เมื่อเป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน การทำ Digital Marketing จึงต้องสร้างเป้าเอาไว้อย่างจงใจ ซึ่ง CTA คือ หนึ่งในเป้าหมายสำคัญสำหรับการนำเสนอโฆษณา หรือ Ads บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ และอีกหนึ่งอย่างที่เราต้องรู้ก่อนทำความเข้าใจรายละเอียดของ CTA เพิ่มเติม เพราะยังมีคำศัพท์ในวงการแพทย์ที่มีตัวย่อค่อนข้างคล้ายกันในคำว่า CTA Coronary คือ การตรวจหัวใจว่ามีภาวะหลอดเลือดตีบหรืออุดตันหรือไม่ ซึ่งให้ความหมายที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
CTA คืออะไร?
ทำไมถึงนิยมว่า CTA คือ เป้าหมายที่มีไว้ให้พุ่งชน? เพราะว่ามันย่อมาจาก Call to Action จุดสุดท้ายที่จะทำให้ผู้ใช้งานเลือก “คลิก” เข้าไป เพื่อรับสิทธิประโยชน์, เพิ่มสินค้าลงตะกร้า หรืออะไรก็ตามที่พวกเขาสนใจผ่านเนื้อหาต่าง ๆ ก่อนมาเจอกับปุ่ม CTA นี้ ยกตัวอย่างปุ่มที่เรามีโอกาสเห็นกันบ่อยครั้งผ่าน Social Media เช่น Learn more, Messenger และอื่น ๆ บน Facebook Ads เนื่องจากเจ้า Call to Action ได้รับความนิยมอย่างมากบนโลก Social Media Marketing หรือแม้กระทั่งการทำแบบฟอร์มบนเว็บไซต์เองก็ด้วย
CTA (Call-to-Action) มีองค์ประกอบอะไรบ้าง
เพื่อให้การใช้งาน CTA คือ สิ่งเร้าในช่วงสุดท้ายที่จะมาช่วยกระตุ้นให้ผู้ชมอยากคลิกเพื่อรับประโยชน์ ไม่ก็ซื้อสินค้า เราจึงต้องออกแบบปุ่ม CTA ให้น่าดึงดูดและสามารถทำหน้าที่ได้ตามวัตถุประสงค์ ดังนั้นการสร้างปุ่ม Call to Action ให้ผู้คนอยากคลิก ควรจะต้องมีองค์ประกอบที่ครบถ้วน
- Text หรือ Copy ที่อยู่บนปุ่มต้องมีความน่าดึงดูด : การใช้คำกริยาเพื่อชี้ชัดในสิ่งที่ต้องทำ เช่น โทร, ซื้อ, ดาวน์โหลด รวมถึงการเพิ่มเงื่อนไขและความจูงใจเรื่องของเวลา ผ่านการกำหนดคำว่า “เดี๋ยวนี้”
- สร้างเนื้อหาคอนเทนต์ประกอบกับ CTA เพื่อสร้างความไว้วางใจว่าถ้าคลิกปุ่มนี้ไปแล้ว จะช่วยเหลืออะไรลูกค้าได้บ้าง
- การออกแบบปุ่ม CTA เพื่อให้มีความน่าดึงดูด หรือสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น สามารถหาอ้างอิงในเรื่องของสีและรูปทรงเพิ่มเติมได้ ว่าแบบไหนที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกอย่างไรบ้าง
- Layout ของ CTA เองก็สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะการกำหนดตำแหน่งของปุ่ม ให้อยู่ในช่วงสายตาเพื่อเรียกร้องให้คนสนใจอยากคลิกมากกว่าปกติ
พอเห็นแบบนี้แล้วการกำหนดปุ่ม CTA คือ สิ่งที่ต้องใช้จิตวิทยาเข้ามาผสมในการตัดสินใจค่อนข้างมากเลยทีเดียว เพื่อให้ CTA ของเราสามารถ Take Action จากลูกค้าได้จริง จึงต้องมีกลยุทธ์การตลาดที่ล้ำลึกไม่แพ้หมวดอื่น ฉะนั้นเดี๋ยวในหัวข้อถัดไป เราลองมาดูเทคนิคเพิ่มเติมกันว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ให้ลูกค้าอยาก “คลิก” ปุ่มของเรา
