Facebook Analytics คือ หนึ่งในเครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ Insights ต่าง ๆ ทั้งพฤติกรรมของลูกค้าหรือผลลัพธ์ทางธุรกิจของแบรนด์ ที่เป็นเครื่องมือที่ช่วยพัฒนาการทำการตลาดออนไลน์ หรือการทำ Social Media Marketing โดยเฉพาะการทำการตลาด Facebook
แต่ในปัจจุบันนักการตลาดมือใหม่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า Facebook Analytics รูปแบบเดิมที่เห็นกันตามบทความสอน Facebook Analytics ใช้ไม่ได้แล้ว เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนชื่อและหน้าตาใหม่ทั้งหมด จนทำให้สับสนกันไปตามกัน
ในบทความนี้ Digital Tips เลยขอมาอธิบายว่า Facebook Analytics คืออะไร และในเมื่อ Facebook Analytics ใช้ไม่ได้ นักการตลาดอย่างเราจะสามารถใช้เครื่องมือไหนในการวิเคราะห์ Insight ได้บ้างไปติดตามกัน
Facebook Analytics คืออะไร
Facebook Analytics คือเครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูลของการเผยแพร่คอนเทนต์และการยิงแอด Facebook ที่ใช้เก็บสถิติการใช้งานของผู้ใช้งานที่เข้ามายัง Facebook Page ทั้งบนหน้า Browser บนคอมพิวเตอร์และผ่านแอป Facebook บนมือถือ
ซึ่งการใช้งาน Facebook Analytics นั้นจะช่วยทำให้เราเข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้ที่มีต่อแบรนด์ของเรามากขึ้นมากขึ้นผ่านการทำการตลาด Facebook เช่น ดูได้ว่าคอนเทนต์ไหนมียอด Engagement, Reach เท่าไร รวมถึงยังดูข้อมูลเกี่ยวกับการยิงแอด Facebook ที่เราทุ่มเงินลงไปได้อีกด้วย (หรือที่เรามักจะคุ้นในคำว่า หลังบ้าน)
โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลผ่านหน้า Dashboard ของ Facebook Analytics ได้เลยนอกซึ่งช่วยให้นักการตลาดสามารถคาดการณ์การทำงานของการทำการตลาด Facebook ได้อย่างชัดเจนและที่สำคัญคือ Facebook Analytics ยังเป็นเครื่องมือที่ทำใช้งานได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
Facebook Pixel เกี่ยวข้องกับ Facebook Analytics อย่างไร
ต้องอธิบายก่อนว่า Facebook Pixel คือชุดโค้ดที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการนำไปติดตั้งบนหน้าเว็บไซต์ เพื่อคอยจับ Traffic ต่าง ๆ (เหมือนคุ้กกี้) ที่เกิดขึ้นบนหน้าเว็บไซต์ ซึ่งจะคอยช่วยให้นักการตลาด Facebook สามารถติดตาม ยิงแอดแบบ Retargeting ไปหาคนที่เคยมีประวัติเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณได้
ซึ่งความเกี่ยวข้องระหว่าง Facebook Pixel กับ Facebook Analytics นั้นจะมีความสัมพันธ์กันตรงที่นักการตลาดสามารถติดตั้ง Facebook Pixel ลงไปในเว็บไซต์ แล้วใช้ Facebook Analytics ในการดูสถิติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในเว็บไซต์และยังใช้การ ยิงแอด Facebook แบบ Retargeting ในการให้โฆษณา Facebook ของคุณไปปรากฏที่ผู้เคยเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งวิธีการทำโฆษณา Facebook แบบนี้จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภคได้ดีตัวหนึ่งเลย
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง ยิงแอดคืออะไร มีกี่รูปแบบ วิธียิงแอดให้ปัง อัปเดตปี 2023
