5 เครื่องมือ AI สำหรับงาน Project Management ที่คุณควรลองใช้

Project Management

ปัจจุบันมีการนำเครื่องมือ AI มาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะงานสายการตลาด ไม่ว่าจะเป็น เครื่องมือสำหรับงาน Copywriting งานทำ Keyword Research งานสรุปการประชุม หรือแม้แต่งานออกแบบ อย่างไรก็ดี ยังมีอีกหนึ่งส่วนงานที่เหมาะแก่การใช้เครื่องมือ AI นั่นคืองาน Project Management ในบทความนี้ Digital Tips จึงขอแนะนำ 5 เครื่องมือ AI สำหรับดูแลงานแต่ละโปรเจกต์ให้ราบรื่น จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย

Asana – เครื่องมือยอดนิยมของ Project Management สายเอเจนซี่

คนที่ทำงานอยู่ในเอเจนซี่การตลาดหลายคน คงจะรู้จัก Asana เป็นอย่างดี เพราะ Asana เป็นซอฟต์แวร์สำหรับงาน Project Management ที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีเมนูสำหรับสร้าง Task และโครงการ พร้อมกำหนดตัวผู้รับผิดชอบโครงการ (PM) ผู้ปฏิบัติงาน และกำหนดกรอบเวลาได้อย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถกำหนดงานย่อยๆ หรือ Subtask ได้ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถแชร์โปรเจกต์กับสมาชิกในทีม เพื่อติดตามความคืบหน้าของงานร่วมกัน

 

Alt: asana

Asana เหมาะกับใคร ราคาเท่าไหร่

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ Asana คือจะมี Free Package สำหรับผู้ใช้งานที่เป็นบุคคล โดยสามารถเชื่อมต่อกับ Teammate ได้ทั้งหมด 10 คน แต่หากต้องการใช้งานในนามบริษัท จะมีค่าบริการเริ่มต้นตั้งแต่ เดือนละราว ๆ 10.99 เหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ Template ของ Asana เองก็ปรับเปลี่ยนอะไรไม่ได้มากนัก จึงเหมาะกับบริษัทขนาดเล็ก หรือ Home Office


ClickUp – เครื่องมือยอดนิยมของ Project Management ที่ชอบจับเวลา

Asana ตอบโจทย์คนทำงานที่ชอบความเรียบง่าย แต่ ClickUp นั้นมีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างออกไป เพราะเครื่องมือนี้มีฟีเจอร์ที่หลากหลายกว่า และอาจต้องใช้เวลาทำความเข้าใจค่อนข้างมาก ตัวอย่างฟีเจอร์ที่โด่งดังที่สุด คือ ฟีเจอร์จับเวลาการทำงาน ฟีเจอร์การแปล การแสดงประวัติกิจกรรม (ใครเพิ่งจับเวลา เปลี่ยนสถานะงาน หรือปรับเพิ่ม/ลด Task เพื่อนในทีมก็จะรู้หมด) นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่รองรับการปรับแต่ง Task อีกด้วย

 

Alt: ClickUp

ClickUp เหมาะกับใคร ราคาเท่าไหร่

ด้วยจุดเด่นของฟีเจอร์จับเวลา ClickUp จึงเหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่หรือขนาดกลางที่ต้องการแก้ปัญหาเรื่อง Workload และต้องการเพิ่มประสิทธิภาพเรื่อง Project Management สำหรับเรื่องราคา ClickUp จะเริ่มต้นด้วย Free Package เช่นเดียวกับ Asana แต่ราคาของแพ็กเกจเสียเงินจะถูกกว่า เพราะเริ่มต้นแค่ 7 เหรียญสหรัฐเท่านั้น


