าเป็นการทำ User-generated content หรือ UGC ที่ได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลายเลยค่ะ (และได้ผลลัพธ์ดีไม่แพ้คอนเทนต์รูปแบบอื่น ๆ เลย)
4. รีวิวสินค้า (Product reviews and testimonials)
การที่ลูกค้าสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบที่เป็น ‘การรีวิว’ พูดถึงแบรนด์ตามเนื้อผ้า เน้นเล่าความจริง ถือว่าเป็นรูปแบบของการทำคอนเทนต์ UGC ที่มีประสิทธิภาพอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าจะเผยแพร่ลงในเว็บไซต์หรือ Social Media ก็จะได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายอยู่เสมอ (ต้องมั่นใจในคุณภาพของสินค้าหรือบริการของคุณด้วยนะ!)
5. บทความต่างๆ (Blog posts)
การเขียนบทความลงในเว็บไซต์ส่วนตัว ก็จะช่วยเพิ่มช่องทางในการโปรโมตแบรนด์ของคุณผ่านทางเว็บไซต์ที่สามารถเขียนบรรยายได้ยาวหน่อย (เหมาะสำหรับสินค้าหรือบริการที่มีรายละเอียดที่อยากให้กลุ่มเป้าหมายทราบเยอะ) และการเลือกใช้ บทความ ในการทำ UGC ยังเป็นผลดีต่อการทำ SEO ของแบรนด์ด้วยค่ะ
6. การแลกเปลี่ยนความเห็นบนเว็บไซต์ (Q&A forum)
การสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบ. การแลกเปลี่ยนความเห็นบนเว็บไซต์ (Q&A forum) ตามกระทู้ในเว็บบอร์ดต่าง ๆ เช่น Pantip, DekD ฯลฯ คอนเทนต์รูปแบบนี้จะช่วยให้ลูกค้าคนอื่น ๆ สามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้เพิ่มมากขึ้น และยังเป็นพื้นที่ที่ให้แบรนด์มาตอบคำถาม คลายข้อสงสัยให้กับกลุ่มเป้าหมายที่อาจจะยังมีสงสัยหรือคำถามต่อสินค้าและบริการของแบรนด์อีกด้วย
7. กรณีศึกษา (Case studies)
คอนเทนต์ในรูปแบบของ กรณีศึกษาหรือ Case studies คือการสร้างคอนเทนต์ที่เป็นบทวิจารณ์จากลูกค้าโดยละเอียดซึ่งอธิบายถึงข้อดีข้อเสียของผลิตภัณฑ์และบริการเชิงลึก ซึ่งกลุ่มคนที่มักจะสร้างสรรค์คอนเทนต์รูปแบบนี้จะเป็นกลุ่มผู้จงรักภักดีต่อแบรนด์ (Brand loyalists) และพนักงานในองค์กร (Employees) เป็นส่วนใหญ่ค่ะ
8. แบบสำรวจ (Surveys)
อาจเป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่หลายคนมองข้ามไป แต่ในต่างประเทศการทำแบบสำรวจ (Surveys) นั้นเป็นรูปแบบการทำ UGC ที่ค่อนข้างที่จะให้แบรนด์ได้รับ Feedback ที่สำคัญเพื่อมาพัฒนาธุรกิจ ซึ่งหากแบรนด์ไหนที่ต้องการทำ UGC ในคอนเทนต์รูปแบบนี้แนะนำให้เลือกจ้างกลุ่ม Content Creator มาช่วยในการเผยแพร่คอนเทนต์จะง่ายและได้ประสิทธิภาพมากที่สุดค่ะ
วิธีสร้าง UGC เพื่อเพิ่มยอดขาย
หลังจากที่เราได้รู้รูปแบบของคอนเทนต์ UGC กันไปแล้ว เราลองมาดูกันค่ะว่าแล้วแบรนด์จะเริ่มสร้าง User-generated content หรือ UGC เพื่อเพิ่มยอดขายได้อย่างไรหรือมีเทคนิคอะไรในการทำงานบ้าง
