เคยไหม? Search หัวข้อที่ตัวเองสนใจบน Google แล้วพบว่าผลลัพธ์ที่ได้ไม่ได้มีแค่ชื่อบทความพร้อม Description เรียงกันแบบธรรมดา แต่กลับมีรายละเอียดอื่น ๆ ที่น่าสนใจปรากฏขึ้นบนหน้า Google Search ด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากคุณ Search คำว่า “เครื่องสำอางเกาหลี” คุณอาจพบลิสต์รายชื่อเครื่องสำอางเกาหลีที่เว็บไซต์หนึ่งเคยรวบรวมไว้ หรืออาจเป็นภาพตัวอย่าง Product ที่วางขายออนไลน์อยู่บนเว็บไซต์ E-commerce ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้เองที่เราเรียกว่า “Rich Snippets”
Rich Snippets คืออะไร?
Google Rich Snippets หรือ Rich Snippets คือ การแสดงผลรูปแบบหนึ่งของ Google ที่เน้นเปิดเผยรายละเอียดสำคัญบนหน้าเว็บไซต์นั้น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมให้กับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรีวิว เรตติ้ง รูปภาพ วิดีโอ โลเคชัน หรือแม้แต่ข้อความสรุปเนื้อหา ซึ่งจะช่วยดึงดูดสายตา และทำให้เว็บไซต์นั้น ๆ มีอัตราการคลิกเข้าชมสูงขึ้น
ที่มา: https://mylittlebigweb.com/en/what-content-rank-position-zero-google/
อย่างไรก็ดี ในอดีตคุณอาจมีโอกาสพบการแสดงผลแบบ Rich Snippets ได้เฉพาะในบทความที่ขึ้นอันดับสูงสุดบน Google Search สำหรับ Keyword นั้น ๆ (Search แล้วพบว่าอยู่ด้านบนสุด และมีเส้นคั่นแยกกันกับบทความอื่น) ซึ่งเราเรียกตำแหน่งนั้นว่า Zero Position หรือ บทความอันดับ 0 แต่ปัจจุบัน Google Rich Snippets แสดงผลบนเว็บไซต์อันดับอื่น ๆ ด้วย แต่โดยรวมแล้วยังมีเฉพาะเว็บไซต์ที่ติดหน้าแรก (ประมาณอันดับ 1-10) เท่านั้น Rich Snippets จึงกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยให้การทำ SEO เห็นผลมากขึ้น
Rich Snippets มีกี่รูปแบบ อะไรบ้าง?
ปัจจุบัน Google Rich Snippets แสดงผลหลากหลายรูปแบบมากกว่าแต่ก่อน ซึ่งเราขอยกตัวอย่าง 4 Rich Snippets 4 รูปแบบที่พบบ่อย ดังนี้
Rich Snippets แบบสรุปข้อมูล
การดึงเอาประโยคสำคัญในบทความ ซึ่งเชื่อมโยงกับ Keyword ที่คุณค้นหา มาแสดงผลเป็น Rich Snippets คือ หนึ่งในสิ่งที่คุณมีโอกาสพบได้มากที่สุดบน Google Search และแน่นอนว่า Rich Snippets รูปแบบนี้ มักพบเวลาที่คุณพิมพ์คำค้นหาเป็นคำถาม หรือต้องการหาความหมายของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น หากคุณ Search ข้อมูลว่า “Facebook SEO คืออะไร?” Google จะดึงเอาความหมายของ Facebook SEO บนหน้าเว็บไซต์ที่สามารถอธิบายได้ชัดเจนที่สุด มาแสดงผลไว้ที่อันดับบนสุด พร้อมไฮไลท์เฉพาะคำตอบที่คุณสนใจไว้ให้
Rich Snippets แบบลิสต์รายการ
ในกรณีที่คุณค้นหาความหมาย หรือถามคำถาม Google จะตอบคุณด้วย Rich Snippets แบบสรุปข้อมูล แต่หากคุณพิมพ์คำค้นหาเป็นคำหนึ่งคำ เช่น ประเภทสินค้า ชื่อสินค้า หรือชื่อแบรนด์ ระบบอาจแสดงผลอีกรูปแบบ เป็น Rich Snippets แบบลิสต์รายการสรุปข้อมูลทั้งบนบนหน้าบทความนั้น ๆ ดังเช่นตัวอย่างแรกของบทความ ที่เราทดลอง Search คำว่า “เครื่องสำอางเกาหลี”
หรืออีกรูปแบบ คือลิสต์รายการที่เป็นลักษณะการอธิบายบางสิ่งบางอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อคุณค้นหาขั้นตอนการทำอะไรบางอย่าง เช่น “ขั้นตอนการขับรถเกียร์ธรรมดา” Google ก็จะดึงเอาเฉพาะขั้นตอนที่มีบทความหนึ่งเขียนไว้ มาแสดงผลให้คุณอ่านได้ทันที
Rich Snippets แบบรีวิว
Rich Snippets รูปแบบนี้จะโชว์คะแนนเป็นดาว 5 ดวง ใต้ Description ของบทความนั้น ๆ เพื่อให้ผู้อ่านพิจารณาความน่าเชื่อถือของเนื้อหาก่อนคลิกเข้าไปอ่าน นอกจาก Rich Snippets แบบรีวิว ยังมักพบในเว็บไซต์รีวิวอาหาร รีวิวที่พัก รีวิวคาเฟ่ ฯลฯ ด้วยเช่นกัน
Rich Snippets แบบแสดงโลเคชัน
Rich Snippets แบบแสดงโลเคชัน หรือที่เรียกว่า Local Business Snippets คือ การดึงข้อมูลจาก Google My Business ของธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหมุดบนแผนที่ ชื่อร้าน เบอร์โทร เวลาเปิด-ปิด และรีวิวจากผู้ที่เคยไปเยือน มาแสดงผลบนหน้า Google Search โดยทั่วไปจะพบเมื่อคุณพิมพ์คำค้นหาเป็นชื่อสถานที่นั้น ๆ เพื่อหาข้อมูลก่อนเดินทางไป
Rich Snippets สำคัญต่อการตลาด Google อย่างไร?
