กลายเป็นปัญหาที่เจอบ่อยจนเอือมระอากับการทำโฆษณาบน Facebook เสียแล้ว กับการที่โฆษณาที่เคยทำเมื่อก่อนนั้นดีมากๆ วันนี้ก็ทำเหมือนเดิมทุกอย่างทั้งกลุ่มเป้าหมายเอย งบเอย โลเคชั่นเอย แม้แต่ลักษณะของคอนเทนต์ที่ใช้ก็ทำเหมือนเดิม แต่ทำไมนะ ทำไมมันถึงกลับแย่ลงเรื่อยๆ จากเมื่อก่อนคนทักวันนึงนับร้อย วันนี้มาแค่สิบคนก็ดีใจแล้ว…
สิ่งที่เราอยากจะบอกคุณคือ ปัญหามันอยู่ตรงที่คุณ “ทำทุกอย่างเหมือนเดิม” นี่ล่ะ ลองคิดตามง่ายๆ หากคุณเป็นคนที่ถูกยิงโฆษณามาถึง คุณเห็นโฆษณาแบรนด์เดิม กราฟิกแบบเดิม คอนเทนต์ก็เหมือนเดิมทุกๆ วัน เป็นคุณคุณจะเบื่อมั้ย? สิ่งที่เราแนะนำอยู่เสมอคือการ Optimize หรือการปรับปรุงโฆษณาอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่เรื่องคอนเทนต์แต่รวมถึงเรื่องการกำหนดกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ด้วย ทีนี้หากอยากทำ Ad ให้กลับมาปังอีกล่ะก็ ไปดูเทคนิคเหล่านี้กัน
- ปรับทัศนคติกันสักหน่อย
ก่อนจะไปถึงเทคนิคขั้นตอนต่างๆ อยากจะขอพูดคุยสักนิดถึงเรื่องความเชื่อแบบผิดๆ ที่ว่า อะไรที่เคยดีเมื่อคราวก่อน ทำครั้งนี้มันก็จะดีเหมือนเดิม จริงอยู่ถ้าคุณทำซ้ำสักครั้งสองครั้งมันก็อาจจะยังดีแต่ถ้ามากกว่านั้นมันก็คนละเรื่องกันเลย เพราะปัจจุบัน Facebook เองมีระบบการจัดการโฆษณาที่ฉลาดขึ้นมาก
ระบบจะรู้ทันทีว่าลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายที่คุณใช้พวกเขาในการยิงโฆษณาไปหากำลังได้รับโฆษณาจากคุณมากเกินไป หรือซ้ำซากบ่อยครั้งมากแค่ไหน เมื่อเป็นเช่นนั้นระบบก็จะกันโฆษณาของคุณไม่ให้ถึงกลุ่มคนเหล่านั้น ผลลัพธ์ก็คือค่าโฆษณาของคุณก็จะค่อยๆ สูงขึ้นแลกกับผลตอบรับที่ต่ำลงเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดโฆษณาที่เคยรุ่งก็ร่วงดังที่เราเห็นคนบ่นกันมากมาย
- เสาะหาความสนใจใหม่ๆ
หากคุณใช้ Interest ในการยิง Ad ล่ะก็ ควรจะทดสอบกับความสนใจใหม่ๆ อยู่เสมอ อาจใช้เครื่องมือ Audience Insight เป็นตัวช่วยศึกษาความสนใจและทำเป็นกลุ่มเป้าหมายเก็บไว้หลายๆ อันเพื่อสลับใช้ ไม่แนะนำให้ใช้กลุ่มความสนใจเดิมซ้ำเป็นเวลานานๆ เพราะก็จะเข้าสู่กระบวนการเดิมดังข้อ 1 คือกลุ่มคนเดิมๆ จะเห็นโฆษณาของคุณซ้ำๆ ประสิทธิภาพของ Ad นั้นก็จะหายไปในที่สุด
- ลองยิงกลุ่มเป้าหมายแบบอื่นบ้าง
