“การทำเว็บไซต์จำเป็นแค่ไหน?” คือคำถามที่คนเปิดธุรกิจใหม่มักจะถามตัวเองในใจ และหลาย ๆ ธุรกิจที่ตัดสินใจเปิด เพราะอยากมีช่องทางการติดต่อสื่อสารให้ทัดเทียมกับคู่แข่ง ก็ต้องปิดเว็บไซต์ในภายหลัง เพราะไม่รู้ประโยชน์ที่แท้จริงของสิ่งนี้ รวมถึงไม่รู้วิธีเพิ่ม Traffic Website หากคุณเองก็กำลังตัดสินใจว่าควรเปิดเว็บไซต์ให้ธุรกิจใหม่หรือไม่ ลองหาคำตอบจากบทความนี้!

Content Summary:

  • ธุรกิจกว่า 71% ในปี 2023 มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง
  • ข้อดีของการทำเว็บไซต์ คือการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าที่ช้อปปิ้งออนไลน์ และการเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจ E-commerce
  • อย่างไรก็ดี การทำเว็บไซต์อาจไม่ได้จำเป็นต่อทุก ๆ ธุรกิจ ควรพิจารณาเรื่องงบประมาณและบุคลากรเป็นสำคัญ

แนวโน้มการทำเว็บไซต์ในปัจจุบัน

ข้อมูลจาก Forbes Advisor (มิถุนายน, 2024) ยืนยันว่า ธุรกิจกว่า 71% ในปี 2023 มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลพวงมาจากการระบาดของโควิด 19 ทำให้หลาย ๆ ธุรกิจหันมาพึ่งพาการขายออนไลน์ และการปรับเว็บไซต์ให้เป็นรูปแบบ E-commerce มากขึ้น นอกจากนี้ ธุรกิจต่าง ๆ อย่างตระหนักถึงการมีตัวตนบนโลกออนไลน์ เพื่อให้ยังคงอยู่ได้ในยุคดิจิทัล และคาดหวังว่าหลังสถานการณ์โควิดจบลง ผู้บริโภคจะยังคงจดจำธุรกิจของตนได้ดังเดิม

การทำเว็บไซต์มีประโยชน์ต่อธุรกิจต่าง ๆ อย่างไร

แน่นอนว่าการทำเว็บไซต์มีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจหลายด้าน ทั้งมิติของการสร้าง Brand Awareness และการสร้างรายได้ ดังจะสรุปต่อไปนี้

 

Website Benefits

Cr: https://hop.rocks/benefits-of-company-website/

เพิ่มความน่าเชื่อถือ

หากการทำธุรกิจแบบออฟไลน์หน้าร้านคือความน่าเชื่อถือ เว็บไซต์ก็คือการสร้างความน่าเชื่อถือบนโลกออนไลน์เช่นกัน สิ่งนี้อาจพิสูจน์เป็นรูปธรรมไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของความรู้สึก ถ้าบริษัทไหนหรือแบรนด์ใดมีหน้าเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ภายในมีการอัปเดตอยู่เสมอมีข้อมูลผลิตภัณฑ์หรือบริการครบถ้วนแบรนด์นั้นก็จะยิ่งได้รับความไว้วางใจและเชื่อถือจากลูกค้าไม่น้อย

เป็นแหล่งเก็บข้อมูลชั้นดี

จริงอยู่ว่าในโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊ก เรามีเครื่องมือคือตัวจัดการโฆษณาที่สามารถสร้างแบบฟอร์ม (Lead Generation) เพื่อทำโฆษณาออกไปให้คนได้กรอกข้อมูลต่างๆ แต่ส่วนมากการทำโฆษณาในรูปแบบนี้มักจะต้องมีโปรโมชั่นหรือกิจกรรมพิเศษเพื่อเชื้อชวนให้คนกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน การทำโฆษณาแนวนี้จึงเป็นที่นิยมในหมู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ให้คนกรอกข้อมูลส่วนตัวแล้วรับส่วนลดทันทีหรือไม่ก็ได้ของแถมสมนาคุณ ฯลฯ