1. สร้างแคมเปญแข่งขันทำคอนเทนต์ UGC
การสร้างแคมเปญแข่งขันทำคอนเทนต์ UGC ถือว่าเป็นวิธีที่ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าของแบรนด์เริ่มทำคอนเทนต์ UGC ได้ง่ายที่สุดเพราะมีของรางวัลมาล่อใจพวกเขา โดยเรามักจะเห็นรูปแบบการสร้างแคมเปญแข่งขันทำคอนเทนต์ UGC กับแบรนด์ที่มีสินค้าประเภทกล้องถ่ายรูป, สมาร์ทโฟน, อุปกรณ์เดินป่าและแคมป์ปิ้ง ฯลฯ
ตัวอย่างเช่น GoPro ที่เคยจัดแข่งขันให้ลูกค้าของพวกเขาถ่ายรูปและวิดีโอผ่านกล้อง GoPro ซึ่งภาพใดที่ผ่านการคัดเลือกก็จะได้รางวัลและถูกโพสต์ลง Instagram และเว็บไซต์ของ GoPro อีกด้วย
2. สร้าง Hashtag ของแบรนด์
ในกรณีที่แบรนด์ของคุณอยากโดดเด่นจนลูกค้าจดจำได้ขึ้นใจ เราแนะนำให้ลอง Hashtag สำหรับการทำ UGC ที่ไม่เหมือนใครขึ้นมา สิ่งนี้จะช่วยให้คุณค้นหา UGC ที่เกิดจากลูกค้าเพื่อนำไปใช้งานต่อได้ง่ายขึ้น เช่นตัวอย่างของ CalvinKlein แบรนด์เสื้อผ้าแฟชันชื่อดังที่ได้สร้าง Hashtag #MyCalvins ขึ้นมาเพื่อให้ผู้ที่สร้างคอนเทนต์นำ Hashtag นี้ไปใช้และฝั่งแบรนด์ก็จะสามารถเข้ามาดูได้ด้วยว่ามีผู้ใช้ Hashtag นี้ประกอบคอนเทนต์เยอะมากน้อยเพียงใด
3. มอบรางวัลหรือตอบแทนลูกค้าที่สร้างคอนเทนต์ UGC ให้แบรนด์
สำหรับแบรนด์ไหนที่ไม่ได้จัดแคมเปญแข่งขันการทำ UGC อะไรขึ้นมาแต่พบว่ามีลูกค้าจำนวนไม่น้อยที่สร้างสรรค์คอนเทนต์ UGC ให้แบรนด์ (โดยที่แบรนด์ไม่ได้จ้างคนกลุ่มนั้นด้วย) แนะนำว่าแบรนด์ควรมอบรางวัลหรือของตอบแทนอะไรบางอย่างให้ลูกค้ากลุ่มนั้นด้วยจะเป็นเรื่องที่ดีมากเลยค่ะ
เพราะลูกค้าที่ทำ UGC ให้แบรนด์เมื่อพวกเขาได้รับของตอบแทนอะไรบางอย่างจากแบรนด์ พวกเขาจะรู้สึกว่าแบรนด์เห็นถึงความสำคัญของผู้บริโภคตัวเล็ก ๆ อย่างพวกเขาและทำให้พวกเขาพร้อมที่จะสนับสนุนแบรนด์ของคุณไปต่ออีกในอนาคตแน่ ๆ
4. แบรนด์ต้องหมั่นแชร์คอนเทนต์ UGC ที่ได้มาจากลูกค้า
อีกหนึ่งสิ่งเป็นความต้องการของลูกค้าที่ทำคอนเทนต์ User Generated Content คือ การที่แบรนด์เห็นคอนเทนต์ที่พวกเขาทำและเลือกที่จะหยิบไปแชร์ลงในเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์ม Social Media ที่เป็น Official Account ของแบรนด์ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยเพิ่มความรู้สึกดีและ Brand Loyalty ให้แก่ลูกค้าได้อย่างดีเลยค่ะ
ตัวอย่างเช่น The North Face ที่เป็นแบรนด์ขายอุปกรณ์ Camping และการผจญภัยที่มักจะนำรูปภาพที่ลูกค้าของพวกเขาถ่ายตอนผจญภัยทำกิจกรรมต่าง ๆ (ที่เห็นสินค้าของ The North Face) มาแชร์ลงใน Instagram ของแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ
5. นำสิ่งที่ลูกค้าพูดถึงแบรนด์ในด้านดี มาต่อยอด
