The Power of Colour สีนั้นสำคัญไฉน

การจะทำให้แบรนด์เกิดใหม่ติดตลาด ให้คนจดจำได้นั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้ทั้งกลยุทธ์ แผนการและระยะเวลาที่ค่อนข้างนานกว่าแบรนด์นั้นๆ จะเป็นที่รู้จัก ซึ่งหนึ่งส่วนสำคัญในการทำให้คนทั่วไปจดจำแบรนด์ของเราได้นั้นก็คือ “สี” สิ่งนี้อาจจะเป็นเรื่องที่นักธุรกิจมือใหม่ทั่วไปมองข้าม แต่สำหรับในต่างประเทศนั้นการจะทำแบรนด์สินค้าหรือแม้แต่บริการขึ้นมาสักอัน เรื่องสีเป็นสิ่งสำคัญที่พวกเขาให้เวลากับมันไม่น้อย วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับสีให้มากขึ้นและวิธีการใช้สีกับแบรนด์ของคุณว่าควรจะเลือกใช้อย่างไร ใช้แค่ไหนถึงจะพอดี

สีสื่ออารมณ์ ความรู้สึก

เรื่องที่คนทั่วไปรู้จักมากที่สุดเกี่ยวกับสี เราต่างรู้กันดีว่าสีต่างๆ ก็ส่งผลให้สื่อกับอารมณ์ที่หลากหลาย แต่ในเรื่องทางธุรกิจ สีที่ส่งผลทางด้านความรู้สึกก็ถูกแฝงให้คุณเห็นอยู่ในชีวิตประจำวัน อย่างเช่นเมื่อคุณไปโรงพยาบาล สีส่วนใหญ่ที่จะเห็นก็มักจะเป็นสีโทนสบายๆ เย็นๆ เช่น เขียวอ่อน ฟ้าอ่อน ขาวเป็นต้น หรือถ้าเป็นบริการที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายสื่อสาร ก็ไม่พ้น สีฟ้า หรือเฉดสีน้ำเงินต่างๆ เป็นต้น นั่นเป็นเพราะสีเหล่านี้ทำให้คนรู้สึกได้ทันทีว่าสิ่งที่เขาจะได้รับหรือบริการที่เขากำลังจะเข้าไปใช้นั้นคืออะไร

จำเป็นต้องใช้โทนสีให้ตรงกับอุตสาหกรรมที่ทำหรือไม่?

การใช้สีกับแบรนด์นั้นเปรียบได้เหมือนงานศิลปะ คือไม่ได้มีกฎเกณฑ์ใดๆ มากำหนดได้ว่าคุณควรใช้สีแบบนั้นแบบนี้ ดังนั้นคำตอบคือ “ไม่จำเป็น” แต่การที่ใช้สีให้ตรงกลับกลุ่มอุตสาหกรรมแบบที่เราเกริ่นไปในหัวข้อข้างต้นนั้นเป็นเสมือนการ Play Save คือคุณไม่ต้องพยายามสื่อสารอะไรมาก คนเข้าใจได้ว่าธุรกิจของคุณทำเกี่ยวกับอะไร (พอจะคาดเดาได้จากสี)

แล้วเราจะใช้อะไรเป็นการกำหนดล่ะว่าสีของแบรนด์ควรใช้สีแบบไหน?

อย่างแรกเลยคือ “ความชอบ” ดูสีที่คุณชอบก่อนเป็นอันดับแรกเพราะธุรกิจนี้คือธุรกิจของคุณ ที่คุณจะต้องอยู่กับมันไปทุกๆ วันและเมื่อผ่านจากความชอบไปแล้วก็มาดูว่าเหมาะสมกับสิ่งที่คุณกำลังจะทำหรือไม่ จากหัวข้อก่อนหน้าที่เราบอกว่าคุณไม่จำเป็นต้องใช้สีให้ตรงกับอุตสาหกรรมก็ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถใช้สีอะไรก็ได้เลยซะทีเดียว คุณคงไม่อยากใช้โลโก้สีขาวดำกับโรงพยาบาลที่เน้นเรื่องสุขภาพ คงไม่อยากใช้สีแดงสดกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสปา ฯลฯ นั่นเป็นเพราะนอกจากลูกค้าจะเข้าใจได้ยากแล้ว คุณเองอาจต้องเสียเวลากับการสร้างภาพจำและอธิบายให้กับลูกค้าเข้าใจให้ได้ว่าแท้จริงแล้วแบรนด์ของคุณมีจุดยืนว่าอย่างไร

ได้สีมาแล้วต้องทำยังไงต่อ?

