ถ้าพูดถึงแอปเรียนภาษายอดฮิตก็ต้องนึกถึงแอป Duolingo ที่ไม่ได้มีดีแค่ความปากจัดของนกฮูกเขียว แต่มีหลักจิตวิทยาแอบซ่อนเอาไว้ ที่ทำให้ผู้เรียนทุกคนเสพติดการเรียนแบบไม่รู้ตัว!
ช่วงก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะเคยเห็นมีมของ “นกฮูกเขียว” ผ่านตากันมาบ้าง ทั้งประโยคชวนเจ็บจี๊ดและแสนจิกกัด หรือหน้าตาแอปพลิเคชันตลก ๆ ที่คนแชร์กันเต็มโซเชียล ซึ่งนกฮูกเขียวตัวนี้เป็นมาสคอตของแอปพลิเคชันเรียนภาษาที่ชื่อว่า Duolingo แพลตฟอร์มฝึกภาษายอดนิยมในปัจจุบัน แต่จะให้เรียนธรรมดา ๆ เหมือนแอปอื่น ๆ ก็คงไม่ได้ เจ้าแอป Duolingo นี้เลยมีหลักจิตวิทยาเด็ด ๆ แอบซ่อนไว้ เพื่อชกระตุ้นให้ผู้เรียนอยากเรียนภาษามากขึ้น เรียกได้ว่าต้องกดเข้าแอปมาเรียนทุก ๆ วันเลยทีเดียว!
Content Summary
- แอป Duolingo เป็นแอปพลิเคชันฝึกภาษาที่มีให้เลือกถึง 40 ภาษา และมีนักเรียนกว่า 1,200 ล้านคนทั่วโลก โดยใช้หลักการสอนแบบ Gamification ช่วยให้ผู้เรียนสนุกกับการเรียนภาษามากขึ้น
- หลักการของแอปพลิเคชันนี้คือ การสอนแบบ Implicit Learning หรือการเรียนรู้โดยปริยาย เป็นหลักการสอนภาษาเดียวกับภาษาแรกที่มนุษย์เรียนในวัยแรกเกิด
- การส่งแจ้งเตือนซ้ำ ๆ เป็นหนึ่งในหลักจิตวิทยาของ Duolingo เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเข้ามาเรียนภาษา รวมถึงการจดจำนวนวันเรียนที่ติดต่อกัน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจ และเข้ามาเรียนต่อเนื่องในทุก ๆ วัน
แอป Duolingo คืออะไร
แอป Duolingo คือแอปพลิเคชันฝึกภาษาที่มีให้เลือกเรียนมากกว่า 40 ภาษา พัฒนาทักษะภาษาแบบครบรอบด้าน ทั้งการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน โดยก่อนเริ่มเรียนภาษาจะมีแบบทดสอบวัดระดับภาษา และแอปก็จะออกแบบหลักสูตรที่เหมาะกับความรู้พื้นฐานของผู้เรียน โดยภาษายอดนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาสเปน ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน และภาษาญี่ปุ่น ตามลำดับ
นอกจากนี้ บทเรียนยังสอดคล้องกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน เช่น คำกล่าวทักทาย การแนะนำตัว หรือวิธีสั่งอาหาร ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียนมากถึง 1,200 ล้านคนทั่วโลกและเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนก็เป็นหนึ่งในนั้น เรามาดูวิธีการสอนและจุดเด่นของแอป Duolingo กันคร่าว ๆ ว่ามีฟีเจอร์อะไรบ้าง มีวิธีใช้อย่างไรที่ทำให้คนชอบฝึกภาษาด้วยแอปพลิเคชันนี้
Gamification เปลี่ยนความน่าเบื่อเป็นเกมแสนสนุก
เพราะการเรียนรู้ทีละภาษาถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ผู้พัฒนาจึงปรับรูปแบบการเรียนรู้ให้เป็นรูปแบบการเล่นเกม (Gamification) ที่ทำให้ผู้เรียนเพลิดเพลินและสนุกกับการเรียนภาษา เช่น จับคู่คำศัพท์กับความหมาย เติมคำลงในช่องว่าง หรือฝึกพูดตามแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ หากออกเสียงผิดพลาดหรือตอบผิด ทางพี่นกฮูกเขียวก็ให้โอกาสนักเรียนสามารถกลับมาแก้ไขอีกครั้งด้วย
Implicit Learning กระตุ้นให้คนเรียนรู้ด้วยตัวเอง
