ตามสถิติของเว็บไซต์ Designhill “70% ของนักการตลาดกล่าวว่า Interactive Content สามารถเพิ่ม Engagement จากผู้ชมได้จริง ๆ” ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า Interactive Content มีประสิทธิภาพมากแค่ไหน หากคุณอยากรู้ว่า Interractive Content คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร และเราสามารถสร้างสรรค์ออกมาในรูปแบบไหนได้บ้าง มาเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้!
Interactive Content คืออะไร
Interactive Content คือ การสร้างสรรค์คอนเทนต์ขึ้นโดยคาดหวังปฏิกิริยาตอบสนองจากผู้ชม และจูงใจให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในการสร้างคอนเทนต์เหล่านั้นให้สมบูรณ์ด้วย ยกตัวอย่างเช่น การสร้างคอนเทนต์ประเภทคำถาม ซึ่งแน่นอนว่า คอนเทนต์นั้น ๆ จะสมบูรณ์ได้ ก็ต่อเมื่อมีผู้ชมมาคอมเมนต์คำตอบ หรือแชร์ต่อกันเพื่อหาคำตอบจากผู้ชมท่านอื่น ๆ นั่นเอง
Interactive Content มีข้อดีอย่างไร
การสร้าง Interactive Content ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำ Social Media Marketing ได้ในหลาย ๆ แง่มุม ดังจะยกตัวอย่างต่อไปนี้
- ช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับคอนเทนต์บน Social Media แพลตฟอร์มนั้น ๆ
- เพิ่ม Engagement จากผู้ชมตัวจริง ซึ่งมักจะเป็นการตอบคอมเมนต์ หรือการแชร์ต่อ มากกว่าแค่เพียงการกดไลก์โพสต์ธรรมดา
- สร้างปฏิกิริยาตอบกลับเชิงบวก เพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์
- กระตุ้นความคิดเชิงสร้างสรรค์ของทีมการตลาดในองค์กร ให้สามารถออกไอเดียทำคอนเทนต์ได้อย่างเฉียบคม และใช้ได้จริงมากขึ้น
- Interactive Content บางรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการออกแบบกราฟิกที่สวยงาม ตระการตา อาจใช้เพียงแค่ Text คำถามไม่กี่ประโยค จึงสามารถช่วยประหยัด Manpower ได้ในหลาย ๆ สถานการณ์
7 ไอเดียทำ Interactive Content กระตุ้นการตอบกลับจากลูกค้า
หากคุณต้องการทดลองสร้าง Interactive Content แต่ยังไม่รู้ว่าควรทำคอนเทนต์ออกมาในรูปแบบไหน ลองศึกษาได้จาก 7 ไอเดียทำคอนเทนต์ที่เรานำมาแบ่งปันกันในหัวข้อนี้ได้เลย!
1. คำถามแบบ Multiple Choices
ที่มา: https://www.convosight.com/blogs/creative-facebook-group-live-game-ideas/
ลองตั้งคำถามง่าย ๆ ลงบน แพลตฟอร์มที่คุณถนัด อาจเป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์โดยตรง หรืออาจเป็นคำถามที่เชื่อมโยงกับประเด็นสำคัญทางสังคมในช่วงเวลานั้น ๆ แล้วให้ผู้คนมาคอมเมนต์คำตอบตามความเข้าใจของตัวเอง ก่อนเฉลยคำตอบที่ถูกต้องในภายหลัง ไอเดียนี้จะช่วยกระตุ้นความสนใจของผู้ที่ชื่นชอบปริศนา และกระตุกต่อมความสงสัย ให้ผู้คนอยากแสวงหาความจริง
2. สร้างโพลล์
ที่มา: https://later.com/blog/instagram-stories-poll-stickers/
ใน IG Stories, Twitter และ Facebook Group จะมีเมนูสำหรับสร้างโพลล์โดยเฉพาะ คุณจึงสามารถออกแบบโพลล์ที่เกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ได้ โดยอาจใช้โพลล์เพื่อสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่ง หรืออาจสำรวจทิศทาง กระแสนิยม ในประเด็นอื่น ๆ เพื่อสร้าง Engagement เพิ่มเติม โดยไม่ได้มีวาระพิเศษก็ได้
3. สร้างโพสต์กระตุ้นให้เกิดการคอมเมนต์
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณสัก 3-4 ปีก่อน บนหน้า Facebook Feed ของประเทศไทย เต็มไปด้วยโพสต์ที่กระตุ้นให้ผู้คนคอมเมนต์ใต้ภาพแบบ Single Post เช่น “ขอคนละ 1 คอมเมนต์ เพื่อสุ่มดูดวงฟรี” หรือ “ขอคนละ 1 เมนต์ เพื่อส่งเพลงที่มีความพิเศษ” เป็นต้น ซึ่งการออกแบบคอนเทนต์ลักษณะนี้ แม้จะดูเรียบง่าย แต่สามารถกอบโกย Engagement ที่มีคุณภาพได้อย่างเหลือเชื่อ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งไอเดียทำคอนเทนต์ที่คุณสามารถนำกลับมาใช้ได้
4. โจทย์เลข หรือเติมคำปริศนา
