การทำ SEO ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดแบบ Inbound marketing ที่หลาย ๆ ธุรกิจให้ความสนใจ เนื่องจากใช้งบประมาณไม่สูง และยังให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างยั่งยืน ฝ่ายการตลาดของหลาย ๆ ธุรกิจจึงจำเป็นต้องศึกษาเรื่องการทำ SEO เพื่อเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง หากคุณเป็นหนึ่งในทีมที่จะต้อง Drive การทำ SEO ของบริษัทไปให้ถึงฝั่ง อย่าลืมศึกษาคำศัพท์ SEO จากบทความนี้ ก่อนเรียนรู้การทำ SEO ในด้านอื่น ๆ ต่อไป
1. On-page และ Off-page
ที่มา: https://www.semrush.com/blog/off-page-seo/
On-page และ Off-page คือคำศัพท์แรก ๆ ที่คุณจะได้ยินเมื่อเริ่มทำ SEO โดย On-page คือ บทความที่ทำขึ้นเพื่อลงในเว็บไซต์ของตัวเอง ส่วน Off-page คือ บทความที่ทำขึ้นเพื่อนำไปลงในเว็บไซต์อื่น ๆ แล้วเชื่อมโยงลิงก์กลับมาหาเว็บไซต์ของตัวเอง ทั้งนี้ คุณอาจจะเคยรู้จักกับ On-page และ Off-page ในชื่อเรียกอื่น ๆ ได้แก่ Blog และ Backlink ซึ่ง On-page มีความหมายเช่นเดียวกับ Blog และ Off-page ก็มีความหมายเช่นเดียวกับ Backlink นั่นเอง
2. Heading Tag
Heading Tag คือ ตัวช่วยในการจัดลำดับความสำคัญของเนื้อหาในหน้าเว็บไซต์ ว่าส่วนใดคือหัวข้อหลัก หัวข้อรอง และหัวข้อที่ย่อยลงมา Heading Tag จะแบ่งออกเป็น 6 ระดับด้วยกัน คือ H1 – H6 โดย H1 จะใช้กับหัวข้อหลักในหน้านั้น ๆ หรือถ้าเป็นบทความ ก็จะใช้ในตำแหน่งของชื่อบทความ (Title) และ H2 จะใช้ในตำแหน่งหัวข้อรอง หรือหัวข้อใหญ่ ๆ ภายในบทความนั้น ๆ ส่วน H3-H6 ก็จะใช้ในหัวข้อที่มีความสำคัญลดหลั่นลงไป
>> Tips: ในหนึ่งหน้าเว็บไซต์ ควรมี H1 เพียงตำแหน่งเดียว
3. Meta Description
ที่มา: https://www.reliablesoft.net/meta-description-length/
Meta Tag หรือ Meta Description คือ ข้อความที่สรุปใจความของเนื้อหาในหน้านั้น ๆ ของเว็บไซต์แบบสั้น ๆ ซึ่งจะไม่ได้แสดงผลบนหน้าเว็บไซต์ตรง ๆ แต่จะแสดงผลในระบบหลังบ้าน เพื่อให้ Algorithm ของ Search Engine ได้อ่านและประมวลผล ด้วยเหตุนี้ ใน Meta Description จึงควรมีทั้ง Main Keyword และ Related Keyword รวมอยู่ด้วย ส่วนความยาวที่แนะนำ โดยทั่วไปจะนิยมเขียนอยู่ที่ 150-156 ตัวอักษร
4. Keyword
สำหรับท่านที่เพิ่งจะเริ่มเรียนรู้คำศัพท์ SEO และมีโอกาสได้ยินคำว่า “ Keyword” บ่อยครั้ง อาจกำลังสงสัยว่า Keyword ในที่นี้หมายถึงอะไร ซึ่ง Keyword สำหรับการทำ SEO หมายถึง คำหรือกลุ่มคำที่คุณต้องการจะเน้น และคาดหวังว่า เมื่อมีคนพิมพ์คำค้นหาใน Search Engine ด้วย Keyword เหล่านี้ พวกเขาจะได้เห็นบทความบนหน้าเว็บไซต์ของคุณ และคลิกเข้าไปอ่านทันที อย่างไรก็ดี Keyword สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายระดับ อ่านเพิ่มเติมได้ที่: Keyword (คีย์เวิร์ด) คืออะไร สำคัญต่อการทำ Digital Marketing อย่างไร
5. Anchor Text
Anchor Text คือ การแนบลิงก์เว็บไซต์ไว้ในคำหนึ่งคำ ให้ผู้อ่านสามารถคลิกแล้วลิงก์ไปอีกหน้าหนึ่งได้ ยกตัวอย่างเช่น ในย่อหน้าแรกของบทความรวม 12 คำศัพท์ SEO นี้ ที่เราทำ Anchor Text ไว้ที่คำว่า “Inbound Marketing” เมื่อคุณคลิกที่คำนั้น ก็จะลิงก์ไปที่บทความ “Inbound Marketing คืออะไร ทำไมธุรกิจควรทำการตลาดแบบดึงดูด” ทันที
6. URL Slug
URL Slug เป็นคำศัพท์ SEO ที่มีความซับซ้อนน้อยที่สุด เพราะหมายถึง URL ของหน้าต่าง ๆ บนเว็บไซต์นั่นเอง โดยทั่วไปนิยมตั้งเป็นภาษาอังกฤษล้วน เพื่อประโยชน์ในการทำ SEO
7. Alternative Text (Alt Text)
ที่มา: https://www.brandeis.edu/cms-guide/accessibility/alt-text.html
