ว่ากันว่า Generative AI คือตัวละครลับที่จะเปลี่ยนวิถีการทำ SEO ไปตลอดกาล แม้จะได้ยินมาเช่นนั้น แต่นักการตลาดจำนวนมากอาจยังไม่เคยรู้สึกถึงผลกระทบที่แน่ชัด จนกระทั่ง Google SGE ซึ่งเป็น Generative AI ที่ Google คิดค้นขึ้นเอง ได้ถือกำเนิดขึ้น ในบทความนี้ Digital Tips จึงสรุปทุกประเด็นเกี่ยวกับ Google SGE มาฝากคุณ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในโลกของ SEO ไปพร้อม ๆ กัน
>> อ่านเพิ่มเติม: 6 AI Marketing Tools เตรียมพร้อมพาธุรกิจให้เติบโตในปี 2024
Google SGE คืออะไร
ที่มา: https://blog.google/products/search/generative-ai-search/
Google SGE หรือชื่อเต็มว่า Google Search Generative Experience คือ ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดของ Google ที่เพิ่งเปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 คุณสมบัติเด่นของฟีเจอร์นี้ คือการใช้ Generative AI สร้างผลลัพธ์การค้นหาที่รวดเร็วและตอบโจทย์ผู้ใช้มากยิ่งขึ้น โดยจะประมวลผลคำค้นหาของผู้ใช้งาน แล้วสรุปคำตอบออกมาเป็น Pop – up เนื้อหาสั้น ๆ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถอ่านได้ทันที โดยไม่ต้องคลิกเว็บไซต์ทีละหน้า
Google SGE ทำอะไรได้บ้าง
- ฟังก์ชัน Generative AI ของ Google SGE จะทำหน้าที่คล้ายกับ ChatGPT และ Bard คือ ประมวลผลประโยคคำถามของผู้ใช้ ซึ่งจะค่อนข้างคล้ายภาษาพูด และมีบางคำที่ซับซ้อน
- ระบบการประมวลผลของ Google SGE จะทำงานได้ดีกว่า Google Search ธรรมดา โดยจะประมวลผลส่วนสำคัญของหัวข้อได้เร็วขึ้น พร้อมแนะนำลิงก์ที่เกี่ยวข้องให้อ่านเพิ่มเติม
- เป็นตัวช่วยที่ดีในการริเริ่มทำบางสิ่งบางอย่าง เช่น หากคุณไม่ทราบขั้นตอนการตั้งค่าเว็บไซต์ หรือการประดิษฐ์สิ่งของใด ๆ ก็ตาม ทันทีที่กดส่งคำค้นหา Google SGE จะบอกคุณได้ว่า คุณจะต้องเริ่มต้นจากขั้นตอนไหน
Google SGE ทำงานอย่างไร
อ่านมาถึงตรงนี้ สิ่งที่คุณสงสัยที่สุดคงหนีไม่พ้นวิธีการทำงานของ Google SGE ซึ่งเราจะอธิบายโดยแยกออกเป็น 3 ประเด็น ดังนี้
การตอบคำถามด้วย Generative AI
โดยปกติแล้ว Generative AI จะทำงานบนโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ซึ่งผ่านการจัดเก็บข้อมูล และฝึกวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมหาศาลมาแล้ว เช่น โมเดล GPT4 ใน ChatGPT เวอร์ชันล่าสุด แต่สำหรับ Google SGE โมเดลภาษาที่ใช้มีชื่อว่า “Pathways Language Model 2 (PaLM2)” ซึ่งเป็นโมเดลตัวเดียวกับที่ Google เอามาใช้ในผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์อื่น ๆ
ที่มา: https://searchengineland.com/new-google-search-generative-ai-experience-413533
และจากการใช้โมเดลภาษาชุดนี้ ทำให้ Google SGE มีความสามารถในการประมวลผลภาษาธรรมชาติ และมอบคำแนะนำที่เหมาะสมในเชิงลึกได้ เช่น หากคุณพิมพ์คำค้นหาว่า “best chocolate chip cookie recipe” ระบบจะแสดง 3 สูตรคุกกี้ช็อกโกแลตชิปที่คัดเลือกมาแล้วว่าดีที่สุด พร้อมสรุปวิธีการจากทั้ง 3 สูตรมาให้ นอกจากนี้ ยังมีคำถามในเชิงติดตามผลให้คุณเลือก เพื่อค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องต่อไปด้วย เช่น “ความลับของการทำคุกกี้ให้อร่อยเด็ด” หรือ “ช็อกโกแลตชิปที่เหมาะสำหรับทำคุกกี้มากที่สุดคืออะไร?”
