ถ้าจะเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ คำถามนี้คงน่าปวดหัวไม่ต่างจากคำถามที่ว่า “ไก่ กับ ไข่ อะไรเกิดก่อนกัน” ที่จริงสิ่งนี้ก็ไม่ได้เป็นคำถามโลกแตกอะไรขนาดนั้นแต่ที่น่าปวดหัวคงเป็นเพราะความเข้าใจผิดของใครหลายคนว่าระบบโฆษณาของ 2 แพลตฟอร์มนี้สามารถใช้แทนกันได้ ทำแค่อย่างเดียวก็พอแล้วซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ความคิดที่ผิดแต่ก็ไม่ถูกซะทีเดียว วันนี้เราจึงจะมาไขข้อสงสัยถึงเรื่องที่ว่าทำโฆษณาบน Facebook กับ Google อันไหนดีกว่ากัน
ธุรกิจดูเหมือนจะคล้ายกัน แต่ก็ต่างกัน
สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจเลยคือ 2 แพลตฟอร์มนี้มีแนวทางการทำธุรกิจต่างกัน เขาไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ได้มีผลประโยชน์ร่วมกันหรือจะให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เขาเป็นคู่แข่งกันเสียด้วยซ้ำ โดย Facebook คือธุรกิจแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ให้คนเข้ามาใช้แบบฟรีๆ ใช้สำหรับแชร์เรื่องราว สร้างสังคมรวมถึงสร้างธุรกิจผ่านระบบต่างๆ เช่น เพจ กรุ๊ป เป็นต้น แต่ Google เป็นธุรกิจ Search Engine หรือบริการค้นหาข้อมูลที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตด้วยการใส่คำค้นหา (Search) ไม่ว่าจะเป็นทั้งบนเว็บไซต์ หรือ Youtube ที่เอาไว้ค้นหาวิดีโอจากทั่วทุกมุมโลก
รูปแบบการทำโฆษณาบน Facebook
Facebook ยิงโฆษณาด้วยความสนใจ พฤติกรรมผู้ใช้ ข้อมูลประชากร ฯลฯ รูปแบบการซื้อโฆษณาบน Facebook นั้นผู้ใช้จะต้องเป็นคนกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ เลือกความสนใจที่มีอยู่ในระบบให้ตรงมากที่สุด สร้างโฆษณาได้หลากหลายรูปแบบ สามารถยิงไปได้ทั้งบนเฟซบุ๊กเอง เว็บไซต์ต่างๆ รวมถึงใน Instagram ด้วย
รูปแบบการทำโฆษณาบน Google
Google จะใช้ระบบการทำโฆษณาด้วยคำค้นหา (Keyword) โดยรูปแบบของโฆษณาก็มีหลากหลายเช่นกัน มีตั้งแต่โฆษณาที่เป็นทำให้ลิงก์ขึ้นเป็นอันดับแรกหลังจากค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดที่ตั้งไว้ (Google Ads) โฆษณาแบบเบนเนอร์ที่จะไปขึ้นบนเว็บไซต์ต่างๆ ทั่วโลก (GDN) และโฆษณาวิดีโอที่จะไปขึ้นใน Youtube เป็นต้น
แล้วเป็นคู่แข่งกันได้ยังไง?
ถ้าทางตรงนั้นแทบจะไม่มีอะไรทับซ้อนกันระหว่าง Facebook กับ Google แต่ทั้งสองธุรกิจต่างดำเนินงานบนอินเทอร์เน็ตและมีระบบซื้อโฆษณาเพื่อให้ธุรกิจต่างๆ ได้เข้ามาใช้บริการเหมือนกัน ทาง Google ก็มีหลากหลายบริการหนึ่งในนั้นคือ Youtube และ Google My Business ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากเหล่าเจ้าของธุรกิจไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Youtube นั่นจึงทำให้ Facebook พยายามจะปั้นแพลตฟอร์มของตัวเองให้เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่คนมาอัปโหลดวิดีโอลงไป สร้าง Video Content ต่างๆ ไม่ต่างจาก Youtube ด้วยการให้คะแนนคอนเทนต์ประเภทวิดีโอสูงกว่าคอนเทนต์แบบอื่น ซึ่งก็ถือว่าที่ผ่านมาพวกเขาทำได้ดีเลยทีเดียว
ไม่มีคำว่าดีกว่า
การทำธุรกิจออนไลน์ที่อาศัยแพลตฟอร์มเหล่านี้นั้นจะบอกว่าอันนั้นดีกว่า อันนั้นไม่ดีคงเป็นไปไม่ได้เพราะการทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จได้อย่างมั่นคงคือการทำหลายช่องทางไปพร้อมๆ กัน ไม่เจาะจงไปเฉพาะทางใดทางหนึ่งเพียงอย่างเดียว อย่างเช่น ขายใน Facebook ก็จะทำแต่แฟนเพจ จริงอยู่ว่าคุณอาจขายได้ ขายดี แต่ระยะยาวอาจไม่เป็นเช่นนั้นเพราะ Facebook จะไม่หยุดปรับ Algorithm ให้คนยิ่งเห็นโพสต์จากเพจน้อยลงไปอีกและกลุ่มลูกค้าก็จะแคบปิดโอกาสตัวเองไม่ให้เจอลูกค้าใหม่ๆ ทว่าหากจำเป็นต้องเลือกทำจริงๆ ให้ดูว่าโฆษณาของแพลตฟอร์มไหนเหมาะกับธุรกิจคุณมากกว่าจะดีกว่า
จะรู้ได้ไงว่าธุรกิจตัวเองเหมาะกับการทำโฆษณาแบบไหน
ให้ดูว่าวัตถุประสงค์ของการทำโฆษณาของคุณนั้นทำเพื่ออะไร ใครคือกลุ่มเป้าหมาย และวิธีการที่จะใช้นั้นคืออะไร อย่างเช่นหากคุณต้องการใช้เรื่องของความสนใจเป็นเกณฑ์หลักในการซื้อโฆษณาก็ให้เลือกใช้ Facebook แต่ถ้าหากคุณเน้นไปในเรื่องของคีย์เวิร์ด อยากยิงโฆษณาไปหากลุ่มคนที่ชอบค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณก็ให้หันไปเลือกใช้ Google ก็จะได้กลุ่มคนที่ตรงตามความต้องการของคุณมากกว่านั่นเอง