9 เทคนิคเขียน CTA ให้ลูกค้าอยาก “คลิก”
1. ใช้คำที่สั้น กระชับ แต่ทรงพลัง
เทคนิคแรกสุดของการทำ CTA คือ การใช้คำที่สั้น กระชับ แต่ทรงพลัง มาเป็นตัวช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าที่ได้อ่าน มีความเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการจะสื่อทันที พร้อมกับรับรู้ถึงความพิเศษ และประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ หากคลิกปุ่ม CTA นี้เข้าไป เช่น รับฟรีทันที, ซื้อเลย, เรียนรู้เพิ่มเติม
2. ใช้คำกระตุ้น ปลุกใจ เกิดความฮึกเหิม
ถัดมาเป็นเทคนิคการใช้คำใน CTA เพื่อเป็นการกระตุ้นให้รู้สึกตื่นเต้น ตื่นตัว เห็นแล้วอยากกดคลิกขึ้นมาทันที เช่น ให้เราช่วยคุณหาบ้านในฝันตอนนี้, สมัครวันนี้เพื่ออนาคตที่ดีกว่า
3. ใช้เทคนิค FOMO (Fear of Missing Out)
ในกรณีของเทคนิค CTA รายการที่ 3 นั้นได้รับความนิยมด้านการใช้งานค่อนข้างสูง เพราะว่าเทคนิคแบบ Fear of Missing Out จะเน้นไปที่การสร้างความรู้สึกให้ผู้ที่เห็น ไม่อยากพลาดข้อเสนอตรงหน้าไป เช่น ซื้อด่วนก่อนสินค้าหมด, ลดราคาแค่วันนี้เท่านั้น
4. ใช้คำที่สนิทสนม เข้าถึงง่าย
นอกเหนือจากเทคนิค FOMO ที่ได้รับความนิยมแล้ว การใช้คำสนิทสนมเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเข้าถึงง่าย อยากคลิกเข้ามาใน CTA ภายใต้ความรู้สึกที่อุ่นใจ และไว้วางใจที่จะรับข้อเสนอนั้น เช่น ข้อเสนอนี้สำหรับคุณเท่านั้น, ส่วนลดเพื่อคุณคนพิเศษ
5. ใช้คำที่อ่านแล้วได้ผลลัพธ์ชัดเจน
เรามาถึงครึ่งทางกันแล้วสำหรับเทคนิคของ CTA ในหัวข้อนี้เราอยู่กับการใช้ที่อ่านแล้วทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า “เขาได้รับอะไรบ้าง” เช่น คลิกเพื่อรับส่วนลด 20%, ทดลองฟรี 7 วันคลิกเลย
6. เน้นคำให้โดดเด่น ดึงดูดสายตา
สำหรับในเทคนิคที่ 6 ของการสร้าง CTA โดยใช้คำให้โดดเด่น ดึงดูดสายตา อาจต้องเริ่มต้นจากการวาง Layout ให้เหมาะสมเสียก่อน อย่างที่เราได้กล่าวถึงองค์ประกอบ CTA คือ หลายปัจจัยรวมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างประสิทธิภาพดีที่สุด ตรงจุดนี้หากเราใช้สี และวางปุ่มไว้ในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยม เสริมด้วยคำเด่น ๆ เช่น คลิกตรงนี้เพื่อรับสิทธิพิเศษ ใส่ฟอนต์หนา ๆ สักหน่อย รับรองลูกค้าต้องมองตามแน่
7. ตำแหน่งการวางต้องมีแบบแผน
อย่างที่ได้กล่าวไปในเทคนิคด้านบนแล้วว่า CTA ต้องอาศัยปัจจัยหลายข้อถึงสร้างประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม ดังนั้นการวางแบบแผนหรือ Layout คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ หัวข้อนี้เราจะเสริมเรื่องตำแหน่ง, การใช้สี และการเพิ่มลูกเล่นต่าง ๆ เข้าไป เช่น การวางปุ่มไว้ตรงกลางจอ, ใส่กรอบสีตัดจากพื้นหลังเพื่อให้ดูโดดเด่น เป็นต้น
