6 เทคนิคเขียนแคปชั่นขายของบน Facebook ให้หยุดสายตาลูกค้า

สำหรับคนทำธุรกิจขายของออนไลน์ การสื่อสารกับลูกค้าผ่านภาพและข้อความเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะข้อความหรือแคปชั่น (Caption) ซึ่งจะให้รายละเอียดของสินค้า โปรโมชัน หรือข้อมูลร้านค้าได้อย่างครบถ้วน และในบทความนี้ Digital Tips รวบรวม 6 เทคนิคการเขียนแคปชั่นขายของให้ปัง จนยั้งสายตาลูกค้าให้หยุดอ่าน มาให้คุณแล้ว โดยเน้นเฉพาะ Facebook แพลตฟอร์มที่ยังคงได้รับความนิยมสูงสุด ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกัน!

1. ให้ความสำคัญกับ 3 บรรทัดแรก

แม้คุณจะสามารถพิมพ์ข้อความใน Facebook Post ได้อย่างไม่จำกัดตัวอักษร แต่ทันทีที่คุณกด Publish โพสต์นั้น ๆ Facebook ก็จะปรับการแสดงผลให้เหมาะสมกับ Device ที่แต่ละคนใช้งาน กล่าวคือ หากกลุ่มเป้าหมายเปิด Facebook ด้วยคอมพิวเตอร์ ก็มีโอกาสที่จะเห็นรายละเอียดในแคปชั่นหลายบรรทัด แต่หากพวกเขาไถฟีด Facebook ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ พวกเขาอาจมองเห็นแคปชั่นได้เพียง 3 บรรทัดแรกเท่านั้น และหากอยากอ่านฉบับเต็มต้องคลิก See More ซึ่งมีน้อยคนนักที่ตัดสินใจอ่านแคปชั่นทั้งหมด ดังนั้น แนะนำให้คุณโฟกัสกับการเขียนแคปชั่น 3 บรรทัดให้ดี (ความยาวประมาณ 125 – 132 ตัวอักษร)

2. ขึ้นประโยคแรกด้วยคำถาม

ลองวิเคราะห์ดูว่า Pain Point ของลูกค้าที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณคืออะไร แล้วลองตั้งคำถามให้สอดคล้องกับสิ่งนั้น เช่น หากคุณขายรองเท้าสตรี ที่ดีไซน์มาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุข้อเท้าพลิกแพลง คุณอาจตั้งคำถามจูงใจให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่า มีคนเข้าใจปัญหานี้ เช่น “คุณเองก็ข้อเท้าพลิกอยู่บ่อย ๆ ใช่ไหม?” หรือ “กังวลไหม…กับปัญหาข้อเท้าพลิกแพลงจนบาดเจ็บ?” เป็นต้น ทั้งนี้ อย่าลืมระมัดระวังการใช้คำ ไม่ให้ผิดมาตรฐานชุมชนของ Facebook ด้วย

3. สร้างบทสนทนากับกลุ่มเป้าหมาย

การเขียนแคปชั่นขายของ - สร้างบทสนทนา

ที่มา: https://www.socialmediatoday.com/news/7-tips-for-creating-engaging-social-media-captions/523897/ 

การเขียนแคปชั่นสัมพันธ์กับการสร้างคอนเทนต์ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของทั้งภาพและข้อความ ว่าจะทำอย่างไรให้กลุ่มเป้าหมายสนใจสินค้า/บริการของเรา และหากคุณอยากจะสร้างบทสนทนากับกลุ่มเป้าหมาย อันดับแรก คุณต้องลองสวมบทเป็นพวกเขา แล้วลองคิดดูว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุด ก่อนลงมือสร้างแคปชั่นขายของให้ตอบโจทย์เป้าหมายนั้น เพื่อให้คุณเข้าใจมากขึ้น ลองพิจารณาแคปชั่นขายของในภาพตัวอย่าง โดยจะเห็นว่าสินค้าในภาพคือกาแฟเย็น และแบรนด์ได้พิจารณา Persona มาคร่าว ๆ แล้วว่า คนที่เลือกดื่มกาแฟเย็นมักจะชอบเสพภาพหรือข้อความแบบไหน และที่สำคัญก็คือ พวกเขามักจะเลือกดื่มกาแฟเย็นเมื่อไหร่ ก่อนนำจุดนั้นมาสร้างบทสนทนาสั้น ๆ ผ่านแคปชั่นนั่นเอง

>> เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่อง Persona อ่านต่อที่: Persona คืออะไร ทำไมเราควรสร้างผู้ใช้จำลองในการทำการตลาด

4. พยายามคิดคำให้มีสัมผัสคล้องจอง

เวลาอ่านคำที่มีสัมผัสคล้องจองกัน ไม่ว่าจะเป็นสัมผัสพยัญชนะ หรือสัมผัสสระ จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกได้ถึงความลื่นไหล และอยากอ่านต่อไป ยกตัวอย่างเช่น หากสินค้าของคุณคือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมผสมสารสกัดจากวิตามิน C ที่ช่วยให้ผิวสุขภาพดี แลดูกระจ่างใส แทนที่จะเขียนแคปชั่นขายของด้วยสำนวนทั่ว ๆ ไปว่า “ผิวกระจ่างใส ด้วยอาหารเสริมจาก Vitamin C” ลองคิดคำใหม่ให้คล้องจองกันว่า “เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ ด้วยผิวกระจ่างใสจาก Vit C” ก็จะสามารถเรียกความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น 

5. ใส่รายละเอียดที่จำเป็นต่อลูกค้าให้ครบ

การเขียนแคปชั่นขายของ - ใส่รายละเอียด

ที่มา: https://www.unboxsocial.com/blog/facebook-caption-tips/ 

สิ่งสำคัญที่คนทำ Facebook Marketing มักจะมองข้ามไป ก็คือการศึกษา Customer Journey และเรียนรู้ที่จะ Support ทุกย่างก้าวของการตัดสินใจซื้อ ยกตัวอย่างเช่น หาก Journey ของลูกค้าที่ซื้ออาหารเสริมบนแพลตฟอร์ม Facebook สามารถเรียงลำดับได้เป็น มองเห็นแอดโฆษณา > เริ่มตามอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริง > เข้ามาดู Official Fanpage > สั่งซื้อกับแอดมิน > ถูกใจและกลับมาซื้อซ้ำ ก็แสดงว่า ข้อมูลที่สำคัญกับกลุ่มเป้าหมาย คือ ความเห็นจากผู้ใช้งานคนอื่น ๆ คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ ราคา ไปจนถึงช่องทางการสั่งซื้อ และอาจรวมถึงสถานที่ผลิต หรือการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้วย เพราะเป็นข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์นี้เชื่อถือได้ กลุ่มเป้าหมายจึงตัดสินใจสั่งซื้อกับแอดมิน

ดังนั้น แนะนำว่า ให้คุณใส่รายละเอียดเหล่านี้ไว้ให้ครบอย่างกระชับในแคปชั่นขายของ ซึ่งรายละเอียดหลัก ๆ ที่ควรมีมักประกอบไปด้วย

  • คุณสมบัติ 
  • ฟังก์ชันการใช้งาน
  • ราคา (ควรระบุให้ชัดเจน ไม่ควรรอให้ลูกค้าสอบถามทาง Inbox)
  • สถานที่ผลิต หรือสถานที่ตั้งบริษัท
  • ช่องทางการสั่งซื้อ
  • ลิงก์ Landing Page หรือ ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ตัวอย่างคลิปรีวิว หรือ บทความบนหน้าเพจที่สัมพันธ์กับผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

