Facebook ก็ทำแล้วไม่ต้องถามถึง IG หรอกเพราะมีแน่นอน ก็มีแต่ Twitter นี่ล่ะที่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ต้องทำตรงไหนก่อน… นี่คงจะเป็นเสียงบ่นจากคนทำธุรกิจออนไลน์หลายต่อหลายคน เหตุเพราะ Twitter เพิ่งจะเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างแท้จริงเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ถ้ามองในปัจจุบัน Twitter ถือเป็นอีกหนึ่งโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้มากมายรอให้คุณได้เข้าไปกอบโกยผลกำไรอยู่มาก แต่ก่อนที่จะวู่วามเข้าไปขายของอย่างบ้าคลั่ง มาทำความรู้จักและคุ้นเคยกับ Twitter กันสักหน่อยว่าการทำงานเป็นอย่างไร แล้วลักษณะการใช้งานเหมือนหรือแตกต่างจาก Facebook มากน้อยแค่ไหน
- เริ่มกันที่กลยุทธ์ Twitter
ไม่ใช่แค่ Twitter เท่านั้นเพราะไม่ว่าจะโซเชียลมีเดียใดก็ตามการวางแผนหรือแนวทางให้มาถูกที่ถูกทางก็ช่วยให้ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก สิ่งแรกที่คุณต้องทำก่อนจะเริ่มใช้เจ้านกสีฟ้านี้ในการปั้นแบรนด์คือจะต้องมั่นใจเสียก่อนว่าคุณจะลงทุนทั้งเวลาและเงินได้อย่างคุ้มค่าสมกับเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ ดังนั้นวัตถุประสงค์และสิ่งที่คุณจะต้องวางโครงสร้างของ โปรไฟล์ Twitter สำหรับแบรนด์ตั้งแต่แรกคือ
- ใช้เพื่อดึงลูกค้าใหม่ๆ และเปิดโอกาสในการขาย
- ทำให้ลูกค้ารักในแบรนด์
- ทำให้สินค้าเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ
- ลดค่าใช้จ่ายในส่วนการบริการลูกค้า
เมื่อคุณมีเป้าหมายเหล่านี้ที่ชัดเจน สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็แค่ใช้เวลาในการทำให้ Twitter ของคุณเป็นที่รู้จักอาจจะเป็นการทวีตอยู่สม่ำเสมอหรือเกาะกระแสตาม Hashtag ที่เป็นเทรนด์ต่างๆ แต่ตรงนี้ก็ต้องระวังด้วยเพราะหากไปเกาะกระแสที่ลบมากๆ คุณอาจจะโดนกระแสตีกลับ ดังนั้นเลือกให้ดี
- สร้างโปรไฟล์ของคุณกันเถอะ
หากคุณมีโปรไฟล์ Twitter ของคุณอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องย้อนกลับมาคือให้ดูตั้งแต่ภาพโปรไฟล์ที่ใช้เลยว่าเข้ากับกลุ่มคนที่อยู่ใน Twitter หรือไม่ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตั้งแต่วัยรุ่นตอนต้นจนถึงคนทำงานรุ่นใหม่ อย่าลืมที่จะใส่ข้อมูลในส่วนของ Bio ให้ครบถ้วนและแนบลิงก์ที่จะช่วยให้ลูกค้าได้ข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อพวกเขาต้องการ (แนะนำให้ใส่เว็บไซต์ของแบรนด์ หรือช่องทางการติดต่อที่รวดเร็วที่สุด) อย่าลืมที่จะกด Verified บัญชีผู้ใช้ของคุณด้วยเพราะจะช่วยให้โปรไฟล์ของคุณดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
- เข้าใจวิธีการใช้ Hashtag
