เทียบชัด! ChatGPT4 คืออะไร ต่างกับ ChatGPT3 อย่างไร มีค่าใช้จ่ายไหม

เทียบชัด! ChatGPT4 คืออะไร ต่างกับ ChatGPT3 อย่างไร มีค่าใช้จ่ายไหม

คนที่เคยสอบถามข้อมูลสำคัญจาก ChatGPT โปรแกรมแชตบอตสุดฮิตของบริษัท Open AI คงเคยสังเกตว่า แม้เจ้าแชตบอตตัวนี้จะสามารถตอบคำถามยาก ๆ ได้หลายข้อ แต่ก็ยังไม่สามารถให้ข้อมูลใหม่ ๆ ได้ หรือเข้าใจประโยคภาษาพูดได้ดีเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตาม สาเหตุอาจเกิดจากการที่คุณยังไม่เคยลองใช้ ChatGPT4 ซึ่งเป็นโมเดลภาษาที่พัฒนาขึ้นจาก ChatGPT3 ในเวอร์ชันฟรี แล้ว ChatGPT4 คืออะไร แตกต่างกับ ChatGPT3 มากแค่ไหน มาดูกัน!

ChatGPT4 คืออะไร

ChatGPT4

ที่มา: https://www.notebookcheck.net/OpenAI-unleashes-ChatGPT-4-with-impressive-new-features.701262.0.html 

ChatGPT4 คือ โมเดลภาษาซีรีส์ที่ 4 ของ ChatGPT เปิดให้ใช้งานครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2023 โดย Open AI จุดเด่นของโมเดลภาษาล่าสุดตัวนี้ คือการยกระดับมาตรฐานให้สูงกว่า ChatGPT3 และเพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักพัฒนา นอกจากนี้ ยังปรับปรุงความสามารถในการเข้าใจบริบท ลำดับคำที่ยาวขึ้น และถ้อยคำที่ใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้นอีกด้วย

ChatGPT4 ดีอย่างไร

แน่นอนว่า ChatGPT4 ถูกพัฒนาเพื่อให้โปรแกรมมีประสิทธิภาพดีขึ้น แต่จะดีขึ้นในแง่มุมใดบ้าง Digital Tips สรุปข้อมูลออกเป็น 3 ข้อใหญ่ ๆ ได้ดังนี้

การทำงานของ ChatGPT4

ที่มา: https://intellipaat.com/blog/what-is-chatgpt4/ 

1. ChatGPT4 คือ โมเดลภาษาที่สามารถตีความคำสั่งซับซ้อนได้

ผู้ที่ใช้งาน ChatGPT เวอร์ชันเก่า คงเคยประสบปัญหา “AI ไม่เข้าใจคำสั่ง” เพราะมีคำที่ซับซ้อน หรือเต็มไปด้วยวลีที่เป็นภาษาพูดมากเกินไป แต่ปัญหาเหล่านี้จะได้รับการแก้ไข หากเปลี่ยนมาใช้ ChatGPT4 เพราะโมเดลนี้ถูกออกแบบมาให้ตีความคำสั่งซับซ้อน และตอบสนองต่อ Prompt ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แม่นยำยิ่งขึ้น

2. ChatGPT4 ตอบสนองผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

โมเดลภาษาที่ใหญ่ขึ้นของ ChatGPT4 มาพร้อมพารามิเตอร์ 1.76 ล้านล้านรายการ ทำให้สามารถประมวลผล และสร้างข้อมูลข้อความได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นก่อน ซึ่งหมายความว่ามันจะสามารถตอบคำถามได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น และสร้างคำตอบที่เหมือนมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น

3. สามารถรองรับการป้อนข้อมูลได้หลายรูปแบบ

ChatGPT4 มีความสามารถในการป้อนข้อมูลหลายรูปแบบ เช่น ข้อความและรูปภาพ ซึ่งหมายความว่าสามารถสร้างการสื่อสารที่สมจริงและครอบคลุมมากขึ้น และตอบสนองคำถามของผู้ใช้ได้กว้างขวางขึ้น

ChatGPT4 แตกต่างกับ ChatGPT3 อย่างไร

เพื่อให้คุณมองเห็นความแตกต่างระหว่างโมเดลภาษารุ่นปรับปรุงใหม่ของ ChatGPT กับรุ่นเก่าที่มีให้ใช้ในเวอร์ชันฟรี เราขอสรุปความแตกต่างออกเป็นข้อ ๆ ดังนี้

ChatGPT4 vs ChatGPT3

ที่มา: https://towardsdatascience.com/gpt-4-vs-chatgpt-an-exploration-of-training-performance-capabilities-and-limitations-35c990c133c5 

1. หน่วยความจำมากขึ้น

ChatGPT เวอร์ชันเดิมที่มีให้ใช้ในแพ็กเกจฟรี จะมีขีดจำกัดของการเก็บข้อมูลอยู่ที่ 4,096 โทเค็น (หรือประมาณ 8,000 คำ) ในขณะที่ ChatGPT4 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ มีขีดจำกัดของการเก็บข้อมูลอยู่ที่ 32,768 โทเค็น (หรือประมาณ 64,000 คำ)

2. รองรับภาษาต่าง ๆ มากขึ้น

ChatGPT4 คือ โมเดลภาษาที่สามารถตอบคำถามเป็นภาษาต่าง ๆ ได้ถึง 26 ภาษา และแม้ว่าจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อคำถามเป็นภาษาอังกฤษเช่นเคย แต่ข่าวดีก็คือ ภาษาไทยถูกเลือกให้เป็นเป็น 1 ใน 26 ภาษาของโมเดลภาษาชุดนี้ด้วย

