รู้จักกับ Google Sitelinks ตัวช่วยเพิ่ม CTR ให้กับเว็บไซต์

รู้จักกับ Google Sitelinks ตัวช่วยเพิ่ม CTR ให้กับเว็บไซต์

“เมื่อคุณเริ่มทำเว็บไซต์ อะไรคือสิ่งที่บ่งบอกว่า เว็บไซต์ของคุณได้รับการยอมรับเรื่องคุณภาพ?” – บางท่านอาจตอบว่า “อันดับบน Search Engine”, “ยอดการเข้าชมเว็บไซต์ (Website Traffic)” หรือ “มุมมองแบบ Mobile Friendly” แน่นอนว่า 3 สิ่งนี้เป็นคำตอบที่ถูกต้อง อย่างไรก็ดี ยังมีอีกหนึ่งตัวชี้วัดคุณภาพที่ทุกคนมักมองข้าม นั่นคือ Google Sitelinks รายละเอียดจะเป็นอย่างไร Digital Tips รวบรวมมาให้คุณแล้ว!

Google Sitelinks คืออะไร?

Google Sitelinks คือ ลิงก์ย่อยใต้ Title และ Meta Description ซึ่งจะแสดงในผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้งานพิมพ์ชื่อบริษัทหรือชื่อแบรนด์สินค้าตรง ๆ ลงใน Google เพื่อให้คุณเข้าใจสิ่งนี้ได้ง่ายขึ้น ลองพิมพ์ชื่อแบรนด์ดัง ๆ เช่น Amazon, Starbucks, IKEA หรือ Adidas ลงบน Google คุณจะเห็นว่านอกจากชื่อเว็บไซต์หลักแล้ว Google ยังแสดงลิงก์ย่อย ๆ ที่ทำให้เราทราบว่า ในเว็บไซต์นั้น ๆ ประกอบด้วยเมนูอะไรบ้างขึ้นมาด้วย

Google Sitelinks คืออะไร

รู้จักกับ Google Sitelinks 4 ประเภท

อันที่จริงแล้ว การแสดงผล Google Sitelinks สามารถแบ่งได้ถึง 4 ประเภท ซึ่งสัมพันธ์กับการทำ SEO และการซื้อโฆษณา Google อย่างมีนัยยะสำคัญ ดังจะอธิบายต่อไปนี้

Google Sitelinks - Organic Sitelinks

ที่มา: https://www.themediacaptain.com/editing-organic-sitelinks/ 

1. Organic Sitelinks

Organic Sitelinks คือ ลิงก์ที่แสดงผลใต้ Title และ Meta Description ของเว็บไซต์ เกิดจากการที่ Algorithm เข้าไปจับเนื้อหาและตรวจสอบ Sitemap ของเว็บไซต์จนเข้าใจองค์ประกอบ แล้วจึงนำเมนูต่าง ๆ มาแสดงผลเป็นลิงก์ย่อย ๆ  เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจภาพรวมของเว็บไซต์ และเลือกคลิกเข้าไปชมตามหมวดหมู่ที่ตนเองสนใจ 

Google Sitelinks - Sitelinks Search Box

ที่มา: https://ahrefs.com/blog/sitelinks/ 

2. Sitelinks Search Box

หน้าตาของ Sitelinks Search Box ใกล้เคียงกับ Organic Sitelinks มาก แต่มีจุดแตกต่างกันเล็กน้อย เนื่องจาก Sitelinks ประเภทนี้จะมี Search Box แทรกอยู่ระหว่าง Meta Description กับตัว Sitelinks ด้วย มักพบในเว็บไซต์ประเภท E-commerce ที่ประกอบไปด้วยสินค้าหลายรายการ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสินค้าที่ต้องการได้ง่ายขึ้น

Google Sitelinks - 1-line Sitelinks 

ที่มา: https://seranking.com/blog/wp-content/uploads/2020/03/one-line-sitelinks-internal-page.png 

3. 1-line Sitelinks 

แม้ Google จะสร้าง 1-line Sitelinks ขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานเช่นเดียวกับ Sitelinks แบบอื่น ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่า 1-line Sitelinks ยังเป็นรองเรื่องความน่าสนใจ เพราะลิงก์ย่อย ๆ ทั้งหลายจะถูกแสดงผลเรียงต่อกันเป็นบรรทัดเดียว ทำให้มองเห็นค่อนข้างยาก และไม่น่าดึงดูดใจให้คลิกมากพอ

อย่างไรก็ตาม ทั้ง Organic Sitelinks, Sitelinks Search Box และ 1-line Sitelinks ไม่สามารถตั้งค่าผ่านหลังบ้านเว็บไซต์ได้ เพราะ Google จะคัดเลือกเองโดยอัตโนมัติ และมักจะแสดงผล Sitelinks ประเภทนี้ให้กับเว็บไซต์ที่ติดอันดับ 1 บน Google Search เท่านั้น (ยกเว้น 1-line Sitelinks ที่อาจปรากฏบนเว็บไซต์ที่ได้อันดับ 2-5 บ้างบางครั้ง)  

Google Sitelinks - Paid Sitelinks 

ที่มา: https://www.portent.com/blog/paid-media/what-are-google-ads-sitelinks-and-why-should-you-use-them.htm 

4. Paid Sitelinks 

มี Sitelinks ประเภทเดียวที่คุณสามารถสร้างขึ้นมาเองได้ คือ Paid Sitelinks ที่มีไว้สำหรับเว็บไซต์ที่เปิดใช้งาน Google Ads เท่านั้น โดย Google เปิดโอกาสให้คุณกำหนดทุกส่วนได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็น ลิงก์ Headline (ชื่อลิงก์ย่อย) หรือ Description (คำบรรยายใต้ลิงก์ย่อย) ทั้งนี้ เมื่อมีคนคลิกชมโฆษณาจากลิงก์ใด ๆ ก็ตาม ระบบจะเรียกเก็บค่าโฆษณาตามจำนวนคลิก

>> ศึกษาเรื่องค่าโฆษณาตามจำนวนคลิก อ่านต่อที่: CPC (Cost per Click) คืออะไร แตกต่างจาก Pay per click อย่างไร

อยากให้เว็บไซต์มี Google Sitelinks ต้องทำอย่างไร?

