เป็นคำถามที่ถูกพูดประหนึ่งปริศนาโลกแตกไปเสียแล้ว เพราะคนทำธุรกิจมือใหม่มักจะถามแบบเดิมซ้ำๆ ว่า “พี่คะ ถ้าหนูขาย… ควรขายที่ Facebook หรือ Instagram ดีคะ?” หรืออะไรทำนองนี้ ซึ่งถ้าให้ตอบแบบง่ายๆ ผ่านๆ ไปเราก็จะตอบทุกคนว่า “ทำควบคู่กันไปดีที่สุดค่ะ” ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ใช่ การทำช่องทางใดช่องทางหนึ่งอาจทำให้คุณพลาดโอกาสในกลุ่มลูกค้าที่อาจมีอยู่มากมายใน Platform อื่นๆ แต่ถ้าหากคุณอยากจะทำช่องทางใดช่องทางหนึ่งเป็นอย่างแรกจริงๆ เราก็มีคำแนะนำให้ดังต่อไปนี้

Facebook
เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในโลกของโซเชียลมีเดียอย่างที่เรารู้กันดี Facebook สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายโฆษณาได้อย่างแม่นยำและมีผู้ใช้มากมายทั่วโลก หากมองในเมืองไทยอย่างเดียวก็ถือว่ามีผู้ใช้ Facebook นับเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว ดังนั้นจึงทำให้คุณมีโอกาสได้ลูกค้าที่หลากหลายและสามารถทำโฆษณาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้ แต่ข้อเสียบน Facebook จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณไม่มีความรู้ด้านการยิงโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงไม่รู้จักทำการตลาดออนไลน์ด้วยคอนเทนต์ที่น่าสนใจ โปรโมชั่นน่าดึงดูด ก็อาจจะทำให้คุณดึงเอาคนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของสินค้าเข้ามาได้

ส่วนสินค้าใดบ้างที่เหมาะกับ Facebook นั้น ก็ขอตอบตรงนี้ว่าแทบจะทุกประเภทสินค้าสามารถขายได้บน Facebook ให้ท่องไว้เสมอว่า Facebook เปรียบเสมือนโชว์รูมให้ลูกค้าคุณได้ดูสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ และการทำการตลาดออนไลน์จะช่วยให้ลูกค้าเหล่านั้นตัดสินใจซื้อได้เร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นการศึกษาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการทำธุรกิจบน Facebook จะช่วยให้คุณมีโอกาสขายสินค้าหรือทำธุรกิจประสบความสำเร็จได้

Instagram
อันที่จริงเจ้าของ Instagram ก็คือ Facebook นั่นเองแต่ทว่ามีความต่างกันอย่างสิ้นเชิงเพราะ Instagram จะเน้นการโชว์รูป วิดีโอ และลูกเล่นที่ช่วยให้คนสนใจอย่าง IG Story และล่าสุด IGTV ให้คุณได้ใช้กัน ข้อดีของ Instagram คือมีผู้ใช้ที่เป็นกลุ่มคนมีเงินค่อนข้างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสุภาพสตรี ดังนั้นคุณมักจะเห็นสินค้าบน Instagram ส่วนใหญ่จะเป็นจำพวกสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้าต่างๆ รวมถึงพวกของ Decoration สวยๆ กระจุกกระจิกอย่าง เทียนหอม ของแต่งบ้าน Gift Shop ต่างๆ

ซึ่งบน Instagram นั้นจะมีข้อจำกัดกว่า Facebook ในหลายๆด้าน เช่น ต้องซื้อโฆษณาบนระบบลงโฆษณาของ Facebook ดังนั้นการทำกลยุทธ์ทางการตลาดด้วยการเล่นกับความสามารถของแอปฯ ก็ช่วยให้โซเชียลมีเดียช่องทางนี้ของคุณน่าสนใจขึ้นได้ แต่ก็ต้องใช้ความ Creative สักเล็กน้อย

อย่างไรก็ดีถ้าหากคุณต้องการที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจบน Platform ใด Platform หนึ่งจริงๆ ก็ให้เลือกใช้สิ่งที่คุณถนัดก่อนจะช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น แล้วเมื่อเริ่มลงตัวแล้วอยากจะเพิ่มกลุ่มเป้าหมายก็ค่อยขยับขยายมาใช้ Platform อื่นๆ ต่อไปและอย่าลืมที่จะมองโซเชียลมีเดียอื่นๆ อย่าง Twitter, Youtube ฯลฯ ที่ถ้าคุณสามารถทำทุกช่องทางประกอบกันไปได้รับรองว่าธุรกิจของคุณมีโอกาสประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน

เทคนิคเล็กน้อย อันที่จริงๆ คุณไม่ต้องตั้งคำถามหรอกว่าขายที่ไหนจะดีหรือไม่ เพราะการทำธุรกิจบนโลกดิจิทัลนั้นเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยากมากว่าทำแบบนี้แล้วจะดี ทำแบบนั้นแล้วจะล่ม ขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัยเพราะวิธีที่แบรนด์อื่นใช้แล้วได้ผล ก็ไม่ได้หมายความว่าทำกับธุรกิจของคุณแล้วจะได้ผล ดังนั้นการทดลองทำไปเรื่อยๆ พร้อมวัดผลจะช่วยให้แบรนด์หรือธุรกิจของคุณเติบโตไปได้อย่างแข็งแรงแน่นอน ยิ่งบวกกับการไม่หยุดอยู่กับที่และความสร้างสรรค์ด้วยแล้วก็คงยากที่จะมีคู่แข่งใดๆ มาล้มคุณลงได้

10 body languages for presentation
Marketing Psychology
ลิสต์ 10 ภาษากายเพื่อการพรีเซนต์งาน สำหรับพนักงานมือโปร 

Topic Summary คนทำงานเตรียมแชร์ไว้ 10 ภาษากายเพื่อการพรีเซนต์งาน เพิ่มสกิลการเป็นมือโปร และทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในตัวคุณ! ในบรรดาความรู้เรื่อง Body Language ทั้งหมด ภาษากายที่ใช้ในการพรีเซนต์งาน…

body languages
Marketing Psychology
เช็กก่อนใคร! ตำแหน่งของ Body Language ตัวช่วยอ่านพฤติกรรมคนจากภาษากาย

Topic Summary อยากรู้ไหม? เวลาอ่านใจคนจากภาษากาย ตำแหน่งของ Body Language ส่วนใดบ้างที่คุณต้องดู และแต่ละตำแหน่งมีความสำคัญอย่างไร ใคร ๆ ก็อยากเชี่ยวชาญการอ่านใจคนด้วยภาษากาย…

what is psychology of pricing
News
เข้าใจจิตวิทยาราคา พร้อมแจกกลยุทธ์การตั้งราคา ให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็วกว่าที่เคย

เพิ่งเปิดธุรกิจใหม่ ควรตั้งราคาอย่างไรดี Digital Tips แชร์เทคนิคการตั้งราคาตามหลักจิตวิทยา พร้อมเคลียร์ชัดความหมายของจิตวิทยาราคา อ่านแล้วเข้าใจได้ทันที! Content Summary  จิตวิทยาราคา คือ การกำหนดราคาสินค้าโดยอ้างอิงจากการรับรู้ทางจิตวิทยา…