เครื่องมือที่ใช้แทน Facebook Analytics
อย่างที่เราได้เกริ่นไปในช่วงแรกว่าหลังจากที่ Facebook เปลี่ยนชื่อเป็น Meta ก็ได้เปลี่ยนรูปแบบของการให้บริการ Facebook Analytics ไปด้วย แต่อย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ เพราะปัจจุบันก็มีเครื่องมือที่ใช้แทน Facebook Analytics ได้แถมยังให้ประสิทธิภาพไม่ต่างกันเลย เราลองมาดูกันหน่อยว่าจะมีเครื่องมืออะไรบ้าง
1. Meta Business Suite
Meta Business Suite คือเครื่องมือที่ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นเหมือนตัวแทนของ Facebook Analytics เป็นเครื่องมือเริ่มต้นในการเข้าถึงสถิติต่าง ๆ สำหรับ Facebook Page ของแบรนด์และการทำการตลาดทุกอย่างบน Facebook
โดยวิธีการใช้งานก็จะมีความคล้ายคลึงกับ Facebook Analytics เกือบทุกอย่าง คุณสามารถเห็นสถิติต่าง ๆ แนวโน้ม และรายงานภาพรวมของแคมเปญการทำการตลาด Facebook, การยิงแอด Facebook ที่ช่วยให้คุณทราบได้ว่าในการทำคอนเทนต์หรือ Facebook Ads แต่ละตัวนั้น มีผลลัพธ์อย่างไร และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้จริงหรือไม่
ทดลองใช้ Meta Business Suite ได้แล้ววันนี้ เพียงลงทะเบียนด้วย Facebook ส่วนตัวของคุณ > www.facebook.com/business/tools/meta-business-suite
2. Facebook Page Insights
Facebook Page Insights คือหนึ่งในฟีเจอร์การทำงานของ Meta Professional Dashboard โดยเครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณสามารถดูข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเพจของคุณ, โพสต์และผู้ติดตาม รวมถึงข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ขั้นพื้นฐานให้คุณได้ทำความเข้าใจผู้ติดตามของเพจคุณได้มากยิ่งขึ้น เช่นผู้ติดตามเพิ่มขึ้นมากี่คน ในช่วง 30 วันย้อนหลัง (ย้อนได้มากสุด 90 วันย้อนหลัง), แต่ละคอนเทนต์ในเพจได้ยอด Engagement, Reach เท่าไร หรือผู้ติดตามเพจของคุณเป็นช่วงอายุเท่าไร ฯลฯ
โดย Facebook Page Insights เป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้ฟรีเพียงแค่เริ่มเปิดเพจ Facebook ก็สามารถใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น (กด Meta Professional Dashboard) ในหน้าเพจ Facebook เพื่อใช้งาน
3. Hootsuite
Hootsuite เป็นเครื่องมือจัดการ Social Media และ Facebook Analytics ที่มีการวิเคราะห์ Facebook ขั้นสูง (แต่ใช้งานง่ายสุด ๆ) โดยฟีเจอร์ Facebook Analytics ของ Hootsuite สามารถติดตามข้อมูล Facebook Page ของคุณโดยละเอียดควบคู่ไปกับผลลัพธ์จากบัญชี Social Media ตัวอื่น ๆ ได้ด้วยเช่น Instagram, Twitter, TikTok ฯลฯ ซึ่ง Hootsuite มีจุดเด่นในเรื่องการนำข้อมูลที่อยู่ในหน้า Dashboard เปลี่ยนมาเป็น Report ได้ (ซึ่ง 2 เครื่องมือด้านบนยังทำไม่ได้ 100%) ถือว่ามีประโยชน์ต่อการทำงานด้าน Data Driven Marketing มาก ๆ
ซึ่งฟีเจอร์ในการวิเคราะห์ข้อมูล Facebook ที่ค่อนข้างละเอียดของ Hootsuite ทำให้นักการตลาดสามารถทำงาน Facebook Analytics ของคุณได้ง่ายขึ้น ช่วยประหยัดเวลาและทำให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบผลลัพธ์รวมระหว่างเครือข่ายต่าง ๆ และยังทำให้เห็นสถานการณ์ปัจจุบันของธุรกิจและแน่นอนว่าช่วยในการวาง กลยุทธ์การตลาด ให้แก่ธุรกิจของคุณได้ด้วย
