เคยสงสัยไหมว่าเวลาเข้าแอปพลิเคชัน LINE จะมีเมนู LINE VOOM โผล่ขึ้นมา ซึ่งเจ้า LINE VOOM คือ ฟีเจอร์ที่ทาง LINE เปิดตัวมาได้สักพักใหญ่แล้ว การมาถึงของเมนูดังกล่าว ทำให้ทิศทางการใช้งานแอปพลิเคชันจากเดิมที่เน้นเพียงแค่การแชท, การส่งข้อความ หรือการส่งไฟล์ กลายมาเป็นแอปพลิเคชันที่เหมาะแก่การอัปเดตข่าวสารประจำวันสามารถใช้งานประจำวัน และอยากรู้ไหมว่า VOOM แปลว่าอะไร ทำไมถึงมีคำนี้ปรากฏขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่หากนำไปค้นหาคำแปล อาจไม่ได้ความหมายเสียด้วยซ้ำ เพื่อตอบข้อสงสัยนี้ Digital Tips จะพาทุกคนไปไขความลับเกี่ยวกับ LINE VOOM ว่าเป็นเมนูเกี่ยวกับอะไร มีประโยชน์อย่างไร พร้อมทำความรู้จักเพิ่มเติมแบบละเอียดยิบ!
LINE VOOM คืออะไร
LINE VOOM คือ เมนูอัปเดตข่าวสารที่ทาง LINE คิดค้นขึ้นมาเพื่อให้เหล่าผู้ใช้งาน, แบรนด์ หรือธุรกิจต่าง ๆ ที่อยู่ในแอปพลิเคชัน สามารถแชร์เรื่องราวของตัวเอง เพื่อเพิ่ม Engagement ได้อย่างง่ายดาย โดยจะแสดงผลคล้าย ๆ กับหน้าไทม์ไลน์ของ Facebook และ Instagram คุณจึงสามารถโพสต์ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ หรืออัปโหลดสตอรี่ได้ผ่าน LINE VOOM แล้วคำว่า VOOM คืออะไร ทำไมจึงต้องใช้คำนี้ คำตอบก็คือ VOOM เกิดจากการรวมศัพท์ในภาษาอังกฤษเข้าด้วยกัน ดังจะอธิบายต่อไปนี้
“คำว่า VOOM มาจากการผสมคำว่า Video Room, Visual Room และ Boom เข้าด้วยกัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงฟังก์ชันของ LINE VOOM ว่าเป็นพื้นที่ที่มีไว้เพื่อแชร์คอนเทนต์ เรื่องราวผ่านวิดีโอสั้น, รูปภาพ และอื่น ๆ ได้อย่างอิสระ”
รูปแบบคอนเทนต์ของ LINE VOOM
ดังที่เราได้กล่าวไว้ในหัวข้อก่อนหน้านี้ว่า LINE VOOM คือ เมนูที่ให้ทุกคนได้ร่วมแชร์คอนเทนต์ ผ่าน Feed ที่มีลักษณะคล้ายหน้าไทม์ไลน์ของ Social Media อื่น ๆ และที่สำคัญ LINE VOOM ยังเปิดโอกาสให้คุณโพสต์คอนเทนต์ ลงไปได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถสรุปรูปแบบคอนเทนต์บนหน้า LINE VOOM ได้ดังนี้
- Photos: คุณสามารถโพสต์ภาพบนหน้า LINE VOOM โดยจำกัดจำนวนสูงสุดต่อโพสต์อยู่ที่ 20 ไฟล์ต่อโพสต์
- Text with background (Post Relay): การโพสต์ข้อความในลักษณะเป็น Text ล้วน แต่สามารถใส่สีพื้นหลังประกอบ และเพิ่มลูกเล่นให้กับตัวอักษรได้
- GIFs: บน LINE VOOM คุณสามารถโพสต์ภาพ GIF ได้ โดยแนบไฟล์เช่นเดียวกับตอนโพสต์รูปภาพ
- Maps/locations: ทุกครั้งที่โพสต์ LINE VOOM จะมีปุ่มให้เลือกกดเพื่อ “เพิ่มตำแหน่งที่ตั้ง” ทุกครั้ง
- LINE Stickers: การใช้ LINE Stickers แทรกลงในโพสต์ได้ทั้งแบบ Relay และโพสต์คู่กับภาพหรือวิดีโอก็ได้ โดยจะใช้ได้มากสุด 20 รายการต่อโพสต์
- Coupon และ แบบสอบถามจาก LINE OA: สามารถทำลิงก์ให้เชื่อมโยงกัน แล้วนำมาโพสต์ผ่าน VOOM ได้ทั้งหมด
ถึงแม้ความหมายของ VOOM แปลว่า ห้องที่เน้นการโพสต์วิดีโอหรือรูปภาพ แต่ในทางเดียวกันก็สามารถสร้างโพสต์รูปแบบอื่น จากโพสต์หลาย ๆ แบบที่เรายกตัวอย่างไปได้ด้วย เพื่อให้เกิดการแชร์คอนเทนต์ที่สนุกสนาน และยังเพิ่มช่องทางการทำ Content Marketing สำหรับเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ได้อีกด้วย
ประโยชน์ของ LINE VOOM
หากคุณยังไม่เคยลองใช้ LINE VOOM มาก่อน ก็เป็นไปได้ว่าคุณอาจยังเข้าไม่ถึงประโยชน์ของ LINE VOOM ซึ่งแท้จริงแล้ว LINE VOOM คือ เมนูที่คล้ายคลึงกับ Social Media ที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวัน เพียงแต่รวมเข้ากับเมนูแชทส่วนตัวเดิม อย่างไรก็ดี หากคุณอยากเห็นภาพชัด ๆ ว่าประโยชน์ของ VOOM คืออะไร ในหัวข้อนี้ เราสรุปมาให้เรียบร้อยแล้ว!
>> อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: Social Media Marketing (SMM) คืออะไร ส่งผลต่อธุรกิจของคุณอย่างไร
1. LINE VOOM อัปเดตเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ติดต่อที่คุณไม่ต้องหาเพิ่ม
เนื่องจากผู้ติดต่อบางคนที่คุณเชื่อมต่อบนแอปพลิเคชัน LINE อยู่แล้วนั้น ล้วนเป็นเพื่อน หรือเป็นบัญชีทางการที่คุณให้ความสนใจ และต้องการติดตาม ฉะนั้นเมื่อคุณอยากรู้เรื่องราวของพวกเขา หรือติดตามข่าวสารอัปเดตเพิ่มเติม LINE VOOM คือ อีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้คุณมองเห็นสิ่งเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย ทุกที่ ทุกเวลา
2. LINE VOOM มีฟีดแนะนำสำหรับคุณโดยเฉพาะ
บางครั้งเราไม่มั่นใจว่าเนื้อหาคอนเทนต์บน LINE VOOM ที่เราต้องการรับรู้เพิ่มเติม นอกเหนือจากการติดตามผู้ใช้งานที่มีอยู่แล้ว จะเป็นคอนเทนต์แนวไหนบ้าง ทำให้เราอาจไม่ได้รับรู้เรื่องราวน่าสนใจมากกว่าเดิม การเปิดดูเมนูแนะนำสำหรับคุณบน LINE VOOM จึงกลายเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการเปิดโอกาสรับชมคอนเทนต์แบบวิดีโอสั้นจากผู้ใช้งานคนอื่น หากเจอประเภทคอนเทนต์ที่เราสนใจ ก็สามารถเข้าไปกดติดตาม เพื่อรอรับคอนเทนต์ใหม่ ๆ ผ่านฟีดเฉพาะคุณที่แยกออกจากการแนะนำได้เลยทันที
3. การนำเสนอความครบวงจรของ LINE VOOM
การนำเสนอของ LINE VOOM คือ การแสดงเนื้อหาคอนเทนต์ที่หลากหลาย แถมยังมีการแชร์เรื่องราวจากเมนูหรือฟีเจอร์อื่น ๆ ของแอปพลิเคชันไลน์เพิ่มเติมเข้าไป โดยที่คุณแทบไม่ต้องออกจากแอปพลิเคชันนี้เลย ยกตัวอย่างง่าย ๆ หากคุณกดติดตาม LINE OA ของแบรนด์สินค้าที่คุณสนใจ หรือชอบซื้อสินค้าจากร้านใดใน LINE Shopping หากมีโปรโมชันใหม่แชร์ขึ้นบน LINE VOOM คุณก็จะมีโอกาสเจอได้ง่าย และคลิกเพื่อรับสิทธิพิเศษได้ทันที ด้วยเหตุนี้ LINE VOOM จึงนับเป็นศูนย์รวมสังคมออนไลน์ขึ้นมาได้อย่างยิ่งใหญ่ และมีประโยชน์มหาศาลในปัจจุบัน
