metaverse

Metaverse (เมตะเวิร์ส) เป็นคำที่เริ่มรู้จักกันในวงกว้าง ตั้งแต่เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2021 เมื่อมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม Social Media Marketing ชื่อดังอย่าง Facebook ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Meta” พร้อมกับประกาศแนวทางการดำเนินงานใหม่ของบริษัท โดยมุ่งเน้นการสร้าง “Metaverse” หรือโลกเสมือนจริงแบบ 3D ที่ให้คนทั่วไปสามารถเข้าไปทำงาน เล่น เรียน ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ ทำให้ชาวโลกตื่นเต้นกับประสบการณ์ใหม่นี้ และยังเชื่อว่าเทคโนโลยี Metaverse คืออนาคตของ Social Media กล่าวคือ ต่อไปเราจะไม่หยุดอยู่แค่การโทรคุยหรือพิมพ์แชทเท่านั้น แต่เราจะสามารถเข้าไปพบปะและทำกิจกรรมร่วมกันได้ในโลกเสมือนอีกด้วย

อย่างไรก็ดี เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าขนาดนี้จะถือกำเนิดขึ้นไมได้ หากบริษัทที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีทั่วโลกไม่สนับสนุนการผสานกันในการสร้าง Metaverse บริษัท Meta เองจึงต้องพึ่งพาการศึกษาร่วมกับผู้นำทางเทคโนโลยี เพื่อพัฒนา Metaverse หรือโลกเสมือนจริงในอนาคต 

แท้จริงแล้วคำว่า Metaverse คืออะไร Metaverse ใช้ยังไง และ Metaverse เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอะไรบ้าง มาติดตามไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้

Metaverse คืออะไร

Metaverse (เมตะเวิร์ส) หมายถึง พื้นที่หรือโลกที่ผสานโลกทางกายภาพที่เราอยู่ (Physical World) เข้ากับโลกเสมือน (Virtual World) ทำให้ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใดหรือเวลาใด ก็สามารถเข้าไปพบปะ ทำกิจกรรม และเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ใน Metaverse นี้ได้ เช่น ทำงาน ประชุม เข้าร่วมสัมมนา ไปคอนเสิร์ต เรียนหนังสือ ฯลฯ ผ่านเทคโนโลยีการสร้างภาพและประสบการณ์เสมือน 2 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่ AR หรือ Augmented Reality และ VR เสมือนจริง หรือ Virtual Reality Technology

ความเป็นมาของ Metaverse 

หากคุณกำลังสงสัยในที่มาของ Metaverse – อันที่จริงแล้ว Metaverse ไม่ใช่คำใหม่ แต่ปรากฏครั้งแรกในปี ค.ศ. 1992 ในนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง Snow Crash ของ Neal Stephenson นักเขียนชาวอเมริกัน ที่เล่าถึงเรื่องในยุคอนาคตที่มนุษย์เข้าไปในโลกเสมือนจริงเพื่อติดต่อปฏิสัมพันธ์กัน แต่คำคำนี้ เป็นที่พูดถึงมากขึ้นจากการที่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กประกาศแนวทางใหม่ของบริษัทว่าจะมุ่งสร้างโลกเสมือนจริง หรือ Metaverse และได้เปิดให้คนเริ่มเข้าไปใช้งานกันแล้วด้วยอัตลักษณ์ตัวตนบนโลกไซเบอร์ (Avatar) บัญชี Facebook ของเรา

เทรนด์เกี่ยวกับ Metaverse 

ในปัจจุบัน เทรนด์เรื่องเทคโนโลยี Metaverse ไม่ใช่แค่นิยายวิทยาศาสตร์หรือเรื่องล้ำอนาคตอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องที่ขยับและแทรกซึมเข้ามาในวิถีชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ มีธุรกิจและบริการต่าง ๆ เข้าไปรองรับการใช้ชีวิตของเราบนโลกเสมือนจริงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบเศรษฐกิจจากเทคโนโลยี Blockchain ผลงานศิลปะ NFT (Non-Fungible Token) และสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ที่เป็นรูปแบบ 3 มิติ (3D) ให้เราซื้อ-ขาย จับต้องและเป็นเจ้าของได้ในโลกเสมือน

ตัวอย่างการนำเทคโนโลยี Metaverse มาใช้งาน

สำหรับคนที่กำลังสงสัยว่า ประโยชน์ที่ได้จาก Metaverse ที่เราสามารถเห็นกันได้ชัด ๆ มีอะไรบ้าง ซึ่งเราขอยืนยันด้วยข้อมูลว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ ๆ ก็คือ ระบบเศรษฐกิจ การเงิน-การธนาคารบนโลกเสมือน ร้านค้า บริการ และการทำการตลาดบนโลกเสมือน การจัดคอนเสิร์ต การท่องเที่ยวแบบ Virtual Tours และมีหลากหลายบริษัทแล้ว ที่เปิดตัวบริษัทบนโลกเสมือนจริงเพื่อให้พนักงานจากทั่วทุกมุมโลกที่มีอินเทอร์เน็ต เข้ามาทำงานด้วยกันในออฟฟิศเสมือนหรือ Metaverse (ลองดูโฆษณาเกี่ยวกับ Metaverse จากบริษัท Meta)

โลกเสมือนจริง Metaverse มีกี่ประเภท

โลกแบบ Metaverse คือ โลกที่เราเชื่อมต่อตัวของเราเองเข้ากับเทคโนโลยีต่าง ๆ (Multi-Technology) เพื่อช่วยให้เราเข้าสู่โลกเสมือนได้ โดยได้ประสบการณ์ที่เหมือนจริงที่สุด ซึ่งเทคโนโลยี 5 แกนหลัก ที่จะขาดไม่ได้เลย มีดังนี้

1. Virtual World

Virtual World

เกม Animal Crossing คือ รูปแบบโลกเสมือนจริงแบบ 3D ที่ได้รับความนิยม
ขอบคุณภาพจาก nintendo.com

Virtual World หรือ โลกเสมือนจริง คือ โลกที่ตั้งอยู่บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ไม่ใช่สถานที่ที่มีอยู่จริงทางกายภาพ โดยโลกเสมือนจริงเช่นนี้จะเชื่อมโยงผู้คนเข้าไว้ด้วยกันผ่านความเชื่อและเทคโนโลยีบางอย่าง  จึงเกิดเป็นคำที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ ว่า “สังคมเสมือน” หรือ “ชุมชนเสมือนจริง” (Virtual Community)