หากคุณเห็นแล้วว่าคอนเทนต์ UGC ที่ลูกค้าของคุณสร้างสรรค์ขึ้นนั้นมีประโยชน์หรือมีอะไรบางอย่างที่สามารถนำไปต่อยอดในการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ ๆ ได้ อย่าช้าค่ะ! ให้คุณนำข้อความหรือคอนเทนต์เหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ต่อให้เต็มที่ได้เลย
เช่นการนำข้อความที่ลูกค้าเขียนชมเชยในแบรนด์ของคุณ ไปสร้างเป็นคอนเทนต์ Testimonial แบบโพสต์ Facebook หรือเอาข้อความนั้นไปแปะในเว็บไซต์เพื่อเป็นการการันตีคุณภาพของแบรนด์ก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งวิธีการนี้เป็นการนำคอนเทนต์ UGC ที่แบรนด์ได้มาไปต่อยอดสร้างการเติบโตให้ธุรกิจได้อีก
เครื่องมือในการทำ UGC
ลองมาดูตัวอย่างของ เครื่องมือในการทำ UGC ที่เราอยากแนะนำกันบ้างค่ะว่าจะมีเครื่องมืออะไรบ้าง จะขอยกตัวอย่างมา 5 เครื่องมือ
โดยส่วนใหญ่เครื่องมือที่ยกตัวอย่างมาจะเป็นเครื่องมือที่เรียกว่า Social Listening Tools หรือเครื่องมือที่ใช้ในการติดตามว่าในขณะนี้มีใครกำลังกล่าวถึงหรือทำคอนเทนต์ UGC ให้แบรนด์ของเราบ้าง ซึ่งสามารถติดตามได้ทั้งเว็บไซต์และแพลตฟอร์ม Social Media ทุกตัว
NOTE : แต่ทั้งนี้เครื่องมือบางตัวอาจจะมีค่าใช้จ่ายในการสมัครใช้บริการ อย่าลืมศึกษารายละเอียดและราคาของแต่ละเครื่องมือด้วยนะคะ
ตัวอย่างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จจากการทำ UGC
Coca-Cola หรือโค้กแบรนด์น้ำอัดลมเบอร์ใหญ่ของโลก คือตัวอย่างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จจากการทำ UGC ซึ่งมีไอเดียที่น่าสนใจมาก
โดยในปี 2011 Coca-Cola ได้ทำการเปลี่ยนแพคเกจจิ้งกระป๋องน้ำอัดลมของตัวเองที่มีการระบุ ชื่อเล่น ของคนส่วนใหญ่กว่า 400 คนกระจายลงในกระป๋องน้ำอัดลมแล้วจัดส่งไปทั่วโลก เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความสนุกในการค้นหากระป๋องที่มีชื่อของตัวเอง ซึ่งเมื่อผู้บริโภคเจอกระป๋องที่มีชื่อตัวเองอยู่พวกเขาก็จะถ่ายรูปลง Social Media ทันที พร้อมติด Hashtag #ShareACoke ลงไปด้วย
แคมเปญ UGC นี้ของ Coca-Cola แม้จะไม่ได้ระบุตัวเลขของการเติบโตที่แน่นอนออกมา แต่ก็ประเมินได้จากตาเปล่าเลยค่ะว่าแคมเปญนี้ประสบความสำเร็จมาก ๆ ถึงขั้นเป็นกระแสตามหากระป๋องที่มีชื่อตัวเองกันเต็มโซเชียลเลย ซึ่งถือว่าเป็นการทำแคมเปญการทำ User-generated content หรือ UGC ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ทำให้ผู้บริโภครู้สึกสนุกไปกับแบรนด์ จนพร้อมใจกันสร้างคอนเทนต์ UGC กันแบบถล่มทลาย
เคล็ดลับการทำ UGC ให้ประสบความสำเร็จ
มาดูกันค่ะว่าเคล็ดลับการทำ UGC ให้ประสบความสำเร็จนั้นจะต้องอาศัยเทคนิคหรือวิธีการอะไรบ้าง เราสรุปมาให้คุณเข้าใจกันแบบง่าย ๆ แล้ว!
