ขายของใน Twitter ยังไงให้รอด ได้ยอดจริง ไม่โดนบล็อก

ขายของใน Twitter

“น่ารักมากเลย // ขออนุญาตฝากร้านหน่อยค่า”

“ตลกมาก // ฝากร้านหน่อยครับ”

คนที่เล่น Twitter (หรือชื่อใหม่ที่เรียกอย่างไรก็ไม่คุ้นชินว่า X) เป็นประจำ คงจะคุ้นเคยดีกับคอมเมนต์แนวฝากร้านใต้โพสต์ดัง ๆ หรือโพสต์ที่มี Engagement ดี คนรีทวิตเยอะ ซึ่งเมื่อก่อนนี้ ทวิตฝากร้านจะนิยมคอมเมนต์ถึงร้านตัวเองโดยตรง ไม่มีตัวอักษรใดในประโยคที่กล่าวถึงเรื่องในโพสต์ จนกระทั่งภายหลังถูกติติง จึงเกิดวัฒนธรรมใหม่ “คอมเมนต์ก่อนเล็กน้อย แล้วค่อยขออนุญาตฝากร้าน” ขึ้น แน่นอนว่านี่ก็ยังไม่ใช่วิธีขายของใน Twitter ที่ดี เพราะเสี่ยงแก่การถูกบล็อกบัญชีมากที่สุด แล้ววิธีไหนถึงจะเรียกว่าเป็นวิธีที่ดี Digital Tips มีคำตอบมาให้คุณแล้ว!

>> อ่านเพิ่มเติม: ส่องฟีเจอร์ Twitter หลังเปลี่ยนชื่อเป็น X แล้วทำอะไรได้บ้าง?

1. ขั้นแรกของการขายของบน Twitter คือศึกษากลุ่มเป้าหมายให้ดี

ไม่ใช่สินค้าทุกประเภทที่จะขายในทวิตเตอร์ได้ อาจเพราะกลุ่มเป้าหมายในแพลตฟอร์มนี้มีค่อนข้างจำกัด และส่วนมากจะมีเพียงไม่กี่กลุ่มเท่านั้น เช่น ผู้ที่ชื่นชอบการชมคอนเสิร์ต และมักจะตามหาบัตรคอนเสิร์ตราคาพิเศษบนทวิตเตอร์ ผู้ที่ชื่นชอบอ่านนิยายแปล หรือแม้กระทั่งผู้ที่กำลังตามหาสินค้า Limited Edition สำหรับคนรัก VTuber ฯลฯ ซึ่งจะเห็นได้ว่า สินค้าที่ขายบนทวิตเตอร์ได้ส่วนใหญ่จะตอบสนองตลาดประเภท Niche Market ดังนั้น ก่อนตัดสินใจขายของในแพลตฟอร์มนี้ ควรหาข้อมูลให้แน่ใจว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่ในทวิตเตอร์จริง ๆ แล้วอย่าลืมค้นข้อมูลต่อไปว่า พวกเขามักโต้ตอบกับบัญชีใดเป็นพิเศษ เพื่อดูเทคนิคการขายของบัญชีเหล่านั้น


2. สร้างโปรไฟล์ให้น่าสนใจ บอกรายละเอียดชัดเจน

Alt: ขายของใน Twitter
ที่มา: https://www.shopify.com/blog/how-to-sell-on-twitter

ในทวิตเตอร์เต็มไปด้วยมิจฉาชีพในคราบนักขาย ผู้บริโภคมากมายต้องเสียเงินฟรี เพราะเสียรู้ให้กับมิจฉาชีพเหล่านี้ จนบรรยากาศการขายของใน Twitter ซบเซาลงกว่าแต่ก่อนมาก ดังนั้น เราแนะนำให้คุณสร้างโปรไฟล์ให้น่าสนใจ เปิดเผย และจริงใจกับผู้บริโภคให้มากที่สุด หลีกเลี่ยงการตั้งชื่อแอคเคาท์ด้วยตัวอักษรแปลก ๆ คล้าย Bot หรือใช้รูปการ์ตูน รูปศิลปินคนดังเป็นรูปโปรไฟล์ เพราะนั่นคือลักษณะปัจจัยแรก ๆ ที่ใช้ระบุตัวตนมิจฉาชีพ


