ตอนนี้ไม่ว่าจะไปเดินที่ไหน
ไม่ว่าจะเป็นตลาดจตุจักร แพลตินั่ม ประตูน้ำ หรือร้านข้าวทั่วประเทศ
เราก็จะเห็นนางกวักสีม่วงๆ น่ารัก ที่ชื่อ “แม่มณี” จาก SCB จนชินตาแล้วใช่มั้ยคะ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ทาง SCB ได้ทำการเปิดตัว แม่มณี พร้อมมีบริการ QR Code
ให้พ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการ ทั่วประเทศ
ปริ้นท์ไปวางไว้ที่ร้าน สร้างความสะดวกสบาย เชื่อมสังคมไทยให้ก้าวไปสู่สังคมไร้เงินสดมากยิ่งขึ้น
นับไปนับมา “แม่มณี” ก็มีอายุครบ 3 ปีเต็ม ในเดือนพฤศจิกายน 2020 นี้แล้ววว
ต้องขอบอกว่า Happy Birth Day ให้แม่มณีด้วยนะคะ
ปัจจุบัน SCB ก็ไม่ได้หยุดนิ่ง พร้อมพัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ
มาเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มีความสะดวกสบายในการประกอบธุรกิจมากขึ้น
ด้วยการสร้าง “แอปแม่มณี” ที่เป็น กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์
ที่เราเรียกกันติดปากว่าเป็น E-wallet ซึ่งสามารถสร้าง QR Code
รับเงินจากลูกค้าได้ทุกธนาคาร แบบไม่มีค่าธรรมเนียมเลย
แต่ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า
แอปพลิเคชั่น แม่มณี กับ QR Code แม่มณี ไม่เหมือนกันนะคะ
QR Code แม่มณี จะเป็นการใช้ QR Code จากพร้อมเพย์ที่เราผูกเบอร์โทรศัพท์ไว้กับทาง SCB
แต่ แอปพลิเคชั่น แม่มณี เจ๋งไปกว่านั้น
เพราะ SCB สร้างแอปพลิเคชั่นตัวใหม่ขึ้นมา
เพื่อให้การรับเงินของผู้ประกอบการใช้งานง่ายขึ้นมากกว่าเดิม
Digital Tips จึงอยากชวนทุกคนเปลี่ยนมาใช้ แอปแม่มณี ด้วยกันนะคะ
ทีนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า
แล้ว ข้อแตกต่างระหว่าง “แอปแม่มณี” กับ QR Code แม่มณี คืออะไร ?
ทำไมเราต้องเปลี่ยนมาใช้
ลองมาดู 6 ข้อที่เราควรใช้ แอปแม่มณี กันนะคะ
- การผูกบัญชี
สมัยก่อนเวลาเราใช้ QR Code แม่มณี
เราต้องใช้ QR Code กับบัญชีส่วนตัวของเราที่ผูกไว้กับพร้อมเพย์ใช่มั้ยคะ
ทีนี้ว่า ในระหว่างวันเวลาที่มียอดเงินเข้าหลายๆ ครั้ง
บางที่เราก็ไม่สามารถแยกได้ว่า ยอดไหนมาจากการขายสินค้า
หรือว่าเป็นการรับเงินจากค่าอื่นๆ
แต่สำหรับ “แอปแม่มณี” เราสามารถผูกทั้งบัญชีส่วนตัว
และบัญชีของร้านเข้าไปในแอปได้เลย
ทีนี้เราก็จะรู้ได้ว่ายอดไหนเป็นยอดเงินจากการขาย
หรือยอดไหนเป็นยอดเงินส่วนตัวของเราค่ะ
- การ Gen QR
QR Code แม่มณี จะเป็นรูปแบบกระดาษที่เราต้องพกติดตัวไว้ตลอดเวลา
บางทีย้ายสถานที่ขาย เช่น ไปตามงาน Event ต่างๆ
ก็ต้องพกไปด้วย ซึ่งหลายๆ คนที่เจอคือ
มักจะลืมมมม แล้วต้องวิ่งวุ่นหาสถานที่ปริ้นท์ใหม่กันแบบทันทีทันใด
แต่ถ้าเรามี “แอปแม่มณี” เราเพียงแค่พกมือถือที่ลง แอปแม่มณี เอาไว้
จะอยู่ที่ไหนก็สามารถสร้าง QR Code รับเงินได้ทุกที่ ทุกเวลา
นอกจากนี้ยังสร้าง QR Code แบบกำหนดราคาสินค้าได้อีกด้วย!