8. เลี่ยงศัพท์เทคนิค ป้องกันการสับสน
รองสุดท้ายกับเทคนิคการใช้งานศัพท์ที่ผู้คนทั่วไปสามารถอ่านแล้วเข้าใจได้ทันที เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและการสับสน หากเราใช้คำบน CTA เป็นคำเฉพาะด้าน ผู้คนทั่วไปที่ไม่ได้มีความ Niche หรือเข้าใจในเรื่องราวนั้น ๆ ก็อาจต้องเสียเวลาไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ใช้เวลานานกว่าจะถึงเวลาตัดสินใจคลิก นั่นอาจทำให้คุณเสียลูกค้าไปแล้ว
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : Keyword (คีย์เวิร์ด) คืออะไร สำคัญต่อการทำ Digital Marketing อย่างไร
9. ทดลอง สังเกต และปรับปรุง
สุดท้ายจะพลาดไม่ได้เลยกับการทดลองด้วย A/B Test เพื่อดูว่าฐานลูกค้าของเราชื่นชอบ CTA แบบไหน พอได้ข้อมูลมาแล้ว เราต้องนำผลลัพธ์ที่ได้มาวิเคราะห์ เพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ต่อไป เพื่อโอกาสในการสร้างลูกค้า หรือเก็บ Lead เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับใช้งานต่อไปในอนาคต
ปุ่ม CTA สำคัญอย่างไร
สรุปความสำคัญของ CTA คือ สิ่งที่เหล่า Landing Page หรือ Ads โฆษณาบน Social Media สมัยนี้จะขาดไม่ได้เด็ดขาด เนื่องจาก CTA ได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนที่เข้ามาชมคอนเทนต์ มีจุดมุ่งหมายว่าต้องทำอย่างไรต่อไป เพราะถ้าหากไม่มีการใช้งาน Call to Action ใน Content Marketing ต่าง ๆ ผู้คนก็จะขาดแรงจูงใจ หรือไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ต้องทำต่อไปคืออะไร ทำให้สุดท้ายก็กดผ่านไปเฉย ๆ โดยที่ทั้งแบรนด์ และลูกค้าเอง ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับไปเลยแม้แต่น้อย
เรื่องราวทั้งหมดทำให้การมีอยู่ของ CTA คือ ตัวเชื่อมต่อระหว่างคอนเทนต์ที่ลูกค้าได้เจอ ไปสู่การตัดสินใจรับในสิ่งที่แบรนด์หรือธุรกิจนั้น ๆ กำลังเสนอ เช่น เรากำลังเสนอสินค้าตัวใหม่ ถ้าไม่มี CTA ลูกค้าก็อาจไม่ได้ต้องการซื้อ เพราะนอกจากไม่มีช่องทางให้เข้าไปซื้ออย่างต่อเนื่อง อาจคิดว่าเป็นแค่สื่อประชาสัมพันธ์สินค้าใหม่เท่านั้นเอง แต่ถ้าเราเติม Call to Action ลงไป มันสามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดความอยากซื้อ หรืออย่างน้อยก็ทำความรู้จักสินค้านั้นเพิ่มเติมได้เช่นกัน
ตัวอย่าง CTA (Call-to-action)
หลาย ๆ หัวข้อที่ผ่านมาเรามีโอกาสได้กล่าวถึง CTA บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไปบ้างแล้ว แต่เพื่อให้ทุกคนมองภาพเดียวกันในแต่ละแพลตฟอร์ม เรามีตัวอย่างมาให้ได้ชมกันทั้งหมด 5 รายการดังต่อไปนี้ค่ะ
Facebook Ad CTAs
