สถิติการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคนไทย (อัปเดต มกราคม 2023) โดย We Are Social ระบุว่า “คนไทยอายุ 16 -64 ปีใช้งานบัญชีไลน์มากถึง 90.7%” ธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศไทยจึงเริ่มสื่อสารกับลูกค้าผ่านไลน์มากขึ้น โดยใช้บัญชีพิเศษที่เรียกว่า LINE Official Account ซึ่งประกอบไปด้วยฟีเจอร์ที่สร้างมาเพื่อธุรกิจโดยเฉพาะ หนึ่งในนั้นคือ LINE Rich Menu ที่ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งรูปแบบได้ตามต้องการ มารู้จักกับฟีเจอร์นี้ให้มากขึ้น พร้อมไอเดียออกแบบ LINE Rich Menu สำหรับธุรกิจ 7 ประเภทไปพร้อม ๆ กัน!
LINE Rich Menu คืออะไร?
LINE Rich Menu คือ ฟีเจอร์พิเศษที่จะแสดงผลบริเวณแถบด้านล่างของช่องแชตไลน์ ผู้ใช้งานที่เป็นบัญชีธุรกิจสามารถปรับแต่งรูปแบบของริชเมนู ได้ ไม่ว่าจะใส่ External Sites ลิงก์ไปที่หน้าเว็บไซต์ เพิ่มคูปองสะสมแต้ม หรือเพิ่มเบอร์โทรศัพท์ นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกเทมเพลตหรืออัปโหลดภาพที่ดีไซน์เอง เพื่อสร้างริชเมนูตามแบบฉบับของแบรนด์ได้ ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อ ซื้อขายกับลูกค้า และยังช่วยสร้าง Brand Awareness ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ส่วนประกอบของ LINE Rich Menu มีอะไรบ้าง?
โดยรวมแล้ว LINE Rich Menu ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ปุ่มเมนู แอ็กชัน และแถบเมนูบาร์ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ปุ่มเมนู
ปุ่มเมนู คือ ส่วนที่สังเกตได้ง่ายที่สุดบนจอแสดงผล ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งให้มีปุ่มเมนูได้สูงที่สุด 6 ปุ่ม โดยคลิกเลือกเทมเพลต และอัปโหลดรูปใส่ลงไปได้ตามความต้องการ
แอ็กชัน
แอ็กชัน คือ การกำหนดวัตถุประสงค์ของการกดปุ่มเมนูแต่ละปุ่ม แบ่งออกเป็น 4 แบบ ได้แก่ การใส่ลิงก์ไปที่หน้าเว็บไซต์ การใส่คูปอง การใส่บัตรสะสมแต้ม และการกำหนดข้อความธรรมดา (หากต้องการตั้งแอ็กชันให้เป็นเบอร์โทรศัพท์ ให้เลือกกำหนดแอ็กชันเป็นข้อความ และพิมพ์ tel: ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ เช่น tel:02xxxxxxx โดยต้องพิมพ์ติดกันทั้งหมด)
แถบเมนูบาร์
การตั้งค่าบนแถบเมนูบาร์ เป็นเพียงการกำหนดข้อความตัวเล็ก ๆ ที่อยู่บริเวณด้านล่างของริชเมนู โดยผู้ใช้งานอาจกำหนดเป็นข้อความธรรมดา เช่น เมนู หรืออาจปรับแต่งให้เป็นข้อความทักทายอื่น ๆ เช่น “ยินดีต้อนรับ”, “ปรึกษาเราสิคะ” หรือ “Shop Now” เป็นต้น
หากคุณต้องการศึกษาเรื่องการตั้งค่า LINE Rich Menu อ่านเพิ่มเติมได้ที่: Rich Menu เคล็ดลับสร้างยอดขายที่คุณอาจไม่เคยรู้!
ไอเดียการออกแบบ LINE Rich Menu เพื่อธุรกิจ 7 ประเภท
คำถามยอดฮิตสำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มใช้งาน LINE Rich Menu เป็นครั้งแรก คือ “ควรจะออกแบบริชเมนูอย่างไรให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด?” และเพื่อตอบคำถามนี้ Digital Tips ขอรวบรวม 7 ไอเดียการออกแบบริชเมนูที่ธุรกิจของคุณควรนำไปปรับใช้ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน!
ที่มา: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=lvp5194h
1. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม คือ เมนูพร้อมราคาที่ลูกค้าสามารถเปิดดูได้ทุกเวลา สาขาที่เปิดให้บริการ (ทั้ง Delivery และนั่งรับประทานในร้าน) รวมถึงสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่ดึงดูดให้ลูกค้าตัดสินใจ Add LINE ดังนั้น บนหน้า LINE Rich Menu จึงควรมีฟังก์ชันเหล่านี้ให้ครบ เข้าใจง่าย นอกจากนี้ แนะนำให้มีปุ่มเมนูที่ทำไว้สำหรับลูกค้าที่สมัครเป็น Member ของร้านโดยเฉพาะ เพื่อสะสมแต้มได้โดยตรงผ่านช่องทางไลน์ เพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณ
ที่มา: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=aiiz
2. ธุรกิจเสื้อผ้าและเครื่องประดับ
โดยทั่วไป ลูกค้าที่ต้องการเลือกดูเสื้อผ้าและเครื่องประดับ มักตัดสินใจไปชมของจริงที่หน้าร้าน หรือเลือกดูดีไซน์ ไซซ์ และราคาผ่านเว็บไซต์โดยตรง ดังนั้น การตัดสินใจ Add LINE จึงมักเป็นไปด้วยวัตถุประสงค์อื่น อาทิ กดรับคูปอง รับบัตรสะสมแต้ม ติดต่อสอบถามหรือให้ความคิดเห็นด้านการบริการ และค้นหาสาขา เป็นต้น LINE Rich Menu ของธุรกิจเสื้อผ้าและเครื่องประดับจึงควรเน้นไปที่โปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่ Add LINE และควรมีช่องทางให้ลูกค้าได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ประจำร้าน หรือประจำสาขาต่าง ๆ ได้โดยตรง
ที่มา: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=mujithailand
3. ธุรกิจสินค้าเบ็ดเตล็ด
จุดเด่นของร้านที่ขายสินค้าเบ็ดเตล็ด คือ ความหลากหลายของสินค้า และโปรโมชันพิเศษเมื่อซื้อสินค้าจนถึงยอดที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ ร้านที่ขายสินค้าเบ็ดเตล็ดยังมักจะลงขายสินค้าผ่าน E-commerce เช่น Shopee หรือ Lazada เพื่อขยายตลาดบนช่องทางออนไลน์ ดังนั้น บนหน้า LINE Rich Menu จึงควรมีลิงก์นำไปยังช่องทางเหล่านี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการกดสั่งซื้อในทุก ๆ ช่วงเวลาด้วย
ที่มา: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=flashexpressth
4. ธุรกิจขนส่งสินค้า และ Logistics
ปัจจุบันมีธุรกิจขนส่งเกิดขึ้นมากมาย ทั้งธุรกิจขนส่งพัสดุที่มีเพื่อรองรับการเติบโตของการซื้อขายออนไลน์ และธุรกิจขนส่งสำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น วัตถุดิบแช่แข็ง ของสด ผลิตผลทางการเกษตร ฯลฯ อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญเหมือน ๆ กันของธุรกิจประเภทนี้ คือการเปิดช่องทางให้ลูกค้าได้เช็กสถานะการขนส่ง ติดตาม-ทวงถามถึงการขนส่งที่ล่าช้า จุดบริการ และการติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรงสำหรับผู้สนใจใช้งาน บนหน้า LINE Rich Menu ของธุรกิจขนส่งจึงควรมีสิ่งเหล่านี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า
ที่มา: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=agoda
5. ธุรกิจท่องเที่ยว
ธุรกิจท่องเที่ยวในที่นี้ หมายความรวมทั้งบริษัททัวร์ บริษัทรับจองตั๋วรถ ตั๋วเครื่องบิน ไปจนถึงบริษัทรับจองที่พัก ซึ่งแน่นอนว่า LINE Official Account คือช่องทางที่สะดวกที่สุดในการเช็คสถานะการจอง และการติดต่อจองตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังเหมาะแก่การกดรับสิทธิพิเศษที่มาพร้อมเทศกาลสำคัญต่าง ๆ อีกด้วย
ที่มา: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=lelux
6. ธุรกิจคลินิกทันตกรรม คลินิกเสริมความงาม และคลินิกรักษาสัตว์
คลินิกทันตกรรมและคลินิกเสริมความงาม คือสถานที่ที่รองรับทั้งการบริการเชิงรักษา และบริการเชิงเสริมความงาม จึงมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก บนหน้า LINE Rich Menu ของธุรกิจทั้ง 2 ประเภทนี้จึงจำเป็นต้องอำนวยความสะดวกเรื่องการจองคิว รวมถึงการรวบรวมรีวิวจากผู้ใช้จริง เพื่อยืนยันฝีมือของแพทย์ ประกอบการตัดสินใจ และสิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้! คือโปรโมชันพิเศษ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ นอกจากนี้ คลินิกรักษาสัตว์ ที่มักให้บริการครอบคลุมทั้งการรักษาและการอาบน้ำตัดแต่งขน ก็สามารถออกแบบริชเมนูตามแนวทางนี้ได้ โดยอาจเพิ่มเมนูการติดต่อสอบถามจากแพทย์ผู้รักษาโดยตรง เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้ามากขึ้น
ที่มา: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=generalithailand
7. ธุรกิจบริการให้คำปรึกษา
ธุรกิจบริการให้ปรึกษาประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย การศึกษาต่อต่างประเทศ การตลาดออนไลน์ หรือการเปรียบเทียบประกันภัย เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้ LINE Official Account เป็นตัวกลางในการสื่อสาร ทั้งนี้ บนหน้า LINE Rich Menu แนะนำให้ออกแบบปุ่มเมนูแยกเป็นประเภทบริการ อาทิ หากคุณให้บริการปรึกษาเรื่องศึกษาต่อต่างประเทศ อาจแบ่งออกเป็นปุ่ม “ปรึกษาเรื่องการทำ VISA”, “ปรึกษาเรื่องการสอบวัดระดับภาษา” หรือ “ปรึกษาเรื่องการเลือกแผนการเรียน” เป็นต้น และควรมีช่องทางสำหรับติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อลดความสับสนที่อาจเกิดขึ้นด้วย
ประโยชน์ของการใช้งาน LINE Rich Menu
ผู้ใช้งาน LINE Official Account ล้วนทราบดีว่า ฟีเจอร์ LINE Rich Menu สามารถตั้งค่าให้มีหรือไม่มีก็ได้ อย่างไรก็ดี ริชเมนูก็ยังถือว่าเป็นส่วนเสริมที่จำเป็นในหลาย ๆ แง่มุม ดังนี้
อำนวยความสะดวกให้กับทั้งฝั่งลูกค้าและฝั่งธุรกิจ
หากเปิดโอกาสให้ลูกค้าพิมพ์ข้อความเข้ามาอย่างเดียว ธุรกิจก็อาจสิ้นเปลืองทั้งเวลา และต้องจัดหาบุคลากรสำหรับตอบคำถามทางแชตไลน์มากขึ้น ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งลูกค้าเองก็คงรู้สึกสับสนไม่น้อย เพราะไม่แน่ใจว่าข้อความที่ส่งทางช่องแชตจะได้รับการตอบกลับเมื่อไหร่ LINE Rich Menu จึงกลายเป็นคำตอบสำคัญ ในการช่วยนำทางลูกค้าไปยังช่องทางต่าง ๆ ที่เหมาะสม และยังช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
เสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์
ช่องแชตไลน์ที่ไม่มีแถบ LINE Rich Menu จะมีหน้าตาไม่ต่างกับไลน์ของบุคคลธรรมดา ซึ่งอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกสับสน และอีกนัยนึงก็อาจทำให้ลูกค้าไม่เชื่อถือในแบรนด์ ดังนั้น การเปิดใช้งาน LINE Rich Menu จะช่วยตอกย้ำว่าแบรนด์ให้ความสำคัญกับ Official Contact ทุกช่องทาง และเป็นแบรนด์ที่มีมาตรฐาน เชื่อถือได้
ช่วยเพิ่มยอดขาย
ดังที่ได้กล่าวไปในตอนต้น ว่า LINE คือช่องทางการสื่อสารที่ได้รับความนิยมสูง และคนไทยเองก็ใช้งานแอปพลิเคชัน LINE แทบทุกเวลา การสร้างริชเมนูจึงช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย โดยอาศัยการส่งต่อข้อมูลให้กับเพื่อน ๆ ในไลน์ หรือการใช้เวลากับโทรศัพท์มือถือในเวลาว่างนั่นเอง
สรุป
ทั้ง 7 ตัวอย่างการออกแบบ LINE Rich Menu เป็นเพียงไอเดียสำหรับเจ้าของธุรกิจ ผู้ที่เริ่มทำการตลาดออนไลน์ผ่าน LINE Official Account เท่านั้น สามารถปรับปรุงได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการตอบสนองลูกค้าอย่างใส่ใจ และหมั่นอัปเดตนิสัยการใช้งานของลูกค้า เพื่อปรับฟังก์ชันของ LINE Rich Menu ให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด
Source
LINE Developer. Using LINE Rich Menu Available from: https://developers.line.biz/en/docs/messaging-api/using-rich-menus/
respond.io (2022). LINE Business: The Ultimate Guide to LINE Official Account [Nov 2022] Available from: https://respond.io/blog/line-business