SWOT Analysis

SWOT คืออะไร คุณเคยสงสัยในคำถามนี้หรือไม่ หากคุณกำลังสงสัยในคำถามนี้อยู่ในบทความนี้จะมาเฉลยความหมายพร้อมวิธีในการวิเคราะห์ให้ทุกท่านได้ทราบกัน

โดย SWOT นั้นคือแนวคิดการวิเคราะห์ธุรกิจที่ผู้ประกอบการ นักการตลาดหรือใครที่ทำธุรกิจไม่ว่าเล็ก กลาง ใหญ่ก็ควรต้องทำการวิเคราะห์ SWOT ก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อที่ใช้เป็นตัวช่วยในการวิเคราะห์ธุรกิจ กลยุทธ์การตลาดและใช้ในการประกอบการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจของคุณที่ครอบคลุมทั้งภายใน ภายนอกองค์กร

หากคุณอยากทราบแล้วว่า SWOT Analysis คืออะไร มีความสำคัญกับการทำธุรกิจมากแค่ไหนและมีตัวอย่างในการวิเคราะห์อย่างไรบ้าง ไปติดตามกันได้เลย บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยให้คุณเอง

SWOT คืออะไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง

SWOT Analysis คือแนวคิดในการวิเคราะห์ปัจจัย 4 อย่างของธุรกิจคือ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และ อุปสรรคผ่านการประเมินสภาพแวดล้อมภายใน, การประเมินสภาพแวดล้อมภายนอก โดยมีเป้าหมายให้ธุรกิจสามารถรับรู้ Position ของตัวเองและนำจุดแข็งไปปรับใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันของตลาด แก้ไขจุดอ่อนที่มีอยู่และลดความเสี่ยงที่อาจส่งผลเสียต่อธุรกิจเพื่อช่วยให้สามารถทำธุรกิจต่อไปได้อย่างราบรื่น ถือเป็นแนวคิดสำคัญของการทำการตลาดดิจิทัล

ซึ่ง SWOT Analysis จะประกอบด้วยปัจจัย 4 อย่างดังนี้

SWOT คือ

จุดแข็ง (Strengths)

จุดแข็ง (Strength) คือข้อได้เปรียบหรือความสามารถในการสร้างสินค้าหรือบริการที่ลูกค้าชอบซึ่งควรต้องเป็นสิ่งที่โดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่ง ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นบริษัทรับสกรีนเสื้อยืด จุดแข็งของคุณคือ ความสามารถในการสกรีน มีเครื่องมือที่ทันสมัยให้ลูกค้าได้สินค้าที่ดีมีคุณภาพในเวลารวดเร็วและมีระบบจัดส่งที่สามารถจัดส่งสินค้าได้ทั่วประเทศโดยไม่ผ่านบริษัทขนส่งเอกชน เป็นต้น

จุดอ่อน (Weaknesses)

จุดอ่อน (Weakness) คือจุดที่ทรัพยากรขององค์กรยังขาดแคลนอยู่หรือความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ธุรกิจของคู่แข่งทำได้ดีกว่า เช่นจำนวนพนักงาน ระบบโลจิสติกส์ ปริมาณการผลิต ข้อจำกัดด้านงบประมาณ ฯลฯ ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นบริษัทรับสกรีนเสื้อยืด จุดอ่อนของคุณคือยังไม่สามารถดีลงานกับโรงงานผลิตเสื้อยืดจากต่างประเทศได้โดยตรง ต้องผ่านคนกลางในประเทศจึงต้องเสียค่าใช้จ่ายในการนำเข้าก่อน เป็นต้น

โอกาส (Opportunities)

โอกาส (Opportunity) คือสิ่งที่เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วส่งผลดีต่อองค์กร ตัวอย่างเช่น นโยบายลดภาษีนำเข้า นโยบายการจัดหางาน การกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ หรือพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าของธุรกิจคุณเพิ่มขึ้นจากกระแสต่าง ๆ เป็นต้น

อุปสรรค (Threats)

