คุณคงคุ้นเคยกับประโยคที่ว่า “จะทำคอนเทนต์ยาวๆ ไปทำไมคนไม่อ่านหรอก” ถามว่าเรื่องนี้เป็นความจริงมั้ย คำตอบคือ “จริง” แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะหลายคนก็คงเคยเห็นเพจเฟซบุ๊กที่มีบทความยาวๆ มากมายเนื้อหาแน่นแต่ก็ยังมีคนกดไลก์เป็นล้าน มียอดแชร์หลักแสนวันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันว่า ตอนไหนที่คุณควร หรือไม่ควรทำคอนเทนต์ยาวยืด
เพจแบบไหนไม่ควรทำคอนเทนต์ยาวๆ เพราะคนจะไม่อ่าน
ถ้าคุณเป็นเพจสำหรับธุรกิจ หรือสินค้า คอนเทนต์ที่เนื้อหายาวยืดน่าเบื่อเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง เพราะนอกจากลูกค้าจะไม่อ่านแล้วพวกเขายังจะกดข้ามด้วยซ้ำ แต่หากต้องการทำคอนเทนต์ยาวจริงๆ ควรเป็นช่วงที่ต้องการโปรโมทข้อมูลหรือโปรโมชั่นที่มีรายละเอียด หรืออีกกรณีก็ควรทำคอนเทนต์จำพวกให้ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า เช่นคุณขายกระเป๋าแฟชั่น อาจจะหาเนื้อหาที่เป็นประวัติความเป็นมาของหนังชนิดต่างๆ ที่ใช้ทำกระเป๋า ฯลฯ คอนเทนต์พวกนี้ถ้าลงสลับๆ กับคอนเทนต์สั้นๆ ก็จะช่วยให้เพจไม่น่าเบื่อได้
แล้วถ้าอยากทำคอนเทนต์ยาวๆ เนื้อหาเยอะควรจะทำอย่างไร
หากคุณเป็นคนที่มีเนื้อหาเยอะ อยากจะทำคอนเทนต์ยาวๆ ตัวหนังสือเยอะๆ ให้คนอ่าน เพจที่ควรจะทำก็จะเป็นพวกเพจความรู้ คอมมูนิตี้ ซึ่งความน่าสนใจของเพจเหล่านี้จะต้องดึงให้ผู้คนเข้ามาอ่านด้วยการจับประเด็นที่น่าสนใจอาจจะเป็นเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสสังคมก็ได้ หรือเป็นมุมมองที่คนทั่วไปอาจมองข้ามแต่เมื่อจับมาเป็นประเด็นคอนเทนต์แล้วกลับเป็นเรื่องที่พวกเขาจับต้องได้ เข้าใจได้ คอนเทนต์ยาวๆ เหล่านั้นก็จะได้รับการตอบรับได้อย่างดี
คนไทยไม่อ่านหนังสือจริงหรือ?
ถ้าเป็นเรื่องของผลสำรวจล่ะก็คงปฏิเสธไม่ได้ที่สังคมบ้านเรามีการปลูกฝังเรื่องการอ่านค่อนข้างน้อย แต่ในความเป็นจริงบนโลกโซเชียลมีเดียที่ทุกอย่างมาไวไปไว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องกระแสสังคมต่างๆ ที่ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นให้พูดถึงและถกเถียงกัน เนื้อหาเหล่านี้ก็มักจะมีความยาว ถ้าเทียบกับนิตยสารคงเป็นบทความคอลัมน์ใหญ่ในเล่มเลยทีเดียว แต่อย่างที่เราบอกหากคอนเทนต์ของคุณน่าสนใจจริง ต่อให้ยาวแค่ไหนคนก็จะหยุดอ่าน
แล้วจะไปเอาประเด็นคอนเทนต์มาจากไหนล่ะ มโนเอาหรอ?
หากคุณไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพการอ่านเยอะๆ จะช่วยให้คุณได้ภาษาเขียนที่น่าดึงดูด เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น อาจจะเริ่มจากการหาข้อมูลจาก Google แล้วนำมาเขียนใหม่ (Re-Write) เพื่อให้ได้เป็นคอนเทนต์ที่มีภาษาเป็นของคุณเองไว้ลงเพจแล้วก็อย่าลืมให้เครดิตข้อมูลด้วยล่ะ ทีนี้พอคุณเริ่มเก่งขึ้นการคิดประเด็นคอนเทนต์ใหม่ๆ แล้วเชื่อมโยงเรื่องราวเหล่านั้นกลับเข้ามาธุรกิจของตัวเองได้ก็ไม่อยากแล้วที่จะสร้างบทความดีๆ ให้คนได้คลิกไลก์ แชร์กัน
ไม่ว่าจะยังไงก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดคือจุดประสงค์แรกที่คุณคิดทำเพจนั้นขึ้นมาว่าทำไปเพื่ออะไร ถ้าขายของก็ทำคอนเทนต์ที่เอื้อต่อการสร้างแรงดึงดูดเพื่อก่อให้เกิดความอยากได้ หรือถ้าทำเพจมาเพื่อให้ข้อมูลความรู้เนื้อหาของคุณก็ต้องมีแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้และถูกต้องมากที่สุด เพราะถ้าจุดประสงค์ของการสร้างเพจยิ่งชัดเท่าไหร่คุณก็จะยิ่งทำเพจได้ดีมากขึ้นเท่านั้นนั่นเอง
สำหรับสมัยก่อนที่จะมีโซเชียลมีเดียเกิดขึ้นนั้นการสร้างแบรนด์เป็นเรื่องที่ยากอย่างมาก เพราะต้องใช้ทั้งเงินทุนและความมั่นคงของเจ้าของธุรกิจที่จะต่อสู้ฝ่าฟันให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จัก สิ่งที่ยากที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ “การลงทุน” เพราะถ้าในสมัยนั้นคุณคิดจะริเริ่มธุรกิจใหม่คุณคงไม่มีเงินทุนพอที่จะไปแข่งกับบริษัทใหญ่ๆ ที่มีเงินในการซื้อโฆษณา จ้างพรีเซ็นเตอร์ ฯลฯ ซึ่งรูปแบบนี้เราเรียกกันว่า “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” ความหมายคือคนมีเงินกว่าย่อมชนะคนที่มีเงินน้อยกว่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้