เมื่อคุณรู้แล้วว่าธุรกิจของคุณจะใช้สีอะไรสิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือการนำสีมาใช้ การนำมาใช้นั้นไม่ใช่แค่ โลโก้ ใบปลิว สื่อโฆษณาต่างๆ ฯลฯ แต่จะต้องรวมไปถึง DNA ของแบรนด์ อาจจะเป็นชุดพนักงาน นามบัตร เอกสารต่างๆ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คนทำงานทางสายนี้จะเรียกว่า Corporate Identity เหตุที่สิ่งนี้สำคัญก็เพราะว่าหากหลังคาบ้านของคุณเข้าถึงความรู้สึกของสีนั้นๆ ที่คุณเลือกมากำหนดว่านี่แหละคือแบรนด์ของคุณแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ลูกค้าจะเข้าถึงแบรนด์ของคุณได้

ใช้สีแค่ไหนถึงจะพอดี ใช้เยอะๆ เลยได้มั้ยคนจะได้จำได้

แม้ว่าจะไม่มีกฎใดๆ มาบอกว่าคุณต้องใช้สีนั้นสีนี้ ใช้เท่านั้นใช้เท่านี้แต่การกำหนดสีสำหรับแบรนด์หรือธุรกิจเราแนะนำว่าไม่ควรเกิน 2-3 สี นอกซะจากคุณจะเป็นแบรนด์ที่เน้นความสนุก ความเป็น Community เพราะยิ่งสีน้อยแต่ชัดมากเท่าไหร่คนจะยิ่งจำได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่นเมื่อเราถามว่า “ถ้าคุณนึกถึง สีแดงในวงการอาหารคุณจะนึกถึงอะไร” แน่นอนว่าชื่อของ Coke, KFC จะเป็นอันดับแรกๆ ที่คุณได้ยิน เห็นได้ว่าพวกเขาใช้สีเพียงสีเดียวแต่สร้างภาพจำมาได้จนถึงทุกวันนี้

จงจำไว้เสมอว่า “สี” ที่คุณเลือกนั้นไม่มีผิดไม่มีถูก แต่การนำไปใช้นั้นสำคัญที่สุด คุณไม่จำเป็นต้องใช้สีที่กำหนดลงไปบนสินค้าของคุณทุกชิ้น แต่ให้ใช้มันในการสร้างภาพจำแบบอ้อม เช่น โซเชียลมีเดีย คอนเทนต์ของแบรนด์ ป้ายโฆษณา ฯลฯ

ไอคอนแจ้งเตือน บนแอป Social Media ต่าง ๆ
Marketing Psychology
ไอคอนแจ้งเตือน วงกลมสีแดงที่ทรงพลังในการกระตุ้นการมีส่วนร่วม!

จุดสีแดงเล็ก ๆ บนแอป ไม่ได้ทำหน้าที่แค่แจ้งข่าวสารให้คุณทราบ แต่ยังสร้างผลกระทบทางจิตวิทยา ที่ช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมได้อย่างดีเยี่ยม มาเจาะลึกเบื้องหลังของไอคอนแจ้งเตือนไปพร้อมกัน! เคยมั้ย? เวลาเห็นตัวเลขแจ้งเตือนบนมุมขวาของแอป ต้องรีบกดเข้าไปดู ไม่ว่าจะเข้าไปเช็กรายละเอียด หรือแค่กดเพื่อให้จุดสีแดงนั้นหายไปก็ตาม…

Pop-up Advertising สามารถเปลี่ยนผู้เข้าชมให้เป็นลูกค้าได้
Marketing
โฆษณา Pop-ups กลยุทธ์เด็ดในการสร้าง Conversion บนเว็บไซต์

Pop-ups Ads บนเว็บไซต์ เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้มาอย่างช้านาน เพราะช่วยส่งเสริมการขายได้อย่างดีเยี่ยม แต่จะเป็นอย่างนั้นต่อเมื่อคุณใช้มันอย่างถูกวิธี และแสดงผลในเวลาที่เหมาะสม ถ้าพูดถึงกลยุทธ์เพื่อสร้างยอดขายและการมีส่วนร่วมบนเว็บไซต์ ปัจจุบันก็มีให้เลือกใช้หลากหลายวิธี เช่น การทำ SEO…

IKEA Effect อคติทางความคิดที่ผู้บริโภคให้คุณค่ากับสิ่งลงมือทำด้วยตัวเอง
Marketing
ส่องกรณีศึกษาจาก IKEA Effect เทคนิคเพิ่มคุณค่าให้สินค้าแบบเท่าตัว!

เคยรู้สึกไหมว่าอะไรที่ลงมือทำด้วยตัวเอง ต้องใช้แรงกายมากมายกว่าจะสร้างสรรค์มันออกมาได้ จะยิ่งรู้สึกคุ้มค่าที่ทำลงไป และภูมิใจในตัวเองมาก ๆ สิ่งนี้เรียกว่า IKEA Effect ที่มีที่มาจากแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านสัญชาติสวีเดน หลายคนอาจจะรู้จักในฐานะสินค้าสไตล์มินิมอล แต่รู้ไหมว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวของอิเกีย ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจของนักการตลาดอย่างมาก…