อุปสรรค (Threat) คือสิ่งที่สถานการณ์หรือภาวะที่เกิดขึ้นแล้วส่งผลเสียต่อการทำธุรกิจ ตัวอย่างเช่น สถานการณ์ Covid-19 ที่เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคทำให้การซื้อน้อยลง หรือ มาตรการล็อกดาวน์ที่ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถออกจากบ้านไปซื้อสินค้าที่หน้าร้านได้ เป็นต้น ซึ่งอุปสรรคจะต้องเป็นสิ่งที่ตัวคุณหรือธุรกิจไม่สามารถควบคุมได้แตกต่างจาก จุดอ่อน ที่เป็นสิ่งที่ธุรกิจหรือตัวคุณสามารถควบคุมและปรับปรุงให้ดีขึ้นได้

ทำไมธุรกิจควรมีการวิเคราะห์ SWOT 

SWOT คือแนวคิดสำคัญในการสร้างธุรกิจให้เติบโตในอนาคตได้อย่างมีระบบแบบแผน เพราะการที่จะเติบโตได้นั้นนอกจากที่คุณจะต้องรู้จักสภาพแวดล้อมและสถานการณ์โดยรอบแล้ว การรู้จักธุรกิจตัวเองให้ดีนั้นถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กันซึ่งการทำ SWOT Analysis คือการที่คุณได้หันมาทบทวนธุรกิจของคุณอีกครั้ง เพื่อแก้ไขปัจจัยที่ควบคุมได้พร้อมรับมือกับทั้งโอกาสและหลีกเลี่ยงอุปสรรคที่จะต้องเจอ นอกจากนั้นประโยชน์ของการที่ธุรกิจเริ่มวิเคราะห์ SWOT นั้นมีส่วนอื่น ๆ ด้วยดังนี้

  • ได้ทบทวนและทำความเข้าใจกับธุรกิจของคุณอีกครั้ง 
  • ใช้โอกาสจากจุดแข็งของตัวเองในการพัฒนาธุรกิจ 
  • จำแนกจุดอ่อนและหาทางกำจัดหรือป้องกันได้ 
  • ลงทุนในโอกาสเพื่อสร้างประโยชน์ต่อธุรกิจ
  • เป็นแนวคิดที่ดีในการพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจ
  • เป็นส่วนช่วยให้ธุรกิจได้เห็นภาพ Customer Journey ของลูกค้า

ข้อจำกัดของ SWOT Analysis 

สำหรับการดำเนินธุรกิจนั้น SWOT อาจไม่ใช่แนวคิดที่สามารถวิเคราะห์ภาพรวมได้ทุกอย่างเสมอไป แต่จะเหมาะสำหรับจุดเริ่มต้นของการสร้างธุรกิจหรือใช้ในการวิเคราะห์ธุรกิจในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น แต่การวิเคราะห์ SWOT จะไม่สามารถจำแนกข้อมูลหรือปัจจัยเชิงลึกได้ซึ่ง SWOT Analysis นั้นยังมีข้อจำกัดในเรื่องอื่นอยู่ด้วยดังนี้

  • ปัญหาที่สำคัญก่อนหลังจะไม่ได้ถูกจัดลำดับ 
  • ไม่ได้เสนอวิธีการแก้ปัญหาหรือแนวทางในการช่วยขจัดปัญหาแต่อย่างใด
  • อาจจะช่วยให้คุณมีไอเดียเยอะขึ้น แต่ไม่สามารถจำแนกสิ่งที่สำคัญที่สุดได้
  • ให้ข้อมูลเยอะ แต่อาจจะเป็นแค่ในเชิงปริมาณไม่ใช่ข้อมูลเชิงคุณภาพ
  • ได้ข้อมูลในภาพรวมมาแต่ก็เป็นปัจจัยที่คุณควบคุมไม่ได้อยู่ดี

แต่อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์ SWOT นั้นก็ยังจำเป็นและสำคัญต่อการสร้างธุรกิจในช่วงเริ่มต้นอยู่ดีเพราะฉะนั้นหากธุรกิจของคุณกำลังอยู่ใน Stage ดังกล่าวการวิเคราะห์ SWOT ก็เป็นสิ่งที่คุณควรต้องทำเป็นอันดับแรก ๆ หากต้องการเริ่มก้าวเดินอย่างสวยงามและแข็งแรง

ตัวอย่างการวิเคราะห์ SWOT Analysis 

ในส่วนนี้เราจะขอยก SWOT Analysis ตัวอย่างในการวิเคราะห์มาให้ทุกคนได้เห็นภาพตามกันว่าหากคุณต้องการที่จะเริ่มวิเคราะห์ SWOT นั้นจะต้องมีขั้นตอนในการตั้งคำถามหรือขั้นตอนในการวิเคราะห์อย่างไร ซึ่งการวิเคราะห์ SWOT ประกอบด้วยปัจจัยดังนี้

การวิเคราะห์จุดแข็ง (Strengths)

  • วิธีการใดที่สามารถทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ?
  • อะไรบ้างที่เป็นข้อได้เปรียบที่องค์กรหรือธุรกิจของคุณมี ? เช่น ความรู้และความเชี่ยวชาญของทีม ชื่อเสียง ประสบการณ์ คอนเนคชั่นของธุรกิจ
  • อะไรบ้างที่จะสามารถช่วยให้องค์กรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น อุปกรณ์ในการผลิตที่ทันสมัย เครื่องจักร เทคโนโลยี หรืองบประมาณ
  • ข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่มีมากกว่าคู่แข่งของคุณมีอะไรบ้าง ? 

การวิเคราะห์จุดอ่อน (Weakness)

  • มีธุรกิจคู่แข่งที่น่ากลัวและแข็งแกร่งกว่าหรือไม่ ?
  • ลักษณะการทำงาน กระบวนการทางธุรกิจที่อาจก่อให้เกิดข้อบกพร่องในการทำงาน มีอะไรบ้าง ? 
  • มีช่องว่างในทีม หรือขาดบุคลากรในตำแหน่งที่สำคัญตำแหน่งใดอยู่ ?
  • สิ่งที่ธุรกิจของคุณยังเสียเปรียบหรือยังทำได้ไม่ดีเมื่อเทียบกับคู่แข่ง มีอะไรบ้าง ?
  • ข้อจำกัดด้านธุรกิจอื่น ๆ เช่นเทคโนโลยี ระบบโครงสร้างองค์กร การนำเข้า-ส่งออกที่ยังเป็นปัญหา ฯลฯ

การวิเคราะห์โอกาส (Opportunities)

  • ตลาดที่คุณกำลังอยู่มีโอกาสเติบโตและมีแนวโน้มให้กลุ่มเป้าหมายเกิดการซื้อขายมากขึ้นหรือไม่ ?
  • โอกาสในการเปลี่ยนแปลงภายนอกใดบ้างที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ เช่น กฎหมาย เศรษฐกิจ เทคโนโลยี มาตรการของภาครัฐ เป็นต้น 
  • กลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้า มีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดบ้าง ?
  • อะไรบ้างที่มีในสังคมที่คุณสามารถนำมาใช้ประโยชน์ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้ ?

การวิเคราะห์อุปสรรค (Threats)

  • คู่แข่งรายใหม่ที่จะเข้ามาสู่ตลาดในอนาคตมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน ?
  • การพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคตจะเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจของคุณในอนาคตได้หรือไม่ ?
  • มีแนวโน้มของตลาดหรือการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่จะทำให้คุณได้รับความเสียหายทางธุรกิจในอนาคตหรือไม่ ?
  • พฤติกรรมของผู้บริโภคมีแนวโน้มเกิดการเปลี่ยนแปลงในแง่ลบต่อธุรกิจของคุณหรือไม่ ?
  • การเกิดภัยพิบัติที่คาดไม่ถึงเช่น โรคระบาด ภาวะสงคราม ภัยธรรมชาติ ฯลฯ

ขั้นตอนการวิเคราะห์ SWOT

ถึงหัวข้อนี้เรามาดูวิธีในการวิเคราะห์ SWOT ที่ถูกต้องกันว่าจะมีทั้งหมดกี่ขั้นตอนและสิ่งที่คุณและธุรกิจควรทำในแต่ละขั้นตอนนั้นมีอะไรบ้าง 

1. กำหนดเป้าหมายในการวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน 

อันดับแรกคือคุณต้องทำการกำหนดเป้าหมายในการวิเคราะห์ข้อมูลของธุรกิจก่อนว่าเป้าหมายที่คุณกำลังต้องการที่จะวิเคราะห์นั้นคืออะไร เพื่ออะไร เพื่อที่จะสามารถวิเคราะห์ SWOT ในแต่ละปัจจัยได้อย่างชัดเจนและเริ่มทำการวิเคราะห์จากจุดแข็งจุดอ่อนก่อนเสมอเพราะเป็นปัจจัยภายในของธุรกิจซึ่งคุณจะต้องเห็นภาพอย่างชัดเจนและรู้คำตอบอยู่แล้ว

