Psychology of Waiting ทำอย่างไรให้ลูกค้าที่ต่อคิว ไม่รู้สึกว่ารอนานจนอยากเลิกซื้อ!

วิธีการจัดการคิวของลูกค้าตามหลัก Psychology of Waiting

หลายแบรนด์เสียโอกาสทางการค้า เพราะลูกค้าเห็นความยาวของแถวต่อคิวแล้วรู้สึกท้อ ขอเลือกซื้อของเจ้าอื่นแทนดีกว่า มาใช้หลักการ Psychology of Waiting ในการจัดการแถวคิวกันเถอะ!

เวลาเห็นร้านไหนมีคนต่อแถวยาว เรามักจะมองว่าร้านนั้นต้องขายดีมากแน่ ๆ แต่หลายครั้งก็อาจเห็นผู้คนบ่นลงโซเชียลมีเดียบ่อย ๆ ว่า การรอนานจนเกินไปทำให้รู้สึกเสียเวลา และถ้าสิ่งนั้นไม่ได้คุ้มค่ากับการรอก็อาจจะไม่กลับมาซื้อซ้ำอีก การที่มีคนสนใจสินค้าเยอะเป็นเรื่องดี แต่หน้าร้านก็ต้องมีการจัดการคิวที่เหมาะสม เพื่อรักษาสิ่งที่เรียกว่าประสบการณ์ของลูกค้าเอาไว้ Digital Tips มาแชร์เทคนิคการบริหารคิวด้วยจิตวิทยาการรอ หรือ Psychology of Waiting ทำอย่างไรให้ลูกค้ารู้สึกว่าสิ่งที่กำลังต่อคิวนั้น ไม่ได้นานอย่างที่คิด!

Content Summary

  • Psychology of Waiting คือ การศึกษาว่าความรู้สึกของผู้คนที่มีต่อการรอ รวมถึงวิเคราะห์ว่าผู้คนมีการตอบสนองต่อการรอคอยอย่างไรบ้าง
  • การรับรู้ระยะเวลาการรอจะช่วยลดความรู้สึกเชิงลบได้ เพราะทำให้ลูกค้าสามารถวางแผนจัดการกับเวลาได้อย่างถูกต้อง โดยแบรนด์สามารถใช้วิธีวางจอแสดงลำดับคิว พร้อมบอกระยะเวลาที่ต้องรอโดยประมาณให้พวกเขาทราบ
  • ผลสำรวจพบว่า 74% ของลูกค้าเลือกซื้อของในร้านคู่แข่ง หากรู้สึกว่าเวลาในการต่อคิวนั้นสั้นกว่าอีกร้านที่ต้องการซื้อในตอนแรก
จิตวิทยาการรอ คือการศึกษาว่าลูกค้ารู้สึกอย่างไรขณะที่กำลังรอ

Psychology of Waiting คืออะไร

Psychology of Waiting หรือ จิตวิทยาแห่งการรอคอย เป็นการศึกษาว่าผู้คนรู้สึกอย่างไรขณะที่กำลังต่อคิว และมีการตอบสนองต่อการรอคอยแบบใดบ้าง บางคนอาจรู้สึกเฉย ๆ รอได้ แต่บางคนก็อาจรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิดประสบการณ์ที่ไม่ดี ภาพลักษณ์ของแบรนด์เสียหาย และส่งผลต่อความภักดีจากลูกค้าอีกด้วย 

ยิ่งระยะเวลารอคิวนานเท่าไหร่ ความอดทนของลูกค้าก็น้อยลงตาม ผลสำรวจจาก Queue-it พบว่า 74% ของลูกค้าเลือกซื้อของในร้านคู่แข่ง หากรู้สึกว่าเวลาในการต่อคิวนั้นสั้นกว่า และมีแนวโน้มว่าพวกเขาจะกลับมาซื้อร้านเดิมน้อยลงกว่า 70% เลยทีเดียว นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมแบรนด์ถึงควรให้ความสำคัญกับการจัดลำดับคิวเป็นอย่างมาก ไม่เพียงสูญเสียโอกาสทางการค้า แต่ยังทำให้ความนิยมของแบรนด์ลดลงด้วย

