ว่ากันในเรื่องของ Instagram ถือเป็นแพลตฟอร์มที่คนไทยนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวๆ ผู้หลงใหลในการป่าวประกาศทุกช่วงเวลาของชีวิตด้วยภาพสวยๆ แค่กระนั้น Instagram ก็ถือเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างรายได้ให้กับธุรกิจมากมายอีกด้วย การจะทำให้ Instagram ของแบรนด์เป็นที่รู้จักและมีคนมาติดตามเยอะๆ นั้นยากกว่าโปรไฟล์บุคคลอย่างมาก เพราะคุณต้องอาศัยทั้งเวลาและคอนเทนต์ที่โพสต์ลงไปให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่วางเอาไว้

แต่มีอีกหนึ่งวิธีที่แบรนด์มักเลือกทำกันนั่นก็คือ “ซื้อผู้ติดตามหรือ Followers” ซึ่งวิธีนี้เราขอไม่แนะนำให้ทำกัน เหตุผลคือ Instagram จะมีช่วงเวลาที่เข้ามาจัดการเรื่องผู้ติดตามที่ถือเป็น Spam เหล่านี้ออก อาจจะปีละครั้งหรือสองครั้ง จริงอยู่ว่าคุณมีเงิน เขาเคลียร์ออกเราก็ซื้อใหม่ แต่จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อคนตามคุณหลักหลายแสนแต่แทบไม่มีลูกค้าของคุณอยู่ในนั้นเลย โอกาสนี้เราจึงขอหยิบเอาเทคนิคการเพิ่มยอดติดตามแบบ Organic มาฝาก ลองไปดูว่าวิธีที่สุดแสนจะธรรมดาแต่ได้ผลอยู่หมัดบ้าง

1. โพสต์ให้เป็นกิจวัตร

ให้เข้าใจง่ายๆ คุณใช้ IG ส่วนตัวอย่างไร ก็ให้ทำแบบนั้นล่ะกับโปรไฟล์แบรนด์ เชื่อเลยว่าถ้าเป็นคนที่เล่น IG จริงๆ อย่างน้อยก็ต้องมีบ้างละวันละ 1 ภาพ ที่ต้องโพสต์บอกโลกโซเชียลว่าช่วงเวลานั้นๆ ของวันมีอะไรน่าสนใจบ้าง แน่นอนแบรนด์ของคุณก็ต้องการเช่นนั้นเหมือนกัน โพสต์อย่างน้อยวันละ 1 คอนเทนต์จะช่วยให้ IG ของคุณดูเป็นธรรมชาติและน่าสนใจได้

แต่เวลาก็เป็นอีกส่วนสำคัญในการโพสต์เช่นกัน โดยผลการสำรวจจาก Sprout Social พบกว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการโพสต์ IG คือดังต่อไปนี้

– วันพุธ ช่วงบ่าย 3 โมง | วันพฤหัสบดี ช่วงตี 5, 11 โมง และ บ่าย 3 – 4 โมงเย็น | วันศุกร์ช่วง ตี 5

– วันพฤหัสคือวันที่ดีที่สุดในการโพสต์ IG

– ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการโพสต์ IG โดยรวมคือ วันอังคาร จนถึงวันศุกร์ ช่วง 9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น

– วันอาทิตย์เป็นวันที่มีการเคลื่อนไหวน้อยที่สุด

แต่เดี๋ยวก่อน นี่เป็นเพียงแค่ผลสำรวจแบบรวมๆ สิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงมากที่สุดคือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณว่าพวกเขามีพฤติกรรมอย่างไร คิดว่าพวกเขาจะเข้ามาเล่น IG ช่วงไหนค่อยนำเอาลิสต์วัน เวลาที่เราให้ไปข้างบนมาปรับใช้กับธุรกิจของคุณอีกที

2. มอบในสิ่งที่ลูกค้าของคุณต้องการ

ลองดูว่าช่วงนั้นมีเทรนด์อะไรบ้างที่ผู้คนให้ความสนใจ หรือใน IG มี Hashtag และคอนเทนต์ประเภทไหนที่กำลังเป็นที่พูดถึง การตามกระแสเหล่านี้จะช่วยให้แบรนด์ของคุณอยู่ในเทรนด์และคนที่ติดตาม IG ของคุณจะยิ่งเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายยิ่งขึ้น พูดง่ายๆ ให้คุณใช้ IG ของแบรนด์ประหนึ่งว่านั่นคือบุคคลคนนึง อย่าวางตัวเองเป็นธุรกิจมากเกินไป เพราะลูกค้าไม่ได้อยากมานั่งดูคุณขายของเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขาต้องการความเป็นไลฟ์ไสตล์และอะไรที่จับต้องได้