อย่างไรก็ดี Metaverse ในรูปแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเราทุกคนเลย แต่กลับเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวอย่างยิ่ง ยกตัวอย่างเช่น ชุมชนเสมือนบน Facebook และ Social Media ช่องทางต่าง ๆ ที่เราเข้าไปพบปะ พูดคุย และมีปฏิสัมพันธ์กัน (โลกเสมือนจริงส่วนนี้จะเป็นโลกแบบ 2D เป็นหลัก) และมีชุมชนเสมือนที่ให้เราเข้าไปพบปะกันแบบ 3D เช่น ในโลกของเกมออนไลน์ ฯลฯ 

Virtual World ถือเป็นเทคโนโลยีที่เป็นพื้นฐานของโลก Metaverse เลยก็ว่าได้ เพราะหากไม่มีโลกเสมือนขึ้นมาก่อน ก็จะไม่มีสถานที่ที่ให้เราเข้าไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่มีพื้นที่กลางสำหรับสร้างสรรค์ประสบการณ์เสมือนและเชื่อมต่อเทคโนโลยีในแกนอื่น ๆ

2. Virtual Reality (VR)

Virtual Reality หรือ VR คือ เทคโนโลยีที่จำลองสถานที่ขึ้นเพื่อให้เรารู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ใน VR โลกเสมือนจริง หรือ Virtual World ได้ โดยสามารถโต้ตอบกับสิ่งของ ผู้คน และสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ภายในโลกเสมือนจริงผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น รีโมตคอนโทรล เมาส์ แป้นพิมพ์ ฯลฯ รวมไปถึงอุปกรณ์สวมใส่อย่างเช่น แว่น VR ถุงมือ ถุงเท้า ฯลฯ ได้ ซึ่งเทคโนโลยี VR ที่หลายคนคุ้นเคยมาก่อนแล้ว ก็คือ เกม Beat Saber หรือเกมฟันดาบ เกม Nintendo Ring Fit เครื่องเล่นรถไฟเหาะที่มีแว่นสวมใส่และมีการสั่นสะเทือนจริง

 

เทคโนโลยี VR หรือ Virtual Reality Technology จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้เราเข้าไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ปฏิสัมพันธ์กับวัตถุใน Metaverse ได้มากกว่าการมองเห็น ช่วยให้เราสามารถจับต้องสิ่งของ สัมผัส รู้สึกถึงอุณหภูมิ ฯลฯ และในอนาคตอันใกล้น่าจะมีจำลองความรู้สึกจากประสาทสัมผัสด้านต่าง ๆ ได้ละเอียดมากขึ้น 

ทั้งนี้ ตัวอย่างที่มีการใช้งาน VR จริงบนโลก Metaverse คือ การจำลองการฝึกทหารกระโดดร่มจากเครื่องบิน ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนจริงโดยที่ประหยัดต้นทุนการฝึกซ้อม และการจำลองอสังหาริมทรัพย์เพื่อเข้าเยี่ยมชมสินทรัพย์ได้จากทั่วโลกนั่นเอง

3. Mixed Reality

Mixed Reality

ขอบคุณภาพจาก docs.microsoft.com

Mixed Reality หรือ MR มีชื่อภาษาไทยเรียกว่า “ความเป็นจริงผสม”หมายถึง เทคโนโลยีที่ผสาน VR และ AR เข้าด้วยกัน เชื่อมโยงระหว่างโลกทางกายภาพ (Physical World) เข้ากับโลกดิจิทัล (Digital World) เพื่อให้เราได้รับประสบการณ์อย่าง ‘ดื่มด่ำ’ (Immersive Experience) โดยเราจะรู้สึกได้ถึงวัตถุและสถานที่ต่าง ๆ จากทั้งสองโลก การกระทำของเราสามารถส่งผลถึงวัตถุในโลกเสมือนจริง และปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ในโลกกายภาพก็ยังสามารถส่งผลต่อวัตถุในโลกเสมือนได้ด้วย

สำหรับ Mixed Reality เราจะใช้งานได้ผ่านอุปกรณ์สวมใส่ที่มีเซนเซอร์ โดยอุปกรณ์ที่เริ่มใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นก็คือ แว่นตากึ่งโปร่งแสง (Semi-Transparent glasses) หรือ MR headsets ที่เรายังสามารถมองเห็นโลกทางกายภาพได้อยู่ แต่ก็มองเห็นวัตถุหรือสิ่งแวดล้อมในโลกเสมือนได้ด้วย หรือ Assited Reality เช่น ระบบนำทางก็ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างการใช้ Mixed Reality เช่นกัน

Mixed Reality 2

MR คือ เทคโนโลยี Metaverse ที่จะทลายเขตแดนระหว่างโลกทางกายภาพและโลกเสมือน ให้เราสามารถเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับทั้งสองโลกได้โดยไม่ต้องส่วนแว่น VR เข้า-ออก ปัจจุบัน เทคโนโลยี MR ถูกนำมาใช้ในหลากหลายวงการ เช่น ใช้พัฒนาเกม ใช้ในพิพิธภัณฑ์ ใช้ในการเรียนการสอน ใช้ฝึกปฏิบัติการทางไกล หรือใช้ออกแบบและพัฒนาแอปพลิเคชันบนโลกเสมือน เป็นต้น 

4. Augmented Reality (AR)

Augmented Reality (AR)

ตัวอย่างเทคโนโลยี AR จากเกม Pokemon Goขอบคุณภาพจาก flashfly.net

AR หรือ Augmented Reality คือ เทคโนโลยี Metaverse ที่จำลองวัตถุ 3 มิติ มาอยู่ในโลกชีวิตจริงของเรา โดยเราจะสามารถมองเห็นได้ผ่านอุปกรณ์ เช่น แว่นตาหรือกล้องจากสมาร์ทโฟน ซึ่งหลายคนอาจคุ้นเคยกับ AR กันมาบ้างแล้วจากเกม Pokemon Go ที่เราสามารถมองส่องกล้องเพื่อมองหาตัวละครโปเกมอนในพื้นที่จริงอย่างสวนสาธารณะ ท้องถนน ทางเดิน ฯลฯ และมีปฏิสัมพันธ์กับวัตถุเหล่านั้นได้

ไม่เพียงเท่านั้น เทคโนโลยี Metaverse แบบ AR ในปัจจุบัน ยังทำให้เราสามารถสัมผัสวัตถุเสมือนจริงผ่านอุปกรณ์สวมใส่ที่มีเซนเซอร์ได้ด้วย เช่น ถุงมือ ถุงเท้า/รองเท้า ฯลฯ โดยหลักการทำงานก็คือ อุปกรณ์จะใช้เซนเซอร์ตรวจจับวัตถุทั้งภาพ เสียง สัมผัสของวัตถุ 3D ในโลกเสมือน แล้วสะท้อนเป็นภาพหรือสัมผัสผ่านอุปกรณ์สวมใส่หรือแว่นตา/คอนแทคเลนส์อัจฉริยะ ฯลฯ

Augmented Reality (AR) 2

ตัวอย่าง Metaverse แบบ AR ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน อาทิ เราสามารถลองวางเฟอร์นิเจอร์ 3D ที่อยากได้ จัดวางในบ้านของเราดูว่าขนาดพอดีหรือไม่ ตกแต่งได้สวยเหมาะกับสไตล์แต่งห้องหรือเปล่า หรือเทคโนโลยี Assisted Reality เช่น ระบบนำทาง GPS ที่ต่อไปอาจจะไม่ต้องก้มลงดูสมาร์ทโฟนแล้ว แต่สามารถมองเห็น Navigator ป้ายบอกทาง ผ่านแว่นตาขับรถหรือกระจกหน้ารถยนต์ได้ และยังเริ่มมีการนำเอามาใช้เป็นสื่อโฆษณาหรือการแสดงสินค้าแบบ AR อีกด้ว

5. Virtual Economies

Virtual Economy หรือ Metaverse Economy คือ ระบบเศรษฐกิจบนโลกเสมือนจริง มีอีกชื่อเรียกว่า “Synthetic Economy” (ระบบเศรษฐกิจสังเคราะห์) หมายถึง ระบบเศรษฐกิจบนโลกออนไลน์ ซึ่งมีสินทรัพย์ที่ครอบครองได้ มีการแลกเปลี่ยน มีการกำหนดมูลค่าเช่นเดียวกับเศรษฐกิจบนโลกทางกายภาพ โดย Virtual Economy เกิดขึ้นมานานแล้ว เช่น การเติมเงินเข้าไปในเกมเพื่อซื้อไอเทม หรือการมาถึงของเงินตราดิจิทัล (Cryptocurrency) และ NFT ฯลฯ 

สำหรับโลกเสมือน หรือ  Metaverse แล้ว Virtual Economy จะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นและซับซ้อนมากขึ้น และเศรษฐกิจบนโลกเสมือนก็สามารถส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจบนโลกแห่งความเป็นจริงได้ โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Virtual Economy ถือว่าเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีเม็ดเงินหมุนเวียนบนโลกออนไลน์เฉลี่ยสูงกว่าแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.3 ล้านล้านบาท คนที่ลงทุนในโลกเสมือนจริงก็สามารถสร้างเงินได้จริงบนโลกกายภาพ เช่น การซื้อ-ขายไอเทมในเกม การแลกเปลี่ยนผลงานศิลปะ NFT

การใช้งาน Metaverse เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใดบ้าง

ในหัวข้อก่อน ๆ เราได้รู้จักกับความหมายของ Metaverse รวมทั้งความเป็นมาของ Metaverse กันไปแล้ว ในหัวข้อนี้ เราจะมาทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งไปอีกขั้นว่า Metaverse เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอะไรบ้าง และในห้องเรียนเสมือนจริง Metaverse ควรมีการใช้เทคโนโลยีใดบ้าง 

1. Communication and Computing Infrastructure

เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบเครือข่ายและการสื่อสาร ซึ่งเทคโนโลยีที่เป็นรากฐานของ Metaverse ก็คือเทคโนโลยี 5G และ 6G ซึ่งมีจุดเด่นที่ความเร็วสูง มีเสถียรภาพ ความหน่วงต่ำ ใช้พลังงานต่ำ และที่สำคัญคือสามารถเชื่อมต่อโลกจริงและโลกเสมือนจริงเข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. Management Technology

เทคโนโลยีการจัดการ ตัวช่วยเชื่อมต่อโลกจริงกับโลก Metaverse ให้สอดคล้องและต่อเนื่องกัน โดยทั่วไปจะประกอบไปด้วย เทคโนโลยีจัดการพลังงาน เทคโนโลยีจัดการทรัพยากร และเทคโนโลยีจัดการการปฏิสัมพันธ์ในโลกเสมือน หรือ Session Management 

3. Fundamental Common Technology

เทคโนโลยีที่เป็นรากฐานของการสร้างโลกเสมือนจริง หรือMetaverse คือ ระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) การจัดการเรื่องพื้นที่กับเวลา รวมทั้งการจัดการเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ซึ่งองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้ทั้ง 3 เทคโนโลยีนี้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็คือข้อมูล พลังการประมวลผล และความสามารถของ Algorithm นั่นเอง

4. Virtual Reality Object Connection

การจะเชื่อมต่อโลกความจริงให้เข้ากับโลกเสมือน จำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยี Metaverse เป็นตัวเชื่อม ซึ่งเทคโนโลยีที่ทำหน้าที่เป็น Object ในการเชื่อมต่อโดยตรง ได้แก่ Blockchain, Distributed Storage และ Distributed Computing

5. Virtual Reality Space Convergence

Space หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นพื้นที่สำหรับแสดงผลบนโลก Metaverse จะมีอยู่ด้วยกัน 2 เทคโนโลยีหลัก  ๆได้แก่ AR หรือ Augmented Reality และ VR เสมือนจริง หรือ Virtual Reality Technology และในปัจจุบันมี MR หรือ Mixed Reality ที่ผสมผสานระหว่าง AR และ VR เข้าด้วยกัน เพิ่มขึ้นมา

6. Virtual Social World

Virtual Social World คือ การรวมตัวกันระหว่าง Social Media กับ Virtual World ซึ่งถือได้ว่าเป็นเป้าหมายที่บริษัท Meta คาดหวังไว้ โดยเทคโนโลยีนี้จะพลิกโฉม Social Media ที่จากเดิมเป็นเพียงพื้นที่พูดคุยและแสดงตัวตนบนหน้าเว็บเพจ สู่การเป็นสภาพแวดล้อมแบบ 3 มิติ (Interactive Social Simulation) ในที่สุด ซึ่งหากสิ่งนี้เกิดขึ้นจริง วงการแรก ๆ ที่จะมองเห็นประโยชน์ที่ได้จาก Metaverse คงหนีไม่พ้น “Digital Marketing” ที่จะมุ่งหยิบฉวยเทคโนโลยี Metaverse ไปเป็น 1 ในกลยุทธ์การตลาดอย่างแน่นอน

7. Social Privacy in The Metaverse

การโลดแล่นอยู่ในโลก Metaverse คือ ดาบสองคม เพราะถึงแม้ว่าจะให้อารมณ์สนุกสนาน สมจริง และเพิ่มพูนประสบการณ์ใหม่ ๆ แต่ก็อาจส่งผลต่อความปลอดภัยในโลกจริงของคุณได้ และเพื่อป้องกันความเสี่ยเช่นนี้ นักพัฒนาจึงคิดค้นเทคโนโลยี Social Clone หรือ การโคลนนิ่งผู้ใช้งานหลาย ๆ คนในโลกเสมือนขึ้นมา เพื่อสร้างความสับสนให้กับผู้ที่คิดจะโจมตี รวมทั้งการสร้าง Privacy Framework ต่าง ๆ ขึ้นมาด้วย

Metaverse มีประโยชน์อย่างไร

มีหลาย ๆ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับโลกเสมือนอย่าง Metaverse ที่เราพอจะได้ใช้และคุ้นเคยกันบ้าง ซึ่งแน่นอนว่า Metaverse จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเราในหลาย ๆ แง่มุมในสักวัน ดังตัวอย่างประโยชน์ที่ได้จาก Metaverse ต่อไปนี้

Metaverse มีประโยชน์อย่างไร

ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยี AR ในงานออกแบบโปรดักต์ ขอบคุณภาพจาก techtarget.com

ประโยชน์ของ Metaverse ในด้านต่าง ๆ

  • ด้านการแพทย์: Metaverse จะถูกนำมาใช้เพื่อการศึกษา ช่วยให้แพทย์สามารถฝึกซ้อมทำศัลยกรรมต่าง ๆ ที่เป็นวัตถุเสมือนจริง ตัวอย่างเช่น การสร้าง Digital Twin ที่จำลองวัตถุหรือแม้กระทั่งตัวผู้ป่วยขึ้นจากข้อมูลในโลกจริง การผ่าตัดทางไกล และการให้ผู้ป่วยใช้ Telepresence เพื่อพบแพทย์หรือรับการบำบัดทางไกล เป็นต้น
  • ด้านการศึกษา: การศึกษาจะได้รับประสบการณ์ที่ดื่มด่ำและน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น (Immersive Experience) จากเทคโนโลยี Metaverse ต่าง ๆ ทั้ง VR, AR และเทคโนโลยี Hologram เช่น งานสัมมนาในโลกเสมือน มหาวิทยาลัยวิทยาเขต Metaverse การเข้าไปสัมผัสสถานที่ทางประวัติศาสตร์จริง และการจำลองเหตุการณ์ในอดีตอย่างสมจริง
  • ด้านวิศวกรรม: การทดลองสร้างวัตถุจำลองและทดสอบใช้งานในโลกเสมือนจริง การออกแบบหุ่นยนต์หรือเครื่องจักร การจำลองการทำงานและการติดตั้งเครื่องจักร การเทรนนิ่งการใช้งานผ่าน Metaverse
  • ด้าน E-commerce:  การซื้อขายจะไม่ได้เกิดขึ้นแค่บนแพลตฟอร์มเว็บไซต์และ Social Media เท่านั้น เราจะสามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าในร้านได้โดยตรงผ่าน Metaverse พร้อมรับบริการจากพนักงานได้อีกด้วย
  • ด้านการลงทุน: Mataverse ทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจบนโลกเสมือน นั่นทำให้ในอนาคต อสังหาริมทรัพย์ สกุลเงินดิจิทัล และที่ดิน Metaverse คือ สิ่งที่เราจะสามารถจับจองและลงทุนในโลกเสมือนได้ 
  • ด้านท่องเที่ยว: ในอนาคตอันไม่ไกลเราอาจเดินทางไปเดินเล่นในโคลอสเซียม (Colosseum) ที่อิตาลีหรือพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) ที่ประเทศฝรั่งเศสได้ผ่านเทคโนโลยี Metaverse และสามารถเข้าไปดูรายละเอียดใกล้ ๆ ได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าอะไรจะเสียหาย
  • ด้านบันเทิง: เราสามารถสร้างละครหรือจัดคอนเสิร์ตในโลกเสมือนจริงให้ผู้เข้าชมเข้าไปร่วมและรับประสบการณ์ที่ไร้ขีดจำกัดได้ ลองนึกดูว่า เราจะสามารถเข้าไปดื่มด่ำดนตรีใน MV ที่รับชมในปัจจุบันได้….จะดีขนาดไหน
  • ด้านการพัฒนาเกม: ถือว่าเป็นวงการที่ก้าวหน้าเรื่องการนำ Metaverse เข้ามาใช้ โดยในปัจจุบันเราจะเห็นเกม VR/AR มากขึ้น และตอนนี้ก็เริ่มมี Metaverse Games ที่เราสามารถเข้าไปเล่นในโลกเสมือนได้แล้ว การเข้าไปอยู่ในเกมแบบเรื่อง “Sword Art Online” จะไม่ใช่แค่เรื่องจินตนาการอีกต่อไป

ข้อแตกต่างระหว่าง Metaverse กับ Internet

Metaverse กับอินเทอร์เน็ต (Internet) ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ตรงข้ามหรือจะเปรียบเทียบกันได้ แต่เราอาจกล่าวได้ว่า Metaverse เป็นวิวัฒนาการของอินเทอร์เน็ต กล่าวคือ จากเมื่อก่อนและในปัจจุบันเราจะท่องอินเทอร์เน็ตผ่านการ “เรียกดู” เว็บไซต์และคอนเทนต์ต่าง ๆ แต่สำหรับโลก Metaverse เราจะท่องอินเทอร์เน็ตด้วยการ “เข้าไปอยู่” 

Metaverse หรือโลกเสมือนเป็นดินแดนที่ยังตั้งอยู่บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยใน Metaverse ผู้ใช้จะสามารถเข้าไปสำรวจและรับประสบการณ์จากโลกเสมือนจริงได้ผ่านเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกันทั้ง Virtual Reality (VR), Augmented Reality (AR), AI, Mixed Reality ฯลฯ และสิ่งที่เราทำได้บนเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ในปัจจุบัน เราก็สามารถทำบน Metaverse ได้เช่นกัน หรืออาจทำได้มากกว่าด้วยซ้ำไป

