เมื่อก่อนนี้เรามักใช้ LINE@ ในการปิดการขายโดยดึงลูกค้าจากช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ เข้ามาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และเชื่อเลยว่าหลายๆ ธุรกิจใช้แอปฯ นี้เพียงเพื่อแชทโต้ตอบกับลูกค้าเท่านั้น แต่นี่ปี 2020 และ LINE@ ก็เปลี่ยนมาเป็น LINE Official Account หรือเรียกสั้นๆ ว่า LINE OA แล้ว เราว่าถึวเวลาที่คุณจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างอย่างแล้ว
บทความนี้เราจะมาแนะนำฟีเจอร์เด็ดๆ ของ LINE OA ที่บอกเลยว่าหากคุณนำไปพลิกแพลงปรับใช้กับธุรกิจ คุณจะค้นพบว่ามันทำอะไรได้มากกว่าเพียงแค่แชทคุยกับลูกค้าเฉยๆ มาก!
- Rich Message
แน่นอนว่าเวลาขายสินค้าและบริการเราก็มักจะมีโปรโมชั่น ไม่ก็ต้องการที่จะอวดคอลเลกชันหรือสินค้าใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ใน LINE OA จะมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Rich Content โดยคุณจะสามารถส่งเนื้อหาได้ในรูปแบบของรูปภาพขนาด 1:1 (1040×1040 px) ความพิเศษของฟีเจอร์นี้คือในรูปภาพเพียงภาพเดียวนั้นคุณสามารถฝังลิงก์เว็บไซต์ปลายทางได้สูงสุดถึง 6 ลิงก์! ซึ่งในระบบจะมีเทมเพลตและดีไซน์ไกด์เอาไว้ให้คุณออกแบบภาพเพื่อตอบรับกับแต่ละเทมเพลตของ Rich Message ได้
แต่หากคุณยังกังวลว่า “แล้วถ้าเกิดโทรศัพท์มือถือของลูกค้า อ่าน Rich Message ที่เป็นภาพไม่ได้ล่ะ จะทำยังไง” คำตอบคือ ระบบก็จะแสดงผลเป็นข้อความแทน ซึ่งข้อความดังกล่าวนี้คุณก็สามารถกำหนดเองได้ในขั้นตอนการสร้าง Rich Message นั่นเอง
- Rich Video
เป็นฟีเจอร์ที่มีลักษณะการทำงานคล้ายกันกับ Rich Message เพียงแต่ฟีเจอร์นี้คุณจะต้องส่งเป็นวิดีโอ ซึ่งระบบของ LINE OA นั้นรองรับทั้งวิดีโอแบบ แนวนอน แนวตั้งและจตุรัส ความเจ๋งของมันอยู่ตรงที่คุณสามารถใส่ปุ่ม Call To Action เพื่อเชื่อมไปยังเว็บไซต์ปลายทางที่คุณกำหนดเองได้ ยิ่งไปกว่านั้น Rich Video ยังเป็นระบบ Auto Play อีกด้วย หมายความว่าเมื่อลูกค้าของคุณได้รับข้อความ Rich Video เมื่อเขาเข้าไปดูในแชทก็จะเห็นวิดีโอที่กำลังเล่นอยู่โดยไม่ต้องกดเล่นเอง (แต่จะแสดงแค่ภาพ หากต้องการฟังเสียงผู้รับข้อความจะต้องแตะไปที่วิดีโอเสียก่อน)
- Rich Menu
อีกจุดเด่นของ LINE OA ที่คุณไม่ควรพลาด เพราะก่อนหน้านี้สมัยยังเป็น LINE@ คุณจะต้องซื้อแพคเกจโปรเท่านั้นจึงจะมีสิทธิใช้ฟีเจอร์ Rich Menu แต่สำหรับ LINE OA คุณสามารถใช้งานได้เลยตั้งแต่แพคเกจ “ฟรี” โดย Rich Menu จะแสดงผลเป็นภาพขนาดใหญ่ด้านล่างที่สามารถกำหนด Action ได้สูงสุดถึง 6 ช่อง ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการต้องมาตอบคำถามหรือให้ข้อมูลต่างๆ ได้อย่างมาก