Alternative Text คือ ชื่อหรือคำอธิบายรูปภาพในเว็บไซต์ ซึ่งจะไม่แสดงผลหน้าบ้าน แต่จะแสดงผลในระบบหลังบ้าน โดยทั่วไปจะนิยมตั้งผสมกับ Keyword ที่ต้องการจะเน้นในหน้าเว็บไซต์นั้น ๆ เพื่อประโยชน์ในการทำ SEO ด้วย
8. Search Volume
ที่มา: https://mangools.com/blog/keyword-search-volume/
Search Volume คือคำศัพท์ SEO ที่คุณจะมีโอกาสได้ยินบ่อย ๆ ต่อจากนี้ หมายถึง ปริมาณการค้นหาบน Search Engine ของ Keyword นั้น ๆ ซึ่งจะเป็นตัวแปรในการกำหนดความยาก-ง่ายของการทำ SEO ด้วย ยกตัวอย่างเช่น คำว่า “รองเท้า” ซึ่งมี Search Volume ประมาณ 10K – 100K เพราะเป็นคำที่มีความหมายค่อนข้างกว้าง และคำว่า “รองเท้าเด็กผู้หญิง” “รองเท้า” ซึ่งมี Search Volume ประมาณ 1K – 10K เพราะเป็นเรื่องจำเพาะเจาะจงมากกว่า หากคุณเลือก Keyword “รองเท้า” ก็แปลว่า คุณจะต้องต่อสู้กับคู่แข่งที่ทำเรื่องเดียวกันอีกจำนวนมาก ในขณะที่หากคุณเลือก Keyword “รองเท้าเด็กผู้หญิง” ก็อาจจะมีโอกาสมากกว่าที่บทความจะติดอันดับต้น ๆ บน Search Engine นั่นเอง
9. Bounce Rate
Bounce Rate คือ อัตราของผู้ชมที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณในระยะเวลาสั้น ๆ แล้วกดออกอย่างรวดเร็ว สาเหตุอาจเกิดจากคอนเทนต์บนเว็บไซต์ไม่น่าสนใจมากพอ หรือ UI แลดูรกตา ไม่สวยงาม ตลอดจนเว็บไซต์ดาวน์โหลดช้า แต่ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม การมี Bounce Rate จำนวนมาก ก้เป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ดีสำหรับการทำ SEO
10. External Links และ Internal Links
External Links คือ การทำลิงก์จากหน้าเว็บไซต์ของตัวเองเพื่อไปยังหน้าเว็บไซต์อื่น ส่วน Internal Links ก็คือการทำลิงก์เพื่อเชื่อมโยงไปยังหน้าอื่น ๆ บนเว็บไซต์ของตัวเอง อย่างไรก็ดี แน่นอนว่าผู้คนส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับการทำ Internal Links มากกว่า เพราะถือว่าเป็นการเพิ่มคะแนนให้กับเว็บไซต์ของตัวเอง แต่จากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญนั้น บทความที่มีคุณภาพ ควรมีทั้ง External Links และ Internal Links เป็นองค์ประกอบอย่างสมดุล
11. SERP
ที่มา: https://www.wordstream.com/serp
SERP ย่อมาจาก Search Engine Result Page หมายถึง หน้าการค้นหาบน Search Engine ที่คุณคุ้นเคย ประกอบไปด้วยช่องสำหรับพิมพ์คำค้นหา, Title, Description, Snippets (ส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ Search Engine ดึงมาจากหน้าเว็บไซต์นั้น ๆ เช่น บทความ 1 ย่อหน้า หรือสรุปหัวข้อย่อย ๆ) ทั้งนี้ ในหน้า SERP จะแสดงทั้งผลการค้นหาแบบ Organic (เว็บไซต์ที่ทำ SEO) และผลการค้นหาแบบ Paid- Ads (เว็บไซต์ที่ซื้อโฆษณากับ Search Engine โดยตรง)
12. Website Traffic
คำศัพท์ SEO ที่คุณต้องรู้อีกคำหนึ่ง ก็คือ Website Traffic หรือ จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดประสิทธิภาพของการทำ SEO ได้เป็นอย่างดี เพราะหากกลยุทธ์การทำ SEO ของคุณได้ผล ก็จะทำให้ Website Traffic สูงขึ้นตามไปด้วย
สรุป
และทั้งหมดนี้ ก็คือ 12 คำศัพท์ SEO ที่มือใหม่อย่างคุณควรศึกษาไว้ เพื่อเรียนรู้การทำ SEO ให้เชี่ยวชาญมากขึ้นต่อไป อย่างไรก็ดี คุณควรให้ความสำคัญกับการฝึกใช้เครื่องมือที่เกี่ยวกับ SEO ควบคู่กันไปด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: รวม 5 SEO Tools ยอดฮิต ที่คนทำ SEO ทุกคนต้องมี!
อ้างอิง
MOZ. SEO Glossary of Terms
Available from: https://moz.com/beginners-guide-to-seo/seo-glossary
SEMRUSH. The Ultimate SEO Glossary
Available from: https://www.semrush.com/kb/925-glossary