แต่สิ่งที่หลายคนตั้งข้อสงสัย คือ Metaverse จะเป็นเครือข่ายสาธารณะที่ใครก็สามารถเข้าถึงได้เหมือนกับอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน หรือจะเป็นเพียง ‘สถานที่’ หรือเซิร์ฟเวอร์บนโลกออนไลน์เท่านั้น ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อระบบอินเทอร์เน็ตพัฒนายิ่งขึ้นไปอีก สามารถประมวลผลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น มีการเข้าใช้งาน Metaverse แพร่หลายและเข้าถึงได้ง่ายเหมือนกับ Social Media คำตอบในข้อนี้จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น

Metaverse กับบทบาทต่อโลกธุรกิจ

Metaverse จะกลายเป็นอีกตลาดสำคัญสำหรับธุรกิจและผู้บริโภค จากแต่ก่อนที่แบรนด์และธุรกิจเลือกทำการตลาดในเกม (Gaming Marketing) อาจจะเป็นการทำการตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่ต่อไปเมื่อ Metaverse คือ สิ่งที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมีคนเข้าไปใช้งานจำนวนมาก Metaverse จะกลายเป็นตลาดที่ไม่ว่าธุรกิจใดก็สามารถเข้าไปคว้าโอกาสทำการตลาดได้ พร้อมกับเข้ามาทำธุรกิจบนโลกเสมือนนี้ด้วย เช่น

  • การออกผลิตภัณฑ์บนโลกเสมือนจริง เช่น แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นอาจเปิดตัวคอลเล็กชันบน Metaverse เป็น Non-Fungible Tokens (NFTs) ให้สะสมและสามารถสวมใส่ให้อวาตาร์ได้อีกด้วย
  • การผสานการสร้างประสบการณ์ผู้บริโภคแบบ Immersive เช่น สามารถเลือกช็อปปิ้งสินค้าในโลกเสมือนแต่ได้ของจริง หรือการทดลองใช้งาน ทดลองแต่งตัว ในโลกเสมือน ตลอดจนการรับบริการหลังการขายผ่าน Metaverse และ Hologram 
  • การทำการตลาดและโฆษณาในโลกเสมือน อาจมีการเช่า Billboard หรือป้ายโฆษณาในสถานที่บนโลกเสมือน การเปิดเพลงหรือจัดธีมตกแต่งตาม CI หรือดีไซน์ของแบรนด์​ ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่า เรื่องการวัดผลลัพธ์ย่อมทำได้ง่าย สามารถเก็บข้อมูลทางการตลาดได้ครบ

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เราจะไปถึงขั้นที่ทุกคนเข้าไปใช้งาน Metaverse ได้เหมือนที่เราใช้ Facebook ในปัจจุบัน และเศรษฐกิจบนโลกเสมือนจะเติบโตได้เหมือนกับการทำ E-commerce ในปัจจุบัน รัฐบาล บริษัท และองค์กรอิสระต่าง ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญจะต้องช่วยกันสร้างระบบการเงินดิจิทัลที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะส่งเสริมการใช้งาน Cryptocurrencัม Non-Fungible Tokens (NFTs) และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ให้สามารถใช้งานข้ามไปมาระหว่างสองโลกได้ ซึ่งระบบทั้งหมดจะดำเนินงานได้บนเทคโนโลยี Blockchain 

นอกจากนี้ การกำเนิดของ Metaverse ก็ทำให้เกิดธุรกิจใหม่ ๆ ขึ้นมาบนโลกเสมือนจริง เช่น นักพัฒนา VR/AR (VR/AR Software Engineers) ไกด์นำเที่ยวในโลกเสมือน (Virtual Tour Guide) พนักงานรักษาความปลอดภัยในโลกเสมือน (Metaverse Cybersecurity) พนักงานอำนวยความสะดวกในโลกเสมือน (Virtual Stewards) นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ในโลกเสมือนจริง (Virtual Real Estate Agents) นักออกแบบและสไตลิสต์ (Virtual Designer & Stylist) 

กลับมาที่ปัจจุบัน สิ่งที่นักการตลาดดิจิทัลและนักธุรกิจควรจะทำในวันนี้ก็คือ การติดตามข่าวสารและพยายามเป็นกลุ่มคนแรก ๆ (Early Adopter) ที่ลองใช้ประโยชน์จาก Metaverse ลองเล่น ลองใช้งาน เพื่อให้คุ้นเคย และเริ่มมองหาวิธีการเตรียมตัวย้ายไปทำการตลาดบน Metaverse กัน เพราะในอนาคต Metaverse Marketing คือ อีกหนึ่งสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นจริงแน่นอน นอกจากนี้ Metaverse จะไม่ใช่แค่กระแสนิยมที่มาแล้วผ่านไป แต่จะเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามา Disrupt โลกธุรกิจและการทำการตลาดอย่างแน่นอน

Metaverse กับสินทรัพย์ดิจิทัล Cryptocurrency

เมื่อเราสามารถใช้ชีวิต ทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งซื้อวัตถุหรือสินทรัพย์ที่เป็นดิจิทัล รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์ในโลกเสมือนได้ ดังนั้น ภายใน Metaverse จึงจำเป็นต้องมีสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเฉกเช่นเดียวกับ “เงินตรา” ที่เราใช้ในชีวิตจริง

Metaverse Crypto คือ สกุลเงินดิจิทัลหรือ Cryptocurrency ที่มีไว้ใช้จ่ายในโลก Metaverse  ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อเป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลและ Non-Fungible Tokens (NFTs)  ในโลกเสมือนผ่านระบบจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบ Blockchain ซึ่งเป็นระบบที่น่าจะเป็นรากฐานของโลกธุรกิจบน Metaverse ช่วยให้เราสามารถทำธุรกิจแบบ Decentralized ได้ โดยไม่ต้องผ่านองค์กรกลาง ทำให้มีความปลอดภัย (Security Concerns) และมี Data Privacy 

เมื่อมีการนำ Cryptocurrency มาปรับใช้ในโลก Metaverse หลายบริษัทและองค์กรก็เริ่มทำคอลเลกชัน NFT ออกมาให้กลุ่มเป้าหมายสะสม โดยโครงการที่ต่อยอดมาจาก Cryptocurrency และเทคโนโลยี Blockchain ที่เปิดให้เข้าไปใช้งาน สะสม และซื้อที่ดินกันแล้ว เช่น Crypto Mining, Decentraland, The Sandbox ฯลฯ

Metaverse กับสินทรัพย์ดิจิทัล Cryptocurrency

ตัวอย่างพื้นที่บนโลกเสมือน The Sandbox ที่มีคนเข้าไปซื้อ ขอบคุณภาพจาก beyondgames.biz