Implicit Learning หรือการเรียนรู้โดยปริยาย เป็นการเรียนรู้ที่เกิดจากประสบการณ์ของตัวผู้เรียนเอง แทนการท่องจำแบบเดิม ๆ ซึ่งทางแอป Duolingo กล่าวว่าวิธีนี้เป็นวิธีการเดียวกับการเรียนภาษาแรกของมนุษย์ในวัยเด็ก คือการเรียนภาษาเพื่อนำไปใช้งานจริง ๆ นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ตั้งแต่หลักสูตรแรกของแอป Duolingo จึงเริ่มต้นด้วยการทำแบบฝึกหัดเลยทันที เพื่อให้ผู้เรียนสามารถจดจำศัพท์ผ่านการเล่นเกมต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
UX/UI ของแอปพลิเคชันสวยงาม ใช้งานง่าย
นอกจากฟีเจอร์สเจ๋ง ๆ ที่ช่วยให้การเรียนภาษาไม่น่าเบื่อแล้ว หน้าตาและวิธีการใช้งานแอป Duolingo เป็นอะไรที่ดึงดูดใจได้ดีสุด ๆ ทั้งกราฟิก ตัวละครสุดน่ารัก และสีสันสบายตา ช่วยให้ผู้คนจดจ่อกับการเรียนได้ดียิ่งขึ้น เข้าถึงคนได้ทุกเพศ ทุกวัย ลบภาพจำเก่า ๆ ที่ว่าการเรียนภาษาเป็นสิ่งที่วิชาการมาก ๆ และไม่มี
แอป Duolingo เสียเงินไหม
แอป Duolingo สามารถใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใด ๆ เพราะทางผู้พัฒนาแอปพลิเคชันต้องการให้ทุกคนทั่วโลกสามารถเรียนรู้ภาษาได้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่จำเป็นต้องเสียค่าเรียนแพง ๆ และสามารถเลือกเวลาเรียนได้ตามความต้องการอีกด้วย
แต่สำหรับใครที่อยากยกระดับการเรียนรู้ให้สะดวกสบายมากขึ้น ก็สามารถอัปเกรดเป็น “Super Duolingo” ที่สามารถเรียนเนื้อหาแบบไม่มีโฆษณาคั่น ใช้หัวใจได้ไม่อั้น และมีแบบฝึกหัดที่ออกแบบเฉพาะตัวผู้เรียนคนนั้น ๆ อีกด้วย และถ้ารู้สึกว่ายังจุใจไม่พอ ทางผู้พัฒนาก็ยังมี “Duolingo Max” ที่รวมฟีเจอร์ทั้งหมดของเวอร์ชัน Super และฟีเจอร์ใหม่ 2 ตัวด้วยกัน ได้แก่
- Explain My Answer ฟีเจอร์ช่วยอธิบายคำตอบเพิ่มเติมจากแค่บอกว่าถูกกับผิด เช่น ทำไมถึงต้องเป็นคำตอบดังกล่าว หรือถูกต้องตามหลักภาษาอย่างไรบ้าง เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น
- Roleplay ฟีเจอร์ที่ให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนทักษะการสนทนากับตัวละครในแอป Duolingo โดยจำลองสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างการสั่งกาแฟ ออกไปชอปปิงกับเพื่อน หรือชวนเพื่อนไปเที่ยว เป็นต้น ซึ่ง AI ดังกล่าวจะคอยปรับเปลี่ยนรูปแบบการสนทนาให้ซ้ำกัน และให้คำติชมหลังจาก Roleplay เสร็จแล้วอีกด้วย
ไขหลักจิตวิทยาทั้งหมดในแอป Duolingo ที่กระตุ้นให้คนอยากฝึกภาษา!
อุปสรรคในการเรียนภาษาก็คือ ความรู้สึกท้อจนล้มเลิกความตั้งใจไปก่อน ซึ่งแน่นอนว่าแอป Duolingo เข้ามาแก้ Pain Point ดังกล่าว ด้วยการนำหลักจิตวิทยาและหลักพฤติกรรมศาสตร์ ทำให้การเรียนรู้กลายเป็นนิสัย (Habit) คล้ายกับการตื่นมาแปรงฟันทุกเช้า โดยเปลี่ยนเป็นการตื่นมาเรียนทุกวันแทน เป็นต้น
1. Push Notifications แจ้งเตือนซ้ำ ๆ จนกว่าจะมาเรียน
วิธีการที่ง่ายที่สุดในการกระตุ้นความอยากเรียนและเตือนความทรงจำคือ การแจ้งเตือนแบบพุช โดยความฉลาดของแอป Duolingo คือ มอบหีบรางวัลให้กับผู้ที่ไม่ปิดแจ้งเตือน และปลดล๊อกในช่วงเวลา 18.00 ถึงเที่ยงคืน ถือเป็นกลยุทธ์ที่ Win-Win กันทั้งสองฝ่าย
