ทุกวันนี้คนหันมาจับตลาดอสังหาฯ กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม หรือคอนโดมิเนียมที่กลายเป็นตลาดสำหรับกลุ่มนักธุรกิจมือใหม่ที่อยากจะก้าวเข้าสู่วงการอสังหาฯ อันที่จริงเข้าวงการที่ว่านั้นไม่ใช่เรื่องยาก อยู่ที่ว่าคุณจะเข้ามาอยู่ในตำแหน่งไหนของธุรกิจยักษ์ใหญ่นี้ มีตั้งแต่ นายหน้าขายที่ดิน นายหน้าขายบ้าน คนขายบ้านมือสอง ผู้รับเหมา นักออกแบบตกแต่งภายใน วิศวกร ไปจนถึงดีเวลลอปเปอร์ผู้พัฒนาโครงการ
แต่สำหรับบทความนี้เราจะมาโฟกัสกันที่กลุ่มคนทำธุรกิจแบบซื้อมาตกแต่งและขายไป ซึ่งตลาดนี้กำลังเป็นที่ฮอตฮิตอย่างมากในกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้กลางๆ รูปแบบบ้านที่เห็นว่าจะขายดิบขายดีที่สุดน่าจะเป็น ทาวน์เฮาส์ หรือทาวน์โฮม เพราะด้วยเหตุผลทางด้านราคาที่ไม่สูงเกินไป (ล้านต้นๆ) อีกทั้งพื้นที่ใช้สอยก็ยังมากกว่าคอนโดฯ หลายเท่าแน่นอนว่าได้ครอบครองที่ดินด้วย สำหรับใครที่กำลังทำธุรกิจนี้บอกเลยว่าไม่ควรพลาด เพราะเรากำลังจะแนะแนวทางให้กับทุกท่านทำเพจของตัวเองอย่างไรให้น่าสนใจ ลูกค้าอยากเข้ามาซื้อบ้านกับคุณมากขึ้นถ้าพร้อมแล้วก็ลุยโลด!
ทำเลที่ตั้งบอกให้ละเอียด มีแผนที่ยิ่งดี
คุณอาจจะหยิบเทคนิคของแบรนด์อสังหาฯ ยักษ์ใหญ่ที่มักใช้กันมาเล่นในเพจก็ได้ เช่นพูดชื่อทำเลหลักๆ ที่อยู่บริเวณนั้น ตัวอย่าง “บ้านสวยราคาสบายกระเป๋า เข้าอยู่ได้ใกล้ทางด่วน” เป็นต้น ซึ่งบ้านจริงๆ อาจจะอยู่เข้าไปในซอยอีก 4-5 กิโลเมตรก็ได้
อย่างไรก็ตามตำแหน่งที่ตั้งที่ชัดเจนที่สุดจะช่วยคัดลูกค้าที่สนใจในทำเลนั้นจริงๆ เข้ามาให้กับคุณ การทำแผนที่แทรกเข้าไปในโพสต์บ้านหลังนั้น พร้อมบอกเส้นทางเข้าออกต่างๆ รวมถึงทางลัดซอยเล็กซอยใหญ่จะช่วยให้ลูกค้าสนใจและตัดสินใจง่ายยิ่งขึ้น เพราะทุกทำเลล้วนมีทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งเป็นเรื่องธรรมดา
ภาพต้องชัด ถ่ายให้ครบทุกมุม
บ้านเป็นสินค้าที่ไม่ใช่ว่าดูแค่รูปแล้วลูกค้าจะตัดสินใจซื้อทันที ยังไงเขาก็ต้องเข้ามาดูสถานที่จริงอยู่แล้ว แต่การที่คุณใช้ภาพที่ดูไม่ชัด ถ่ายเฉพาะบางมุมก็อาจทำให้ลูกค้ากดข้ามโพสต์นั้นไปได้ในทันที ดังนั้นควรถ่ายภาพทุกมุมของบ้านให้ชัด มีอะไรตรงไหนถ่ายให้หมดพร้อมบอกรายละเอียดให้ชัดเจน เพื่อที่เวลาลูกค้าเข้ามาดูสถานที่จริงจะได้เห็นตรงกับภาพที่คุณนำเสนอก่อนหน้า และพวกเขาจะใช้เวลาสำรวจน้อยลงอีกด้วยแน่นอนว่ามันช่วยให้การติดสินใจซื้อง่ายยิ่งขึ้น
เปรียบเทียบ ก่อน – หลัง การรีโนเวท
ยิ่งเป็นบ้านเก่าที่คุณซื้อมารีโนเวทตกแต่งใหม่หมดล่ะก็ อย่าลืมถ่ายภาพตอนก่อนที่จะปรับปรุงเอาไว้ด้วย เพราะพอคุณทำเสร็จแล้วนำภาพมาเปรียบเทียบจะเห็นได้ชัดถึงความสวยงามน่าอยู่และแน่นอนว่าเมื่อเทียบกับบ้านหลังอื่นๆ ในบริเวณโดยรอบ บ้านหลังนั้นจะต้องสวยที่สุดแน่ๆ เพราะเป็นบ้านที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ แล้วอย่างนี้ลูกค้ามีหรือที่จะไม่สนใจเพราะบ้านมือสองที่แบบซื้อมา ตกแต่ง ขายไป ปัจจุบันราคาก็เทียบเท่าคอนโดได้เลยแต่สิ่งที่ได้มากกว่าคือพื้นที่ใช้สอยและที่ดินที่เป็นของตัวเอง