- การแจ้งเตือน
เวลาที่มียอดเข้า ปกติแล้วเราจะมีเฉพาะโทรศัพท์ที่ผูกบัญชีไว้
กับพร้อมเพย์เท่านั้นทีมีแจ้งเตือนยอดเงินเข้ามา
ทำให้เวลาที่เรามีหน้าร้าน หลายๆ ร้าน ลูกน้องหลายๆ คน
พนักงานขายต้องคอยถ่ายสลิปลูกค้า และส่งไลน์
ไปแจ้งเตือนเจ้าของร้าน และรอยืนยันเวลามียอดเงินเข้าตลอดใช่มั้ยคะ
แต่สำหรับ แอปแม่มณี มีเงินเข้าปุ๊ป
ยอดจะเด้งแจ้งเตือนไปในแอปทันที
ซึ่งเราสามารถเพิ่มลูกน้องหรือผู้ช่วย และให้มีแจ้งเตือน
เงินเข้าได้สูงสุด 10 เครื่องด้วยกัน !!!!!
อันนี้จะเป็นข้อดีของผู้ประกอบการที่มีหน้าร้านหลายร้าน
เวลาพนักงานรับเงินเราก็จะสามารถรู้ได้ทันที
- ชำระด้วยบัตรเครดิต
ข้อดีอีกอันของ แอปแม่มณี ก็คือเราสามารถ
รับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้ทันที เพียงลูกค้ามีแอปธนาคารที่ผูกกับบัตรเครดิตไว้
หมดปัญหาที่เราต้องไปทำเรื่องขอเครื่องรูดบัตรกับธนาคาร
นอกจากนี้ยังเสียค่าธรรมเนียมเพียงแค่ 1% เท่านั้นเองค่ะ*
- ชำระผ่าน Alipay, Wechat Pay ก็ได้
อีกหนึ่งปัญหาของร้านค้าทั่วไปเวลามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาซื้อของก็คือ
บางทีเงินสดที่นักท่องเที่ยวพกมาไม่พอ!
ต้องคอยวิ่งหาจุดแลกเงิน ไม่ก็ต้องรับเป็นเงินสกุลต่างประเทศ
แต่ “แอปแม่มณี” อัปเกรดขึ้นไปกว่านั้น
เพราะว่าเราจะสามารถรับเงินได้หลายช่องทางผ่าน Mobile banking ต่าง ๆ
และรองรับแอปพลิเคชั่นของนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่าง Alipay, Wechat Pay ได้ด้วยนะคะ
- กู้ได้ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำ**
เป็นเหตุการณ์จริงของใครหลายๆ คนเลยใช่มั้ยคะ
บางทีเราอยากหาเงินสดเพิ่ม
เพื่อขยายสต็อกหรืออยากขยายหน้าร้านให้ใหญ่ขึ้น
“แอปแม่มณี” ก็มีบริการ “สินเชื่อมณีทันใจ”
เพียงแค่เรามีเงินเข้าต่อเนื่อง 3 เดือนติดต่อกัน
ก็สามารถกู้ “สินเชื่อมณีทันใจ” ซึ่งเป็นฟีเจอร์ภายในแอป
ได้โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเลยค่ะ
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
ของ “แอปแม่มณี” ที่จะเป็นผู้ช่วยร้านค้ายุคใหม่
ให้บริหารจัดการร้านได้ง่ายมาก ๆ
ถูกใจทั้ง คนซื้อ และ คนขาย ใช้งานง่าย สะดวกด้วย
สำหรับวิธีการติดตั้งดูได้ที่ :
https://thedigitaltips.comblog/business/app-maemanee/
สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.scb.co.th/th/personal-banking/payment/for-merchant/mae-manee-app.html
*เงื่อนไขค่าธรรมเนียม 1% สำหรับยอดชำระด้วยบัตรเครดิตรวมจำนวนไม่เกิน 900,000 บาท/ปี หากเกินกว่านี้ จะ คิดค่าธรรมเนียม 2-2.5%
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด