ดารา vs เน็ตไอดอล สององค์ประกอบที่ยังคงได้ผล จริงหรือ?

คุณยังเชื่อในพลังของการรีวิวจากศิลปินดารา หรือเน็ตไอดอลอยู่มั้ย? หากย้อนกลับไปในยุคนึง การใช้ศิลปินดาราที่มีค่าตัวสูงจนธุรกิจระดับเล็กๆ แทบแตะไม่ถึงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้านั้นดูจะสร้างผลกระทบให้กับผู้บริโภคได้ออกไปซื้อสินค้าเหล่านั้นมาใช้ตามได้ในระดับที่ประสบความสำเร็จเลยทีเดียว และยุคต่อมา เมื่อเริ่มมีอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียเกิดขึ้น เราก็ได้รู้จักกับคำว่า “เน็ตไอดอล” จนเกิดเป็นยุคของการรีวิวสินค้าลงบนโลกออนไลน์มากมายซึ่งแน่นอนว่าผลลัพธ์ดีเกินคาด ทำให้แบรนด์เกิดใหม่ประสบความสำเร็จมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับธุรกิจทางด้านความงาม แต่ถ้าเป็นในปัจจุบันนี้ล่ะ คุณคิดว่าดารา กับเน็ตไอดอลยังเป็นชนวนสำคัญให้สินค้าขายได้อยู่หรือไม่และถ้าทำธุรกิจคุณยังจำเป็นต้องใช้บริการพวกเขาเหล่านั้นอยู่รึเปล่า

พูดกันเรื่องของดารา

สำหรับศิลปินดารานั้นหากคุณยอมลงทุนกับเงินมหาศาลเพื่อให้ได้ดาราระดับแนวหน้าที่ใครๆ ก็รู้จัก สิ่งที่ได้รับกลับคืนมาแน่ๆ คือ Brand Awareness เพราะเมื่อแคมเปญสินค้าของคุณถูกปล่อยออกไปคนที่รู้จักดาราเหล่านั้นก็จะเห็นสินค้าของคุณไปด้วยจากสื่อต่างๆ แต่ถ้าจะหวังเรื่องยอดขายล่ะก็คุณอาจจะต้องเลือกดาราที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณจริงๆ ซึ่งก็ไม่ได้การันตีด้วยว่าเมื่อเหล่าฐานแฟนคลับของดาราคนนั้นเห็นสินค้าแล้วจะสนใจแล้วซื้อสินค้าหรือไม่

ถ้าอย่างนั้น เน็ตไอดอลล่ะ

คำว่าเน็ตไอดอลในที่นี่ เราขอควบรวมไปถึงเหล่า Social Media Influencer ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Blogger, Youtuber ฯลฯ ซึ่งในยุคแรกคนพวกนี้เกิดจากการรีวิวสินค้าที่ตัวเองใช้จริง สร้างความน่าเชื่อถือในฐานะผู้บริโภคและเมื่อมีผู้ติดตามเยอะขึ้นแบรนด์สินค้าต่างๆ ก็เห็นช่องทางที่จะทำยังไงก็ได้ให้สินค้าของพวกเขาไปอยู่ในคลิปรีวิวนั้นๆ จนประสบความสำเร็จมากกว่าการใช้ศิลปินดาราด้วยซ้ำ แต่เมื่อเวลาผ่านไปคนดูก็เริ่มเข้าใจและรู้แล้วว่าของที่พวกเขานำมารีวิวนั้นก็มาจากแบรนด์ที่สมมนาคุณมาบ้าง หรือจ้างรีวิวบ้าง ทำให้ความน่าเชื่อถือค่อยๆ ถูกลดลงไปในที่สุด

แล้วอย่างนี้ก็ใช้ใครไม่ได้เลยสิ?