2. Emotional Manipulation ถ้าไม่เรียน พี่นกฮูกเขียวจะเสียใจนะ!
หากคุณไม่ได้กดเข้าแอปเป็นเวลานาน Duo หรือพี่นกฮูกเขียวก็จะรู้สึกเสียใจและส่งแจ้งเตือนแบบเศร้า ๆ มาให้คุณผ่านทางอีเมล เช่น “คุณกำลังทำให้ Duo เศร้าใจ” “เราไม่เจอคุณมาสักพักแล้วนะ” หรือ “มาทำให้ Duo มีความสุขกันเถอะ!” และบางครั้งเราจะเห็นในรูปแบบหน้าตาแอปที่เปลี่ยนไป อย่างรูปนกฮูกเขียวเหี่ยวหรือโกรธจนไฟลุก ก็ถือเป็นสีสันสนุก ๆ ให้กับผู้ใช้งานและกระตุ้นให้อยากกลับมาเรียนได้ง่ายขึ้น
3. Social Motivation อยากอันดับสูงขึ้น ก็ต้องเข้าเรียนบ่อย ๆ
เพื่อกระตุ้นให้คนอยากเรียนมากขึ้น ภายในแอป Duolingo จึงมีการจัดการแข่งขันหรือ Leagues โดยหลังเรียนจบในแต่ละหลักสูตร ผู้เรียนแต่ละคนจะได้รับค่าประสบการณ์ (XP) เพื่อนำมาจัดลำดับกับเพื่อน ๆ ในเลเวลเดียวกัน (เหมือนกับการลงแรงก์ในเกมนั่นแหละ!) ถ้าอยากให้อันดับของตัวเองสูงขึ้น ก็ต้องฝึกฝนเป็นประจำนั่นเอง ซึ่งผู้เรียน 10 อันดับแรกจะได้ลงแข่งใน Diamond Tournament และผู้ที่ผ่านเข้ารอบในแต่ละรอบก็จะได้รับรางวัลพิเศษพี่ฮูกอีกด้วย
4. Streaks จดจำนวนวันที่เรียนติดต่อกัน
Streaks เป็นฟีเจอร์ที่จะคอยบันทึกจำนวนวันที่คุณเรียนภาษาเป็นเวลาติดต่อกัน เมื่อกดเข้าแอป Duolingo คุณก็จะได้รับการแจ้งเตือนว่า Streaks ของคุณไปถึงไหนแล้ว ช่วยผู้เรียนอยากเข้ามาเรียนในทุก ๆ วัน เพื่อไม่ให้จำนวนวันขาดตอน อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ดังกล่าวก็สามารถสร้างความท้อแท้ให้กับผู้เรียนได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับมุมมองของฝั่งผู้ใช้เป็นหลัก
5. Rewards มอบรางวัลเป็นขวัญกำลังใจทุกครั้ง
หลังจากที่พยายามเรียนเนื้อหาทั้งหมดไปแล้ว เพื่อให้ตัวผู้เรียนมีกำลังใจในการเรียนครั้งต่อ ๆ ไปมากขึ้น แอป Duolingo จึงมอบรางวัลให้กับผู้เรียนที่เรียนจบหลักสูตร หรือทำเควสสำเร็จ โดยแบ่งรูปแบบรางวัลออกเป็น 4 ประเภทด้วยกัน
- Celebrations เมื่อเรียนจนจบบทเรียน Duo และเหล่าตัวละครน่ารัก ๆ จะออกมากระโดดโลดเต้นและปรบมือให้กำลังให้ผู้เรียน
- XP & Quests มอบแต้มประสบการณ์หลังจากที่ผู้เรียนเรียนจบหลักสูตร และทำ Daily Quests สำเร็จ
- XP Boosts & Chests มอบคะแนน XP แบบพิเศษในระยะเวลา 15 นาที เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมกับแอปพลิเคชัน
- Achievements & Badges ทำให้ผู้เรียนอยากปลดล๊อก Achievements อันถัด ๆ ไป ทำให้เข้ามาเรียนบ่อยยิ่งขึ้น
สรุป
อ่านมาจนถึงตรงนี้ หากมีคำถามว่าสรุปแล้วแอป Duolingo ดีไหม ต้องบอกเลยว่าเป็นแพลตฟอร์มฝึกฝนภาษาที่ดีมาก นอกจากสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลาแล้ว ด้วยหลักการจิตวิทยาภายในแอปพลิเคชัน จะช่วยทำให้คุณมีวินัยในการเรียนรู้ และมีความรู้สึกอยากเรียนต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเก่ง สำหรับใครที่เรียนภาษาแล้วและอยากเรียนเนื้อหาด้านการตลาดเพิ่มเติม สามารถค้นหาคอร์สออนไลน์น่าสนใจที่เว็บไซต์ Digital Tips ได้เลย
อ้างอิง
Duolingo. About Us – Duolingo
Available from: https://en.duolingo.com/info
Duolingo. Duolingo 101: How to learn a language on Duolingo
Available from: https://blog.duolingo.com/duolingo-101-how-to-learn-a-language-on-duolingo/
Duolingo. What is implicit learning, and how does Duolingo use it in lessons?
Available from: https://blog.duolingo.com/what-is-implicit-learning/
Duolingo. Introducing Duolingo Max, a learning experience powered by GPT-4
Available from: https://blog.duolingo.com/duolingo-max/
Choice Hacking. How Duolingo Used Psychology to Make Learning Addictive
Available from: https://www.choicehacking.com/2023/05/25/how-duolingo-used-psychology-to-make-learning-addictive/#t-1717077960534