โดยสำหรับใครที่สนใจสามารถลองใช้งาน Hootsuite ได้เลย แต่จะมีข้อแตกต่างจาก 2 เครื่องมือด้านบนคือ Hootsuite จะต้องเสียค่าใช้บริการเป็นรายเดือน/รายปีด้วย (เพราะทำได้หลายอย่างก็ได้มีค่าบริการกันหน่อยนะ)
4. Buffer
Buffer เป็นเครื่องมือที่วิเคราะห์ Social Media ทุกตัวให้มาอยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter, Pinterest, LinkedIn ให้คุณสามารถโพสต์ข้อความ, รูปภาพ, และวีดีโอ ไปสู่หลาย ๆ โซเชียลมีเดียได้จากที่เดียว รวมถึงมีการวิเคราะห์ผลลัพธ์และข้อมูลการเข้าถึงของลูกค้า เช่น ยอดติดตาม, ยอดไลค์ และยอดคอมเมนต์ของ Facebook และทุก Social Media
ซึ่งในการใช้งานของ Buffer นั้นจะมี Dashboard แสดงผลของทุกโพสต์ ไม่ว่าจะเป็น ยอดไลค์, ยอดติดตาม, ยอดคอมเมนต์, ยอดคนดู, ผู้ติดตามใหม่, จำนวนคนเข้าถึง, และจำนวนคนกดเข้ามาดู คุณสามารถเช็กความคืบหน้าของ Facebook Page ได้อย่างง่ายดาย และนอกจากนั้น Buffer ยังมีฟีเจอร์การวิเคราะห์เชิงลึกที่จะช่วยเป็นเหมือนไกด์ให้คุณได้ทราบว่า ควรโพสต์วันไหนที่จะเหมาะกับลูกค้าของคุณ, ลูกค้าให้ความสนใจคอนเทนต์แบบไหนเช่น ข้อความ, รูป, วีดีโอ, มากที่สุด หรือควรโพสต์บ่อยแค่ไหนเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
ช่วยให้นักการตลาดอย่างเรา ๆ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลพร้อมลงมือทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ Buffer เองก็ยังมีฟีเจอร์อีกมากที่ช่วยให้การทำ Facebook Analytics หรือการทำ Social Media Marketing ของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้นอีกด้วย
เริ่มต้นใช้งาน Buffer ได้เลย (มีทั้งฟีเจอร์แบบฟรีและแบบเสียค่าบริการ)
ตัวชี้วัดของ Facebook Analytics
หลังจากที่รู้จักเครื่องมือในการทำ Facebook Analytics กันไปแล้ว ถึงตรงนี้เราลองมาดูกันคะว่า Metrics หรือตัวชี้วัดของ Facebook Analytics ที่สำคัญต่อการทำการตลาด Facebook ของคุณจะมีอะไรกันบ้าง และแต่อย่างจะมีความสำคัญแค่ไหน
Facebook Page Analytics
- Reach : ผู้ที่เห็นเนื้อหาที่โพสต์บนเพจของคุณ รวมถึงผู้ที่เห็นเนื้อหาที่โพสต์เกี่ยวกับเพจของคุณ
- Visit : จำนวนครั้งที่ผู้คนเข้าชมเพจ Facebook ของคุณ
- New Likes : จำนวนผู้ติดตามใหม่ที่ถูกใจเพจ Facebook ของคุณ
- Follower growth rate : เพจของคุณได้รับหรือสูญเสียผู้ติดตามมากน้อยเพียงใด
- Virality rate : เปอร์เซ็นต์ของจำนวนครั้งที่มีผู้ติดตามมีการทำ Reaction, Like หรือแชร์เนื้อหาของคุณ (Engagement)
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง ตัวจัดการโฆษณา Facebook Ads Manager ใช้ยังไง สอนยิงแอดให้ปัง ปี 2023
Facebook Audience Insights
- Age & Gender : : การแบ่งกลุ่มอายุและเปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงและผู้ชายที่เป็นผู้ติดตามในเพจของคุณ (จะระบุได้แค่เพศชายหรือหญิงตอนนี้ยังไม่มีตัวเลือกของเพศที่ 3 หรือเพศทางเลือก)