ยกตัวอย่างโปรเจกต์ The Sandbox Metaverse ที่เปิดให้ผู้เล่นใช้เหรียญคริปโตฯ SAND เพื่อซื้อที่ดินและสินทรัพย์ดิจิทัลภายในโลก The Sandbox ซึ่งที่ดินและสินทรัพย์เหล่านั้นสร้างอยู่บน Blockchain ทำให้มีลักษณะเป็น Non-Fungible Token (NFT) ที่สามารถซื้อขายได้อีกด้วย ทำให้ Metaverse Sandbox คือ หนึ่งในเกมที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกในระยะเวลาอันรวดเร็ว

นอกจากนี้ Crytocurrency ก็เป็นสกุลเงินที่เริ่มใช้งานจริงในโลกจริง และสามารถซื้อสิ่งของจริง ๆ ได้ด้วย
ดังนั้น การลงทุน การทำงาน และได้รับค่าตอบแทนในโลกเสมือนก็อาจทำให้เราร่ำรวยขึ้นในโลกความเป็นจริงได้ และแน่นอนว่า เศรษฐกิจบนโลกเสมือนย่อมส่งผลกระทบต่อโลกความเป็นจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องขบคิดและรับมือต่อไป

อนาคตของ Metaverse 

แม้ว่าปัจจุบันจะมีโลกเสมือนเปิดให้เราได้เริ่มใช้งานกันแล้ว แต่ดูเหมือนว่ากราฟิกหรือรายละเอียดต่าง ๆ จะยังไม่สมจริงเท่าไร และสิ่งที่น่าจะทำได้ก็ยังไม่สามารถทำได้ นั่นเป็นเพราะว่า เครือข่ายอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันยังไม่สามารถประมวลผลและถ่ายโอนข้อมูลปริมาณมหาศาลที่ใช้สร้างโลกเสมือนจริงแบบเรียลไทม์ได้

ปัจจุบันโลกของเรามีอินเทอร์เน็ต 5G ใช้ที่ทำให้ประมวลผลได้รวดเร็วและลื่นไหลกว่า 4G ถึง 20 เท่า เป็นที่มาของการแพร่หลายของ IoT (Internet of Thing) ที่ใช้ในบ้านและอุตสาหกรรม ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ สื่อสารเชื่อมต่อกันได้ 

สำหรับ Metaverse ที่จะใช้งานกันได้อย่างลื่นไหล พร้อมกับกราฟิกสวย ๆ ที่เราจะได้ชื่นชม อาจจะต้องการการใช้อินเทอร์เน็ต 5G เป็นอย่างน้อย และอนาคตของ Metaverse อย่างไรก็ต้องการอินเทอร์เน็ตที่ล้ำกว่าอย่าง 6G เพื่อให้ระบบสามารถประมวลผลการโต้ตอบ สร้าง Mixed Reality ส่ง-รับข้อมูลระหว่างโลกทางกายภาพและโลกเสมือนได้แบบเรียลไทม์

อนาคตของ Metaverse

สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปอย่างแพร่หลาย เมื่อโลกมี 6G ใช้ คือ Digital Twin หรือฝาแฝดดิจิทัล หมายถึง โมเดลจำลองวัตถุทางกายภาพขึ้นในโลกเสมือน โดยอาศัยข้อมูลต่าง ๆ จากโลกกายภาพ ซึ่งแตกต่างจาก “การสร้างแบบจำลอง” (Simulation) เพราะ Digital Twin จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลของสภาพแวดล้อมทางกายภาพ แลกเปลี่ยนไปกลับกับวัตถุจริงและวัตถุเสมือนแบบเรียลไทม์ จึงเหมาะสำหรับนำมาใช้ทดสอบการทำงานของสิ่งประดิษฐ์ เครื่องจักร รถยนต์ หรือจำลองเมืองเมืองหนึ่งขึ้นเพื่อทดสอบ

นอกจากนี้ เมื่ออินเทอร์เน็ตมีความเร็วและความเสถียรกว่าเก่า โลก Metaverse และ Mixed Reality จะเชื่อมต่อกันอย่างลื่นไหล โลกมีรถยนต์ไร้คนขับให้ใช้ มีหุ่นยนต์ผ่าตัดจากแพทย์ที่ควบคุมระยะไกลที่ผ่าตัดได้แบบเรียลไทม์ คนทั่วไปอาจจะมี Assisted Reality หุ่นยนต์ AI อย่าง Jarvis ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันเราแบบ Iron Man มากขึ้นก็เป็นได้

อนาคตของ Metaverse 2

Metaverse มีผลกระทบต่ออาชีพอะไรบ้าง

“Metaverse มีผลกระทบต่ออาชีพอะไรบ้าง?” จัดอยู่ในคำถามที่ตอบค่อนข้างยาก เนื่องจากขอบเขตของการพัฒนาโลก Metaverse เริ่มขยายออกไปไกล และส่งผลกระทบต่อทุกสาขาอาชีพ แต่หากเราเลือกสังเกตการณ์เฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จะเห็นว่าการมาของ Blockchain และ Cryptocurrency ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่วางตัวไว้ว่าจะใช้ในโลกเสมือนจริงในอนาคต เริ่มส่งผลกระทบต่ออาชีพนักลงทุน นักการธนาคาร และนักวิเคราะห์ทางการเงิน นอกจากนี้ NFT เองก็สั่นคลอนนักสะสมผลงานศิลปะ ศิลปิน ภัณฑารักษ์ไม่ใช่น้อย ตโดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 รวมทั้ง ธุรกิจที่ทำการตลาดออนไลน์ ก็ต้องหมั่นศึกษาการใช้งาน  Martech ต่าง ๆ เพื่อก้าวตามความต้องการของลูกค้าให้ทันเช่นเดียวกัน

ตัวอย่าง Metaverse ในปัจจุบัน 

สำหรับโลก Metaverse ในปัจจุบันก็มีบริษัทอยู่ไม่กี่เจ้าที่ถือได้ว่าเป็นผู้นำที่ขับเคลื่อนเทคโนโลยี Metaverse ให้คนทั่วไปเข้าถึงได้ โดยนอกจากบริษัทเกมแล้ว ก็จะมีบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี นั่นคือ บริษัท Meta (หรือ Facebook) และบริษัท Microsoft โดยทั้งสองเจ้าก็มี Virtual World ให้เราเข้าไปใช้งานได้แล้ว

Facebook/Meta Platforms

Facebook/Meta Platforms

Metaverse Facebook คือ จุดกำเนิดที่ทำให้คนทั่วโลกตื่นตัวและรู้จักกับ “โลกเสมือน” โดยทิศทางของบริษัทจากที่มุ่งสร้างแพลตฟอร์ม Social Media อย่าง Facebook ก็เปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับการสร้างโลกเสมือนหรือ Metaverse ภายใต้แนวคิด “Bring the metaverse to life.”

