6 Step วางแผนการตลาดให้ปังกว่าใคร ฉบับธุรกิจเปิดใหม่ไฟแรง

ไม่ว่าจะทำอะไร ช่วงของการเริ่มต้นก็มักจะเป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุดเสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่งการเปิดธุรกิจใหม่ ซึ่งต้องอาศัยความรู้ในการวางแผนการตลาด (Marketing Plan) และทักษะในการรับมือกับลูกค้าหลายประเภท หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังเปิดธุรกิจใหม่ในช่วงนี้ และยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มวางแผนการตลาดอย่างไร Digital Tips ขอแนะนำ 6 ขั้นตอนการวางแผนการตลาดสำหรับธุรกิจเปิดใหม่ ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันเลย!

Step 1: วิเคราะห์ธุรกิจก่อนวางแผนการตลาดด้วย SWOT Analysis

SWOT Analysis

ที่มา: https://www.feedough.com/swot-analysis/ 

“คุณเข้าใจธุรกิจของตัวเองดีแค่ไหน?” นี่คือปราการด่านแรกที่เจ้าของธุรกิจจะต้องฝ่าไปให้ได้ และวิธีที่ดีที่สุดในการทำความเข้าใจธุรกิจของตนเอง ก็คือการวิเคราะห์ธุรกิจผ่านทฤษฎี SWOT Analysis นั่นเอง โดย SWOT Analysis จะแบ่งออกเป็น 4 องค์ประกอบ ได้แก่ Strengths (จุดแข็ง) Weakness (จุดอ่อน) Opportunities (โอกาส) และ Threats (อุปสรรค) หากคุณสามารถวิเคราะห์ได้ว่า ธุรกิจของคุณมีจุดแข็ง  จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคอย่างไรบ้าง ก็จะทำให้คุณเข้าใจว่า สถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร ธุรกิจของคุณได้เปรียบหรือเสียเปรียบคู่แข่งอย่างไร และควรนำเสนออะไร จึงจะทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณแตกต่างจากแบรนด์อื่นในตลาด

>> อ่านเพิ่มเติม: SWOT คืออะไร

Step 2: สำรวจและวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย

การค้นหาว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจคุณสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบบสำรวจ การสำรวจจาก Social Media Insights การใช้กลุ่มเป้าหมายเดียวกับคู่แข่ง ฯลฯ ทั้งนี้ เมื่อได้ลักษณะคร่าว ๆ ของกลุ่มเป้าหมายมาแล้ว ให้คุณลองนำข้อมูลเหล่านั้นมาสร้างเป็น Customer Persona เพื่อให้คุณมองเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า ลูกค้าของคุณคือคนอายุเท่าไหร่ เพศอะไร มีการศึกษาอยู่ในระดับไหน และมีพฤติกรรมการบริโภคอย่างไร โดยวิธีการสร้าง Persona สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่: Persona คืออะไร ทำไมเราควรสร้างผู้ใช้จำลองในการทำการตลาด

Step 3: สร้างเป้าหมายให้ชัดเจนด้วยเทคนิค SMART

แผนการตลาดของคุณจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร…หากปราศจากการตั้งเป้าหมาย และเพื่อให้เป้าหมายในการทำธุรกิจของคุณชัดเจนขึ้น ลองให้เทคนิค SMART เป็นแผนที่นำทางของคุณ!

SMART Goal

ที่มา: https://www.futurelearn.com/info/courses/manage-team-performance/0/steps/359276 

SMART คือ เทคนิคการตั้งเป้าหมายให้มีประสิทธิภาพ นิยมใช้กับการตั้งเป้าหมายทางธุรกิจ โดยมีหลักการง่าย ๆ ว่า เป้าหมายของคุณจะต้องมีคุณสมบัติครบทั้ง 5 องค์ประกอบ ได้แก่ Specific (จำเพาะเจาะจง) Measurable (วัดผลได้) Attainable (บรรลุผลได้) Realistic (สมเหตุสมผล) และ Timely (มีกำหนดเวลาชัดเจน) ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มยอดขาย ก็ควรวางแผนให้รอบคอบว่า อยากจะเพิ่มยอดขายเท่าไหร่ ภายในระยะเวลากี่เดือน/กี่ปี และที่สำคัญ ยอดขายนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงมากแค่ไหน มีโอกาสทำได้จริงหรือไม่