ช้าก่อน! การที่เราบอกว่าดาราและเน็ตไอดอลเริ่มถูกลดความน่าสนใจลงไปไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสินค้าคุณได้ เพราะสิ่งที่พวกเขาให้คุณได้แน่ๆ คือการทำให้แบนรด์เป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับดาราหรือเน็ตไอดอลที่มีชื่อเสียงมากๆ มีผู้ติดตามเยอะ การได้พวกเขามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์ของคุณก็เปรียบเสมือนการแสดงว่าแบรนด์ของคุณอยู่ในระดับใด มีความสามารถในการทำการตลาดมากแค่ไหน สังเกตได้จากแบรนด์ความงามที่เป็นธุรกิจเครือข่ายต่างๆ ของไทยมักจะเลือกใช้ศิลปินดาราดังๆ ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ ณ ขณะนั้นมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อเพิ่มความสนใจให้กับคนที่พบเห็น อยากเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกกับแบรนด์นั้นๆ ได้

ถ้าคุณกำลังเริ่มทำธุรกิจหรือกำลังสร้างแบรนด์ขึ้นมาโดยที่มีเงินทุนไม่มากนัก แน่นอนว่าการจะเอาเงินไปจ้างคนเหล่านี้คงเป็นเรื่องยากและเกินตัวไปสักนิด แนะนำว่าให้เริ่มจากการใช้สินค้าที่มีส่งไปให้เหล่าบล็อกเกอร์เพื่อให้เขาพิจารณาเองว่าจะหยิบมาใช้หรือไม่ แล้วถ้าหากสินค้าของคุณต้องตาโดนใจถูกหยิบขึ้นมาพูดและคนเริ่มรู้จักเริ่มมียอดขายแล้วล่ะก็ ค่อยเริ่มมองหาคนที่จะช่วยสร้าง Brand Awareness มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับคุณก็ทำได้ แต่สิ่งที่เราย้ำเสมอคือการไม่ทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงทางเดียว เพราะโลกออนไลน์นั้นมีหลากหลายช่องทางและทุกๆ ช่องทางก็คือโอกาส อย่ามองข้ามการซื้อโฆษณา รวมถึงทำคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มอย่าง Facebook, Google หรือล่าสุดคือ Line@, Twitter และเมื่อทำทุกอย่างควบคู่กันไปอย่างสม่ำเสมอแล้วรับรองว่าความสำเร็จอยู่ไม่ไกลคุณแน่นอน

ส่องไฮไลต์เด็ดจากงาน Adobe MAX 2025 ว่ามีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจ
News
ส่องไฮไลต์จากงาน Adobe MAX 2025 กับการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด

เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เชื่อว่าสายกราฟิกและครีเอทีฟหลายคนตื่นตาตื่นใจกับงาน Adobe MAX 2025 ที่จะได้รับฟังแนวคิด ทักษะ และรับแรงบันดาลใจจากคนเก่ง ๆ ในวงการ พร้อมทั้งการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในเครื่องมือ Adobe…

ChatGPT Atlas จาก OpenAI คืออะไร มีฟีเจอร์อะไรบ้าง
AI Marketing
ChatGPT Atlas เบราว์เซอร์น้องใหม่จาก OpenAI มีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจบ้าง

ChatGPT Atlas เป็นเบราว์เซอร์ AI ที่เพิ่งเปิดตัวไม่นานมานี้ และสร้างความน่าสนใจไม่น้อยให้กับวงการ Search Engine เพราะสิ่งนี้จะเข้ามาเปลี่ยนประสบการณ์ค้นหาแบบเดิม ๆ ของผู้ใช้ ช่วยให้สะดวก…

แนะนำ 7 AI สรุปประชุมที่ช่วยให้การทำงานสะดวกรวดเร็ว
News
บอกต่อ 7 AI สรุปประชุมแบบเรียลไทม์ จดครบทุกรายละเอียดสำคัญ

การประชุมบริษัทในยุคปัจจุบันถือเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมาก ๆ เพราะเรามี AI สรุปการประชุมจากเสียงเข้ามาช่วยสรุปรายงานการประชุม หรือถอดเทปสัมภาษณ์ได้อย่างแม่นยำ แทนที่เราจะเสียเวลาจดและนั่งฟังคลิปเป็นชั่วโมง ไหนจะต้องโฟกัสกับคำถามจากผู้เข้าร่วมประชุมอีก จะดีกว่าไหมถ้ามีเครื่องมือนี้มาช่วยประหยัดแรงทำงานได้มากขึ้น และในบทความนี้ Digital Tips…