2. รวบรวมทรัพยากรที่เกี่ยวข้อง 

การวิเคราะห์ SWOT แต่ละครั้งจะมีความแตกต่างกันไปและธุรกิจของคุณอาจต้องการชุดข้อมูลที่แตกต่างกันเพื่อรองรับการวิเคราะห์ SWOT ในเป้าหมายที่คุณได้กำหนดไว้อย่างแตกต่างกันด้วย ซึ่งธุรกิจควรเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจก่อนว่าสามารถเข้าถึงข้อมูลหรือทรัพยากรใดได้บ้าง มีข้อจำกัดด้านข้อมูลใดบ้าง และแหล่งข้อมูลภายนอกมีความน่าเชื่อถือเพียงใด เป็นต้น

3. ตั้งคำถามพร้อมจัดหมวดหมู่ในตาราง SWOT Analysis 

ในการจะเริ่มตั้งคำถาม (ซึ่งเราได้อธิบายไปแล้วในหัวด้านบน) นั้นเราต้องทำการจัดหมวดหมู่ของคำถามแบ่งเป็น 4 ปัจจัยตามกลยุทธ์ของ SWOT ซึ่งวิธีการที่จะทำให้คุณสามารถตั้งคำถามพร้อมจัดหมวดหมู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็คือการแบ่งปัจจัยในการตั้งคำถามเป็น 2 แบบคือปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ซึ่งทั้ง 2 แบบจะมีการตั้งคำถามดังนี้

  • การประเมินสภาพแวดล้อมภายใน (Internal Factors) – คือการประเมินสภาพแวดล้อมภายในธุรกิจของคุณเองซึ่งเป็นสิ่งที่คุณสามารถควบคุม ดูแล และปรับปรุงได้ เช่น งบประมาณ เทคโนโลยี เครื่องจักรในการผลิต ฯลฯ

ตัวอย่างคำถาม : 

จุดแข็ง – อะไรบ้างที่เป็นข้อได้เปรียบมีในองค์กรหรือธุรกิจของคุณ ? 

จุดอ่อน – ลักษณะการทำงาน กระบวนการทางธุรกิจที่อาจทำให้เกิดข้อบกพร่องในการทำงาน มีอะไรบ้าง ? 

  • การประเมินสภาพแวดล้อมภายนอก (External Factors) –  คือการประเมินสภาพแวดล้อมภายนอกที่คุณไม่สามารถควบคุมได้หรือเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถคาดเดาได้เลย เช่น สภาพเศรษฐกิจ พฤติกรรมผู้บริโภค เทรนด์ของสังคม ฯลฯ

ตัวอย่างคำถาม : 

โอกาส – โอกาสในการเปลี่ยนแปลงภายนอกใดบ้างที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ ? 

อุปสรรค – พฤติกรรมของผู้บริโภคมีแนวโน้มเกิดการเปลี่ยนแปลงในแง่ลบต่อธุรกิจของคุณหรือไม่ ?

4. วิเคราะห์ SWOT 

หลังจากที่ได้ตั้งคำถามในข้อที่แล้วเสร็จขั้นตอนต่อมาก็คือการวิเคราะห์ SWOT หรือการใส่สิ่งที่คุณวิเคราะห์ลงไปให้ครบทั้ง 4 ปัจจัยซึ่งต้องมีความสัมพันธ์กับการตั้งเป้าหมายของคุณในข้อแรกด้วยและต้องสำรวจข้อมูลให้ครบถ้วนทุกมุมของธุรกิจก่อนแล้วจึงค่อยใส่คำตอบจากการวิเคราะห์ลงไปในแต่ละปัจจัยอย่างละเอียด

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง :  Data Analytic คืออะไร ?

5. ปรับปรุงและพัฒนากลยุทธ์

จากนั้นเมื่อคุณได้ใส่สิ่งที่คุณวิเคราะห์ลงไปครบทั้ง 4 ปัจจัยแล้วคุณจะเห็นถึงสิ่งที่ยังบกพร่องไปสำหรับธุรกิจคุณซึ่งทั้งตัวคุณและทีมก็ต้องเริ่มหาแพลนในการปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตขึ้นให้ได้ ซึ่งต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของทีมเพราะอย่างที่เราได้บอกไปว่าการวิเคราะห์ SWOT นั้นจะทำให้คุณได้เห็นภาพรวมของธุรกิจก็จริงแต่ก็ไม่ได้มีสูตรสำเร็จในการแก้ปัญหามาให้คุณดังนั้นจึงต้องใช้ความรู้ด้าน Digital Marketing และ Social Media Marketing แขนงต่าง ๆ มาปรับปรุงและพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจของคุณต่อไป

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง :  4P คืออะไร ? 