อย่างที่คุณทราบว่า นอกจาก Paid Sitelinks ที่ต้องเสียค่าโฆษณา Google แล้ว เราไม่สามารถสร้าง Google Sitelinks ขึ้นมาเองได้ สิ่งที่คุณจะทำได้ มีเพียงการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสอดคล้องกับการทำงานของ Google Algorithm มากพอ โดยมีคำแนะนำดังนี้

  • วาง Sitemap ตั้งแต่ตอนเริ่มทำเว็บไซต์ ให้เป็นแบบแผน เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน และหมั่นอัปเดต Sitemap เสมอเมื่อถึงคราวจำเป็น 
  • ใส่ใจรายละเอียดในการทำ SEO โดยเฉพาะการตั้ง Headline กับ Description สำหรับ Headline (ตรงกับ Header 1 ในเนื้อหา) แนะนำให้ใช้ประโยคที่กระชับ อ่านง่าย มีความยาวไม่เกิน 60 ตัวอักษร และควรมี Main Keyword ประกอบด้วย และสำหรับ Description แนะนำให้ใส่ Keyword ลงไปด้วยเช่นเดียวกัน พยายามเขียนให้มีความยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษร เพื่อไม่ให้สั้นหรือยาวเกินไป
  • เพิ่มจำนวน Internal Links ในเนื้อหาต่าง ๆ ให้มากขึ้น เพื่อดึงดูดให้คนคลิกอ่าน และเพิ่มจำนวน Website Traffic
  • อย่าเพิ่งใจร้อนเกินไป! เพราะกว่าเว็บไซต์จะก้าวขึ้นมามีตัวตนในหน้า Google Search และสอบผ่านมาตรฐานคุณภาพของ Google Algorithm ได้ มักใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3-6 เดือน

Google Sitelinks ดีต่อเว็บไซต์อย่างไร?

โดยสรุปแล้ว Google Sitelinks คือ ตัวชี้วัดคุณภาพชั้นดี ที่ยืนยันว่าเว็บไซต์ของคุณได้รับการยืนยันคุณภาพโดย Google Algorithm และจะต้องทำ SEO ประสบความสำเร็จจนติดหน้าแรกบน Google Search แล้ว (ยกเว้นในกรณีของ Paid Search) นอกจากนี้ การมี Google Sitelinks ยังอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งมีผลทำให้ CTR หรือ Click through Rate เพิ่มขึ้นจนทะลุเพดานได้ในที่สุด

อ้างอิง

Google Search Central. Sitelinks

Available from: https://developers.google.com/search/docs/appearance/sitelinks 

Ahref. What Are Sitelinks? How to Influence Them

Available from: https://ahrefs.com/blog/sitelinks/

ส่องไฮไลต์เด็ดจากงาน Adobe MAX 2025 ว่ามีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจ
News
ส่องไฮไลต์จากงาน Adobe MAX 2025 กับการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด

เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เชื่อว่าสายกราฟิกและครีเอทีฟหลายคนตื่นตาตื่นใจกับงาน Adobe MAX 2025 ที่จะได้รับฟังแนวคิด ทักษะ และรับแรงบันดาลใจจากคนเก่ง ๆ ในวงการ พร้อมทั้งการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในเครื่องมือ Adobe…

ChatGPT Atlas จาก OpenAI คืออะไร มีฟีเจอร์อะไรบ้าง
AI Marketing
ChatGPT Atlas เบราว์เซอร์น้องใหม่จาก OpenAI มีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจบ้าง

ChatGPT Atlas เป็นเบราว์เซอร์ AI ที่เพิ่งเปิดตัวไม่นานมานี้ และสร้างความน่าสนใจไม่น้อยให้กับวงการ Search Engine เพราะสิ่งนี้จะเข้ามาเปลี่ยนประสบการณ์ค้นหาแบบเดิม ๆ ของผู้ใช้ ช่วยให้สะดวก…

แนะนำ 7 AI สรุปประชุมที่ช่วยให้การทำงานสะดวกรวดเร็ว
News
บอกต่อ 7 AI สรุปประชุมแบบเรียลไทม์ จดครบทุกรายละเอียดสำคัญ

การประชุมบริษัทในยุคปัจจุบันถือเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมาก ๆ เพราะเรามี AI สรุปการประชุมจากเสียงเข้ามาช่วยสรุปรายงานการประชุม หรือถอดเทปสัมภาษณ์ได้อย่างแม่นยำ แทนที่เราจะเสียเวลาจดและนั่งฟังคลิปเป็นชั่วโมง ไหนจะต้องโฟกัสกับคำถามจากผู้เข้าร่วมประชุมอีก จะดีกว่าไหมถ้ามีเครื่องมือนี้มาช่วยประหยัดแรงทำงานได้มากขึ้น และในบทความนี้ Digital Tips…