แต่ข้อได้เปรียบของการทำเว็บไซต์คือคุณสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อจะนำมาใช้ประโยชน์ในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายสำหรับอนาคตได้ด้วยการสร้างแบบฟอร์มที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบสมัครสมาชิก ฝากข้อมูลให้ติดต่อกลับ กรอกแบบฟอร์มรับส่วนลด ฯลฯ เพียงแค่เราได้อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้ามาก็ถือเป็นสิ่งมีค่าที่ธุรกิจออนไลน์ของคุณแล้ว

 

E-commerce Benefits

Cr: https://www.researchgate.net/figure/The-benefits-of-online-business-based-on-e-commerce-platform_fig1_342222975

สะดวกต่อการทำ E-commerce

แม้ว่าเฟซบุ๊กกำลังพยายามพัฒนาให้แพลตฟอร์มของตัวเองเป็น E-Commerce อยู่ตลอดเวลา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเว็บไซต์ยังคงเป็นพื้นที่ที่น่าเชื่อถือและใช้งานสะดวกกว่าอยู่ดี หากคุณทำธุรกิจ E-Commerce หรือร้านค้าออนไลน์แบบที่สามารถคลิกเลือกสินค้า เราแนะนำให้คุณทำบนเว็บไซต์ จะเป็นเว็บไซต์ที่เขียนขึ้นเองหรือเป็นเว็บสำเร็จรูปก็ได้ เพราะนอกจากจะง่ายและสะดวกกับลูกค้าแล้วคุณเองก็ทำงานง่ายขึ้นอีกด้วย ไม่ต้องมานั่งตอบคำถามให้วุ่นวาย แค่ใส่รายละเอียดสินค้าบนเว็บไซต์ให้ครบถ้วนก็เพียงพอแล้ว อีกทั้งเรายังสามารถเก็บข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาชมเว็บไซต์ เลือกสินค้า กดใส่ของในตะกร้า จนสั่งซื้อได้อีกด้วย

วาดลวดลาย ขายสินค้าในแบบของตัวเองได้อย่างเต็มที่

หากเป็นการทำ Social Media Marketing คุณอาจจะต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เพราะจะส่งผลถึงรูปแบบคอนเทนต์ที่ทำ หน้าตาของเพจ ภาษาที่ใช้ ฯลฯ เพราะการที่เพจนึงมีหลากหลายสไตล์ แคปชั่นก็เขียนด้วยสำเนียงที่ต่างกันอาจทำให้ลูกค้าสับสนได้ อีกทั้งยังต้องทำให้เป็นไลฟ์สไตล์ จะขายของตรง ๆ ก็ไม่เวิร์ก แต่สำหรับการทำเว็บไซต์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เปิดรับลูกค้าซึ่งสนใจในสินค้าของคุณจริง ๆ คุณจึงสามารถสร้างคอนเทนต์เพื่อนำเสนอความเป็นตัวเอง และขายสินค้าได้อย่างเต็มที่

5 ข้อแนะนำสำหรับการทำเว็บไซต์ ที่ธุรกิจใหม่ควรรู้

หากคุณตัดสินใจว่า จะพึ่งพาเว็บไซต์ควบคู่ไปกับการทำ Social Media ลองปฏิบัติตามคำแนะนำทั้ง 5 ข้อ ดังนี้

Good Website

Cr: https://www.c-sharpcorner.com/article/top-characteristics-of-a-good-website/

การทำเว็บไซต์ที่ดี ต้องเรียบง่าย ใช้งานสะดวก

การออกแบบเว็บไซต์ควรเน้นความเรียบง่าย สะอาดตา และใช้งานได้ง่าย ผู้ใช้งานควรสามารถค้นหาข้อมูลหรือสินค้าที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว หน้าเว็บไซต์ที่ซับซ้อนหรือมีข้อมูลเกินไปอาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกสับสนและออกจากเว็บไซต์ก่อนที่จะซื้อหรือสอบถามข้อมูล