กรณีศึกษา TOWS Matrix 

หากพูดถึง SWOT Analysis แล้วอีกแนวคิดหนึ่งที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือการวิเคราะห์ TOWS Matrix กรณีศึกษาที่เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ต่อยอดมาจาก SWOT ที่จะทำให้คุณได้เห็นภาพรวมของการทำธุรกิจมากขึ้น 

TOWS Matrix คือเครื่องมือวิเคราะห์ภาพรวมของธุรกิจที่นำข้อมูลจากการทำ SWOT Analysis มาต่อยอดโดยใช้ปัจจัยที่เป็นจุดแข็งภายในและภายนอกเพื่อใช้ในการสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดที่สามารถปฏิบัติตามได้ ส่วนประกอบของ TOWS มีดังนี้ (T) Threats, (O) Opportunities, (W) Weaknesses, (S) Strengths

TOWS Matrix

โดยการวิเคราะห์ TOWS Matrix จะสามารถแบ่งออกเป็นกลยุทธ์ได้ทั้งหมด 4 รูปแบบ โดยจะเป็นการประกอบจุดแข็งและจุดอ่อนให้เข้ากับโอกาสและอุปสรรค

1. กลยุทธ์เชิงรุก (SO)

เป็นการจับคู่ระหว่าง Strength และ Opportunity (ใช้จุดแข็งร่วมกับโอกาส) มีความสำคัญอย่างมากต่อการเติบโตของธุรกิจ เนื่องจากเป็นกลยุทธ์ที่เน้นสร้างผลลัพธ์ที่ให้ประโยชน์สูงสุด ผ่านการวิเคราะห์จุดแข็งของธุรกิจร่วมกับโอกาสที่เกิดขึ้น

2. กลยุทธ์เชิงแก้ไข (WO)

เป็นการจับคู่ระหว่าง Weakness และ Opportunity (ใช้โอกาสลดจุดอ่อน) การใช้ประโยชน์จากโอกาสที่มีเพื่อลดจุดอ่อนในองค์กร เช่น หากธุรกิจไม่ได้เป็นผู้ครองตลาดในด้านใด ๆ แต่เห็นโอกาสในการเป็นพันธมิตรกับธุรกิจที่แข็งแกร่งเพื่อร่วมกันทำให้อะไรบางอย่างที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายไปด้วยกันทั้งคู่

3. กลยุทธ์เชิงป้องกัน (ST)

เป็นการจับคู่ระหว่าง Strength และ Threat (ใช้จุดแข็งรับมืออุปสรรค) คือ การใช้ประโยชน์จากจุดแข็งภายในทั้งหมดเพื่อเอาชนะอุปสรรค ที่อาจเกิดขึ้นซึ่งจะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จตามเป้าหมายและสร้างการเติบโตได้ดีกว่าที่เราคาดคิดไว้

4. กลยุทธ์เชิงรับ (WT)

เป็นการจับคู่ระหว่าง Weakness และ Threat (แก้ไขจุดอ่อนและเลี่ยงอุปสรรค) เป็นกลยุทธ์ที่จำเป็นต้องลดจุดอ่อน เพื่อเอาชนะหรือหลีกเลี่ยงภัยคุกคามหรืออุปสรรคภายนอกที่กระทบต่อธุรกิจ ด้วยการพยายามแก้ปัญหาหรือหลีกเลี่ยงไม่ให้ปัญหาเกิดเพิ่มขึ้น

การวิเคราะห์ TOWS แตกต่างจาก SWOT อย่างไร 

“ไม่ได้แตกต่างกันแต่เป็นการทำงานร่วมกัน” เพราะการทำงานของ TOWS Matrix จะต่อเนื่องมาจากการทำงานของ SWOT ซึ่ง SWOT นั้นมีหน้าที่วิเคราะห์สถานการณ์ภายในและภายนอกขององค์กรในการทำธุรกิจต่าง ๆ และเรียบเรียงข้อมูลเหล่านั้นเพื่อให้เห็นภาพรวมที่เป็นอยู่แล้วก็จบลงแต่ TOWS Matrix ก็คือหลักการที่นำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์เพื่อสร้างกลยุทธ์และนำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้ในอนาคตนั่นเอง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ SWOT Analysis

การวิเคราะห์ SWOT เป็นหน้าที่ของใคร?  