4. LINE VOOM เชื่อมคุณกับลูกค้าได้ง่าย ๆ ไม่ต้องบรอดแคสต์
นอกจาก LINE VOOM จะมีประโยชน์กับผู้ใช้งานทั่วไปแล้ว ในแง่ของเจ้าของธุรกิจ LINE VOOM ก็เป็นเครื่องมือที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น หากคุณคือเจ้าของธุรกิจที่เปิดใช้งาน LINE OA หรือ LINE Official Account และมีจำนวนการเพิ่มเพื่อนค่อนข้างมาก อาจสูงถึงหลักร้อยหรือหลักพัน เมื่อคุณต้องการประกาศข่าวบางอย่างให้ลูกค้าทราบ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดร้าน เลขที่พัสดุ หรือสินค้าใหม่ การโพสต์บน LINE VOOM ย่อมตอบโจทย์กว่าการตั้งค่า LINE Broadcast เนื่องจากจำนวนการบรอดแคสต์ถูกจำกัดตามค่าแพ็กเกจ LINE OA หากบรอดแคสต์เกินโควตาก็ต้องจ่ายเพิ่ม แต่การโพสต์ลงบน LINE VOOM สามารถใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
การเริ่มต้นใช้งาน LINE VOOM
คุณสามารถเริ่มต้นใช้งานเมนู VOOM ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ถ้าพร้อมแล้วหยิบมือถือขึ้นมา แล้วเริ่มใช้งาน LINE VOOM ไปพร้อม ๆ กันเลย
เข้าสู่แอปพลิเคชันไลน์
สังเกตแถบเมนูบาร์ด้านล่าง เลือก VOOM
เมื่อเข้าสู่หน้าเมนู LINE VOOM จะมี 2 เมนูย่อย ๆ ให้คุณเลือกชม ได้แก่ “ติดตาม” ซึ่งจะแสดงโพสต์ของบัญชีไลน์ที่คุณกด “เพิ่มเพื่อน” ไว้ ทั้งที่เป็นบัญชีทางการและบัญชีส่วนตัว
ในส่วนของเมนู “แนะนำ” จะแสดงคลิปวิดีโอสั้น ๆ ลักษณะคล้าย ๆ Reels ซึ่งสร้างโดยบัญชีที่คุณไม่ได้กด “เพิ่มเพื่อน” แต่แพลตฟอร์มคัดมาแล้วว่าคลิปเหล่านั้นมียอดการเข้าชมมาก และตรงกับความสนใจของคุณ
วิธีการใช้ LINE VOOM สำหรับธุรกิจออนไลน์
เทรนด์โลกในปัจจุบันบ่งบอกว่าผู้คนกำลังหันไป Chat&Shop มากขึ้น นั่นจึงทำให้การใช้งาน LINE Official Account พร้อม ๆ กับ LINE VOOM คือ เคล็ดลับที่สามารถเอาชนะในผู้บริโภคได้ในเรื่องความครบถ้วน ความสะดวกสบาย และความพิเศษได้ง่ายกว่าที่คุณคิด หากคุณเป็นนักการตลาดออนไลน์ที่กำลังเตรียมวางแผน Digital Marketing นี่ถือเป็นหนึ่งในโอกาสที่ต้องรีบคว้าเอาไว้และเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง ก่อนจะถูกแบรนด์อื่นตัดหน้าไป เพื่อไม่ให้พลาดฟีเจอร์ตัวนี้ ลองมาดูวิธีเริ่มใช้งานอย่างง่ายกันเลยค่ะ
1. การโพสต์คอนเทนต์ลง LINE VOOM
การโพสต์คอนเทนต์ลง LINE VOOM คือ สิ่งที่เราต้องทำให้เป็นอันดับแรก ก่อนจะไปเรียนรู้การใช้งานข้ออื่น ๆ ต่อ ด้วยความง่ายที่เพียงแค่คลิก “สร้างโพสต์” ในหน้าจัดการ VOOM ของ LINE OA จากนั้นก็เพิ่มไฟล์, เพิ่มข้อความ, สร้าง Text on background หรือคอนเทนต์อื่น ๆ ที่เราต้องการลงโพสต์ โดยสามารถบันทึกแบบร่างไว้ได้ ส่วนใครที่อยากตั้งเวลาการลงโพสต์ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เพียงเลือกวันและเวลาตามต้องการได้ที่เมนูด้านล่าง