ในปัจจุบันบริษัท Meta ได้สร้างโลกเสมือนขึ้นและเปิดให้เข้าใช้งาน Horizon World ในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และบางประเทศในยุโรป โดยเราสามารถเข้าไปพบปะกัน เข้าร่วมคอนเสิร์ต เล่นเกมหรือลองโบยบินได้ใน Horizon World และไม่เพียงเท่านั้น ระบบยังพัฒนาให้เราสามารถคอนเทนต์ต่าง ๆ  ในโลกเสมือนจริงนี้ได้อีกด้วย 

Microsoft (MSFT)

Microsoft (MSFT)

Microsoft บริษัทซอฟต์แวร์สำนักงานที่ทุกคนรู้จักกันดีก็เปิดตัวโลกเสมือนจริงอย่าง Mesh สำหรับ Microsoft Team โดยเทคโนโลยี Metaverse ที่ Microsoft มุ่งมั่นพัฒนา จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงพื้นที่การทำงาน (Work Space) และวิถีการทำงานของเรา

ในอนาคตอันใกล้ เราจะสามารถเข้าไปประชุมงาน รับการเทรนนิ่ง ทำงานร่วมกัน และได้รับประสบการณ์แบบ 360 องศาจากเทคโนโลยีโฮโลแกรมระหว่างการประชุมเสมือนจริง สำหรับการเข้าไปใช้งาน จะเข้าไปใช้งานผ่านอัตลักษณ์ตัวตนเสมือนจริงหรืออวาตาร์ (Avatar) เช่นเดียวกับ Horizon World ของ Meta

Metaverse Human

Metaverse Human คือ มนุษย์เสมือนจริงที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี AR หรือ Augmented Reality และ VR เสมือนจริง หรือ Virtual Reality Technology เข้าด้วยกัน ปัจจุบันในประเทศไทยมีการเปิดตัว Metaverse Human ในรูปแบบ Influencer แล้ว 2 คน ได้แก่ Aylinn และ Kati

คำถามที่พบบ่อย 

1. Metaverse ส่งผลอย่างไรในชีวิตประจำวัน

Metaverse จะช่วยขยายขีดจำกัดในการใช้ชีวิตไปอีกขั้น และเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราคุ้นเคยในชีวิตประจำวันหลาย ๆ อย่าง เช่น การท่องเที่ยวแบบ Virtual พร้อมประสบการณ์แบบสมจริง การเข้าเรียนออนไลน์ที่ไม่ใช่แค่การเข้า Zoom แต่ยังสามารถเข้าไปนั่งในห้องเรียนเสมือน การทำงานในออฟฟิศเสมือน การนำเสนอตัวตนของเราจะนำเสนอผ่านอัตลักษณ์ดิจิทัลหรือ Avatar การแต่งหน้าไม่ใช่เรื่องจำเป็นในโลกเสมือน ประสบการณ์การช็อปปิ้งที่สามารถทำได้ในโลกจริง 

2. ทำอะไรใน Metaverse ได้บ้าง

  • เข้าไปพบปะและทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโลกเสมือน
  • ช็อปปิ้งเสื้อผ้าและสินค้าในโลกเสมือน หรือช็อปปิ้งใน Metaverse แต่ซื้อของในโลกจริง
  • ตกแต่งอวาตาร์ของเราเหมือนเล่นเกม The Sims
  • เล่นเกมในโลกเสมือน (Virtual Reality Game) ที่ให้ประสบการณ์ไร้ขีดจำกัด เช่น บินได้ ผจญภัยโลกใต้น้ำ ปล่อยพลัง ฯลฯ
  • ซื้อและลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในโลกเสมือน
  • เข้าร่วมคอนเสิร์ตในโลกเสมือน
  • ทำงานในออฟฟิศบนโลกเสมือน เข้าห้องประชุม และพักเบรกบนสวนลอยฟ้า
  • ทำธุรกิจหรือลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลและ NFT
  • ฯลฯ

3. ข้อดี ข้อเสีย ของ Metaverse 

ข้อดีของ Metaverse

  • เชื่อมต่อโลกทางกายภาพ (Physical World) และโลกเสมือน (Virtual) เข้าด้วยกัน
  • ให้ประสบการณ์แบบดื่มด่ำ (Immersive experience) ในการท่องโลกดิจิทัล
  • ให้การติดต่อสื่อสารได้ประสบการณ์ที่ดีขึ้น เป็นอีกขั้นของโซเชียลมีเดีย
  • เกิดอาชีพใหม่ ๆ บนโลกเสมือน 
  • เปลี่ยนโฉมการศึกษาและโรงเรียน สร้างประสบการณ์การเรียนออนไลน์ที่ดีขึ้น
  • เกิดการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล สกุลเงินดิจิทัล และ NFT
  • ประสบการณ์การเมืองไร้ขีดจำกัด
  • เปลี่ยนโฉมสถานที่ทำงานหรือ Work place

ข้อเสียของ Metaverse

  • มีโอกาสเกิดอาชญากรรมไซเบอร์ (Cybercrime) ได้หลากหลาย ตั้งแต่การคุกคามบนโลกเสมือนจริง การลักทรัพย์ การขโมยอัตลักษณ์หรือ Avatar ไปทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย ฯลฯ
  • ปัญหาเรื่องจริยธรรม เช่น การฆาตกรรมหรือข่มขืนบนโลกเสมือนจริงที่อาจเกิดขึ้นได้ การขโมยข้อมูล การปลอมแปลงอัตลักษณ์ ฯลฯ
  • เกิดโลกาภิวัตน์อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้วัฒนธรรมที่หลากหลายในโลกความเป็นจริงค่อย ๆ เสื่อมสูญ
  • อาจเกิดการเสพติดโลกเสมือน การใช้งานมากเกินไป ส่งผลเสียต่อทั้งสุขภาพและกระทบชีวิตในโลกความเป็นจริง
  • ขาดปฏิสัมพันธ์กับคนจริง ๆ สูญเสียความสัมพันธ์ในโลกความเป็นจริง
  • ปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล (Data privacy & Security) มาตรการในการจัดเก็บ ใช้ และเผยแพร่ข้อมูลของเซิร์ฟเวอร์
  • ปัญหาเรื่องสุขภาพจิตจากการเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนเป็นเวลานาน ภาวะสับสนความเป็นจริง ความรู้สึกแย่ต่อตัวตนบนโลกความเป็นจริงที่ไม่สมบูรณ์แบบ ฯลฯ
  • ปัญหาการเข้าถึงและการปรับตัวกับเทคโนโลยี อุปกรณ์สวมใส่ที่ยังมีราคาสูง ความไม่คุ้นเคยในการปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยี

โลกเสมือนจริง Metaverse

Metaverse คือ โลกเสมือนจริงที่ผสานเทคโนโลยีการสร้างภาพและประสบการณ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เช่น VR, AR, Mixed Reality ที่ทำให้เราสามารถเข้าไปใช้ชีวิตในโลกดิจิทัลได้หรือใช้ชีวิตไป-มาระหว่างโลกทางกายภาพและโลกเสมือนจริง

การเข้ามาของ Metaverse จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตประจำวันของเรา ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการใช้ชีวิตได้มากขึ้น เราอาจไปเที่ยวดูเหตุการณ์ในอดีต ท่องจักรวาลหรือโลกใต้น้ำ เข้าห้องเรียนหรือเข้าออฟฟิศบนโลกเสมือน หรืออย่างคอนเสิร์ตที่เกิดขึ้นบนโลกเสมือนบนเกม Animal Crossing มาแล้ว คาดกันว่า Metaverse จะกลายเป็นเหมือนโซเชียลมีเดียที่เราใช้งานในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพบปะพูดคุย การทำงาน และกิจกรรมอื่นๆ  ในชีวิต เรียกได้ว่า Metaverse เข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกที่เราเคยรู้จัก

ในมุมของธุรกิจและการตลาด นักการตลาดสายดิจิทัลต้องจับต้องเทรนด์ Metaverse กันอย่างใกล้ชิด เพราะเมื่อวันที่ผู้บริโภคย้ายไปใช้เวลาบนโลกเสมือนกันแล้ว โอกาสในการทำการตลาดและธุรกิจก็จะขยายแพลตฟอร์มไปยังโลกเสมือนจริงที่ไร้ขีดจำกัดอย่าง Metaverse ด้วย  

ถึงตอนนั้น คุณจะพร้อมหรือยัง?



เอกสารอ้างอิง

[1] AlexWGomezz. (n.d.). Metaverse Pros and Cons: The Top Benefits and Drawbacks. [Online]. Retrieve from https://cyberscrilla.com/metaverse-pros-and-cons-the-top-benefits-and-drawbacks/ 

[2] AlexWGomezz. (n.d.). 7 Ways the Metaverse is Changing Our Lives. [Online]. Retrieve from https://cyberscrilla.com/7-ways-the-metaverse-is-changing-our-lives/ 

[3] Bernard Marr. (2022). The Effects Of The Metaverse On Society. [Online]. Retrive from https://bernardmarr.com/the-effects-of-the-metaverse-on-society/ 

[4] Bluebik. (2022). Metaverse 101: มารู้จัก Metaverse กับเรากันเถอะ. [Online]. Retrive from https://bluebik.com/th/blogs/4937 

[5] David Needle. (2021). The metaverse explained: Everything you need to know. [Online]. Retrieve from https://www.techtarget.com/whatis/feature/The-metaverse-explained-Everything-you-need-to-know 

[6] Devin Partida. (2022). How will the metaverse impact our everyday lives?. [Online]. Retrieve from https://technologymagazine.com/ai-and-machine-learning/how-will-the-metaverse-impact-our-everyday-lives 

[7] Lindsay Moore. (2020). AR vs. VR vs. MR: Differences, similarities and manufacturing uses. [Online]. https://www.techtarget.com/searcherp/feature/AR-vs-VR-vs-MR-Differences-similarities-and-manufacturing-uses 

[8] L3uch, Admin. (2021). Virtual Economy เศรษฐกิจบนโลกเสมือนคืออะไร? ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกอย่างไรบ้าง?. [Online]. Retrive from https://tips.thaiware.com/1661.html 

[9] Microsoft. (n.d.). What is mixed reality?. [Online]. Retrieve from https://docs.microsoft.com/en-us/learn/modules/intro-to-mixed-reality/2-what 

[10] Onkar Singh. (2022). The key technologies that power the Metaverse. [Online]. Retrieve from https://cointelegraph.com/explained/the-key-technologies-that-power-the-metaverse 

[11] World Economic Forum. (2022). 6 ways businesses can prepare for the metaverse era. [Online]. Retrieve from https://www.weforum.org/agenda/2022/08/metaverse-business-future-pwc/ 

AI Affiliate
AI Marketing
แจกเทคนิคทำ AI Affiliate เข้าถึงลูกค้า ประหยัดเวลา เซฟแรง

สำหรับคนทำ Affiliate Marketing ไม่มีอะไรจะยากไปกว่าการหาวิธีปิดการขาย หรือการสร้างเนื้อหา ข้อความโฆษณา รูปภาพ เพื่อดึงดูดให้คนยอมซื้อสินค้าผ่าน Affiliate ของตัวเอง อย่างไรก็ดี หากคุณเองก็เป็นนักการตลาดที่กำลังกังวลในเรื่องนี้…

Mobile Marketing
Marketing
บอกต่อ 5 เทคนิคทำ Mobile Marketing เพิ่มยอดขาย ได้ใจลูกค้า

ในยุคสมัยที่ใครๆ ต่างก็พกสมาร์ทโฟน บางคนมีสมาร์ทวอช และบางคนก็พกแท็บเลตติดตัวตลอดเวลา การทำ Mobile Marketing ถือได้ว่าตอบโจทย์และทรงประสิทธิภาพ เพราะเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน และทำให้โอกาสในการปิดการขายเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่กำลังสนใจกลยุทธ์การตลาดดี ๆ…

Bilibili
Marketing
Bilibili คืออะไร – รู้จักแพลตฟอร์มสัญชาติจีน ม้ามืดแห่งวงการสตรีมมิ่ง

หลายคนอาจทราบดีอยู่แล้วว่า จีนคือประเทศนักพัฒนาที่ชอบคิดค้นเทคโนโลยีขึ้นมาใช้เอง ไม่ว่าจะเป็น Weibo ที่เรารู้จักกันดี หรือ Douyin แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นเวอร์ชันจีน และในบทความนี้ เราจะมาคุณไปรู้จักกับ Bilibili อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่คนจีนคิดค้น…