หลายคนอาจเป็นกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งมือใหม่หัดยิง Ad ทั้งหลายที่ยังไม่คุ้นกับการซื้อโฆษณามากนัก คำถามที่ว่าถ้ามีสินค้าหลายหมวดหมู่จะต้องยิงโฆษณาอย่างไรนั้นเราได้รับมาบ่อยครั้งมาก ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรมากนักเพราะก็มีไม่น้อยที่เปิดเพจมาเพื่อขายสินค้าที่หลากหลายมาดูกันดีกว่าว่าคุณควรจะทำอย่างไรหากเพจของคุณมีสินค้าที่บางครั้งอาจจะเป็นคนละหมวดหมู่กันเลย
กำหนดกลุ่มเป้าหมายของสินค้าแต่ละประเภท
สิ่งแรกที่คุณควรทำคือการรู้ว่าในสินค้าแต่ละตัวของคุณนั้นมีกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร อาจแบ่งเป็นประเภทสินค้าที่อยู่ในหมวดหมู่เดียวกันก่อนก็ได้ อาทิ เป็นสินค้าของผู้ชายหรือผู้หญิง อายุเท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ทำอาชีพอะไร ฯลฯ เพราะสิ่งนี้ถือเป็นขั้นตอนแรกในการที่คุณจะนำกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้ไปซื้อโฆษณา Facebook
สร้างกลุ่มเป้าหมายเก็บไว้ใช้
เมื่อคุณรู้แล้วว่ากลุ่มเป้าหมายของสินค้าแต่ละหมวดคือใคร คุณก็สร้างกลุ่มเป้าหมายในตัวจัดการโฆษณาเก็บเอาไว้ใช้จะได้สะดวกยิ่งขึ้นวิธีการก็คือ
- ให้คุณเข้าไปที่หน้าตัวจัดการโฆษณา
- เลือกกลุ่มเป้าหมาย
- เลือกกลุ่มเป้าหมายที่บันทึกไว้
- ทำการตั้งค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกำหนดพื้นที่ เพศ อายุ ภาษา ความสนใจต่างๆ
เมื่อถึงเวลาต้องใช้งานคุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลาตั้งค่าหลายๆ รอบ
ยิงพร้อมกันได้มั้ย?
หากคุณมีการแบ่งกลุ่มเป้าหมายชัดเจนและไม่ทับซ้อนกัน แน่นอนว่าสามารถยิงสินค้ารพร้อมกันได้ครั้งกี่ชิ้นก็ได้ แต่ข้อควรระวังคือหน้าเพจของคุณก็ต้องพร้อมที่จะรองรับลูกค้าของสินค้าแต่ละอย่างด้วย คือการไม่ทำให้เขางงเมื่อคลิกเข้ามาที่หน้าเพจคุณ อาจจะทำภาพสินค้าให้หาดูง่ายๆ สร้างร้านค้าในเพจเพื่อให้ลูกค้าได้ดูสินค้าและราคาได้สะดวกที่สุด สร้างอัลบั้มภาพแยกสินค้าแต่ละประเภทไปเลย และชื่อเพจก็สำคัญ ควรตั้งชื่อให้คนเข้าใจง่ายที่สุด ฯลฯ
คอนเทนต์ผสานช่องโหว่
ยิง Ad แล้วก็อย่าลืมมาทำหน้าบ้านของคุณให้พร้อมด้วย เนื่องจากคุณมีสินค้าหลากหลาย การจะทำให้ลูกค้ารู้ได้ว่าในเพจของคุณมีสินค้าหมวดไหนขายอยู่บ้างคงเป็นเรื่องยากแต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ “คอนเทนต์” จะเป็นเสมือนกาวที่มาเชื่อมเอาความแตกต่างของสินค้าต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน คุณอาจลองดูก่อนว่ามีสินค้าที่ต่างหมวดอันไหนบ้างที่นำมาจับคู่กันได้ แล้วก็ทำเป็นคอนเทนต์โปรโมชั่นต่างๆ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าสนใจ หรืออาจจะทำเป็นคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวข้องกับหมวดหมู่ต่างๆ ของสินค้า สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำอย่างประจำเมื่อลูกค้าที่เห็นโฆษณาของคุณคลิกเข้ามาหน้าเพจแล้วพวกเขาก็จะรู้เองว่าเพจของคุณขายอะไรอยู่บ้าง
มีวิธีเก็บข้อมูลที่หลากหลาย
ถ้ามีสินค้าเยอะมาก หลากหลายมากจริงๆ เราแนะนำให้คุณมีหน้าเว็บเพื่อที่จะเป็นแหล่งข้อมูลสินค้าและใช้สำหรับเก็บข้อมูลต่างๆ ของลูกค้าได้อีกด้วย ประโยชน์ของการมีเว็บไซต์นอกจากที่กล่าวมาแล้วนั้น ก็คือมันสามารถให้คุณติด Track ด้วย Code ของ Facebook Pixel ที่จะช่วยให้โฆษณาที่คุณทำนั้นแม่นยำด้วยการนำข้อมูล (Data) ที่เก็บได้จากคนที่เข้ามาในเว็บไซต์ มาสร้างเป็นกลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเอง (Custom Audience) นอกจากการเก็บข้อมูลด้วยหน้าเว็บแล้ว คุณอาจจะมีการยิงโฆษณาที่เป็น Lead Generation ที่มีฟอร์มให้ลูกค้ากรอกข้อมูลโดยแลกกับโปรโมชั่นของสินค้าต่างๆ อย่างเช่นที่ธุรกิจอสังหาฯ ชอบทำกัน เช่น “ลงทะเบียนตอนนี้ ฟรีค่าโอน” ฯลฯ เท่านี้คุณก็รู้แล้วว่าใครกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มของสินค้าไหน เป็นต้น
การที่ทำเพจขึ้นมาเพจนึงแล้วขายของหลายๆ อย่างพร้อมกันนั้นไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด แต่คุณต้องยอมรับถึงความยากและความต้องการการจัดการที่รอบคอบ เพราะถ้าคุณปล่อยปะละเลยเมื่อไหร่ความวุ่นวายจะมาเยือน ดังนั้นถ้าจะให้เราแนะนำหากต้องการขายสินค้าหลากหลายนั้นย่อมทำได้ แต่ควรจะเป็นสินค้าในหมวดหมู่เดียวกันหรือใกล้เคียงกัน อาทิ คุณอยากขายสินค้าแฟชั่น แต่ไม่ได้มีแค่เสื้อผ้าอย่างเดียวแต่กลับมาทั้งรองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ ฯลฯ ซึ่งทุกๆ อย่างก็อยู่ในหมวดของความเป็นแฟชั่น การทำโฆษณา ทำคอนเทนต์จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะให้คนเข้าใจได้ว่า “เพจนี้ขายสินค้าแฟชั่นนะ” นั่นเอง