อันดับแรกต้องยกให้เค้าคนนี้เลย เพราะว่า Facebook ยังคงเป็น Social Media ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน ซึ่งการใช้งาน Ad CTAs บนแพลตฟอร์มนี้มีให้เลือกประมาณ 3 หมวดใหญ่ด้วยกัน
- CTA สำหรับสร้างการรับรู้ ใช้ในโอกาสที่ผู้คนไม่รู้จักแบรนด์ แต่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากการเห็นโฆษณา เช่น ปุ่ม Learn More, Apply Now และ Download
- CTA สำหรับการพิจารณา ในกรณีที่ผู้ใช้งานมีโอกาสเข้ามาเป็นลูกค้า จึงคลิกปุ่มเพื่อรับข้อเสนอไว้พิจารณาเพิ่มเติม เช่น Learn More, Download, Contact Us และ Book Now
- CTA สำหรับ Conversions ใช้ในโอกาสที่ลูกค้ามีความต้องการซื้อสินค้าอยู่แล้ว เพียงแต่การใช้ปุ่มนี้บนโฆษณา จะช่วยให้ลูกค้าติดต่อ หรือสั่งซื้อง่ายขึ้น เช่น Message Us, Subscribe, Watch More, Apple Now และ Sign Up
การใช้ CTA ควบคู่กับกลยุทธ์การตลาด Outbound Marketing มีโอกาสให้ความสำเร็จทั้งในด้านการหา Lead ไปจนถึงปิดการขายได้เลย เพราะตอนนี้ Facebook เน้นนำเสนอฟีเจอร์ Click to Message หรือก็คือ Message Us ค่อนข้างมาก เพียงแค่ลูกค้ากดส่งข้อความ ก็จะดึงเข้า Message กับแบรนด์ทันที ทำให้เราตอบรับได้ง่ายกว่าสมัยก่อนเยอะเลยทีเดียว
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : Inbound Marketing คืออะไร ทำไมธุรกิจควรทำการตลาดแบบดึงดูด
Instagram Ad CTAs
Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่อยู่ภายใต้ Meta เหมือนกันกับ Facebook ทำให้ CTA คือ ฟีเจอร์ที่ค่อนข้างคล้ายกัน ซึ่งมีการนำเสนอผ่านปุ่มที่มีชุดคำเดียวกัน เช่น Learn More, Sign Up, Shop Now, Install App เพียงแต่ว่าในบางกรณี การแสดงผลของ Call to Action บน Instagram นั้นจะมีการเน้นเป็นแถบสีฟ้าขึ้นมาบนรูปภาพ เมื่อเรานำเมาส์ไปชี้ หรือเปิดรูปภาพนั้นเอาไว้จนได้ระยะเวลาหนึ่ง จึงกลายเป็น CTA ที่มีไดนามิคแตกต่างกันออกไป
Email CTAs
Email เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เหล่านักการตลาดมักหยิบยกให้ CTA คือ อะไรที่ขาดไม่ได้เป็นอันขาดเมื่อต้องการทำ Email Marketing เนื่องจากการส่งเมลไปหาลูกค้า เพื่อนำเสนอโปรโมชัน หรือสินค้าน่าสนใจตัวใดก็ตาม ต้องมีการสร้าง CTA ขึ้นมา เพื่อให้ลูกค้าได้คลิก เพื่อเชื่อมต่อมายัง Landing Page ไม่ก็ช่องทางในการปิดการขาย โดยส่วนมากแล้วจะมีทั้งการสร้างเป็น Text ที่เชื่อมลิงก์เอาไว้ และรูปแบบที่แทรกภาพกราฟิกนำเสนอสินค้า และโปรโมชัน มาพร้อมปุ่ม Call to Action ให้เราคลิกเพื่อซื้อต่อได้เลยทันที
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : CTR หรือ Click Through Rate คืออะไร สำคัญต่อการยิง Ads อย่างไรบ้าง
Landing page CTAs
ปัจจุบันนี้ Landing Page ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำได้อย่างรอบด้านไม่ว่าจะการขาย, เก็บ Lead หรือสานต่อความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ทำให้ CTA เองก็มีการใช้งานหลายรูปแบบ หลาย Copy ดั่งเช่นที่เราเห็นตามภาพตัวอย่าง