นอกจากนั้นคุณยังสามารถเปลี่ยนคำที่อยู่บนแถบเมนูบาร์ได้อีกด้วย ความพิเศษของ Rich Menu คือสามารถนำบัตรสะสมแต้มมาใช้งานร่วมกันได้ จึงเหมาะอย่างยิ่งกับการทำมาทำเป็นโปรโชชั่นหรือให้ลูกค้าเข้าถึงช่องทางต่างๆ ของธุรกิจได้สะดวกยิ่งขึ้น
- Greeting Message
คุณคงไม่อยากให้ลูกค้าแอดไลน์เข้ามาแล้วพบแต่ความว่างเปล่าใช่มั้ย Greeting Message ช่วยให้คุณสามารถตั้งข้อความต้อนรับอัตโนมัติซึ่งจะแสดงทันทีตอนที่ลูกค้าเพิ่มคุณเป็นเพื่อน (ข้อความจะแสดงครั้งแรกเพียงครั้งเดียว) โดยคุณสามารถตั้งค่าให้ข้อความทักทายนั้นแสดงชื่อของผู้ที่เพิ่มคุณเป็นเพื่อนได้และสามารถใส่ได้ทั้ง ข้อความ สติ๊กเกอร์ รูปภาพ คูปอง Rich Message, Rice Video, Video หรือข้อความเสียงลงไป ได้สูงสุด 5 บอลลูน ถือเป็นฟีเจอร์พื้นฐานที่ควรใช้
- Chat Tag
การทำธุรกิจ แน่นอนว่าเรามักจะเจอลูกค้ามากมายหลายประเภท ทั้งดีและไม่ดีคละกันไป Chat Tag จะช่วยให้คุณสามารถแบ่งประเภทของลูกค้าที่มีการเข้ามาแชทพูดคุยกับเราได้ (เฉพาะร้านค้าเท่านั้นที่เห็น Tag) เพื่อที่เวลาเรามีคนตอบหลายๆ คน หรือนานๆ คุยสักทีจะได้จำได้ว่าลูกค้าคนนั้นคือใคร เป็นลูกค้าประเภทไหน ตัวอย่าง Tag ลูกค้าประจำ, โอนไว, ถามมากแต่ไม่ซื้อ, ต่อราคาเก่ง, ระวัง ฯลฯ โดยคุณสามารถสร้าง Chat Tag ได้สูงสุด 200 อันด้วยความยาวที่ไม่เกิน 20 ตัวอักษร (ต่อ 1 คำ) แต่สามารถติด Tag ให้ลูกค้าได้ไม่เกิน 10 อันต่อ 1 คน
- คูปองและบัตรสะสมแต้ม
จริงๆ เป็นฟีเจอร์ที่มีมาตั้งแต่ LINE@ เดิมแล้ว แต่เราอยากจะตอกย้ำอีกครั้งว่า “มันมีประโยชน์จริงๆ”
6.1 คูปอง
หลายๆ ร้านพอมีโปรโมชั่นแจกคูปองให้ลูกค้าเพื่อหวังจะกระตุ้นยอดขาย แต่ลูกค้าดันทำคูปองหายไปซะนี่ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเพราะคูปองใน LINE OA จะมาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับทั้งร้านค้าและลูกค้า โดยคุณสามารถสร้าง E-Coupon ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ทั้งจากในมือถือและคอมพิวเตอร์ ความพิเศษของคูปองคือสามารถกำหนดอายุของคูปองได้ กำหนดลักษณะการใช้ได้ไม่ว่าจะเป็นครั้งเดียวหรือใช้ซ้ำๆ ได้ กำหนดว่าจะแชร์ต่อได้หรือไม่ได้ แถมยังนำไปใช้ร่วมกับฟีเจอร์อื่นได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นบรอดแคสต์ ไทม์ไลน์ ส่งทางแชท Greeting Message เป็นต้น
6.2 บัตรสะสมแต้ม (Reward Cards)