ที่มา: https://web.facebook.com/ptstation/photos/a.241368425918747/1567388463316730/?locale=th_TH
ผู้คนจำนวนมากชื่นชอบปริศนา ที่แม้จะดูเรียบง่ายแต่ก็ต้องใช้ความคิดเชิงสร้างสรรค์ อย่างคอนเทนต์โจทย์เลขปริศนาที่ท้าทายความรู้พื้นฐานอย่างการแก้โจทย์ตามลำดับบวก ลบ คูณ หาร หรือปริศนาเชิงภาษาอย่างคำใบ้ หรือโจทย์เติมคำแบบง่าย ๆ อย่างไรก็ตาม ความสนุกของคอนเทนต์ประเภทนี้อาจไม่ได้อยู่ที่ความยากของโจทย์เสมอไป แต่อาจเป็นคำตอบที่ “ดิ้นได้” ซึ่งกระตุ้นต่อมอารมณ์ขัน และเพิ่มอัตราการแชร์ต่อได้เป็นอย่างดี
5. การถามตอบเป็นคลิปผ่าน TikTok
ที่มา: https://www.theverge.com/2021/3/5/22315055/tiktok-questions-and-answers-qa-feature-live-pre-recorded
การตอบกลับคอมเมนต์บน TikTok แตกต่างกับ Social Media ทั่ว ๆ ไป เพราะสามารถอัดคลิปเพิ่มขึ้นมาเพื่อตอบกลับอีกคลิปหนึ่งได้ โดยคลิปที่ทำขึ้นเพื่อตอบกลับนั้นจะปรากฏบนหน้าฟีดตามปกติ และยังสามารถรองรับการกดหัวใจ การแชร์ หรือการตอบกลับใหม่ ๆ ได้อีกด้วย ดังนั้น ธุรกิจที่มีบัญชี TikTok จึงสามารถทำคอนเทนต์ถาม-ตอบประเภทนี้ โดยสังเกตจากคอมเมนต์ของผู้ชม เพื่อหาคอมเมนต์ที่ต้องการตอบกลับ หรืออาจสร้างคลิปขึ้นมาใหม่ เพื่อถามคำถามอย่างตรงไปตรงมา แล้วชักชวนให้ผู้ที่เห็นคลิปนี้มาคอมเมนต์ตอบก็ได้เช่นเดียวกัน
6. ออกแบบเวทีแข่งขันขนาดย่อม ๆ ผ่าน Hashtag
ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่เรียบง่าย แต่ทรงพลังมาก คือการสร้าง Hashtag เฉพาะขึ้นมา แล้วโพสต์เชิญชวนให้ผู้คนสร้างคอนเทนต์ของตัวเองขึ้น เพื่อโพสต์บนหน้า Timeline ตั้งค่าเป็นสาธารณะ และติด Hashtag นั้น ๆ เช่น แข่งขันถ่ายภาพคู่กับผลิตภัณฑ์ แข่งขันทำคลิปสั้น หรือแข่งขันบอกความชอบที่มีต่อผลิตภัณฑ์ โดยผู้ใดก็ตามที่ได้คะแนนสูงสุด จะได้รับของรางวัล Limted Edition จากแบรนด์ หรือได้สิทธิพิเศษบางอย่างเมื่อซื้อสินค้า วิธีนี้นอกจากจะช่วยเพิ่มการตอบกลับจากลูกค้าแล้ว ยังเป็นการสร้าง Brand Awareness ทางอ้อม เพื่อให้คนจำนวนมากมีโอกาสเห็นชื่อแบรนด์ผ่าน Hashtag อีกด้วย
7. สร้างแบบทดสอบเชิงจิตวิทยา กระตุ้นให้คนคลิกไปที่หน้า Landing Page
วิธีสุดท้าย คือการสร้างแบบทดสอบเชิงจิตวิทยา ซึ่งส่วนมากจะไม่ใช่แค่การตอบคำถามข้อเดียวแล้วจบ แต่จะเป็นชุดแบบทดสอบที่มีหลายข้อ และแต่ละคนก็จะได้คำตอบที่แตกต่างกัน การสร้างแบบทดสอบเชิงจิตวิทยาจึงมักจะต้องทำบนหน้าเว็บไซต์ เพราะสามารถดีไซน์รูปแบบได้มากกว่า ดังนั้น หากคุณต้องการเพิ่ม Website Traffic และกำลังหาวิธีที่จะให้ผู้คนใช้เวลาบนหน้าเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น การสร้างแบบทดสอบจิตวิทยาขึ้นบนหน้าเว็บไซต์ แล้วแชร์ลิงก์ Landing Page ผ่าน Social Media ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจเช่นกัน
สรุป
Interactive Content คือ รูปแบบคอนเทนต์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงนี้ และเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่ม Engagement ให้กับ Social Media ทุก ๆ ช่องทางของแบรนด์ อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ทุก Interactive Content จะประสบความสำเร็จ และได้รับกระแสตอบรับอย่างถล่มทลาย คุณจึงจำเป็นต้องลองผิดลองถูก ตลอดจนปรับปรุงรูปแบบคอนเทนต์ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะค้นพบแนวทางที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง
อ้างอิง
rockcontent. Interactive Content Guide: How to Bring Life to Your Content Marketing Strategy
Available from: https://rockcontent.com/blog/what-is-interactive-content/
Social Media Today. 7 Simple Interactive Content Ideas You Can Steal
Available from: https://www.socialmediatoday.com/news/7-simple-interactive-content-ideas-you-can-steal/519181/