3. สมัครใช้งาน X Premium

การสมัครใช้งาน X Premium เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการการันตีความน่าเชื่อถือให้กับบัญชีของคุณ และด้วยค่าสมัครเพียงเดือนละราว ๆ 100 บาท คุณยังสามารถโปรโมตสินค้าด้วยข้อความที่ยาวขึ้น และสามารถแก้ไขข้อความได้ ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากส่วนแบ่งค่าโฆษณาของ X Premium อีกด้วย ผู้ที่ขายของใน Twitter ส่วนใหญ่จึงนิยมสมัคร X Premium ไว้ เพราะอย่างน้อย ๆ ก็สามารถใช้งานฟีเจอร์ดี ๆ ที่แอคเคาท์ธรรมดาไม่สามารถใช้งานได้


4. ใช้ Hashtag ให้ตรงกับสินค้าที่จะขาย โดยไม่รบกวน Hashtag ข่าวสารอื่น ๆ

Alt: X Hashtag
ที่มา: https://www.duomedia.com/the-power-of-hashtags-are-they-still-relevant-in-social-media/

การทวิตขายของผ่าน Hashtag รายงานข่าวสารบ้านเมือง ก่อให้เกิดความรำคาญมากพอ ๆ กับการคอมเมนต์ฝากร้านใต้โพสต์ของคนอื่น และอาจทำให้แอคเคาท์ของคุณถูกรายงานหรือถูกบล็อกวันละหลาย ๆ ครั้งได้ ดังนั้น แทนที่จะเลือกใช้ Hashtag ดัง เพียงเพราะว่าต้องการให้คนมองเห็นมาก ๆ แนะนำให้เลือกใช้เฉพาะ Hashtag ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า จะสมเหตุสมผลมากกว่า และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า ทั้งนี้ หากคุณไม่แน่ใจว่าควรใช้ Hashtag อะไร ลองสำรวจจากแอคเคาท์ที่กลุ่มลูกค้าของคุณมักจะกดติดตาม และใช้ Hashtag ตามพวกเขาเหล่านั้นได้เลย


5. ว่าจ้าง Influencer ใน Twitter ให้สร้างทวิตแนวรีวิว

ทวิตแนวรีวิวในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงการทำคอนเทนต์แบบ Affiliate Marketing เนื่องจากแพลตฟอร์มทวิตเตอร์เป็นต้นกำเนิดของการทำโพสต์แนวรีวิวพร้อมแนบลิงก์สั่งซื้อสินค้า ผู้คนบนแพลตฟอร์มจึงค่อนข้างคุ้นเคยและไม่ค่อยเชื่อถือในโพสต์รีวิวที่แนบลิงก์ด้วย ดังนั้น เราแนะนำให้คุณว่าจ้าง Nano หรือ Micro Influencer ให้รีวิวสินค้า แต่ไม่ต้องแนบลิงก์สำหรับสั่งซื้อลงไป พร้อม ๆ กับการยิงโฆษณาช่วย เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคน Search หาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าประเภทเดียวกัน หรือไถฟีดแล้วเจอทวิตที่คุณยิงโฆษณาไว้ อัลกอริทึมจะดันทวิตที่กล่าวถึงสินค้าแบรนด์เดียวกันให้ปรากฏบนหน้าฟีดของผู้ชม นั่นหมายความว่า พวกเขาจะได้เห็นทวิตแนวรีวิวของ Influencer เหล่านั้นเองในที่สุด 

Alt: X Influencer
ที่มา: https://www.sendible.com/insights/influencer-marketing-on-twitter