2. การเข้าใช้งานเพื่อติดตามผลลัพธ์บนหน้า Dashboard LINE VOOM
เลือกคลิกไปที่เมนู “แดชบอร์ด” แล้วหน้าเว็บจะแสดงผลให้เห็น Performance ของ LINE VOOM อาทิ ตัวเลขสถิติต่าง ๆ ที่สำคัญต่อภาพรวม เช่น จำนวนผู้ติดตาม, การมองเห็น, ยอดดู Video, ตารางคอนเทนต์ และการนำเสนอวิดีโอที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด
3. หน้าต่างการแจ้งเตือนบน LINE VOOM
เพื่อให้คุณไม่พลาดที่จะโต้ตอบ หรือติดตามการตอบกลับของผู้ใช้งานคนอื่น หน้าแสดงผลการแจ้งเตือนของ LINE VOOM จะปรากฏขึ้นในลักษณะ Pop-up ทำให้เราคลิกดูผลการแจ้งเตือนได้แบบรวดเร็วทันใจ
4. หน้ารวมโพสต์ LINE VOOM ทั้งหมด
ให้ทุกการติดตามข้อมูลโพสต์บน LINE VOOM ที่เราอยากทราบรายละเอียด เป็นเรื่องง่าย ๆ ผ่านเมนู “รายชื่อโพสต์” โดยจะรวมเอาโพสต์ทั้งหมดที่เผยแพร่ไปแล้ว, โพสต์ร่าง และตั้งเวลา มาเรียงลำดับตามวันที่โพสต์ พร้อมโชว์ให้เห็นถึงตัวเลขผลลัพธ์แบบคร่าว ๆ ที่เกี่ยวกับยอดการมองเห็น ไปจนถึงการตอบกลับ ซึ่งเมนูนี้ทำให้ LINE VOOM คือ ฟีเจอร์ที่สามารถดูแล LINE OA ได้เหมือนกับ Social Media ทั่วไป แถมยังมีรูปแบบที่ดูแล้วเข้าใจง่าย ทำให้พร้อมใช้งานเป็นได้ตั้งแต่แรกเห็นอีกด้วย
5. ดูข้อมูล Insight ทั้งหมดบน LINE VOOM
หากคุณอยากรู้รายละเอียดข้อมูลแบบ Insight ต่าง ๆ ของ LINE VOOM สามารถดูได้ที่เมนู “ข้อมูลเชิงลึก”ซึ่งจะบ่งบอกทั้งสถิติตัวเลข พร้อมกับภาพกราฟแบบ Visual เพื่อทำให้เรามองเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
6. เมนู Comment ตัวช่วยจัดการ LINE VOOM ให้โต้ตอบได้ง่าย
เมนูที่ 6 ของ LINE VOOM คือ การตั้งค่าเมื่อมีคนเข้ามาคอมเมนต์ หรือกดให้ความรู้สึกบนคอนเทนต์ของเรา ประโยชน์หลัก ๆ ของเครื่องมือตัวนี้มีเอาไว้ให้เราสามารถรับรู้ และโต้ตอบผู้ใช้งานคนอื่นได้อย่างรวดเร็วผ่าน LINE VOOM ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาล็อกอินที่อื่นแล้วสลับตอบกลับไปมา
7. เมนูการตั้งค่า LINE VOOM
เมนูสุดท้ายเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตั้งค่า ซึ่งหลัก ๆ จะใช้งานเพื่อให้เรากำหนดว่าจะโชว์จำนวนผู้ติดตามหรือไม่ และถ้าเราต้องการตั้งค่าเกี่ยวกับ LINE OA เพิ่มเติม หน้าเมนูตั้งค่าของ LINE VOOM คือ ทางลัดที่พาเราเชื่อมต่อไปยัง LINE OA ได้เช่นเดียวกัน
เทคนิคการใช้ LINE VOOM กับธุรกิจ
สำหรับผู้ใช้งาน LINE VOOM ที่เชื่อมต่อเข้ากับบัญชี LINE OA ซึ่งมีไว้สำหรับจัดการธุรกิจ หากคุณอยากบริหารจัดการการใช้ LINE VOOM ให้ได้ประโยชน์สูงสุด นี่คือ 5 เทคนิคที่เรานำมาฝากคุณ อ่านแล้ว นำไปปรับใช้ได้เลย!