บอกว่าคุณให้อะไรพวกเขาบ้าง
สิ่งที่คุณทำไปทั้งหมดให้บอกอย่างละเอียดไม่ว่าจะปรับปรุงอะไรไป ให้ของแถมอะไรพวกเขาบ้างมีประกันสี ประกันโครงสร้างหรือไม่ ประกันสิ่งของอะไรในบ้านรึเปล่า แล้วโปรโมชั่นล่ะ ค่าโอน ค่าจดจำนอง ค่าใช้จ่ายในวันทำสัญญาต่างๆ มีอะไรบ้าง เรื่องพวกนี้ควรจะระบุให้ชัดแม้แต่ในคอนเทนต์โพสต์ขายปกติเพราะมันจะช่วยลดความวุ่นวายในขั้นตอนของการเจรจาไปได้มาก คุณอาจแค่มาพูดสรุปคร่าวๆ ตอนเจอกันก็เพียงพอแล้วเพราะลูกค้าจะทำการบ้านจากโพสต์ที่พวกเขาเห็นมาก่อนแล้วนั่นเอง (ซื้อของราคาเป็นล้าน ลูกค้าต้องศึกษามาดีแล้วระดับนึงแน่นอน)
โปรโมชั่นต้องดึงดูด
ถ้าคุณไม่รู้หรือยังคิดไม่ออกว่าจะเล่นโปรโมชั่นอะไร ยังไง ลองเข้าไปเพจแบรนด์อสังหาฯ ใหญ่ๆ ดูว่าพวกเขามีโปรฯ อะไรเด็ดๆ ที่แม้แต่เราเองอ่านแล้วยังสนใจบ้าง จากนั้นก็นำมาปรับใช้กับบ้านของเรา เพราะคุณไม่สามารถทำโปรโมชั่นเหมือนแบรนด์ใหญ่เหล่านั้นได้ แต่ความที่เป็นธุรกิจประเภทเดียวกันก็มักจะมีไอเดียบางอย่างที่คุณจับมาเล่นได้ ตัวอย่างโปรโมชั่นที่ชาวอสังหาฯ มักนิยมใช้กันก็จะเป็น “ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน” “ฟรีมิตเตอร์นำ้ ไฟ” ฯลฯ แต่ในกรณีที่คุณเป็นบ้านมือสองถ้าทำโปรฯ อาจเล่นในเรื่องของแถม การรับประกันต่างๆ เช่น “จองวันนี้ ทำสัญญาภายใน 30 วัน รับทันทีมุ้งลวดฟรีทั้งหลัง!” อะไรทำนองนี้ก็ได้ อันนี้อยู่ที่ว่าทำแล้วคุณจะได้กำไรคุ้มกับที่ต้องการหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ บอกเลยว่าใครๆ ก็ชอบของแถม ของฟรีกันทั้งนั้น ดังนั้นอย่ามองข้ามเชียว!!
Virtual Try-on ฟีเจอร์สำหรับลองเสื้อก่อนซื้อจริงบน Google Shopping
ท่ามกลางกระแส E-commerce ที่กำลังมาแรง Google โปรแกรม Search Engine อันดับ 1 ของโลกจึงกระโดดลงมาเป็นผู้เข้าแข่งขันในสนามนี้บ้าง ด้วยการเปิดตัว Google…
AI Deepfake คืออะไร? ทำไมต้องระวัง เกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพอย่างไร
มิจฉาชีพเกิดขึ้นใหม่รายวัน และมักใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ พัฒนากลโกง ให้ไปถึงจุดที่ภาครัฐยากจะจัดการได้ หนึ่งในคือเทคโนโลยี AI Deepfake หรือ เทคโนโลยีปลอมแปลงใบหน้า ที่เป็นข่าวรายวันในช่วง 1…
การตลาดสายเทาคืออะไร ต่างกับการตลาดสายขาวอย่างไร นักการตลาดต้องรู้!
สำหรับคนที่คลุกคลีกับวงการ Marketing มาสักพัก โดยเฉพาะนักการตลาดที่เน้นทำ SEO เป็นหลัก น่าจะเคยได้ยินคำ 2 คำที่พันผูกกับวงการ SEO มาช้านาน นั่นคือ…