หลายท่านคงเคยได้ยินซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญบ้าง เพื่อนบ้าง ว่าทำแบบนั้นสิดี ทำแบบนี้สิได้ ใช้ Facebook สิ ขายได้แน่นอน หรือไม่นะ Instagram ดีกว่าเชื่อพี่ ฯลฯ ประโยคเหล่านี้เรากล้าประกาศตรงนี้เลยว่า “ไม่จริง” ยังคงยืนยันคำเดิมว่าไม่มีสิ่งใดในโลกดิจิทัลที่ขึ้นชื่อได้ว่า “ดีที่สุด” หากอยากรู้ว่าทำไมตามไปดูกัน
Social Media ที่ดีที่สุด
Facebook ดีที่สุด… จริงหรือ? ใช่ Facebook อาจจะเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้เยอะที่สุด แต่ก็ไม่ใช่แพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับการทำธุรกิจอย่างแน่นอน เราปฏิเสธไม่ได้ถึงความสามารถในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายโฆษณาของ Facebook ว่าทรงพลังมากแค่ไหน แต่ในกรณีนี้คือเราไม่ต้องการให้คุณเลือกทำเพียงสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว เพราะหากคุณอยากได้มาซึ่งคำว่า “ที่สุด” การทำการตลาดบนหลากหลายช่องทางจะช่วยให้มันเกิดขึ้นได้เร็วกว่าหลายเท่า ดังนั้นนอกจาก Facebook แล้ว อย่ามองข้ามพลังของ Instagram, Twitter, Youtube และอื่นๆ อีกมากมายที่คุณต้องลอง
Interest ที่ดีที่สุดสำหรับกลุ่มเป้าหมาย
เรามักได้ยินคำถามอยู่บ่อยๆ ว่า ยิงโฆษณาแล้วควรใช้ Interest ตัวไหนถึงจะแม่นที่สุด ดีที่สุด! ตอบตรงนี้อีกที่ว่า “ไม่มี” เพราะคำที่คุณใช้ในวันนี้แล้วมันดีก็ไม่ได้หมายความว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้ามันจะดี ดังนั้นการทำแคมเปญโฆษณาเพื่อทดสอบกลุ่มเป้าหมายแบบต่างๆ จะเป็นเครื่องยืนยันตัวคุณเองว่าคำๆ ไหนดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ (ณ เวลานั้น)
Objective ที่ดีที่สุด
บางคนเปิดเพจขึ้นมาใหม่ๆ ก็ลงงบหมดไปกับการซื้อ Page Like พอเห็นตัวเลขยอดไลก์เพจพุ่งขึ้นก็ดีใจคิดว่าวิธีนี้นี่ล่ะดีที่สุดแล้ว ก็ทำแบบเดิมๆ เรื่อยมา แต่ก็จะเห็นได้จากช่วงหลังๆ ที่ยอด Like ไม่พุ่งกระฉูดเหมือนแต่ก่อน ในทำนองเดียวกันกับ Objective แบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น การมีส่วนร่วม ยอดชมวิดีโอ ฯลฯ เหตุผลคือแต่ละ Objective ก็จะเหมาะสมกับโฆษณาในแต่ละประเภทที่แตกต่างกันนั่นเอง ดังนั้นให้ดูความเหมาะสมเป็นหลัก แล้วหากอยากได้สิ่งที่ดีที่สุด ก็คือการทำโฆษณาหลายๆ Objective ควบคู่กันไป เช่น ซื้อการมีส่วนร่วมกับโพสต์บ้าง เพจบ้าง สลับๆ กันไป ซื้อ Video View บ้าง หรือถ้ามีเว็บไซต์ก็ลองทำ Lead Generation ดูบ้างเพื่อที่จะได้มีฐานข้อมูลลูกค้าเก็บไว้เป็นต้น
งบเท่านี้สิดีที่สุด
วันละ 100 กำลังดีนะ ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป… ไม่สิ ต้องวันละ 1,000 ไปเลยเห็นผลแน่นอน หรือบางธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย ก็อาจอัดเม็ดเงินสูงถึงวันละ 5,000 – 10,000 บาทเลยก็มี แต่อย่างที่เราบอกนั่นแหละว่าคำว่า “ที่สุด” ไม่มีจริง เพราะโลกดิจิทัลเราไม่ได้แข่งกันที่จำนวนเงินว่าใครจะมีมากกว่าน้อยกว่า แต่เราแข่งกันที่ความเร็วและเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ใช่ว่าเริ่มต้นก็อัดเงินไปซะมากมาย พอตอนหลังแทบจะไม่ซื้อโฆษณาเลย ก็ไม่ได้ งบประมาณเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณไหวที่เท่าไหร่และจุดประสงค์ของแคมเปญนั้นของคุณคืออะไร ระยะเวลานานแค่ไหน เมื่อมีข้อกำหนดเหล่านี้ เราค่อยเอาเงินมาทำให้มันถึงเกณฑ์ที่เราตั้งไว้ก็แค่นั้น
อย่างไรก็ตามหัวข้อข้างต้นที่เรากล่าวมาทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงแค่ส่วนนึงของความคาดหวังจากเจ้าของธุรกิจทั้งหมด ที่แน่นอนว่าจะต้องหวังว่าธุรกิจของตนเองจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น แต่หากคุณทำความเข้าใจกับสิ่งเหล่านี้ได้และปรับตัวให้ทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัลที่มาเร็วไปไว คุณก็จะเข้าใกล้คำว่า The Best หรือดีที่สุดมากกว่าคนอื่น แต่หากคุณคิดว่าไปถึงจุดๆ นั้นแล้ว พอแล้ว ฉันไม่ทำแล้ว ในวันรุ่งขึ้นก็อาจมีคนมาแทนที่ที่คุณอยู่ไปแล้วก็เป็นได้ วิธีที่ง่ายที่สุดคือ หาวิธีการต่างๆ ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณจากการสังเกต ศึกษา วัดผลจากการทำอย่างต่อเนื่อง แค่นี้ความสำเร็จก็อยู่แค่เอื้อมแล้ว