Monday

หากคุณกำลังตามหาเครื่องมือสำหรับงาน Project Management ที่ครบเครื่องและครอบคลุม Monday คือหนึ่งในซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์ เพราะนอกจากจะมีประโยชน์เรื่องการบริหารจัดการโปรเจกต์แล้ว Monday ยังมีฟังก์ชันสำหรับทำ CRM การขาย และการสร้างอีเมล รวมถึงการแสดงข้อมูลเชิงสถิติที่จำเป็นต่อการทำงานของทีมอีกด้วย เรียกได้ว่ามี Monday โปรแกรมเดียว ก็สามารถจัดการทุกส่วนงานของธุรกิจได้อย่างครบถ้วน

Alt: Monday

Monday เหมาะกับใคร ราคาเท่าไหร่

Monday ปรับแต่ง Interface ได้ค่อนข้างมาก แถมยังอัดแน่นไปด้วยฟังก์ชันต่าง ๆ มากมาย ที่อาจมากเกินความจำเป็นของบริษัทขนาดเล็ก ด้วยเหตุนี้ Monday จึงเหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่มากกว่า สำหรับเรื่องราคา Monday มี Free Package ที่รองรับทีมเล็ก ๆ เพียงแค่ 2 คน และแพ็กเกจเสียเงินเริ่มต้นที่ 9 เหรียญสหรัฐ ต่อคน ต่อเดือน


Motion 

จุดเด่นของ Motion คือการมี AI Assistant คอยช่วยคาดการณ์เวลาและจัดลำดับความสำคัญของงานให้ ตัวอย่างเช่น การจัดลำดับความสำคัญของการประชุม การคาดการณ์เวลาเริ่มต้นและจบงานของแต่ละ Task รวมทั้งจะมีการแจ้งเตือน หากคุณเผลอกำหนดเวลากระชั้นชิดเกินไป นอกจากนี้ ภายใน Motion ยังสามารถซิงค์ปฏิทินจาก Outlook และ Google เข้ามาไว้ด้วยกันได้อีกด้วย คุณจึงไม่ต้องกังวล หากองค์กรของคุณและพาร์ทเนอร์ใช้เบราว์เซอร์แตกต่างกัน

 

Alt: Motion

Motion เหมาะกับใคร ราคาเท่าไหร่

Motion เหมาะสำหรับงาน Project Management ในองค์กรขนาดเล็ก ที่ต้องมีการติดต่อกับพาร์ทเนอร์ภายนอกจำนวนมาก โดยมีระยะทดลองใช้ฟรี 7 วัน และคิดค่าแพ็กเกจเริ่มต้นที่ 19 เหรียญสหรัฐต่อเดือน


Notion

แม้จะชื่อคล้ายกัน แต่ Notion ก็มีข้อแตกต่างกับ Motion หลายประการ เช่น การมีพื้นที่กลางสำหรับจัดเก็บเอกสาร จัดเก็บเทมเพลต รวมถึงการมี Generative AI เพื่อเป็นผู้ช่วยจำเป็นให้กับคุณตลอด 24 ชั่วโมง และแน่นอนว่า Generative AI ใน Notion สามารถจัดการงานเขียนขั้นพื้นฐานให้กับคุณได้ ทำให้ประหยัดเวลา และบริหารจัดการงานง่ายขึ้นอีกเท่าตัว

 

Alt: Notion

Notion เหมาะกับใคร ราคาเท่าไหร่

Notion เหมาะสำหรับองค์กรที่เพิ่งเริ่มก่อตั้ง และต้องการเครื่องมือทันสมัย มี UX และ UI ที่เข้าใจง่าย และสามารถผ่อนแรงได้ค่อนข้างมาก สำหรับเรื่องราคา Notion มี Free package ที่เชิญ Guest ได้ 10 คน หากต้องการใช้งานร่วมกับทีมมากกว่า 10 คน ต้องเสียค่าแพ็กเกจเริ่มต้นที่ 8 เหรียญสหรัฐ