Website CTAs
รายการสุดท้ายของตัวอย่าง CTA บน Website จะมีความเหมือนกันกับ Landing Page ที่ส่วนใหญ่อาจมานำเสนอให้ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ ได้เห็นภายใต้แบบฟอร์มที่กรอกข้อมูลบางส่วน และรับสิทธิประโยชน์จากเว็บนั้น เช่น ทดลองใช้งานฟรี 7 วัน, รับสมัครข้อมูลเพิ่มเติม, รับส่วนลด 10% นอกเหนือจากนั้นยังมีการอีกรูปแบบที่ใช้งานบ่อยสำหรับเว็บบล็อก หรือเว็บสำนักข่าว กับการใช้งานปุ่ม “อ่านต่อ”
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ CTA
ปุ่ม CTA ควรเป็นสีโทนไหน
การปรับแต่งปุ่ม CTA คือ จุดเด่นสำคัญที่เราต้องให้ความใส่ใจอย่างมาก ไม่ใช่เพียงแค่การตัดสินใจขึ้นมาลอย ๆ ซึ่งก่อนอื่นเลยต้องอ้างอิงถึงเรื่องของ “คู่สีตรงข้าม” เพื่อทำให้ปุ่ม CTA ของเราโดดเด่นและดึงดูดสายตามากที่สุด นอกจากนี้อาจคำนึงถึงเรื่องอารมณ์ ความรู้สึกในแต่ละสีด้วย เช่น โทนสีน้ำเงินให้ความรู้สึกน่าเชื่อถือ ส่วนสีแดงให้ความรู้สึกน่าตื่นเต้น เป็นต้น หมายความว่าการเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับคำ Copy บนปุ่ม Call to Action ว่าสอดคล้องกับอารมณ์ในสีไหน อีกหนึ่งทางที่น่าสนใจ คือ การทดลองทำ A/B Test กับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อหาสิ่งที่ถูกใจที่สุดมานำเสนอ
ข้อสรุปของ CTA
สรุปสุดท้ายทั้งหมดทั้งมวลในเรื่องราวของ CTA คือ เป้าหมายที่ผู้ชมคอนเทนต์ หรือลูกค้าที่คลิกเข้ามาดู ได้คลิกเชื่อมต่อเพื่อรับสิทธิประโยชน์, ข้อมูลเพิ่มเติม, สมัครสมาชิก หรือซื้อสินค้า ไปตามวัตถุประสงค์แต่ละ CTA ที่กำหนดเอาไว้ ซึ่งการจะสร้างปุ่มนี้ให้มีประสิทธิภาพ ต้องเริ่มจากองค์ประกอบหลายอย่างมารวมกัน จนเกิดมาเป็นคอนเทนต์เพื่อนำเสนอสิ่งที่น่าสนใจจนถึงปุ่ม Call toAction นั่นเอง
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : Marketing Funnel คืออะไร กลยุทธ์การตลาดพื้นฐานสำหรับการทำธุรกิจ
Source
Mark Quadros, 17 Call To Action Examples (+ How to Write the Perfect Social CTA), October 21, 2022
https://adespresso.com/blog/call-to-action-examples/
Nicole Wagner, 9 Elements of Effective Calls-to-Action, December 5, 2018
https://clutch.co/agencies/digital/elements-of-effective-calls-to-action
WILL KENTON, What a Call to Action (CTA) Is and How It Works, March 29, 2020
https://www.investopedia.com/terms/c/call-action-cta.asp
Brittany Leaning, 50 Call-to-Action Examples You Can’t Help But Click, May 06, 2022
https://blog.hubspot.com/marketing/call-to-action-examples