อย่างไรก็ดี เราเข้าใจการโฆษณาสินค้า แต่ไม่สนับสนุนการหลอกลวงผู้บริโภค ดังนั้น แนะนำให้คุณ Request รีวิวที่บอกทั้งข้อดีและข้อจำกัดของสินค้า ซึ่งดีกว่าการบรีฟให้ Influencer บอกเฉพาะข้อดีของสินค้าเท่านั้น


สรุป 

การขายของใน Twitter ในปัจจุบันยากกว่าแต่ก่อนมาก เนื่องจากผู้คนเริ่มเคยชินกับทวิตที่แอบแฝงการขาย และเริ่มต่อต้านการคอมเมนต์แนวฝากร้าน ด้วยเหตุนี้ คุณจึงจำเป็นต้องเข้าหาลูกค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และใช้ประโยชน์จากฟังก์ชันต่าง ๆ ของแพลตฟอร์มอย่างถูกต้องและคุ้มค่ามากที่สุด


อ้างอิง

Hubspot. How to Sell on Twitter With These 13 Tips

Available from: https://blog.hubspot.com/blog/tabid/6307/bid/5209/5-ways-sales-people-can-use-twitter.aspx 

Pay Request. Sell products on Twitter

Available from: https://payrequest.io/sell-products-on-twitter/

ไอคอนแจ้งเตือน บนแอป Social Media ต่าง ๆ
Marketing Psychology
ไอคอนแจ้งเตือน วงกลมสีแดงที่ทรงพลังในการกระตุ้นการมีส่วนร่วม!

จุดสีแดงเล็ก ๆ บนแอป ไม่ได้ทำหน้าที่แค่แจ้งข่าวสารให้คุณทราบ แต่ยังสร้างผลกระทบทางจิตวิทยา ที่ช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมได้อย่างดีเยี่ยม มาเจาะลึกเบื้องหลังของไอคอนแจ้งเตือนไปพร้อมกัน! เคยมั้ย? เวลาเห็นตัวเลขแจ้งเตือนบนมุมขวาของแอป ต้องรีบกดเข้าไปดู ไม่ว่าจะเข้าไปเช็กรายละเอียด หรือแค่กดเพื่อให้จุดสีแดงนั้นหายไปก็ตาม…

Pop-up Advertising สามารถเปลี่ยนผู้เข้าชมให้เป็นลูกค้าได้
Marketing
โฆษณา Pop-ups กลยุทธ์เด็ดในการสร้าง Conversion บนเว็บไซต์

Pop-ups Ads บนเว็บไซต์ เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้มาอย่างช้านาน เพราะช่วยส่งเสริมการขายได้อย่างดีเยี่ยม แต่จะเป็นอย่างนั้นต่อเมื่อคุณใช้มันอย่างถูกวิธี และแสดงผลในเวลาที่เหมาะสม ถ้าพูดถึงกลยุทธ์เพื่อสร้างยอดขายและการมีส่วนร่วมบนเว็บไซต์ ปัจจุบันก็มีให้เลือกใช้หลากหลายวิธี เช่น การทำ SEO…

IKEA Effect อคติทางความคิดที่ผู้บริโภคให้คุณค่ากับสิ่งลงมือทำด้วยตัวเอง
Marketing
ส่องกรณีศึกษาจาก IKEA Effect เทคนิคเพิ่มคุณค่าให้สินค้าแบบเท่าตัว!

เคยรู้สึกไหมว่าอะไรที่ลงมือทำด้วยตัวเอง ต้องใช้แรงกายมากมายกว่าจะสร้างสรรค์มันออกมาได้ จะยิ่งรู้สึกคุ้มค่าที่ทำลงไป และภูมิใจในตัวเองมาก ๆ สิ่งนี้เรียกว่า IKEA Effect ที่มีที่มาจากแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านสัญชาติสวีเดน หลายคนอาจจะรู้จักในฐานะสินค้าสไตล์มินิมอล แต่รู้ไหมว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวของอิเกีย ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจของนักการตลาดอย่างมาก…