3. ทดลองด้วยมีเดียที่หลากหลาย

จริงอยู่ว่า IG เป็นโซเชียลมีเดียที่ขึ้นชื่อเรื่องภาพ แต่ลองเปลี่ยนคอนเทนต์เป็นแบบอื่นดูบ้างเช่น วิดีโอสั้นๆ ภาพ Boomerang, Hyperlapse หรือแทนที่จะโพสต์รูปเดี่ยวๆ ก็ลองเป็นภาพอัลบั้มดูบ้าง หรือจากโพสต์ภาพแบบจตุรัสก็ลองเป็นแนวตั้งบ้าง แนวนอนบ้างให้เหมาะสมกับแต่ละคอนเทนต์ที่ลงไปและก็ลองเล่นให้ครบทุกเครื่องมือ ทั้ง IG Stories, IGTV เป็นต้น

4. โต้ตอบกับลูกค้าของคุณอยู่เสมอ

วิธีที่ดีที่สุดนอกจากการตอบคอมเมนต์คนที่มาแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ของคุณนั่นก็คือ การแท็กหาลูกค้า เพราะโดยปกติลูกค้าส่วนมากเมื่อโพสต์เกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ พวกเขามักจะแท็กชื่อแบรนด์ วิธีก็คือให้เรา Re-Post ภาพเหล่านั้นและทำการ Tag พวกเขากลับแค่นี้พวกเขาก็จะรู้สึกได้ถึงความใส่ใจของแบรนด์ว่าเห็นสิ่งที่พวกเขากำลังสะท้อน ทำให้เกิดการโต้ตอบกันมากที่สุดจะยิ่งดี

5. อย่าทิ้ง Hashtag

ถึงจะเป็นอะไรที่เบสิกแต่ได้ผลไม่ธรรมดา Hashtag จะเป็นตัวช่วยรวบรวมคอนเทนต์ต่างๆ ทั้งจากแบรนด์ของคุณเองและจากลูกค้าก็ดี พยายามสร้าง Hashtag ที่ลูกค้าจำได้ง่ายๆ และเมื่อพวกเขาใช้มันคุณก็จะได้คอนเทนต์จากลูกค้าโดยที่คุณไม่ต้องเหนื่อยทำ หรือยิ่งกว่าคอนเทนต์นั่นก็คือรีวิวดีๆ ที่จะได้กลับมา แต่หากเกิดสุดวิสัยจริงๆ ลูกค้าต่อว่าหรือไม่พอใจในสินค้าดังกล่าว ในฐานะแบรนด์จะได้แสดงความรับผิดชอบได้อย่างทันท่วงที

การทำ Instagram นั้นคุณควรทำให้มันเติบโตอย่างธรรมชาติ เพราะยิ่งคุณมีผู้ติดตามที่เป็นคนจริงๆ มากเท่าไหร่ลูกค้าก็จะยิ่งให้ความเชื่อถือมากขึ้นเท่านั้น อีกอย่างโอกาสการขายสินค้าของคุณก็มีมากขึ้นอีกด้วยเชื่อเถอะว่าลูกค้าเค้าดูออกว่าอะไรจริง อะไรปลอม

Virtual Try-on บน Google
AI Marketing | Google
Virtual Try-on ฟีเจอร์สำหรับลองเสื้อก่อนซื้อจริงบน Google Shopping

ท่ามกลางกระแส E-commerce ที่กำลังมาแรง Google โปรแกรม Search Engine อันดับ 1 ของโลกจึงกระโดดลงมาเป็นผู้เข้าแข่งขันในสนามนี้บ้าง ด้วยการเปิดตัว Google…

AI Deepfake
AI Marketing
AI Deepfake คืออะไร? ทำไมต้องระวัง เกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพอย่างไร

มิจฉาชีพเกิดขึ้นใหม่รายวัน และมักใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ พัฒนากลโกง ให้ไปถึงจุดที่ภาครัฐยากจะจัดการได้ หนึ่งในคือเทคโนโลยี AI Deepfake หรือ เทคโนโลยีปลอมแปลงใบหน้า ที่เป็นข่าวรายวันในช่วง 1…

การตลาดสายเทา
Marketing
การตลาดสายเทาคืออะไร ต่างกับการตลาดสายขาวอย่างไร นักการตลาดต้องรู้!

สำหรับคนที่คลุกคลีกับวงการ Marketing มาสักพัก โดยเฉพาะนักการตลาดที่เน้นทำ SEO เป็นหลัก น่าจะเคยได้ยินคำ 2 คำที่พันผูกกับวงการ SEO มาช้านาน นั่นคือ…