วิธีการจัดการคิวของลูกค้าตามหลัก Psychology of Waiting

จัดการคิวได้ง่าย ๆ ด้วย 5 หลักการตามหลักจิตวิทยาการรอ

เมื่อเกิดปัญหาลูกค้าต้องรอคิวนาน นอกจากแบรนด์ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการจัดลำดับคิวให้เร็วขึ้นแล้ว ก็ต้องเปลี่ยนมุมมองการรับรู้และประสบการณ์ของลูกค้าด้วย เพื่อให้พวกเขาไม่รู้สึกว่ารอนานจนเกินไป

ศาสตราจารย์ David Maister จาก Harvard Business School ได้ทำการศึกษาหลักการสำคัญที่ใช้กำหนดประสบการณ์ของลูกค้าเมื่อพวกเขาต้องต่อคิวซื้อสินค้า ซึ่งหลักการเหล่านี้สามารถนำไปปรับใช้ได้ทั้งการรอคิวหน้าร้านและออนไลน์ มาดูกันเลยว่าจะมีเทคนิคอะไรน่าสนใจบ้าง

จุดรับกระเป๋าในสนามบินอยู่ไกล เพราะถูกออกแบบตามหลัก Psychology of Waiting

1. การรอแบบมีจุดหมาย ดีกว่าการรอแบบไร้จุดหมาย

แม้ว่าลูกค้าจะต้องการซื้อของชิ้นนั้นแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะต้องรอไปจนถึงเมื่อไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกแย่มากขึ้นเท่านั้น แบรนด์ควรมีการแจกบัตรคิวหรือมีจอแสดงลำดับคิว เพื่อให้ลูกค้ารู้ลำดับคิวของตัวเอง อีกทั้ง การได้เห็นตัวเลขที่กำลังนับถอยหลังนั้น ก็จะทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกันเดียวกับระบบคิวออนไลน์ที่จะมีแถบแสดงความคืบหน้า เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าใกล้จะถึงคิวของตนหรือยังนั่นเอง

ซึ่งหลักการ Psychology of Waiting ก็ถูกนำมาใช้กับสนามบินด้วย คุณรู้หรือไม่ว่าทำไมสายพานรับกระเป๋าเดินทางที่สนามบิน ถึงอยู่ไกลจากจุดที่ปล่อยผู้โดยสารออกจากเครื่องบิน คำตอบคือ สนามบินไม่ต้องการให้ผู้โดยสารยืนรอกระเป๋าเป็นเวลานาน ขณะที่พวกเขาใช้เวลาเดินทางมาที่จุดรับกระเป๋า สัมภาระก็จะทยอยออกมาตามสายพานพอดี ทำให้ผู้โดยสารไม่รู้สึกว่ารอนาน รวมถึงมีจุดหมายอยู่แล้วว่ากระเป๋าจะมาถึงในเวลาที่พวกเขาเดินมาถึงอีกด้วย 

2. เริ่มบริการลูกค้าทันที ขณะที่พวกเขากำลังรอคิว

ร้านอาหารหลายร้านมักเบี่ยงเบนความสนใจของลูกค้า ด้วยการนำใบเมนูให้พวกเขาอ่านระหว่างรอ นอกจากลูกค้าจะได้ใช้เวลากับการเลือกอาหารที่อยากรับประทานแล้ว ยังทำให้พวกเขารู้สึกมีตัวตน ไม่ถูกร้านมองข้ามคิว และรับรู้ว่าบริการจากร้านได้เริ่มขึ้นแล้ว

กรณีศึกษาจาก Haidilao ร้านอาหารสไตล์หม้อไฟจากประเทศจีน ก็ได้นำกลยุทธ์จิตวิทยาการรอมาปรับใช้เช่นกัน โดยมีบริการพิเศษให้ลูกค้าทำระหว่างรอคิว ได้แก่ บริการขนม เครื่องดื่ม ทำเล็บ เก้าอี้นวด บอร์ดเกม และตู้ปริ้นภาพ เพื่อเป็นการฆ่าเวลาและได้ทำกิจกรรมเพลิน ๆ โดยไม่รู้สึกว่าการรอคอยนั้นน่าเบื่อ

การบอกระยะเวลาถอยหลังก่อนจะใช้บริการ เป็นหลักจิตวิทยาการรออย่างหนึ่ง

3. การรู้ระยะเวลาที่ต้องรอ ช่วยลดความหงุดหงิดได้

ถ้าคุณเคยรอสายจากคอลเซนเตอร์ธนาคารหรือสายการบิน ระหว่างผู้ให้บริการพูดว่า “คุณกำลังอยู่ในคิวลำดับที่ 10 ระยะเวลารอสายโดยประมาณคือ 8 นาที” กับมีแต่เสียงรอสายไปเรื่อย ๆ แบบไหนจะทำให้คุณรู้สึกดีมากกว่ากัน? แน่นอนว่าต้องเป็นตัวเลือกแรก เพราะ Psychology of Waiting อธิบายไว้ว่า การทราบระยะเวลาที่แน่นอนย่อมดีกว่าการไม่ทราบอะไรเลย เพราะทำให้ลูกค้าสามารถวางแผนเวลาได้นั่นเอง

ดังนั้น บริเวณหน้าร้านนอกจากจะต้องมีจอแสดงลำดับคิวแล้ว ควรบอกระยะเวลาที่ต้องรอโดยประมาณให้ลูกค้ารับรู้ด้วย โดยจะบอกเวลาที่นานกว่าความเป็นจริงไปสักเล็กน้อยก็ได้ เมื่อคิวของลูกค้าถูกเรียกและพบว่าคิวของตนเองเร็วกว่าเวลาที่จอประมาณไว้ ก็จะรู้สึกดียิ่งขึ้นนั่นเอง 

4. หากเกิดปัญหาที่ทำให้คิวล่าช้า ต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบทันที

มนุษย์มักมองหาคำตอบกับทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เสมอ เวลาเพื่อนมาสายเราก็จะถามเขาว่าทำไมถึงมาสาย เช่นเดียวกับลูกค้า หากพบว่าหน้าร้านหรือระบบออนไลน์มีปัญหา พวกเขาก็ต้องการทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เรามักจะพบกับสถานการณ์ดังกล่าวบ่อย ๆ ที่สนามบิน สายการบินจะรีบแจ้งผู้โดยสารให้ทราบทันทีหากเครื่องบินดีเลย์ 

และหากแบรนด์เกิดปัญหาใด ๆ ที่ทำให้คิวต้องล่าช้า นอกจากการแจ้งสาเหตุทันที ควรมีบริการชดเชยเวลาให้กับลูกค้า อาจจะเป็นส่วนลดพิเศษหรือบริการเสริม เพื่อรักษาประสบการณ์ของลูกค้า ทำให้เห็นว่าแบรนด์ใส่ใจ ไม่ละเลยความรู้สึกของลูกค้า

หลักการ First Come, First Serve เป็น 1 ในกลยุทธ์ของจิตวิทยาการรอ

5. จัดสรรคิวอย่างยุติธรรม

สถานการณ์ที่ลูกค้าร้านอาหารมักพบเจอบ่อย ๆ คือ คนที่มาทีหลังได้โต๊ะก่อน การโดนแซงคิวอย่างไม่ยุติธรรมส่งผลต่อประสบการณ์ของลูกค้าเป็นอย่างมาก กรณีนี้อาจใช้หลักการ First Come, First Serve เข้ามาช่วย โดยบริการลูกค้าตามลำดับการจอง หรือคิวที่ได้ลงทะเบียนไว้ เพื่อจัดสรรคิวอย่างเป็นธรรม 