ฝึกใช้งาน AI ให้เต็มประสิทธิภาพไปกับ Digital Tips

และทั้งหมดนี้คือ 5 เครื่องมือ AI สำหรับงาน Project Management ที่เรารวบรวมมาฝากคุณ หวังว่าจะเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อแพ็กเกจจริง ทั้งนี้ หากคุณอยากเรียนรู้วิธีการใช้งาน AI อย่างถูกต้องมากขึ้น อย่าพลาด “THE ULTIMATE COURSE TO UNLEASH THE POWER OF AI” โดย Digital Tips คอร์สเดียวที่จะอธิบายอย่างครบเครื่องว่า AI คืออะไร? พร้อมอธิบายวิธีใช้โปรแกรม AI ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง LINE SHOPPING และ Facebook: Digital Tips Acadamy


อ้างอิง

Hubspot. I Tried 10 AI Project Management Tools to See if They’re Worth It (Results & Recommendations)

Available from: https://blog.hubspot.com/marketing/ai-project-management?hubs_content=blog.hubspot.com%252Fmarketing%252Fgain-instagram-followers&hubs_content-cta=null&hubs_post-cta=blognavcard-marketing 

Forbes. Asana Vs. ClickUp (2024 Comparison)

Available from: https://www.forbes.com/advisor/business/software/clickup-vs-asana/

ไอคอนแจ้งเตือน บนแอป Social Media ต่าง ๆ
Marketing Psychology
ไอคอนแจ้งเตือน วงกลมสีแดงที่ทรงพลังในการกระตุ้นการมีส่วนร่วม!

จุดสีแดงเล็ก ๆ บนแอป ไม่ได้ทำหน้าที่แค่แจ้งข่าวสารให้คุณทราบ แต่ยังสร้างผลกระทบทางจิตวิทยา ที่ช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมได้อย่างดีเยี่ยม มาเจาะลึกเบื้องหลังของไอคอนแจ้งเตือนไปพร้อมกัน! เคยมั้ย? เวลาเห็นตัวเลขแจ้งเตือนบนมุมขวาของแอป ต้องรีบกดเข้าไปดู ไม่ว่าจะเข้าไปเช็กรายละเอียด หรือแค่กดเพื่อให้จุดสีแดงนั้นหายไปก็ตาม…

Pop-up Advertising สามารถเปลี่ยนผู้เข้าชมให้เป็นลูกค้าได้
Marketing
โฆษณา Pop-ups กลยุทธ์เด็ดในการสร้าง Conversion บนเว็บไซต์

Pop-ups Ads บนเว็บไซต์ เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้มาอย่างช้านาน เพราะช่วยส่งเสริมการขายได้อย่างดีเยี่ยม แต่จะเป็นอย่างนั้นต่อเมื่อคุณใช้มันอย่างถูกวิธี และแสดงผลในเวลาที่เหมาะสม ถ้าพูดถึงกลยุทธ์เพื่อสร้างยอดขายและการมีส่วนร่วมบนเว็บไซต์ ปัจจุบันก็มีให้เลือกใช้หลากหลายวิธี เช่น การทำ SEO…

IKEA Effect อคติทางความคิดที่ผู้บริโภคให้คุณค่ากับสิ่งลงมือทำด้วยตัวเอง
Marketing
ส่องกรณีศึกษาจาก IKEA Effect เทคนิคเพิ่มคุณค่าให้สินค้าแบบเท่าตัว!

เคยรู้สึกไหมว่าอะไรที่ลงมือทำด้วยตัวเอง ต้องใช้แรงกายมากมายกว่าจะสร้างสรรค์มันออกมาได้ จะยิ่งรู้สึกคุ้มค่าที่ทำลงไป และภูมิใจในตัวเองมาก ๆ สิ่งนี้เรียกว่า IKEA Effect ที่มีที่มาจากแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านสัญชาติสวีเดน หลายคนอาจจะรู้จักในฐานะสินค้าสไตล์มินิมอล แต่รู้ไหมว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวของอิเกีย ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจของนักการตลาดอย่างมาก…