- ทำคอนเทนต์ลงบนหน้าไทม์ไลน์: ไม่ใช่แค่ Facebook, Instagram หรือ TikTok เท่านั้น ที่คุณสามารถโพสต์คอนเทนต์เพื่อโปรโมทแบรนด์ได้ เพราะคุณสามารถโพสต์ LINE VOOM ได้เช่นเดียวกัน เพื่อเพิ่มพื้นที่ประชาสัมพันธ์แบรนด์ และใช้สื่อทุกประเภทที่มีในมือให้คุ้มค่าที่สุด
- คลิปวิดีโอสั้น เปิดการมองเห็นได้!: ดังที่เราได้กล่าวไปในหัวข้อ “การเริ่มต้นใช้งาน LINE VOOM” ว่าหน้าไทม์ไลน์ของ VOOM จะแบ่งออกเป็น 2 เมนูด้วยกัน คือ “ติดตาม” ซึ่งจะเป็นหน้าไทม์ไลน์ของบัญชีที่คุณกดเพิ่มเพื่อน และ “แนะนำ” ซึ่งจะโชว์คลิปสั้นจากผู้ที่คนไม่ได้กดเพิ่มเพื่อน แต่แพลตฟอร์มวิเคราะห์แล้วว่าตรงกับความสนใจของคุณ ดังนั้น หากบัญชีของคุณโพสต์ LINE VOOM เป็นคลิปในลักษณะนี้บ้าง จะมีคนมองเห็นคอนเทนต์ของคุณเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มที่จะกดเพิ่มเพื่อนบัญชีของคุณเพิ่มขึ้นแน่นอน
- โพสต์ภาพ GIF สลับกับภาพนิ่ง: LINE VOOM คือ เมนูที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับไทม์ไลน์ ทำให้ผู้ชมเลื่อนนิ้วผ่านแบบเร็ว ๆ หากคุณต้องการดึงดูดสายตาให้ผู้ที่เลื่อนนิ้วไปมาหยุดชม แนะนำให้ลองโพสต์ภาพ GIF น่ารัก ๆ ที่มี Movement ดูบ้าง
- โพสต์คำถามผ่าน Text เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย: คุณสามารถเพิ่ม Engagement จากผู้ชมได้ เพียงตั้งคำถามง่าย ๆ แล้วโพสต์เป็น Text ผ่าน LINE VOOM แล้วรอให้มีคนมาคอมเมนต์ตอบ
- วางแผน Schedule Post: เช่นเดียวกับการทำคอนเทนต์บนแพลตฟอร์ม Social Media อื่น ๆ เราแนะนำให้คุณทำคอนเทนต์บน LINE VOOM โดยมี Schedule Post เพื่อกำหนดว่า จะโพสต์คอนเทนต์ใดในวันไหนบ้าง ควบคู่ไปกับการดู Insights เพื่อปรับเปลี่ยนแผนให้เหมาะสมอยู่ตลอดเวลา
- เพิ่มลิงก์เว็บไซต์หรือ QR CODE บนหน้า LINE VOOM: หากคุณมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ซึ่วเชื่อมต่อกับ LINE LIFF เรียบร้อย สามารถใส่ลิงก์เว็บไซต์ หรือแนบภาพ QR CODE ลงไปบนโพสต์ LINE VOOM เพื่อเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์ได้ นอกจากนี้ สำหรับลิงก์เว็บไซต์ แนะนำให้เพิ่มเป็นเมนูบน LINE Rich Menu ด้วย จะช่วยเพิ่มยอดการเข้าถึงมากขึ้น
วิธีเชื่อม LINE OA กับ LINE VOOM
ในหัวข้ออื่นเราพูดถึงประโยชน์และการเข้าใช้งาน VOOM แบบเบื้องต้นในเมนูต่าง ๆ กันไปแล้ว แต่ในเมื่อ LINE VOOM คือ เมนูสำคัญที่สามารถเชื่อมต่อการใช้งานกับ LINE OA ได้แบบง่าย ๆ ใครที่ยังไม่เคยทำมาก่อน เราจะมาสรุปวิธีตั้งค่า LINE VOOM เพื่อใช้งานร่วมกับ LINE OA ทั้งหมดในการลิงก์ทั้ง 2 เข้าหากันผ่านลิสต์รายการดังต่อไปนี้แบบรวดเร็วที่สุด
- ล็อกอินด้วยบัญชี LINE ที่มีผ่าน LINE VOOM ก่อน
- จากนั้นมองที่มุมขวาบนจะเห็นรูปโปรไฟล์ของเรา แล้วคลิกได้เลย
- หากมี LINE OA อยู่แล้ว สามารถเลือกเพื่อเชื่อมต่อได้ทันที
- แต่ถ้าใครยังไม่มี LINE OA สามารถเลือกเมนู “สร้างใหม่” ได้เช่นกัน