หลักการ Psychology of Waiting นี้เราจะพบเห็นในธุรกิจที่มีบริการพิเศษเฉพาะลูกค้า VIP โดยจะแบ่งช่องบริการแยกสำหรับกลุ่มลูกค้าพรีเมียมเท่านั้น ซึ่งวิธีการนี้ก็ไม่ทำให้ลูกค้าทั่วไปรู้สึกแย่ และมองว่ายุติธรรม เพราะกลุ่มลูกค้าพรีเมียมจ่ายแพงกว่าตนนั่นเอง

สรุป

เทคนิคการจัดการคิวด้วยหลักจิตวิทยาการรอในวันนี้ หวังว่าช่วยเหลือแบรนด์ของคุณไม่น้อย เพราะประสบการณ์ของลูกค้าเป็นสิ่งที่รักษาได้ยากมากที่สุด การปรับเปลี่ยนมุมมองในการซื้อสินค้าที่ Digital Tips ได้แนะนำไปนั้น สามารถช่วยลดความรู้สึกเชิงลบต่อแบรนด์ลงได้ 

 

อ้างอิง

Queue-it. The psychology of queuing revealed in 6 simple rules

Available from: https://queue-it.com/blog/psychology-of-queuing/#the-6-revealing-rules-of-queue-psychology

David Maister. The Psychology of Waiting Lines

Available from: https://davidmaister.com/articles/the-psychology-of-waiting-lines/ 

Qminder. The Cost of Queues: How Improper Queue Management Affects Your Bottom Line

Available from: https://www.qminder.com/blog/queue-management/cost-customer-service-wait-times/

แนะนำ 7 AI สรุปประชุมที่ช่วยให้การทำงานสะดวกรวดเร็ว
News
บอกต่อ 7 AI สรุปประชุมแบบเรียลไทม์ จดครบทุกรายละเอียดสำคัญ

การประชุมบริษัทในยุคปัจจุบันถือเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมาก ๆ เพราะเรามี AI สรุปการประชุมจากเสียงเข้ามาช่วยสรุปรายงานการประชุม หรือถอดเทปสัมภาษณ์ได้อย่างแม่นยำ แทนที่เราจะเสียเวลาจดและนั่งฟังคลิปเป็นชั่วโมง ไหนจะต้องโฟกัสกับคำถามจากผู้เข้าร่วมประชุมอีก จะดีกว่าไหมถ้ามีเครื่องมือนี้มาช่วยประหยัดแรงทำงานได้มากขึ้น และในบทความนี้ Digital Tips…

AEO (Answer Engine Optimization) คืออะไร มีผลดีต่อแบรนด์อย่างไรบ้าง
Marketing
AEO (Answer Engine Optimization) คืออะไร แตกต่างจากการทำ SEO ทั่วไปอย่างไร

Answer Engine Optimization เป็นการปรับปรุงเนื้อหาแบบใหม่ที่ทำให้วงการ SEO ทั่วโลกต้องหันมาสนใจกันเลยทีเดียว ซึ่งหลายคนอาจคุ้นชินกับการปรับแต่งเนื้อหา เพื่อให้แสดงผลบนหน้าแรกของ Search Engine ไปจนถึงการแสดงผลบน Featured…

Marketing Funnel ที่ตอบโจทย์สำหรับชาว Gen Z ต้องเป็นแบบไหน
Marketing
เจาะลึกการตลาด Gen Z เมื่อ Marketing Funnel แบบเดิมไม่ตอบโจทย์

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การตลาดสมัยนี้ต้องหันมาให้ความสนใจกับชาว Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายทรงอิทธิพลที่สุดในยุคปัจจุบัน ด้วยจำนวนถึง 2 พันล้านคนทั่วโลกหรือคิดเป็น 30% ของประชากรทั้งหมด แบรนด์จึงต้องออกแบบผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงวิธีการสื่อสารให้ตรงใจคนกลุ่มนี้เป็นพิเศษ…