กลุ่มเป้าหมายใน Ads Manager ไม่ได้มีแค่ Interest อย่างเดียวซะหน่อย ลองใช้พฤติกรรม (Behavior) หรือข้อมูลประชากร (Demographic) ในการยิงโฆษณาดูบ้างก็ได้ หรือไม่ก็เอาทั้งสามอันมาผสมผสานสร้างเป็นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะของคุณเก็บไว้ทำ A/B Test ให้กับโฆษณา (การทดสอบโฆษณา ยังคงเป็นสิ่งที่เราแนะนำอยู่เสมอ)
เพราะถ้าพูดกันตามความเป็นจริงหากยังไม่ลองก็ไม่รู้หรอกว่ากลุ่มไหนมันเวิร์กหรือไม่เวิร์ก คุณอาจจะกำหนดกลุ่มเป้าหมายด้วยความสนใจและกำหนดให้แคบลง (Narrow Down) ด้วยข้อมูลประชากรหรือพฤติกรรมผู้บริโภคก็ได้ วิธีนี้จะช่วยทำให้ Ad ของคุณทรงประสิทธิภาพมากขึ้น
- เปลี่ยนวัตถุประสงค์บ้างหรือยัง
วัตถุประสงค์การทำโฆษณาก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้โฆษณาของคุณวิ่งช้าลง การใช้แต่วัตถุประสงค์เดิมๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับการใช้กลุ่มเป้าหมายเดิมๆ เลยแม้แต่น้อย เพราะโฆษณาที่ปล่อยไปก็จะไปสู่จุดเดิมซ้ำๆ ลองเปลี่ยนไปใช้ วัตถุประสงค์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยใช้ดูบ้าง หรือไม่ทำโฆษณาครั้งนึง ก็ลองใช้หลายๆ กลุ่มเป้าหมาย หลายๆ วัตถุประสงค์ไปพร้อมๆ กันก็ได้ จะได้ถือเป็นการทดสอบโฆษณาของคุณด้วยว่า ณ ปัจจุบันนั้นต้องยิง Ad แบบไหนถึงจะเวิร์ก ขอย้ำอีกครั้งว่าทำครั้งนี้เวิร์กก็ไม่ได้หมายความว่าครั้งต่อไปจะเป็นเหมือนเดิม ดังนั้นสลับๆ ทำให้เหมาะตามช่วงเวลาถือว่าดีที่สุด
- ของเขาดี ไม่ได้หมายความว่าของเราจะดีด้วย
ไม่ต้องมองไปที่คนอื่นหรอก บางครั้งเรายิงแอดพร้อมกันสองตัวกำหนดทุกอย่างเหมือนกันผลลัพธ์ยังต่างกันเป็นคนละโลกเลยก็มี นั่นเป็นเพราะระบบ Facebook จะทำการคำนวนโฆษณาของคุณอัตโนมัติเราจึงไม่สามารถรู้ได้เลยว่าโฆษณาตัวแรกกับตัวที่สองจะไปหาคนคนเดียวกัน หรือแยกกันไปคนละทิศคนละทางเพราะมันก็เป็นได้ทั้งสองอย่าง เราจึงแนะนำให้คุณทำการทดสอบไปเรื่อยๆ ทอดลองใช้เทคนิคใหม่ๆ เล่นหลายๆ ทางเพื่อที่โฆษณาของคุณจะได้ไม่ตันและยังเปิดโอกาสให้กับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้รู้จักคุณอีกด้วย
เหตุที่เราจำเป็นต้องย้ำนักย้ำหนาให้คุณทำการทดสอบโฆษณากลุ่มต่างๆ ที่ทำ หรือที่ศัพท์ทางการตลาดเรียกกันว่า A/B Testing นั้นก็เป็นเพราะการทำการตลาดออนไลน์มันไม่มีสูตรสำเร็จ ทุกคนล้วนต้องหาแนวทาง กลุ่มเป้าหมาย ไปจนถึงวิธีการของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นการทดสอบบ่อยๆ จะช่วยให้คุณรู้ว่าวิธีไหนคือหนทางที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