การแสดงผลโฆษณา Search Ads
ที่มา: https://adguard.com/en/blog/google-ai-sge-ad-blocking.html
แน่นอนว่าการเปิดใช้งานการค้นหาด้วย Google SGE ไม่ได้ทำให้โฆษณา Google หายไป แบนเนอร์โฆษณาบนหน้า Google Search ที่มีแท็กกำกับอย่างชัดเจนว่า “Sponsored” จะยังมีอยู่ต่อไป แต่ Google SGE จะเพิ่มคำอธิบายที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งาน ทำให้ประโยชน์เกิดขึ้นกับผู้ใช้ทั้ง 2 ฝ่าย คนหาข้อมูลก็เข้าใจโฆษณามากขึ้น ขณะเดียวกันผู้ลงโฆษณาก็มีสิทธิ์จะได้รับยอดคลิกมากขึ้น
ประสบการณ์ของผู้ใช้
Google พัฒนาหน้า Interface ของ Google Search ใหม่ เพื่อรองรับการมาของ Google SGE โดยปรับการแสดงข้อมูลเป็นแนวตั้ง ให้มองเห็นรายละเอียดของข้อมูลมากขึ้น พร้อม ๆ กับการปรับ UI ให้เข้าถึงง่าย เหมาะแก่การใช้ทั้งบน Desktop และ Mobile
อยากเปิดใช้งาน Google SGE ต้องทำอย่างไร
ปัจจุบัน Google SGE เปิดให้ทดลองใช้ใน 120 ประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีประเทศไทยด้วย คุณจึงสามารถทดลองเปิดใช้งาน Google SGE ได้เลยตอนนี้! (อัปเดต ม.ค. 2024 ผู้ใช้ Google Chrome บางท่าน อาจยังลงทะเบียน Google Labs ไม่ได้ เนื่องจากอยู่ในช่วงทดลอง)
ขั้นตอนแรก: คลิกที่ลิงก์ https://labs.google/sge/ เพื่อลงทะเบียนผ่าน Google Labs (ใช้ Google Chrome)
ขั้นตอนที่ 2: หากลงทะเบียนสำเร็จ หน้าต่างทดลองใช้จะปรากฏขึ้น เลื่อนเปิดสวิตช์ แล้วคลิก Try an Example ได้เลย
ขั้นตอนที่ 3: หน้า Google Search จะปรากฏขึ้นพร้อมแท็บ Generative AI คุณสามารถทดลองพิมพ์คำถามเพื่อค้นหาได้ แนะนำให้พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ เพราะระบบยังไม่รองรับภาษาไทย
สรุป
Google SGE คือหนึ่งในสัญญาณเตือนแห่งโลกยุคใหม่ ที่ทำให้นักการตลาดตื่นตัว และตระหนักถึงการพัฒนาแผนการตลาดให้ทันสมัยอยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนา AI ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น หากคุณไม่อยากตกขบวนเพราะการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ อย่าลืมเปิดรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา พร้อมอัปเดตข่าวสารการตลาดไปกับ Digital Tips
อ้างอิง
Semrush. Google SGE: Google Search Generative Experience Explained
Available from: https://www.semrush.com/blog/google-sge/
Google. A new way to search with generative AI
Available from: https://static.googleusercontent.com/media/www.google.com/th//search/howsearchworks/google-about-SGE.pdf