หลังทราบข่าวการปรับโฉม Meta Verified ให้เป็นระบบสมัครสมาชิกแบบมีค่าใช้จ่าย บรรดาครีเอเตอร์และนักธุรกิจออนไลน์ต่างก็เริ่มจับตามอง Social Media อื่น ๆ ว่าจะดำเนินรอยตาม Meta และ X ที่ปรับระบบไปก่อนหน้าแล้วหรือไม่ หนึ่งในแอปพลิเคชันที่ถูกจับตาก็คือ TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดแห่งยุค ในบทความนี้ Digital Tips จึงรวบรวมวิธีขอ TikTok Verified ฉบับสรุปจบ เข้าใจง่ายมาให้ มาดูกันว่าติ๊กฟ้าจาก TikTok ขอยากไหม และที่สำคัญ เสียค่าใช้จ่ายหรือไม่
บัญชีที่ได้ TikTok Verified จะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง
เนื่องจาก TikTok Verified ไม่ใช่ระบบสมัครสมาชิกเหมือน Meta Verified, Twitter Blue หรือ Youtube Premium แต่เป็นเครื่องหมายยืนยันว่าเจ้าของบัญชีมีตัวตนอยู่จริง และค่อนข้างมีชื่อเสียง ดังนั้น บัญชีที่ได้เครื่องหมาย TikTok Verified หรือเครื่องหมายถูกสีฟ้า จึงไม่ได้รับสิทธิประโยชน์อะไร นอกจากการยืนยันบัญชี และสิทธิ์ในการใช้ชื่อบัญชีนั้น ๆ แต่เพียงผู้เดียว
บัญชีลักษณะใดบ้างที่สามารถยื่นขอ TikTok Verified ได้
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกบัญชีที่จะมีสิทธิ์ยื่นขอเครื่องหมาย TikTok Verified ได้ โดยบัญชีที่สามารถยื่นขอได้ ต้องมีครบ 6 คุณสมบัติ ดังนี้
ที่มา: https://later.com/blog/verified-tiktok/
1. มีตัวตนจริง
TikTok จะตรวจสอบว่าบัญชีนั้น ๆ อ้างอิงว่าเป็นบัญชีของบุคคลหรือองค์กรใด และบุคคลหรือองค์กรนั้น ๆ มีจริงหรือไม่ โดยจะยืนยันให้เพียง 1 รายการเท่านั้น (1 บัญชีจะเป็นบัญชีในนามบุคคลและองค์กรพร้อมกันไม่ได้) ทั้งนี้ หากบัญชีของคุณเปิดในนามองค์กร โดเมนอีเมลในขั้นตอนการตรวจสอบยืนยันก็ต้องเป็นโดเมนอีเมลขององค์กรด้วย
2. บัญชีมีการเคลื่อนไหวจริง
มีการเข้าสู่ระบบจริงในช่วง 6 เดือนก่อนยื่นขอ TikTok Verified และมีคลิปวิดีโอโพสต์ลงไปจริง ๆ อย่างน้อย 1 วิดีโอ
3. บัญชีมีองค์ประกอบครบถ้วน
รายละเอียดทั้งหมดของบัญชี ไม่ว่าจะเป็นชื่อ รูปโปรไฟล์ ข้อมูลประวัติ ฯลฯ จะต้องครบถ้วนและตรวจสอบได้ และต้องเปิดเป็นบัญชีสาธารณะเท่านั้น
4. ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติของชุมชน (TikTok Policy)
บัญชีที่มีสิทธิ์ยื่นขอ TikTok Verified จะต้องปฏิบัติตาม TikTok Policy อย่างเคร่งครัด ไม่มีการแจ้งเตือนว่ายังไม่ได้รับการรับรองมาตรฐาน หรือทำผิด Policy ข้อใดข้อหนึ่ง
5. บัญชีต้องผ่านการยืนยัน
บัญชีของคุณต้องผ่านการตรวจสอบสิทธิ์หลายระดับด้วยอีเมลที่ยืนยัน เพื่อแสดงให้ TikTok เห็นว่า ผู้ใช้งานตัวจริงยังคงอยู่ และบัญชียังไม่ได้ถูกแฮ็กไป
6. มีชื่อเสียง
TikTok จะตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลทั้งในและนอกแพลตฟอร์มว่า เจ้าของบัญชี (ทั้งในนามบุคคลและองค์กร) มีชื่อเสียงมากแค่ไหน โดยไม่พิจารณาจากโฆษณาที่ต้องชำระเงิน
ขั้นตอนการยื่นขอ TikTok Verified
ที่มา: https://www.likesgeek.com/blog/how-many-followers-on-tiktok-to-get-verified/
หากพิจารณาแล้วว่า บัญชีของคุณเข้าเกณฑ์ที่ TikTok กำหนดไว้ ก็สามารถดำเนินการยื่นขอ TikTok Verified ได้ โดยเข้าไปที่หน้าโปรไฟล์ >> แตะที่ไอคอนขีด 3 ขีดด้านขวามือ >> เลือก “การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว” >> จัดการบัญชี >> การตรวจสอบยืนยัน และทำตามขั้นตอนในแอปพลิเคชัน เพื่อดำเนินการยืนยันคำขอต่อไป
การยื่นขอ TikTok Verified เสียค่าบริการหรือไม่
การยื่นขอ TikTok Verified ไม่ใช่การสมัครสมาชิก จึงไม่ต้องเสียค่าบริการ และในปัจจุบันก็ยังไม่มีสัญญาณว่า TikTok จะปรับลักษณะบริการของ TikTok Verified แต่อย่างใด
สรุป
TikTok Verified ยังคงสถานะเป็นเครื่องหมายยืนยันเช่นเดียวกับติ๊กถูกสีฟ้าบน Instagram ในอดีต ดังนั้น หากคุณอยากให้บนชื่อบัญชีมีเครื่องหมาย TikTok Verified เพื่อให้ลูกค้าหรือผู้ติดตามรู้สึกวางใจ คุณจะต้องหมั่นสร้างสรรค์คอนเทนต์ลงบน TikTok จนมี Engagement และผู้ติดตามมากขึ้นให้ได้ อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน Influencer ชื่อดังหลายท่านก็ยังไม่มีเครื่องหมาย TikTok Verified ปรากฏบนหน้าโปรไฟล์ ดังนั้น ในทางปฏิบัติจริงสิ่งนี้อาจไม่สำคัญเท่ากับ Engagement และ Conversion ที่คุณสามารถสร้างได้จริง
อ้างอิง
TikTok. Verified Account on TikTok
Available from: https://support.tiktok.com/en/using-tiktok/growing-your-audience/how-to-tell-if-an-account-is-verified-on-tiktok
SproutSocial. How to get verified on TikTok: 6 tips and tricks
Available from: https://sproutsocial.com/insights/how-to-get-verified-on-tiktok/