ดังที่เราได้กล่าวไปในตอนต้นของบทความว่า Google Rich Snippets สามารถช่วยดึงดูดผู้อ่าน และเพิ่มยอดการเข้าชมเว็บไซต์ (Website Traffic) ได้ และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ Google Rich Snippets สำคัญต่อการตลาด Google และควรเป็นหนึ่งเป้าหมายที่แบรนด์ต้องพิชิตให้ได้ เมื่อคุณวางกลยุทธ์การตลาดสำหรับเว็บไซต์ อย่างไรก็ดี นอกจากการมี Rich Snippets จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับหน้าเว็บไซต์ของคุณแล้ว ยังแสดงถึง “คะแนนความเชื่อมั่น” ที่ Google มีต่อเว็บไซต์ของคุณอีกด้วย เพราะแน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกเว็บไซต์จะมี Rich Snippets ได้ แต่จะต้องเป็นเว็บไซต์ที่อธิบาย Keyword นั้น ๆ ได้อย่างชัดเจน ครอบคลุม และตอบโจทย์การทำงานของ Google มากที่สุดนั่นเอง
อยากให้บทความในเว็บไซต์ แสดงผลแบบ Rich Snippets ต้องทำอย่างไร?
หากธุรกิจของคุณกำลังมุ่งทำการตลาด Google และต้องการให้คอนเทนต์ในเว็บไซต์แสดงผลแบบ Rich Snippets นี่คือ 3 เทคนิคสำคัญที่จะทำให้เป้าหมายของคุณ “เป็นไปได้!”
พัฒนาเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์อยู่เสมอ
สิ่งสำคัญในการทำ SEO คือ คุณต้องหมั่นปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ให้สามารถชนะเว็บไซต์คู่แข่งใหม่ ๆ ได้เสมอ เพราะอันดับ SEO สามารถขึ้นและลงได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ หากคุณอยากให้หน้าเว็บไซต์ติดอันดับดีขึ้น และแสดงผลแบบ Rich Snippets ด้วย แนะนำให้ลิสต์รายชื่อบทความที่ติดอันดับบนหน้าแรกอยู่แล้ว แล้วเข้าไปปรับเปลี่ยนโครงสร้างเนื้อหาเพิ่มเติมในหน้าเหล่านั้น อาจเพิ่มจำนวน Keyword เพิ่มเนื้อหา เพิ่มรูปภาพ เป็นต้น
>> อยากปรับปรุงเนื้อหาบนหน้า SEO ต้องใช้ SEO Tools เป็น! อ่านเพิ่มเติมได้ที่: รวม 5 SEO Tools ยอดฮิต ที่คนทำ SEO ทุกคนต้องมี!
จัดลำดับเนื้อหาด้วย Heading Tag ให้ดี
การสรุปข้อมูลเป็นขั้นเป็นตอน และเลือกใช้ Heading Tag หรือ H1, H2, H3 อย่างเหมาะสม จะทำให้ Algorithm ของ Google เข้าใจบทความของคุณมากขึ้น และดึงเอาเฉพาะหัวข้อสำคัญไปแสดงผลบน Rich Snippets ได้ง่ายขึ้น
ลองทำเนื้อหาบทความในลักษณะ FAQ
Rich Snippets ส่วนมาก มักเป็นแบบสรุปความหมาย หรือตอบคำถามที่คนมักจะพิมพ์ค้นหา เราจึงอยากแนะนำให้คุณลองนึกดูว่า ผู้คนมักจะมีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับ Keyword ที่คุณกำลังเขียนถึงอยู่บ้าง และเพิ่มเป็น FAQ หรือคำถามที่พบบ่อยท้ายบทความ เพื่อให้ Google นำไปใช้แสดงผลแบบ Rich Snippets ได้ง่ายขึ้น
สรุป
Google Rich Snippets หรือ Rich Snippets คือ หนึ่งในหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า เนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์ของคุณตอบโจทย์การทำงานของ Google มากแค่ไหน และ Google จัดอันดับเว็บไซต์ของคุณอยู่ในทำเนียบเว็บไซต์คุณภาพแล้วหรือยัง คุณจึงควรหมั่นปรับปรุงเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์อยู่เสมอ พร้อม ๆ กับลอง Search Keyword บน Google เพื่อเช็กว่าเว็บไซต์ของคุณได้ Rich Snippets บน Keyword หรือไม่ หรืออีกวิธีเช็กที่สะดวกและรวดเร็วกว่า คือกรอก URL ของหน้าเว็บไซต์ที่คุณต้องการลงบน Rich Snippets Test และรอผลประมาณ 2-3 นาที
อ้างอิง
Semrush Blog. What Are Rich Snippets? How to Get Rich Snippets for Beginners
Available from: https://www.semrush.com/blog/rich-snippets/
Yoast. What are rich snippets?
Available from: https://yoast.com/what-are-rich-snippets/
elfsights. How to Create Rich Snippets with Local Business
Available from: https://elfsight.com/blog/2020/02/how-to-create-a-local-business-snippet-that-appears-on-google/