3. เข้าใจทั้งภาพและข้อความ

ผู้ที่ใช้งาน ChatGPT3 จากเวอร์ชันฟรี คงทราบดีว่าแชตบอตเวอร์ชันนั้นจะไม่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลหรือคำถามที่เป็นรูปภาพได้ แตกต่างกับ ChatGPT4 ที่สามารถวิเคราะห์และแยกองค์ประกอบจากรูปภาพได้อย่างดีเยี่ยม เช่น ช่วยเขียนโค้ดเว็บไซต์จากภาพ Shortnote ที่เขียนด้วยมือ เป็นต้น

4. ผิดพลาดน้อยลง และหลอกได้ยากขึ้น

ChatGPT4 คือ โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ถูกปรับปรุงให้รับมือกับความอันตรายจากผู้ใช้งาน ทำให้สามารถปฏิเสธ Input ที่ผิดพลาดได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน และในขณะเดียวกัน ก็สามารถให้ข้อมูลได้อย่างเสถียรมากขึ้นด้วย

อยากทดลองใช้ ChatGPT4 ต้องทำอย่างไร มีค่าใช้จ่ายไหม

คุณสามารถทดลองใช้ ChatGPT4 ได้ ผ่านแพ็กเกจ ChatGPT Plus ซึ่งจะมีค่าบริการประมาณเดือนละ 20 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 700 บาท ทั้งนี้ สิ่งที่คุณทราบก็คือ ในปัจจุบัน ChatGPT4 เองก็ยังไม่สามารถอัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้เช่นเดียวกับ ChatGPT3 แต่ข้อมูลจะได้รับการอัปเดตใหม่อยู่เป็นระยะ ๆ ทำให้มีควาเมป็นไปได้ที่ข้อมูลบางส่วนจะล้าสมัยไปบ้าง อย่างไรก็ดี มีแนวโน้มว่า Open AI จะพัฒนาให้ ChatGPT4 สามารถอัปเดตข้อมูลได้เหมือน Bard ในอนาคต

สรุป

โดยรวมแล้ว ChatGPT4 มีพัฒนาการขึ้นมาจาก ChatGPT3 ค่อนข้างมาก แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่เหมือนกัน อาทิ ยังไม่สามารถอัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ และแม้จะวิเคราะห์ข้อมูลได้เสถียรขึ้นแล้ว แต่ข้อมูลก็ยังมีโอกาสผิดพลาดได้ เช่นเดียวกับการใช้โปรแกรมแชตบอตตัวอื่น ๆ เป็นต้น

อ้างอิง

Great Learning. ChatGPT-3 vs ChatGPT-4

Available from: https://www.mygreatlearning.com/blog/chatgpt-3-vs-chatgpt-4/ 

Digital Trends. GPT-4: how to use the AI chatbot that puts ChatGPT to shame

Available from: https://www.digitaltrends.com/computing/chatgpt-4-everything-we-know-so-far/

ไอคอนแจ้งเตือน บนแอป Social Media ต่าง ๆ
Marketing Psychology
ไอคอนแจ้งเตือน วงกลมสีแดงที่ทรงพลังในการกระตุ้นการมีส่วนร่วม!

จุดสีแดงเล็ก ๆ บนแอป ไม่ได้ทำหน้าที่แค่แจ้งข่าวสารให้คุณทราบ แต่ยังสร้างผลกระทบทางจิตวิทยา ที่ช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมได้อย่างดีเยี่ยม มาเจาะลึกเบื้องหลังของไอคอนแจ้งเตือนไปพร้อมกัน! เคยมั้ย? เวลาเห็นตัวเลขแจ้งเตือนบนมุมขวาของแอป ต้องรีบกดเข้าไปดู ไม่ว่าจะเข้าไปเช็กรายละเอียด หรือแค่กดเพื่อให้จุดสีแดงนั้นหายไปก็ตาม…

Pop-up Advertising สามารถเปลี่ยนผู้เข้าชมให้เป็นลูกค้าได้
Marketing
โฆษณา Pop-ups กลยุทธ์เด็ดในการสร้าง Conversion บนเว็บไซต์

Pop-ups Ads บนเว็บไซต์ เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้มาอย่างช้านาน เพราะช่วยส่งเสริมการขายได้อย่างดีเยี่ยม แต่จะเป็นอย่างนั้นต่อเมื่อคุณใช้มันอย่างถูกวิธี และแสดงผลในเวลาที่เหมาะสม ถ้าพูดถึงกลยุทธ์เพื่อสร้างยอดขายและการมีส่วนร่วมบนเว็บไซต์ ปัจจุบันก็มีให้เลือกใช้หลากหลายวิธี เช่น การทำ SEO…

IKEA Effect อคติทางความคิดที่ผู้บริโภคให้คุณค่ากับสิ่งลงมือทำด้วยตัวเอง
Marketing
ส่องกรณีศึกษาจาก IKEA Effect เทคนิคเพิ่มคุณค่าให้สินค้าแบบเท่าตัว!

เคยรู้สึกไหมว่าอะไรที่ลงมือทำด้วยตัวเอง ต้องใช้แรงกายมากมายกว่าจะสร้างสรรค์มันออกมาได้ จะยิ่งรู้สึกคุ้มค่าที่ทำลงไป และภูมิใจในตัวเองมาก ๆ สิ่งนี้เรียกว่า IKEA Effect ที่มีที่มาจากแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านสัญชาติสวีเดน หลายคนอาจจะรู้จักในฐานะสินค้าสไตล์มินิมอล แต่รู้ไหมว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวของอิเกีย ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจของนักการตลาดอย่างมาก…