- ขอความยินยอมจากลูกค้าก่อนเสมอ
บางครั้งลูกค้าที่สร้างคอนเทนต์ UGC ให้แบรนด์คุณนั้นพวกเขาอาจจะสร้างขึ้นมาเพราะชื่นชอบจริง ๆ แต่ไม่ได้ต้องการให้แบรนด์เอาไปโพสต์ซ้ำหรือไม่อยากให้เป็นกระแส ดังนั้นหากจะนำคอนเทนต์ UGC ของลูกค้าคนไหนมาใช้งานในแพลตฟอร์มของแบรนด์ตัวเองต้องขอความยินยอมจากลูกค้าเจ้าของคอนเทนต์ก่อนเสมอ
- อย่าลืมให้เครดิตเจ้าของคอนเทนต์ก่อนนำไปเผยแพร่
เมื่อขอความยินยอมได้แล้ว เวลาที่แบรนด์นำไปเผยแพร่ต้องให้เครดิตกับเจ้าของคอนเทนต์เสมอ เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจต่อเจ้าของคอนเทนต์ และทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ดูมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้นด้วย
- ติดตามและปรับปรุงผลลัพธ์การทำงานอย่างสม่ำเสมอ
การทำคอนเทนต์ UGC นั้นสามารถนำไปต่อยอดเพื่อติดตามและปรับปรุงผลลัพธ์การทำงานได้ เช่นคุณอาจจะลองใช้ UTM เพื่อติด Tracking ในการวัดผลลิงก์ต่าง ๆ, หรือลองนำคอนเทนต์ UGC ที่ลูกค้าสร้างขึ้นมาทำการยิงแอด Facebook เพื่อทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ก็ได้เช่นกันนะคะ
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ UGC
การสร้างเนื้อหาที่เปิดกว้างและมีส่วนร่วมจากทุก ๆ คน ถือเป็น UGC หรือไม่?
“ถือว่าเป็น UGC” ขอเพียงแค่เนื้อหาเหล่านั้นมีการพูดถึงแบรนด์ เช่นสินค้าหรือบริการ ฯลฯ โดยจะมาจากผู้คนกลุ่มใดก็ได้ และที่สำคัญคือคุณไม่ได้จ้างคนกลุ่มนั้นมาช่วยสร้างคอนเทนต์ UGC ให้แบรนด์
การทำ UGC เหมาะกับธุรกิจแบบใด?
การทำ UGC เหมาะสำหรับธุรกิจทุกประเภทที่ต้องการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ เพิ่มลูกค้าใหม่ ๆ หรือกำลังขยายการเติบโตแบบใช้กลยุทธ์ Inbound Marketing ที่ทำให้แบรนด์สามารถเพิ่มยอดขาย ดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ โดยไม่ใช้งบประมาณ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : Inbound Marketing คืออะไร ทำไมธุรกิจควรทำการตลาดแบบดึงดูด
ข้อสรุปของ UGC
การทำ User-generated content หรือ UGC คือวิธีในการให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการทำให้แบรนด์ของคุณเติบโตที่นอกจากจะเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือแล้ว ยังเป็นสิ่งที่จะช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง
เพราะการแข่งขันของธุรกิจโลกออนไลน์ที่ในปัจจุบันกำลังมุ่งเน้นไปที่การสร้างความน่าเชื่อถือและการทำ Branding ที่ดีให้กับลูกค้า ก็จะทำให้การสร้างยอดขายเกิดได้ง่ายขึ้นเพราะลูกค้าเลือกที่จะตัดสินใจซื้อ หรือ บริโภคจากการดูผลลัพธ์การใช้งานที่มาจากลูกค้ากันเองมากกว่าการตัดสินรูปแบบอื่น ๆ
Digital Tips หวังว่าบทความเรื่อง User-generated content หรือ UGC คืออะไร ที่เราได้อธิบายมาทั้งหมดนี้จะช่วยสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจของคุณได้นะคะ
อ้างอิงข้อมูล
Claire Beveridge, What is User-Generated Content? And Why is it Important?, January 13, 2022 https://blog.hootsuite.com/user-generated-content-ugc
Tamilore Oladipo, A Straightforward Approach to User Generated Content that Connects, June 6, 2022 https://buffer.com/resources/what-is-user-generated-content/
Hannah Williams, The Best User-Generated Content Examples & Ideas, April 19, 2022 https://www.meltwater.com/en/blog/user-generated-content-examples