- เมื่อต้องการใช้งาน LINE VOOM กับ LINE OA ตัวไหน ก็ให้กลับไปคลิกเลือกที่มุมขวาบนที่เดิม แล้วเริ่มต้นใช้งานได้ตามต้องการ
แบรนด์ที่มีการใช้งาน LINE OA อยู่แล้วแต่ยังไม่รู้จักว่า VOOM คืออะไร แนะนำว่าควรรีบทำความรู้จักเพิ่มเติม จากบทความนี้ หรือลองหาข้อมูลบนหน้า Official Website ของ LINE ดูก็ได้ เพียงแต่ต้องรีบเข้าใช้งานให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะเข้าถึงผู้คนในนั้นได้มากขึ้น สร้างโอกาสการ Chat&Shop ได้อย่างเติบโตอีกช่องทาง และที่สำคัญห้ามลืมเด็ดขาดว่า VOOM แปลว่า การนำเสนอคอนเทนต์หลายรูปแบบตามที่เราอธิบายไป ฉะนั้นลอง Create คอนเทนต์ให้หลากหลาย สร้างความน่าสนใจ และเชื่อมต่อฟีเจอร์อื่น ๆ บน LINE เข้าด้วยกัน จะได้ใช้งานทุกอย่างให้คุ้มค่ามากที่สุด!
>> อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: กลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) คืออะไร มีช่องทางไหนน่าสนใจบ้าง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ LINE VOOM
1. LINE VOOM แตกต่างจาก TimeLINE อย่างไร
ก่อนหน้านี้ LINE VOOM คือ Timeline ในรูปแบบที่ยังไม่ได้พัฒนามาจนถึงตอนนี้ ทำให้เราสามารถติดตามได้เพียงแค่เรื่องราวจากเพื่อน หรือบัญชีผู้ใช้งานอื่นที่เราติดตามไว้เพียงอย่างเดียว แต่เมื่อได้รับการอัปเดตเรียบร้อยแล้ว ความสามารถของเมนู LINE VOOM จึงเพิ่มขึ้น จนสร้างความแตกต่างจากเดิมได้ถึง 2 รูปแบบด้วยกัน
- แนะนำสำหรับคุณ: เป็นการนำเสนอคอนเทนต์ที่แนะนำสำหรับคุณโดยเฉพาะ เพื่อให้มีโอกาสค้นพบเรื่องราวจากผู้ใช้งานอื่น ๆ ที่คุณอาจสนใจเพิ่มเติม
- ติดตาม: หน้านี้จะเป็นการนำเสนอคอนเทนต์เฉพาะผู้ใช้งานที่คุณติดตาม เหมือนกับ Timeline แบบก่อนนั่นเอง
คุณคงพอจะมองเห็นแล้วว่าความแตกต่างระหว่าง Timeline กับ LINE VOOM คือ การเพิ่มเติมคอนเทนต์ในหน้าฟีดเดิม ให้มีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น และยังมีการพัฒนาหน้าฟีด “แนะนำสำหรับคุณ” เพื่อนำเสนอเนื้อหาที่คุณอาจสนใจให้ด้วย
ข้อสรุปเกี่ยวกับ LINE VOOM
โดยสรุปแล้ว LINE VOOM คือ การใช้งาน Feed รูปแบบใหม่ที่จะนำเสนอคอนเทนต์ทั้งหมดจากผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะมาจากผู้ที่เราติดตาม หรือผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ที่สามารถพบได้บนหน้าการแนะนำ ทั้งนี้ ในฐานะนักการตลาด หลังจากที่คุณทราบแล้วว่า VOOM ในไลน์คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร ขั้นตอนต่อไปก็เพียงแค่สร้างคอนเทนต์ตามที่ผู้คนบนแพลตฟอร์ม LINE ชอบใช้งานและติดตามอยู่บ่อยครั้ง จากนั้นลองยิงแอด LINEเพื่อสร้างการเข้าถึง บวกกับการโฆษณาเพิ่มเติมให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด ถ้าทุกวันนี้เราทำการตลาดออนไลน์อยู่แล้ว อย่าลืมพิจารณาถึงการรุกตลาด LINE VOOM เพิ่มเติมกันด้วยนะคะ
