ทุกคนน่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าตอนนี้ IG Story เป็นฟีเจอร์ที่ฮอตฮิตที่สุด คนแห่ใช้กันทั้งโลกเพราะมันเป็นอะไรที่  Realtime และมีฟีเจอร์สนุกๆ ให้ใช้เยอะ AR Filter เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก คุณคิดดูสิถ้าเกิดคุณทำ AR Filter เป็นของแบรนด์ตัวเอง แล้วดันมีคนใช้จนเกิดเป็นไวรัลนั่นถือว่าคุณได้พื้นที่โฆษณาแบบฟรีๆ เลยนะ! มาดูกันดีกว่าว่าจะสร้าง AR Filter เป็นของตัวเองมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

 

AR Filter คืออะไร

ก่อนเข้าขั้นตอนการสร้าง อธิบายกันก่อนว่าเจ้าสิ่งที่ว่านี้คืออะไร AR Filter เป็นฟีเจอร์ที่เหมือนให้คุณใส่ฟิลเตอร์ให้กับ IG Story ของคุณ แต่ความพิเศษของมันก็คือเทคโนโลยี AR นี่ล่ะที่สามารถจับใบหน้าของคุณและทำให้กราฟิกต่างๆ ที่แสดงเคลื่อนไหวตามหน้าของคุณได้ ถ้าใครยังไม่เคยใช้ต้องลองเข้าไปเล่น

ขั้นตอนการสร้าง AR Filter มีดังนี้

1. ดาวน์โหลด Spark AR Studio (ในคอมพิวเตอร์เท่านั้นและรองรับทั้ง Mac OS และ Windows)

 


2. เลือก Effect ที่ต้องการ

ในขั้นตอนนี้คุณสามารถเลือกได้ว่า จะสร้าง Effect ขึ้นเองหรือเลือกปรับจาก Teamplate ที่มีให้

 

3. ทำการปรับแต่ง

เมื่อคุณเปิดเทมเพลตที่เลือกขึ้นมานั้น คุณจะเห็นจุดกึ่งกลาง ซึ่งในที่นี้จะเรียกว่า Viewport เป็นตำแหน่งที่คุณจะทำการปรับแต่งฟิลเตอร์ของคุณได้ โดยจะมีตัวอย่างแสดงให้เห็นอยู่ทางด้านบนขวา (สามารถกดเลือกเปลี่ยนรุ่นโทรศัพท์มือถือที่เป็นตัวอย่างได้ตามต้องการ)

โดยทางแถบด้านซ้ายจะมีเครื่องมือต่างๆ ให้คุณปรับแต่งฟิลเตอร์ของคุณได้

 

4. อัปโหลดภาพกราฟิก 3D

สามารถเลือกภาพ 3D ที่มีอยู่ใน AR Library หรือหากคุณมีไฟล์ภาพ 3D ที่ทำขึ้นเองก็สามารถอัปโหลดขึ้นได้ แต่ถ้าอยากใช้ของฟรีก็มีให้เลือกไม่น้อย

 

5. ปรับแต่งกราฟิกที่คุณอัปโหลดขึ้นไป

หากคุณใช้ภาพ 3D ที่มาจาก AR Library คุณก็สามารถปรับแต่งการเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ตามต้องการ

6. ทดสอบ Effect ของคุณ

เมื่อทำการปรับแต่งจนถูกใจตัวเองแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะมาลองเล่นกันว่าจะตรงตามที่ต้องการมั้ย

 

 

7.เผยแพร่ Effect ของคุณ

เมื่อทุกอย่างสมบูรณ์แบบตามที่ต้องการแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะแบ่งปันให้คนอื่นได้ใช้กันบ้าง

8. อย่าหยุดที่จะพัฒนา AR Filter เจ๋งๆ

เพราะว่าคนส่วนใหญ่พอได้ใช้ฟิลเตอร์ใดแล้ว มักจะไม่ค่อยกลับมาใช้ซ้ำ (ถ้าไม่โดนใจจริงๆ) ดังนั้นหากเป็นไปได้เราก็แนะนำให้คุณทำ AR Filter น่ารักๆ ที่แฝงตัวตนของแบรนด์เอาไว้มาให้คนทั่วไปใช้อยู่เรื่อยๆ แค่นี้ก็อาจมีโอกาสทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักผ่านการใช้ AR Filter ได้

หากคุณทำตามขั้นตอนเหล่านี้คุณก็มี AR Filter เป็นของตัวเองแล้ว ยังไงก็ลองเอาไปปรับใช้กับแบรนด์หรือธุรกิจของคุณ แต่เราขอแนะนำว่าพยายามทำให้ดูน่าใช้มากที่สุด จากนั้นก็อย่าลืมที่จะบอกให้ลูกค้ารู้ว่าคุณมีฟีเจอร์สนุกๆ นี้ให้พวกเขาเล่นอยู่ หรือจะต่อยอดเป็นโปรโมชั่นโดนๆ ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี

Virtual Try-on บน Google
AI Marketing | Google
Virtual Try-on ฟีเจอร์สำหรับลองเสื้อก่อนซื้อจริงบน Google Shopping

ท่ามกลางกระแส E-commerce ที่กำลังมาแรง Google โปรแกรม Search Engine อันดับ 1 ของโลกจึงกระโดดลงมาเป็นผู้เข้าแข่งขันในสนามนี้บ้าง ด้วยการเปิดตัว Google…

AI Deepfake
AI Marketing
AI Deepfake คืออะไร? ทำไมต้องระวัง เกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพอย่างไร

มิจฉาชีพเกิดขึ้นใหม่รายวัน และมักใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ พัฒนากลโกง ให้ไปถึงจุดที่ภาครัฐยากจะจัดการได้ หนึ่งในคือเทคโนโลยี AI Deepfake หรือ เทคโนโลยีปลอมแปลงใบหน้า ที่เป็นข่าวรายวันในช่วง 1…

การตลาดสายเทา
Marketing
การตลาดสายเทาคืออะไร ต่างกับการตลาดสายขาวอย่างไร นักการตลาดต้องรู้!

สำหรับคนที่คลุกคลีกับวงการ Marketing มาสักพัก โดยเฉพาะนักการตลาดที่เน้นทำ SEO เป็นหลัก น่าจะเคยได้ยินคำ 2 คำที่พันผูกกับวงการ SEO มาช้านาน นั่นคือ…