เราเคยพูดถึงเรื่อง Aspect Ratio หรือสัดส่วนของวิดีโอในแต่ละขนาดไปแล้วคุณสามารถหาย้อนอ่านได้ในบทความของเรา แต่หลายครั้งที่จะให้มานั่งทำวิดีโอเดียวหลายๆ ขนาดเพื่อจะลงได้ทั้ง Youtube, Facebook ที่เป็นวิดีโอสี่เหลี่ยมจตุรัสกับแนวนอนและ IGTV, IG Stories ที่เป็นวิดีโอแนวตั้งคงเป็นอะไรที่วุ่นวายไม่น้อย วันนี้เราจึงจะมาบอกวิธีการทำคลิปตั้งแต่เรื่องการถ่าย การทำคลิปให้เหมาะสมสำหรับแต่ละแพลตฟอร์ม ไปดูกันว่าต้องทำอย่างไรกันบ้าง
ถ่ายจุดสำคัญให้อยู่ตรงกลางเสมอ
หากคุณไม่อยากทำวิดีโอหลายไฟล์เพื่อลงในแต่ละช่องทางโซเชียลที่มี แนะนำให้ทำไซต์มาตรฐาน (แบบแนวนอน) เพียงคลิปเดียวเพื่อนำไปโพสต์ต่อได้ โดยการที่คุณถ่ายจุดสำคัญเอาไว้กึ่งกลางนั้นเวลานำไปอัปโหลดลง IG Story ระบบจะครอปวิดีโอของคุณให้อยู่กึ่งกลางโดยอัตโนมัติ เมื่อจุดสำคัญของวิดีโอของคุณอยู่กึ่งกลางพอดีก็จะทำให้สาระสำคัญหรือเนื้อหาบนวิดีโอไม่ถูกทำลายไป
ลองใช้กล้อง 2 ตัวถ้าเป็นไปได้
ในเมื่อไม่อยากต้องมานั่งตัดต่อ ขยับสัดส่วนให้เสียเวลาก็ถ่ายมันพร้อมๆ กันเลยกล้อง 2 ตัว อาจจะใช้กล้องหลักสำหรับถ่ายวิดีโอแนวนอนแล้วใช้มือถือถ่ายแนวตั้งไปพร้อมๆ กันก็ได้ แต่เวลาตัดต่อนั้นคุณก็ต้องทำ 2 ครั้งเช่นเดิมดังนั้นวิธีนี้แนะนำให้ใช้กับวิดีโอที่ไม่ต้องการการตัดต่อ อาจจะถ่ายสั้นๆ แล้วลงได้เลยคุณก็จะได้วิดีโอสวยๆ เต็มจอทั้งแนวตั้งแนวนอน
ลงวิดีโอแนวตั้งใน Youtube ได้มั้ย
ได้แน่นอน แต่สิ่งที่คุณจะได้เห็นก็คือขอบสีดำ (หากรับชมบนคอมพิวเตอร์หรือจอที่เป็นแนวนอน) แต่ถ้าหากคุณไม่ได้สนใจกับเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะลงวิดีโอแนวตั้งใน Youtube แต่ความสวยงามของวิดีโอก็อาจลดน้อยลงเวลารับชมบนจอภาพแนวนอน
ทำ Subtitle แบบฝังลงบนวิดีโอ
เพราะระบบคำบรรยายบน Youtube กับ Facebook จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย จริงอยู่ที่คุณสามารถดาวน์โหลดไฟล์ Subtitle ได้จาก Youtube แต่ความสวยงามและคมชัดก็อาจจะไม่ได้ตามต้องการ เราแนะนำว่าถ้าเป็นไปได้คุณควรทำคำบรรยายวิดีโอแบบฝังเข้าไปในคลิปเลย (วิธีทำนั้นอาจต้องอาศัยผู้มีความรู้ในโปรแกรมตัดต่อ) ทีนี้จะดูที่ไหนก็จะเห็นตัวคำบรรยายชัดเจน ขนาดไม่ผิดเพี้ยนแล้ว
ไม่ต้องชัดเกินไป
ภาพชัดๆ สวยๆ แน่นอนว่ามันดีอยู่แล้ว แต่สำหรับโซเชียลมีเดียที่คนส่วนใหญ่ดูคลิปในมือถือนั้นความคมชัดจึงเป็นเรื่องรองลงไปเพราะคนต้องการดูวิดีโอที่โหลดเร็วๆ มากกว่า ดังนั้นตอนถ่ายหรือตอน Export ไฟล์วิดีโอออกมาก็ปรับคุณภาพให้คมชัดแบบปกติเพื่อที่เวลาจะอัปโหลดจากมือถือจะได้ไม่ต้องเสียเวลามากและคนที่เข้ามาชมคลิปก็ยังได้ดูวิดีโอที่ชัดอยู่แต่ไม่ต้องเสียเวลาดาวน์โหลดเท่าวิดีโอที่ชัดระดับ 4k เป็นต้น
สรุปคือจริงๆ แล้วคุณจะลงวิดีโอแนวนอนใน IG Stories แนวตั้งใน Facebook หรือ Youtube และจะด้วยวิธีใดก็แล้วแต่ สิ่งเหล่านี้สามารถทำได้และไม่ใช่เรื่องผิดด้วยแต่ที่เราแนะนำให้คุณทำวิดีโอเพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละโซเชียลมีเดียที่มีนั้นเพื่อที่เวลาลูกค้าหรือคนที่ติดตามเข้ามาดูเขาจะได้รับชมวิดีโอที่พอดีกับหน้าจอ เรื่องนี้สำคัญตรงที่ยิ่งคุณทำวิดีโอที่นำเสนอเรื่องราว พูดถึงสิ่งที่อยากจะสื่อได้ชัดเจนเท่าไหร่ ผู้ชมมักจะให้การตอบรับเป็นอย่างดี ดังนั้นอาจจะต้องทำความเข้าใจกับเรื่องของขนาด สัดส่วน วิธีการนำเสนอวิดีโอสักเล็กน้อยแต่เชื่อเถอะว่ามันไม่ใช่เรื่องยากและไม่ไกลตัวคุณเลย