ใครๆ ก็พูดว่าเวลานี้ต้องวิดีโอสิกำลังมา แต่ไม่เคยมีใครมาบอกว่าไอ้ที่ว่ามาเนี่ย ต้องเป็นวิดีโอแบบไหนเนื้อหาเป็นอย่างไร แล้วต้องถ่ายยังไงต้องจริงจังระดับโปรดักชั่นภาพยนต์เลยมั้ย เพราะการจะทำให้คนได้ดูนั้นว่ายากแล้ว การจะทำให้พวกเขาชื่นชอบจนกดไลก์ แชร์ไปจนสุดที่ปิดการขายนั้นยากยิ่งกว่า วันนี้เราจึงรวบรวมเอาเทคนิคต่างๆ ในการทำคอนเทนต์วิดีโอสำหรับแบรนด์สินค้าให้ถูกใจชาวโซเชียลมาฝากกัน
เริ่มเล็กๆ จะได้ไม่เจ็บมาก
คนส่วนมากมักคิดเยอะ คิดไปไกลกับการถ่ายวิดีโอ “ฉันต้องมีกล้องสิ ขาตั้งกล้องก็ต้องมี ไหนจะไมค์อีก แล้วต้องตัดต่อยังไงทำไม่เป็น” ฯลฯ คำถามเหล่านี้เมื่อถูกถาโถมเข้ามาสุดท้ายความคิดที่จะถ่ายวิดีโอก็ถูกพับเก็บเข้าลิ้นชักไป เพราะด้วยเหตุผลว่า “ไม่พร้อม” แน่นอนมันไม่ใช่เรื่องผิดหากคุณต้องการลงทุนครั้งเดียวเพราะอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านั้นคุณสามารถใช้ทำมาหากินได้อีกยาว แต่สำหรับใครที่เริ่มทำแบรนด์สินค้าด้วยตัวเองและไม่อยากต้องเจ็บมากกับค่าอุปกรณ์แสนแพงอย่างกล้อง อุปกรณ์เสริม ทีมงาน ค่าบำรุงรักษาและอื่นๆ ล่ะก็ “โทรศัพท์มือถือ” ที่คุณใช้อยู่ทุกวันนี่ล่ะคือเครื่องมือทำวิดีโอเริ่มต้นที่ดีที่สุดโดยที่คุณไม่ต้องลงทุนเพิ่มเลยแม้แต่บาทเดียว
ข้อแม้คือ ต้องเป็นโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปถ่ายวิดีโอได้ หากคุณไม่มีทักษะการถ่ายวิดีโอเลยแนะนำให้ดูเยอะๆ ลองหาดูแบรนด์อื่นๆ ที่ทำธุรกิจเดียวกับเราว่าเค้าถ่ายกันมุมไหน นำเสนอสินค้ายังไงให้น่าสนใจแล้วค่อยนำมาปรับเป็นสไตล์ของตัวเอง เมื่อทำการถ่ายทำเสร็จแล้วทีนี้จะตัดต่อยังไงล่ะ? บอกเลยว่าตอนนี้แอปฯ ฟรีในมือถือมีเยอะมากหากคุณใช้ iPhone ก็จะมีแอปฯ อย่าง iMovie ที่ตัดต่อได้อย่างสบายใช้งานง่าย หรือ Android ก็มีหลากหลายแอปฯ ให้คุณโหลดได้แบบฟรีๆ
*เรื่องวิธีการหาดนตรีแบบไม่มีลิขสิทธิ์สามารถย้อนอ่านได้ที่นี่ >>
เป็นตัวเองให้มากที่สุด
การขายสินค้าออนไลน์ ก็ไม่ได้ต่างจากการขายสินค้าตามตลาดหรือที่มีหน้าร้านเลยแม้แต่น้อย ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกซื้อของที่แม่ค้ามากกว่าสินค้าเสียอีกดังนั้นการนำเสนอเนื้อหาวิดีโอของร้านคุณที่เป็นตัวของตัวเอง หรือเป็นแบรนด์คุณที่สุดจะทำให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าไม่รู้เลยจริงๆ ว่าควรจะอัดวิดีโอขายของยังไงให้น่าสนใจ ให้ดูก่อนว่าแบรนด์สินค้าของเราอยู่ในระดับไหน ต้องการขายใครจะได้พอมองออกว่าวิดีโอที่จะทำออกมานั้นทำอย่างไรถึงจะขายของได้ เพราะถ้าคุณขายของถูกแต่ถ่ายวิดีโอที่ดูแล้วหรูหราเกินราคาคนก็อาจไม่กล้าแตะ เช่นเดียวกันถ้าคุณขายของแพงมากๆ แต่ทำวิดีโอบ้านๆ ลูกค้าที่มีกำลังซื้อก็อาจไม่เชื่อถือในแบรนด์คุณได้
แล้วแบบไหนกันล่ะที่มันน่าสนใจในโลกโซเชียลปัจจุบัน
จริงๆ การทำวิดีโอนั้นมีมากมายหลายรูปแบบโดยวิดีโอที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันมีดังต่อไปนี้
รายการ Unbox แกะกล่องรีวิวสินค้า
เขาว่ากันว่าคนเราซื้อของจะมีความสุขสุดๆ อยู่ 2 เวลา นั่นคือตอนที่จ่ายตังค์ซื้อกับตอนที่ได้แกะกล่องมัน จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมวิดีโอแกะกล่องสินค้าและรีวิวนั้นถึงได้รับความนิยมสูง สิ่งแรกเลยคือเวลาลูกค้าที่กำลังจะตัดสินใจซื้ออะไรสักชิ้นแล้วต้องการหาข้อมูลสินค้านั้นๆ จะเข้ามาดูเพื่อประกอบการพิจารณา ยิ่งถ้าคุณเป็นร้านค้าออนไลน์ที่ขายของหลากหลายการทำคลิปแกะกล่องสินค้าและรีวิว จะช่วยให้ลูกค้าอยากซื้อกับคุณมากขึ้นเพราะดูรีวิวเสร็จเขาก็ติดต่อหาคุณได้เลยโดยไม่ต้องไปนั่งหาร้านขายให้วุ่นวาย
มีสาระแต่ต้องฮา
ยิ่งคอนเทนต์สนุกเท่าไหร่ยอดไลก์ ยอดแชร์นี่ยิ่งพุ่งทะยานเพราะกระแสวิดิโอที่ดูแล้วคลายเคลียด หรือทำคอนเทนต์แนวตลกขายของนั้นทำให้สินค้าของคุณดูอารมณ์ดีไปโดยปริยาย คราวนี้จะขายยังไงให้ลูกค้าเห็นแล้วตัดสินใจซื้อก็อยู่ที่ความครีเอทีฟของคุณแล้วล่ะ เพราะเราย้ำเสมอว่าไม่มีผิดถูกขอแค่ให้เริ่มทำคุณก็มีโอกาสนำสินค้าออกไปให้ลูกค้าได้รู้จักแล้ว
ความรู้สึกจากผู้ใช้
หัวข้อด้านบนคือการให้ทางร้านรีวิวสินค้าตัวเอง แต่ถ้าจะทำให้ลูกค้าสนใจสินค้าคุณล่ะก็ลองทำคลิปวิดีโอรีวิวสินค้าจากลูกค้าที่เคยใช้สินค้าจริงแล้วประทับใจดูสิ หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Testimonial รับรองว่าถ้าลูกค้าใหม่ได้ดูจะต้องเสียเงินให้เราแน่นอน
การทำวิดีโอคอนเทนต์นั้นถือเป็นงานครีเอทีฟอย่างหนึ่งที่คงไม่มีใครตัดสินได้ว่าทำแบบนี้คือถูกหรือผิด เพียงแค่คุณทำเพราะตั้งใจที่จะทำขึ้นมาก็ถือว่าก้าวมาข้างหน้าอีกหนึ่งก้าวแล้ว ทุกอย่างล้วนต้องใช้เวลาแต่ถ้าวิดีโอของคุณติดตลาดเมื่อไหร่ล่ะก็ รายได้ที่จะเข้ามาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน