การทำธุรกิจด้วยตัวเองคนเดียวช่วงแรกยังพอไหว แต่เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้นคุณเองในฐานะเจ้าของกิจการก็ต้องการมองหาผู้ช่วยที่ทั้งไว้ใจได้และคุ้มค่ากับการลงทุน แน่นอนว่าในปัจจุบันนั้นมีทางเลือกมากมายที่คุณจะไม่ต้องจ้างทีมงานแบบ Full-Time เข้ามาช่วยงาน เพราะข้อเสียของการมีพนักงานประจำคือภาระค่าใช้จ่ายรายเดือนที่เราต้องแบกรับ ซึ่งทุกวันนี้มีทางเลือกอย่าง เอเจนซี่ต่างๆ ผู้ชำนาญการในด้านการตลาดดิจิทัลที่คุณจะสามารถฝากความหวังให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณก้าวต่อไปข้างหน้าได้ แต่แน่นอนว่าการจ้างเอเจนซี่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายไม่น้อยและหลายคนก็เชื่อเหลือเกินว่าการจ้างเอเจนซี่นั้น “แพง” เราจึงจะนำพาทุกท่านมาดูกันว่าแท้จริงแล้วการจ้างเอเจนซี่นั้นอยู่ในระดับราคาประมาณเท่าไหร่ รวมถึงมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อะไรบ้าง

งบที่คุณมีทั้งหมดเท่าไหร่
สิ่งแรกเลยเมื่อคุณโทรเข้าไปติดต่อสอบถามรายละเอียดกับเอเจนซี่ พวกเขาจะถามคุณมาก่อนว่า “คุณมีงบประมาณที่วางเอาไว้ประมาณเท่าไหร่” เหตุผลที่คุณควรบอกเขาไปตรงๆ ว่ามีงบประมาณเท่าไหร่นั้นเพราะว่าเอเจนซี่ส่วนใหญ่จะนำเสนอแพคเกจราคาตามงบประมาณของลูกค้า จริงอยู่ว่าพวกเขาต้องมีราคาขั้นต่ำมาตรฐานแต่การที่คุณบอกงบประมาณที่คาดการณ์เอาไว้กับพวกเขา จะทำให้เอเจนซี่นั้นๆ สามารถทำแพคเกจ ราคาเฉพาะที่เหมาะสมกับคุณได้มากที่สุด

คุณต้องการใช้บริการในส่วนใด
การทำการตลาดดิจิทัลนั้นมีหลากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็น SEO สำหรับเว็บไซต์ Google Ads (โฆษณา Google) Facebook Ads (โฆษณา Facebook) ซึ่งยังไม่รวมงานครีเอทีฟต่างๆ อย่างเช่น ทำคอนเทนต์ วางแผนการตลาดและรายละเอียดปีกย่อยอีกมากมาย ดังนั้นคุณควรตั้งเป้าหมายไว้ก่อนเลยว่าจะทำการตลาดออนไลน์ในส่วนไหน หรือถ้าสนใจบริการทั้งหมดครบกระบวนการ อันนี้ก็อาจจะต้องใช้งบประมาณที่สูงขึ้นไปอีก

ค่าการจัดการ (Management Fee)
เงินส่วนนี้ก็คือค่าใช้จ่ายอื่นๆ สำหรับเอเจนซี่ เพราะการรับทำโฆษณาออนไลน์นั้นทางเอเจนซี่จะไม่ได้ค่าจ้างอื่นๆเลยจากคุณ นอกจากค่าการจัดการซึ่งจะหักจากงบก้อนใหญ่ของคุณนั่นเอง แต่ละเอเจนซี่ก็จะคิดค่าการจัดการ แตกต่างกันไป ตั้งแต่ 10-20% ตามงบของลูกค้า หรือ Scope of work สำหรับบางเอเจนซี่นั้นยิ่งงบการโฆษณษน้อย ค่า Management Fee ก็จะยิ่งแพงขึ้น ซึ่งเอเจนซี่ส่วนใหญ่มักจะมีงบขั้นต่ำในการรับงานจากลูกค้า เช่น ขั้นต่ำต้องทำโฆษณาเดือนละ 100,000 บาทขึ้นไป แล้วชาร์จ 10-20% เพิ่มเป็น Management Fee เป็นต้น

งานรับทำคอนเทนต์
นอกเหนือจากการทำโฆษณาออนไลน์แล้ว ในปัจจุบันเอเจนซี่ต่างๆ ก็จะมีบริการรับทำคอนเทนต์สำหรับ Facebook ซึ่งราคามาตรฐานนั้นคงตอบได้ยาก แต่ระดับราคาโดยประมาณจะอยู่ที่ตั้งแต่เดือนละ 30,000 – 150,000 บาทต่อเดือน จำนวนคอนเทนต์ก็ประมาณตั้งแต่ 15 – 30 คอนเทนต์ต่อเดือน ส่วนราคาของแต่ละที่จะต่างกันขึ้นอยู่กับ ชื่อเสียง ประสบการณ์ และการบริการเสริมต่างๆ เช่น มีการทำ Production ให้ ถ่ายภาพ วิดีโอสินค้า ฯลฯ แต่ถ้าหากไม่มีบริการพวกนี้ราคาก็จะถูกลง

แอป Duolingo เป็นแอปพลิเคชันฝึกภาษาที่เรียนได้ง่าย ๆ ผ่านสมาร์ทโฟน
Marketing Psychology
หลักจิตวิทยาที่ซ่อนอยู่ในแอป “Duolingo” ทำอย่างไรให้คนเสพติดการเรียนภาษา

ถ้าพูดถึงแอปเรียนภาษายอดฮิตก็ต้องนึกถึงแอป Duolingo ที่ไม่ได้มีดีแค่ความปากจัดของนกฮูกเขียว แต่มีหลักจิตวิทยาแอบซ่อนเอาไว้ ที่ทำให้ผู้เรียนทุกคนเสพติดการเรียนแบบไม่รู้ตัว! ช่วงก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะเคยเห็นมีมของ “นกฮูกเขียว” ผ่านตากันมาบ้าง ทั้งประโยคชวนเจ็บจี๊ดและแสนจิกกัด หรือหน้าตาแอปพลิเคชันตลก ๆ ที่คนแชร์กันเต็มโซเชียล…

วิธีการจัดการคิวของลูกค้าตามหลัก Psychology of Waiting
Marketing Psychology
Psychology of Waiting ทำอย่างไรให้ลูกค้าที่ต่อคิว ไม่รู้สึกว่ารอนานจนอยากเลิกซื้อ!

หลายแบรนด์เสียโอกาสทางการค้า เพราะลูกค้าเห็นความยาวของแถวต่อคิวแล้วรู้สึกท้อ ขอเลือกซื้อของเจ้าอื่นแทนดีกว่า มาใช้หลักการ Psychology of Waiting ในการจัดการแถวคิวกันเถอะ! เวลาเห็นร้านไหนมีคนต่อแถวยาว เรามักจะมองว่าร้านนั้นต้องขายดีมากแน่ ๆ แต่หลายครั้งก็อาจเห็นผู้คนบ่นลงโซเชียลมีเดียบ่อย…

ความทรงจำของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ถูกกำหนดโดย Peak-end Effect เป็นหลัก
Marketing
ขายสินค้าให้คนประทับใจด้วยกลยุทธ์ Peak-end Rule ตามหลัก Marketing Psychology

ลูกค้าจำแบรนด์ได้ไม่ลืม ถือเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งที่นักการตลาดทุกคนต้องการ ทำความรู้จัก Peak-end Effect วิธีมอบประสบการณ์การซื้ออย่างสวยงาม ให้ลูกค้าประทับใจไปอีกนา ไม่ว่าธุรกิจไหน ๆ ก็ต้องการให้ลูกค้าจดจำภาพลักษณ์ที่ดีไปจนถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อรักษา Customer…