6. Hashtag ช่วยคุณได้! (แต่ต้องไม่ใส่มากเกินไป)

การเขียนแคปชั่นขายของ - ใส่ Hashtag

ที่มา: https://www.unboxsocial.com/blog/facebook-caption-tips/  

ปัจจุบัน Hashtag เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญต่อการทำ Facebook Marketing เพราะสามารถช่วยให้กลุ่มเป้าหมายหาโพสต์ของคุณพบได้ แม้โพสต์นั้นจะไม่ได้ยิงแอด Facebook ดังนั้น แนะนำให้คุณใส่ Hashtag ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า/บริการ บริเวณบรรทัดล่างสุดของการเขียนแคปชั่น เน้นอำนวยความสะดวกในการค้นหาข้อมูลของผู้คน ตัวอย่างเช่น หากเป็นโพสต์ขายคอนโด อาจติด Hashtag #หาคอนโด #หาห้องมือสอง #คอนโดทำเลดี หรือ #คอนโดติดBTS เป็นต้น อย่างไรก็ดี อย่าใส่ Hashtag มากจนเกินไป เพราะนอกจากจะรบกวนสายตาของผู้อ่านแล้ว อาจทำให้โพสต์นั้นกลายเป็นสแปมได้

6. สรุป

การเขียนแคปชั่นขายของให้ดึงดูดลูกค้า จะช่วยเสริมพลังของการทำ Facebook Marketing ให้เห็นผลชัดเจนขึ้นได้! แต่การเขียนแคปชั่นให้ดีก็เป็นเพียงด่านแรกของการ “เรียกลูกค้า” เท่านั้น เพราะการที่ลูกค้าจะตัดสินใจสั่งซื้อต้องอาศัยหลาย ๆ องค์ประกอบด้วยกัน ทั้งแคปชั่น ภาพหรือวิดีโอ รวมถึงราคาที่สอดคล้องกับคุณภาพของสินค้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญมากที่สุด

อ้างอิง

Social Media Today. 7 Tips for Creating Engaging Social Media Captions

Available from: https://www.socialmediatoday.com/news/7-tips-for-creating-engaging-social-media-captions/523897/ 

MUO. 9 Tips & Tricks to Write Engaging Instagram Captions

Available from: https://www.makeuseof.com/how-to-improve-instagram-captions/ 

คัมภีร์สร้างความน่าเชื่อถือบนโลกออนไลน์ ฉบับนักธุรกิจใหม่
Business
คัมภีร์สร้างความน่าเชื่อถือบนโลกออนไลน์ ฉบับนักธุรกิจใหม่

การสร้างความน่าเชื่อถือสำคัญอย่างยิ่งกับธุรกิจออนไลน์ โดยเฉพาะกับธุรกิจที่เพิ่งเปิดใหม่ เนื่องจากปัจจุบันมีคนทำการตลาดออนไลน์กันเป็นจำนวนมาก และลูกค้าเองไม่สามารถตรวจสอบตัวตนที่แท้จริงของผู้ขายได้ หากไม่ทำให้เชื่อใจ พวกเขาก็จะไปซื้อสินค้ากับธุรกิจคู่แข่ง หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจเปิดใหม่ ที่กำลังหาแนวทางการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ศึกษาได้จากคอนเทนต์นี้   Content Summary…

4 สิ่งที่คุณต้องรู้ ก่อนทำคอนเทนต์ดูดวง เอาใจสายมู
Marketing | News
4 สิ่งที่คุณต้องรู้ ก่อนทำคอนเทนต์ดูดวง เอาใจสายมู

กระแสบน Social Media เกี่ยวกับการดูดวง หมอดู และสายมู แสดงให้เห็นว่าคอนเทนต์ดูดวง ดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคชาวไทยได้มากขนาดไหน จึงไม่แปลกที่หลาย ๆ แบรนด์จะมักจะทำ Seasonal…

คอนเทนต์แบบไหนที่คุณควรทำบนเพจธุรกิจแฟชั่น
Marketing | News
แชร์ 4 รูปแบบคอนเทนต์ ที่คนทำธุรกิจแฟชั่นต้องรู้

สำหรับคนทำธุรกิจแฟชั่น ไม่มีอะไรจะยากไปกว่าการนำเสนอคอนเทนต์ตามเทรนด์ฮิตที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมถึงการต่อสู้กับสงครามราคา ที่มีผู้เข้าแข่งขันเพิ่มขึ้นมากมายจนนับไม่ถ้วน หากคุณเองก็เป็นเจ้าของธุรกิจเสื้อผ้า เครื่องประดับ หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับแฟชั่น ลองมาดูกันว่า ควรทำคอนเทนต์แบบไหน จึงจะซื้อใจผู้บริโภคได้   Content…