การวิเคราะห์ SWOT คือหน้าที่ของทีมทุกคนในธุรกิจคุณในการร่วมกันกำหนดจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคที่แต่ละคนมองเห็นโดยนำ “ความเห็นของลูกค้า” มาวิเคราะห์ด้วยเสมอซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้คุณได้ไอเดียที่หลากหลายในการทำไปพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินธุรกิจ เพราะถ้าเป็นมุมมองจากคนคนเดียว ภาพที่ได้ก็จะเป็นภาพรวมในสายตาของคนคนเดียวด้วยเช่นกัน ดังนั้นคำถามนี้เลยตอบได้ชัดเจนเลยว่า การวิเคราะห์ SWOT เป็นหน้าที่ของทีมทุกคนในองค์กรของคุณ 

สรุปเนื้อหา “SWOT คือ”

การวิเคราะห์ SWOT นั้นเปรียบเหมือนการช่วยให้ธุรกิจได้วิเคราะห์สภาพแวดล้อมและประเมินสถานการณ์สำหรับการประกอบธุรกิจ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจและตัวคุณเองได้รู้ถึงจุดแข็งและจุดอ่อนจากสภาพแวดล้อมภายใน มองเห็นโอกาสและอุปสรรคจากสภาพแวดล้อมภายนอกไปจนถึงกระทบต่อการประกอบธุรกิจทุกประเภทถือเป็นแนวคิดที่ผู้ที่ทำการตลาด Digital Marketing จะละเลยไม่ได้เด็ดขาดในช่วงเริ่มต้นของการสร้างธุรกิจให้เติบโต

 

 

อ้างอิงข้อมูล

WILL KENTON, SWOT Analysis: How To With Table and Example, August 10, 2022 https://www.investopedia.com/terms/s/swot.asp 

Skye Schooley, SWOT Analysis: How To With Table and Example,  August 06, 2022 https://www.businessnewsdaily.com/4245-swot-analysis.html 

Dan Shewan, How to Do a SWOT Analysis,  February 25, 2022 https://www.wordstream.com/blog/ws/2017/12/20/swot-analysis 

แจก 7 คำสั่ง Bard สุดโปร ตัวช่วยวาง Marketing Strategy ให้มีพลัง
Social Media Strategy
แจก 7 คำสั่ง Bard สุดโปร ตัวช่วยวาง Marketing Strategy ให้มีพลัง

หลังเปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2023 Bard – AI Chatbot อัจฉริยะสังกัด Google ก็สามารถกวาดคะแนนนิยมมาได้ไม่แพ้ ChatGPT โดยมียอดผู้ชมต่อเดือน 140…

Google My Business คืออะไร? ช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจได้อย่างไร
Google
Google My Business คืออะไร? ช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจได้อย่างไร

เมื่อต้องการ Search หาสถานที่ ร้านอาหาร หรือร้านกาแฟบน Google ผู้คนจำนวนมากจะนิยมพิมพ์คำค้นหาโดยมีคำว่า “ใกล้ฉัน” ต่อท้าย ไม่ว่าจะเป็น “คาเฟ่ ใกล้ฉัน”,…

ส่องฟีเจอร์ Twitter หลังเปลี่ยนชื่อเป็น X แล้วทำอะไรได้บ้าง?
News
ส่องฟีเจอร์ Twitter หลังเปลี่ยนชื่อเป็น X แล้วทำอะไรได้บ้าง?

ตั้งแต่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา โลโก้นกสีฟ้าอันเลื่องชื่อก็หายไป ถูกแทนที่ใหม่ด้วยอักษร X ที่เฉียบคมและเรียบง่าย พร้อมธีมสีดำสนิทที่ไม่คุ้นตาชาวทวิตเตี้ยน แต่นอกจากการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกอย่างโลโก้ สีพื้นหลัง และสีธีมแล้ว การถือกำเนิดของ…