จะถือว่า Twitter เป็นสถานที่กำเนิดโลกของการใช้ Hashtag บนโซเชียลมีเดียก็ไม่ผิด สำหรับใน Twitter นี้ให้คุณใช้ Hashtag เสมือนเครื่องมือในการเก็บรวบรวมคอนเทนต์ของคุณพร้อมทั้งสร้างคอมมูนิตี้ให้ลูกค้าเพราะที่สำคัญคือ Twitter ใช้ Hashtag เป็นตัวกำหนดความนิยมอย่างที่เรามักได้ยินกันบ่อยๆ ว่า “เทรนด์ทวิตเตอร์” ซึ่งการจะทำให้ Hashtag ติดเทรนด์ได้นั้นต้องบอกว่า “ยาก” มากๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ไม่มีเทคนิคหรือวิธีการใดๆ ที่สามารถมากำหนดได้ ทุกๆ คำที่ติดเทรนด์ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้เลย ดังนั้นวิธีที่ง่ายและประหยัดที่สุดคือสร้าง Hashtag โดนๆ ไว้ให้ลูกค้าใช้ ไม่แน่ว่าเกิดสักวันหนึ่งคำๆ นั้นเป็น Viral ขึ้นมาคุณก็จะได้โปรโมทสินค้าแบบฟรีๆ
- รู้หรือไม่ว่าเมื่อไรควรโพสต์
ทุกๆ นาทีมีการทวีตกว่า 350,000 ครั้ง ด้วยความที่ Twitter วางแพลตฟอร์มของตัวเองเป็นเสมือนพื้นที่รายงานข่าว ใครมีอะไรก็สามารถอัปเดตได้อย่างเร็วๆ เน้นเป็นข้อความที่สั้น กระชับ เข้าใจง่าย จากการสำรวจพบว่า
- วันศุกร์ คือวันที่ดีที่สุดในการโพสต์คอนเทนต์
- ช่วงเวลาที่ดีที่สุดอยู่ระหว่าง 9 – 10 โมงเช้า
- เวลาที่เซฟที่สุดในการโพสต์ในทุกๆ วันคือช่วงตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึงเที่ยง
- เช้าวันอาทิตย์คือช่วงเวลาที่ไม่แนะนำ
(ข้อมูลจาก: Sproutsocial)
- เล่นในฐานะบุคคล
ไม่ว่าจะโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มไหน สิ่งนี้ล้วนสำคัญอย่างยิ่งเพราะการที่คุณใช้โซเชียลมีเดียในฐานะแบรนด์มากจนเกินไปลูกค้าจะยิ่งถอยห่างมากเท่านั้นเนื่องจากความเป็นแบรนด์นั้นพวกเขาสามารถเข้าไปเจอได้ทั้งในเว็บไซต์ หน้าร้าน หรือสถานที่ขายต่างๆ แต่ไม่ใช่กับโซเชียลมีเดีย เพราะชื่อก็บอกอยู่ว่ามันคือมีเดียสำหรับสังคมดังนั้นการที่คุณจะพาเอาสินค้าของคุณเข้ามาในสังคมของคนบนโลกโซเชียลได้ วิธีที่ดีที่สุดคือคุณต้องเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา
ถ้าคุณพอจำได้ เพจ Facebook ของ KFC, Major Cineplex, Tops Thailand ได้กลายเป็นที่พูดถึงอยู่ช่วงหนึ่ง นั่นเพราะแอดมินของแต่ละเพจนี้มีการโต้ตอบกับลูกเพจอย่างสนุกสนานประหนึ่งเพื่อนคนนึง พวกเขาจึงกวาด Awareness ไปแบบไม่ต้องซื้อโฆษณาเลยสักบาทเดียว นั่นคือสิ่งที่เราอยากให้คุณลองนำไปปรับใช้กับโปรไฟล์ Twitter ของคุณ
ในโลกปัจจุบันที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงเครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Social Media เว็บไซต์ หรือแพลตฟอร์ม ดังนั้นการที่คุณจะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักหรือประสบความสำเร็จดังฝันได้นั้น จริงอยู่ที่มันไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่การไม่หยุดอยู่กับที่และรู้จักพลิกแพลงจะเป็นอาวุธชั้นดีที่จะพาให้คุณอยู่รอดในสังเวียนการแข่งขันดังกล่าวนี้ได้