ในโลกธุรกิจทุกวันนี้ มีโอกาสน้อยมากที่สินค้าที่คุณขายจะไม่ซ้ำกับคนอื่น ดังนั้น ทุก ๆ ธุรกิจจึงจำเป็นต้องสู้กันที่ “เอกลักษณ์เฉพาะตัว” หรือ Unique Selling Point นั่นเอง และในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ Unique Selling Point ให้มากขึ้น พร้อมแนะนำ 3 กรณีศึกษาจากแบรนด์ดังระดับโลก ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย!
Unique Selling Point คืออะไร?
ที่มา: https://www.linkedin.com/pulse/how-pivot-your-unique-selling-proposition-during-pandemic-zeev-wexler
Unique Selling Point หรือเรียกย่อ ๆ ว่า USP หมายถึง จุดขายที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณแตกต่างกับคู่แข่ง และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า จนพวกเขาต้องนึกถึงคุณก่อนทุก ๆ แบรนด์ ทั้งนี้ คุณสามารถชูจุดเด่นด้านไหนเป็น Unique Selling Point ก็ได้ ทั้งราคา ปริมาณ คุณภาพวัตถุดิบ เรื่องเล่าเบื้องหลัง (Story) บริการหลังการขาย หรือแม้แต่การใช้ฟรีเซ็นเตอร์เพื่อสร้างภาพจำบางอย่าง เป็นต้น
คุณสมบัติของ Unique Selling Point ที่ดี
ดังที่กล่าวไป แน่นอนว่าคุณสามารถดึงจุดเด่นด้านไหนมาขายเป็น Unique Selling Point ก็ได้ แต่หากอยากเพิ่มดีกรีความน่าสนใจ Unique Selling Point ของแบรนด์คุณก็ควรมีลักษณะดังนี้
- กล้าแสดงออกแต่ไม่โจมตีคู่แข่ง: สิ่งนี้อยู่ที่การนำเสนอของคุณเอง ว่าคุณจะสื่อสารให้ลูกค้ารับรู้ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ของตัวเองอย่างไร แต่เราแนะนำให้มุ่งเน้นเพียงการชูจุดเด่นของตัวเองอย่างกล้าหาญ แต่หลีกเลี่ยงที่จะโจมตีใคร ๆ
- สำรวจว่าลูกค้าให้ความสำคัญกับอะไร และมุ่งไปทางนั้น: ลองศึกษา Insights ของลูกค้า ว่าพวกเขามักให้ความสำคัญกับอะไรเวลาจะเลือกซื้อสินค้าชนิดนั้น ๆ เช่น ลูกค้าที่จะซื้อรองเท้า น่าจะดูเรื่องความทนทาน วัสดุที่ใช้ และดีไซน์เป็นสำคัญ เมื่อได้ข้อมูลทางสถิติที่แน่ชัดมาแล้ว จึงค่อยเลือกชู Unique Selling Point ที่สอดคล้องกับข้อมูล
- ชูจุดเด่นที่เป็นมากกว่าสโลแกน: การคิดถ้อยคำที่สวยหรู คล้องจอง อาจเป็นประโยชน์ในแง่ของการโฆษณา แต่ถ้าจะให้ดี อย่าลืมสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจว่า จุดเด่นของคุณเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาอย่างไร หรือซื้อสินค้าของคุณแล้วจะได้อะไรมากกว่าแบรนด์อื่น เป็นต้น
3 Case Study เรื่อง Unique Selling Point จากแบรนด์ระดับโลก
เพื่อให้คุณมองเห็นภาพมากขึ้นว่า แบรนด์ของตัวเองจะสามารถเอาชนะคู่แข่งด้วย Unique Selling Point ได้อย่างไร Digital Tips จึงรวบรวม 3 Case Study ที่น่าสนใจมาให้ ลองอ่านแล้วนำไปปรับใช้ได้เลย!
Canva
Canva แพลตฟอร์มออกแบบกราฟิกออนไลน์ ที่มุ่งทำให้ทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจคิดว่า “ทุกคนสามารถออกแบบงานกราฟิกดี ๆ ด้วยตัวเองได้” เพียงแต่ต้องมีเครื่องมือที่ชาญฉลาดและตอบโจทย์การใช้งานมากพอ ซึ่ง Canva เอง ก็ตอบสนองความต้องการนั้นได้อย่างดี ภายใต้สโลแกนที่ชูโรงเป็น Unique Selling Point ว่า “Empowering the world to design” หรือ “เสริมพลังในการออกแบบให้แก่โลก”
ที่มา: https://madisonslibrary.com/2022/09/22/technology-canva-for-school-library-staff/
จะเห็นได้ว่า สโลแกนนี้ที่ Canva เลือกใช้ ไม่ได้มีรูปประโยคที่ยาวและเข้าใจได้ยาก แต่กลับอธิบายสิ่งที่ Canva มุ่งที่จะทำได้อย่างครอบคลุม เพราะนอกจากจะได้อ่านประโยคนี้ทันทีบน Landing Page แล้ว ผู้ใช้งานก็สัมผัสได้ด้วยตัวเองผ่าน UX และ UI ที่เรียบง่าย ภาพสต็อค และเวคเตอร์ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ว่า Canva ใช้งานง่ายเพียงใด และสามารถช่วยพวกเขาทำงานได้จริง ๆ
Starbucks
คนจำนวนมากที่เดินเข้าไปสั่งกาแฟใน Starbucks อาจไม่ได้ต้องการดื่มด่ำกับรสชาติเข้มข้นของกาแฟ หากแต่ต้องการเสพบรรยากาศ หรือแสวงหาพื้นที่อบอุ่นแสนสบายใจ นั่นเพราะพวกเขารู้ดีว่า “พวกเขาสามารถคาดหวังกับ Starbucks มากกว่าแค่การซื้อกาแฟได้” ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลพวงจากความสำเร็จของแบรนด์ ที่นำเสนอสโลแกน “Expect more than coffee” หรือ “คาดหวังมากกว่ากาแฟ” เป็น Unique Selling Point
ยิ่งไปกว่านั้น กลยุทธ์ของ Starbucks ยังถือได้ว่า “ทำถึง” เพราะพวกเขาวางรากฐานมาดีตั้งแต่การอบรมพนักงานบริการ การจัดสภาพแวดล้อมของร้าน ไปจนถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ โซฟา ปลั๊กไฟ ไวไฟ ฯลฯ ลูกค้าจึงสัมผัสได้ว่า Starbucks เป็นมากกว่าร้านกาแฟ และมอบความไว้วางใจให้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ไปเยือน
IKEA
เมื่อพูดถึงร้านขายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน IKEA ก็มักเป็นร้านแรก ๆ ที่คนนึกถึงเสมอ ด้วยการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ และการบริการที่เหนือระดับ ภายใต้ Unique Selling Point ว่า “To create a better everyday life for the many people” ซึ่งสะท้อนถึงสิ่งที่ IKEA ทำได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น การจัดวางสินค้าในร้านให้เป็นภาพแทนของบ้านแต่ละสไตล์ เพื่อเป็นไอเดียให้ลูกค้าสามารถจินตนาการได้ว่า อยากตกแต่งบ้านของตัวเองให้ออกมาเป็นแบบใด นอกจากนี้ IKEA ยังมุ่งนำเสนอสินค้าคุณภาพดีในราคาย่อมเยา โดยยึดประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นที่ตั้งอีกด้วย
สรุป
โดยสรุปแล้ว หากแบรนด์ของคุณอยากเอาชนะคู่แข่งด้วย Unique Selling Point ต้องทำ 2 สิ่งประกอบกัน ได้แก่ การคิดสโลแกนให้สั้น กระชับ เข้าใจง่าย และครอบคลุมในสิ่งที่แบรนด์มุ่งหวัง ประกอบกับการทำให้ลูกค้าเห็นอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ การจัดตกแต่งหน้าร้าน หรือการตั้งราคา เป็นต้น
อ้างอิง
Popupsmart. Unique Selling Proposition Examples That Attract Millions
Available from: https://popupsmart.com/blog/unique-selling-proposition-examples
Shopify. Win Sales With a Unique Selling Proposition + 9 Examples
Available from: https://www.shopify.com/blog/unique-selling-proposition