ร้านใครที่ยังใช้ระบบแจกบัตรสะสมที่ต้องให้ลูกค้าพกมาที่ร้านทุกครั้งและใช้ตัวปั๊มในการให้แต้มอยู่ล่ะก็ เลิกซะเถอะแล้วมาใช้บัตรสะสมแต้มใน LINE OA ดีกว่า นอกจากเรื่องความสะดวกแล้วฟีเจอร์เด่นๆ ในบัตรสะสมแต้มคือเวลาที่ลูกค้าสะสมครบแล้วระบบจะเปิดบัตรใหม่ให้โดยอัตโนมัติ หรือทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษขึ้นไปอีกขั้นก็สามารถทำบัตรพรีเมียม (Create Upgrade Card) เพื่อให้ลูกค้าสะสมเพิ่มไปจากเดิมเพื่อลุ้นรางวัลใหญ่ หรือสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่า ฯลฯ
คุณสามารถทำการแจกแต้มให้กับลูกค้าผ่านทาง QR Code โดยสร้างได้เลยในระบบ ลูกค้าสามารถสแกน QR Code และแต้มจะเข้าไปอยู่ในบัตรอัตโนมัติไม่ต้องเข้าๆ ออกๆ หน้าบัตรสะสมแต้มให้วุ่นวาย แถมคุณยังสามารถยกเลิกบัตรสะสมแต้มได้หากหมดโปรฯ หรือเมื่อคุณต้องการ
- Account Page
หากคุณอยากมีหน้าเว็บไซต์ของตัวเองแต่ยังไม่อยากลงทุนจ้างคนทำเว็บเป็นเรื่องเป็นราว ฟีเจอร์ Account Page ช่วยให้คุณสามารถสร้างหน้า Mini Website ได้ จุดเด่นคือสามารถแสดงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างชัดเจนเหมือนกับเป็นเว็บไซต์เว็บนึง ไม่ว่าจะเป็นเวลา เปิด-ปิด ช่องทางการชำระเงิน รายละเอียดสินค้า บริการต่างๆ ที่สำคัญฟีเจอร์นี้รองรับการทำ SEO (Search Engine Optimization) อีกด้วย!
- LINE MAN Plug-in
ใครทำธุรกิจร้านอาหารต้องไม่พลาดฟีเจอร์นี้ คุณสามารถเชื่อมโยงบัญชี LINE OA ของคุณเข้ากับ LINE MAN ได้ โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ร้านค้าของคุณมีบริการ Delivery ไว้อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในทันที แถมสมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ อีกด้วย ช้าอยู่ใยสมัครเลย!
- Card Message
ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดที่มาแรงมากตอนนี้ เพราะคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม! อย่างที่เรารู้กันดีแล้วว่า LINE OA นั้นมีการเปลี่ยนวิธีการคิดเงินใหม่ โดยคิดเงินเป็นแบบราคา/ข้อความ ดังนั้นการบรอดแคสต์ครั้งนึงจึงใช้เงินไม่น้อย (หากคุณมีจำนวนผู้ติดตามเยอะ) ฟีเจอร์นี้จึงคุ้มสุดๆ เพราะว่าคุณสามารถส่งคอนเทนต์ทีเดียวได้สูงสุดถึง 10 ภาพ! (9 ภาพ + 1 ภาพปิด) ตอนนี้จึงกลายเป็นฟีเจอร์ที่หลายร้านทยอยใช้กันมากขึ้น
อันที่จริง LINE Official Account ก็ไม่ได้ต่างไปจาก LINE@ มากสักเท่าไหร่ อาจจะมีฟีเจอร์และวิธีการบางอย่างที่หน้าตาเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามหากคุณยังไม่ชัวร์ว่าจะใช้ฟีเจอร์ทั้งหมดที่เราเขียนมาได้มั้ย จะใช้ยังไง หรืออยากเรียนรู้เชิงลึกถึงวิธีการใช้งาน LINE OA ล่ะก็ Digital Tips Academy ของเราก็มีคลาส LINE Official Account for Business Owner เปิดสอน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่