Step 4: วางกลยุทธ์การตลาดและกำหนด KPI

และขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการวางแผนการตลาดก็มาถึง นั่นคือการกำหนดกลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) พร้อมกำหนด KPI โดยในขั้นตอนนี้ คุณจะต้องวางแผนว่า ควรโปรโมทผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางใด ด้วยวิธีการแบบไหน และจะมีวิธีการวัดผลสัมฤทธิ์อย่างไร ทั้งนี้ เราแนะนำให้คุณเลือกช่องทางการตลาดที่คุณสามารถบริหารจัดการได้ง่ายที่สุดก่อน ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นธุรกิจเปิดใหม่ที่ยังมีสมาชิกทีมไม่มาก แนะนำให้โปรโมทผ่าน Social Media เฉพาะช่องทางที่มีกลุ่มลูกค้าอยู่มากที่สุด ควบคู่ไปกับการทำคอนเทนต์ลงบนช่องทางส่วนตัว แล้วค่อย ๆ ขยายสเกลการบริหารและช่องทางการตลาด จะจัดการทุกอย่างได้ง่ายกว่า 

Step 5: กำหนดงบประมาณที่จะต้องใช้ตลอดแผนการตลาด

งบการตลาด

ที่มา: https://www.template.net/business/budget-templates/marketing-budget-templates/ 

กลยุทธ์การตลาดที่ทำแล้วได้ผลกำไร จะต้องบริหารจัดการอยู่ในงบประมาณที่เหมาะสม ไม่บานปลายจนกลายเป็นต้นทุนที่คาดไม่ถึง ดังนั้น ก่อนจะดำเนินการตามแผนการตลาดที่วางไว้ คุณจะต้องวิเคราะห์ให้ถี่ถ้วนก่อนว่า ควรจะแบ่งงบประมาณมาลงทุนกับการตลาดเท่าไหร่ และจะบริหารงบส่วนนี้อย่างไร ไม่ให้ไปรบกวนงบส่วนผลิตและปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ แน่นอนว่า…อย่าลืมคำนวณงบประมาณกรณีที่จำต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือภาษีต่าง ๆ ด้วย

Step 6: วางแผนการตลาดสำรอง

การวางแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีแพลน B แพลน C เพื่อรองรับกรณีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เนื่องจากในบางครั้งธุรกิจของคุณอาจต้องเจอกับปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ ทั้งสภาพเศรษฐกิจ สถานการณ์ทางการเมือง ภัยธรรมชาติ หรือการเปลี่ยนแปลงของแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นต้น ดังนั้น เราจึงแนะนำให้คุณวางแผนการตลาดสำรองคร่าว ๆ เอาไว้ เพื่อเตรียมรับมือกรณีมีสถานการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น

สรุป

โจทย์ที่ยากที่สุดของธุรกิจเปิดใหม่ คือ ทำอย่างไรลูกค้าจึงจะกล้าเปิดใจ และยอมรับคุณทัดเทียมกับแบรนด์คู่แข่ง ซึ่งอาวุธที่จะช่วยคุณได้ คงหนีไม่พ้นแผนการตลาดที่เหนือชั้น อย่างไรก็ดี พึงระลึกไว้เสมอว่า แผนการตลาดคือสิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ และต้องตั้งอยู่บนงบประมาณที่เป็นจริงเท่านั้น

 

อ้างอิง

Hubspot. 5 Steps to Create an Outstanding Marketing Plan [Free Templates]

Available from: https://blog.hubspot.com/marketing/marketing-plan-template-generator 

Indeed. How To Write SMART Goals in 5 Steps (With Examples)

Available from: https://www.indeed.com/career-advice/career-development/how-to-write-smart-goals 

 

10 body languages for presentation
Marketing Psychology
ลิสต์ 10 ภาษากายเพื่อการพรีเซนต์งาน สำหรับพนักงานมือโปร 

Topic Summary คนทำงานเตรียมแชร์ไว้ 10 ภาษากายเพื่อการพรีเซนต์งาน เพิ่มสกิลการเป็นมือโปร และทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในตัวคุณ! ในบรรดาความรู้เรื่อง Body Language ทั้งหมด ภาษากายที่ใช้ในการพรีเซนต์งาน…

body languages
Marketing Psychology
เช็กก่อนใคร! ตำแหน่งของ Body Language ตัวช่วยอ่านพฤติกรรมคนจากภาษากาย

Topic Summary อยากรู้ไหม? เวลาอ่านใจคนจากภาษากาย ตำแหน่งของ Body Language ส่วนใดบ้างที่คุณต้องดู และแต่ละตำแหน่งมีความสำคัญอย่างไร ใคร ๆ ก็อยากเชี่ยวชาญการอ่านใจคนด้วยภาษากาย…

what is psychology of pricing
News
เข้าใจจิตวิทยาราคา พร้อมแจกกลยุทธ์การตั้งราคา ให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเร็วกว่าที่เคย

เพิ่งเปิดธุรกิจใหม่ ควรตั้งราคาอย่างไรดี Digital Tips แชร์เทคนิคการตั้งราคาตามหลักจิตวิทยา พร้อมเคลียร์ชัดความหมายของจิตวิทยาราคา อ่านแล้วเข้าใจได้ทันที! Content Summary  จิตวิทยาราคา คือ การกำหนดราคาสินค้าโดยอ้างอิงจากการรับรู้ทางจิตวิทยา…