หนึ่งในฟีเจอร์ยอดนิยมที่หลายคนยังอาจไม่เคยใช้ “ร้านค้า” หรือ Shop ในเพจ Facebook โดยเครื่องมือนี้อำนวยความสะดวกทั้งคนทำเพจและลูกค้าที่ต้องการเห็นสินค้า ราคา และกดซื้อได้อย่างรวดเร็ว หากคุณยังไม่เคยใช้แท็บร้านค้ามาก่อนและในเพจของตัวเองไม่มี สามารถเข้าไปเปิดได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
- เข้าไปที่หน้าเพจ
- เลือกการตั้งค่า
- แก้ไขเพจ
- เพิ่มแท็บ
ถ้าถึงขั้นตอนนี้แล้วไม่มีแท็บร้านค้าให้เลือก แสดงว่าคุณใช้เทมเพลตที่ไม่มีแท็บนี้ ให้ทำการเปลี่ยนเทมเพลตตรงหน้าแก้ไขเพจซึ่งเทมเพลตที่มีแท็บร้านค้าก็จะมี Shopping, Services และ Video Page แต่หากคุณใช้แท็บร้านค้านี้อยู่แล้ว วันนี้เราก็จะนำเทคนิคการจัดร้านค้าบนเพจให้ชวนเชิญคนเข้ามาซื้อสินค้า ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง
จัดหมวดหมู่สินค้า
ก่อนที่คุณจะมานั่งจัดการร้านค้าที่สะเปะสะปะอยู่ให้แบ่งหมวดหมู่สินค้าก่อนว่าจะมีอะไรบ้าง แต่ถ้าเป็นธุรกิจที่มีสินค้าไม่กี่ตัว ตรงข้อนี้ก็ข้ามไปได้เลย การจัดหมวดหมู่ว่าสินค้าไหนจะอยู่ในหมวดอะไรจะช่วยให้ลูกค้าค้นหาสินค้าได้ง่ายขึ้น เพราะในร้านค้าสามารถสร้างลิสต์รายการสินค้าให้แยกเป็นหมวดหมู่ได้ เช่นถ้าคุณขายอุปกรณ์ไอที อาจจะแบ่งเป็นลิสต์อย่าง โทรศัพท์มือถือ ทีวี เครื่องเล่นเพลง ฯลฯ จากนั้นคุณก็แค่อัปโหลดรูปภาพของสินค้าแต่ละชิ้นพร้อมรายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วน
ทุกมุมสิดีกว่า
ภาพนี่แหละคือสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าสนใจซื้อสินค้าของเรา แต่การลงรูปแค่มุมเดียวอาจทำให้เสียโอกาสไปได้ไม่น้อย และฟีเจอร์ร้านค้านี้เฟซบุ๊กก็อนุญาตให้คุณลงภาพสินค้าได้หลายๆ มุมต่อหนึ่งชิ้น ทีนี้คุณก็แค่ถ่ายภาพสินค้าทุกๆ มุมเพื่อให้ลูกค้าได้เห็นภาพรวมมากที่สุด โดยสิ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาดคือความคมชัดของรูปภาพ ยิ่งสินค้าคุณดูดีมากเท่าไรโอกาสขายได้ก็มากเท่านั้น
ใส่ราคาให้ชัดเจน
พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ส่วนใหญ่มักเลือกที่จะปกปิดราคาเพื่อให้ลูกค้าทักไปถามเอง แต่การทำเช่นนั้นบนเฟซบุ๊กคุณอาจจะสูญเสียลูกค้าไปเลยก็ได้ เพราะใช่ว่าจะมีแค่ร้านคุณที่ขายของเหล่านั้น เราจึงแนะนำให้คุณใส่ราคาสินค้าให้ชัดเจนและถ้ามีส่วนลดหรือโปรโมชั่นลดราคาอยู่ก็สามารถใส่ได้ในร้านค้าบนเพจเช่นเดียวกัน
อัปเดตสินค้าให้ใหม่เสมอ
เราเข้าใจว่าการอัปเดตร้านค้านั้นค่อนข้างใช้เวลามาก ยิ่งคุณมีสินค้าใหม่ในปริมาณมาก แต่เชื่อเถอะว่าถ้าคุณอัปเดตสินค้าให้ใหม่อยู่เสมอ ลูกค้าจะรู้สึกถึงความแปลกใหม่ เข้ามาเพจคุณได้แบบไม่มีเบื่อแล้วอาจมีการจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมกับสินค้าเก่าๆ ที่เอามาจัดเป็นแพ็คคู่ลดราคาก็ดึงดูดลูกค้าได้อย่างดีเลย
พยายาม Tag สินค้าทุกครั้ง
เวลาลงคอนเทนต์หน้าเพจคุณสามารถ Tag เอาสินค้าที่อาจจะอยู่ในภาพ หรือเป็นคอนเทนต์ที่กำลังพูดถึงสินค้าประเภทนั้นอยู่ได้ การทำเช่นนี้จะช่วยให้คนที่อ่านคอนเทนต์ของคุณเห็นว่าคุณก็มีสิ่งที่พวกเขาอ่านขายอยู่ด้วยเพียงแค่นี้ก็ถือเป็นโอกาสชั้นดีที่จะให้พวกเขาตัดสินใจเป็นลูกค้าของคุณแล้ว
มีหลายคนสงสัยว่า “อ้าว แล้วถ้าฉันทำธุรกิจเป็นบริการล่ะต้องทำอย่างไร” สำหรับธุรกิจบริการนั้นเราแนะนำให้ใช้เทมเพลต Services โดยเทมเพลตนี้จะมีแท็บไว้ให้คุณใส่บริการของคุณพร้อมคำอธิบาย โดยความเจ๋งอยู่ตรงที่คุณสามารถใส่ราคาเหมือนร้านค้าแต่พิเศษกว่าคือสามารถใส่ระยะเวลาการให้บริการได้อีกด้วย ถ้าคุณทำธุรกิจโรงแรม สปา บริการล้างรถ หรืออื่นๆ ฟีเจอร์นี้คือคำตอบที่คุณมองหา