อย่าลืมใส่ใจเรื่องการดาวน์โหลดเว็บไซต์

ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสบการณ์ของผู้ใช้ หากเว็บไซต์ของคุณโหลดช้าเกินไป ผู้ใช้มักจะละทิ้งเว็บไซต์และหันไปใช้บริการจากคู่แข่ง ดังนั้น ควรตรวจสอบและปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์อยู่เสมอ เช่น การใช้รูปภาพขนาดเล็กหรือการลดจำนวนสคริปต์ที่ไม่จำเป็น

ให้ข้อมูลธุรกิจที่ชัดเจนและครบถ้วน

เว็บไซต์ควรมีข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ เช่น ข้อมูลสินค้าและบริการ ข้อมูลการติดต่อ แผนที่ที่ตั้ง หรือข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ ซึ่งควรจัดวางในตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่ายและเข้าใจได้ทันทีเมื่อผู้ใช้เข้ามายังเว็บไซต์

ต้องรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ใช้สมาร์ทโฟนในการเข้าชมเว็บไซต์ ดังนั้น เว็บไซต์ของคุณควรได้รับการออกแบบให้สามารถแสดงผลและใช้งานได้ดีบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการขายหรือติดต่อจากกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานมือถือ

ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเว็บไซต์ของคุณมีการทำธุรกรรมออนไลน์ เช่น การชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ควรติดตั้ง SSL Certificate เพื่อเข้ารหัสข้อมูลและแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าเว็บไซต์ของคุณปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งาน

สรุป

อันที่จริงแล้ว การทำเว็บไซต์ไม่ได้จำเป็นกับทุก ๆ ธุรกิจ แต่ถ้าธุรกิจไหนมีเว็บไซต์ ก็จะช่วยให้การสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสในการขายของผ่าน E-commerce อย่างไรก็ดี นอกจากพิจารณาเรื่องคุณประโยชน์แล้ว ทุกธุรกิจควรพิจารณาความพร้อมเรื่องงบประมาณ บุคลากรที่มีความรู้มากพอ และผู้ที่มีหน้าที่ Monitor เว็บไซต์อย่างจริงจังก่อนเป็นอันดับแรก จึงจะตัดสินใจได้ว่า ควรจัดทำเว็บไซต์หรือไม่

 

 

ถ้าออนไลน์จะขายดีขนาดนี้ ยังต้องมีหน้าร้านอยู่ไหม
Marketing | News
เทียบชัด! ขายของมีหน้าร้าน vs ขายของออนไลน์ แบบไหนดีกว่ากัน

คุณใช่ไหม? ที่อยากเริ่มทำธุรกิจเป็นของตัวเองสักที และอยากคว้าโอกาสดี ๆ ช่วงหลังโควิด แต่ลังเลว่าการขายของแบบมีหน้าร้าน กับการขายของออนไลน์ แบบไหนจะเหมาะสมและให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ากัน ในบทความนี้ Digital Tips จึงหยิบประเด็นการขายทั้ง…

6 Body Language ที่ดี
News
บอกต่อ 6 Body Language ที่ดี เพิ่มความน่าเชื่อถือ สื่อสารกับใครก็ได้ผล!

Body Language  ที่ดี คือการเปิดประตูสู่การสนทนาที่ราบรื่น และทำให้การเชื่อมสัมพันธ์กับคู่สนทนาเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น ในแง่ของการทำธุรกิจ ผู้ที่สื่อสารผ่านภาษากายได้ดี ยังได้รับความเชื่อมั่น และกลายเป็นคนที่ใคร ๆ ก็อยากจะทำความรู้จักด้วย…

Body Language คืออะไร
News
Body Language คืออะไร รวมวิธีสื่อสารผ่านภาษากาย เพื่อการวางตัวที่ดี

รู้หรือไม่…การสื่อสารผ่านภาษากายคิดเป็น 60 – 65% ของการสื่อสารทั้งหมด (Source: verywellmind) และหลาย ๆ ครั้งคนเราก็ไม่พูดสิ่งที่คิด แต่อาจเผลอแสดงออกโดยไม่รู้ตัว ในบทความนี้…