- Location : การแบ่งกลุ่มที่อยู่ของผู้ติดตามในเพจคุณว่าภูมิลำเนาหรือปัจจุบันพักอาศัยอยู่ที่ไหน
Facebook Post Analytics
Post reach : ตัวเลขภาพรวมเนื้อหาจะระบุจำนวนผู้ที่เห็นโพสต์ของคุณอย่างน้อยหนึ่งรายการอย่างน้อยหนึ่งครั้ง คุณสามารถเจาะลึกถึงจำนวนการเข้าถึงสำหรับแต่ละโพสต์ได้ โดยคลิกที่รายการเนื้อหาภายใต้หัวข้อเนื้อหา โดย Metrics นี้มีประโยชน์ต่อการทำ Facebook Analytics มากเพราะช่วยให้การทำความเข้าใจว่าอะไรใน Facebook Page ที่โดนใจผู้ชมของคุณจริง ๆ
Post engagement : จำนวนการแสดง Reaction ความคิดเห็น และการแชร์ ของคอนเทนต์ในเพจคุณสามารถดูทั้งจำนวนรวมของโพสต์บนเพจทั้งหมดและรายละเอียดสำหรับแต่ละโพสต์ สามารถช่วยให้คุณได้ทราบว่าตอนนี้ผู้ติดตามของคุณมีส่วนร่วมกับแบรนด์มาก-น้อยเพียงใด
Facebook Stories Analytics
ส่วนนี้จะเหมือนกันกับโพสต์บน Facebook ที่จะช่วยให้คุณเห็น Reach (อัตราการมองเห็น) ของผู้ติดตามที่เข้ามาดูสตอรี่ที่เพจคุณลง แถมยังสามารถเลื่อนลงไปที่ด้านล่างของหน้าจอเพื่อดูเรื่องราวของคุณที่มีการเข้าถึงสูงสุด การกดสติกเกอร์สูงสุด และการตอบกลับมากที่สุด ช่วยให้การทำ Facebook Analytics ในส่วนของ Stories มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Facebook Reels Analytics
นอกจากการดูข้อมูล Facebook Analytics ในส่วนของ Stories แล้วฟีเจอร์ใหม่อย่าง Reels คุณก็สามารถดู Insights ใน Meta Business Manager ได้เหมือนกันนะ โดยถ้าคุณมีโพสต์คอนเทนต์รูปแบบ Reels และต้องการเห็น Data ให้ไปที่ Insights>Content>Content จากนั้นเลือกแพลตฟอร์มที่ต้องการดูข้อมูล (Facebook หรือ Instagram)
โดยในส่วนของ Facebook Reels Analytics สามารถดูข้อมูลสำคัญได้ 2 Metrics ได้แก่
- Reach : จำนวนคนที่เห็น Reels ของคุณอย่างน้อยหนึ่งครั้ง
- Engagement : เห็นว่ามีผู้แสดง Reactions, Like หรือแชร์คอนเทนต์ Reels ของคุณมาก-น้อยเพียงใด (แต่ยังไม่สามารถแยกเป็นแต่ละอันได้ จะดูได้เป็นค่าเฉลี่ยภาพรวม) แต่ก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับการดูยอด Engagement สำหรับ Reels
Facebook Ads Analytics
การวิเคราะห์โฆษณาบน Facebook ของคุณต้องเปลี่ยนไปใช้ Tools อีกตัวคือ Meta Ads Manager ซึ่งช่วยให้คุณสามารถดูรายงานการวิเคราะห์โฆษณาบน Facebook หรือถ้าคุณต้องการข้อมูลออกมาในรูปแบบ Report ก็สามารถ Export ออกมาได้ผ่านการใช้ Tools อย่าง Hootsuite Analytics ที่เราได้แนะนำไป
สำหรับ Metrics ที่สำคัญของ Facebook Ads Analytics จะมีด้วยกัน 3 อย่างได้แก่
- Reach : จำนวนคนที่เห็นโฆษณาของคุณ (1 คนนับเป็น 1 Reach) ตัวเลขนี้มีความสำคัญในการเปรียบเทียบกับจำนวน click-throughs or engagement หากพวกเขาเห็นแต่ไม่ได้กด CTA ของคุณ แสดงว่าอาจมีข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นกับโฆษณา Facebook เช่น CTA ไม่ดึงดูดมากพอ, ราคาสินค้าแพงไป เป็นต้น
- Impressions : จำนวนครั้งที่โฆษณาของคุณปรากฏบนหน้าจอ ตัวเลขนี้น่าจะสูงกว่า Reach เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่บุคคลเดียวกันอาจเห็นโฆษณาของคุณมากกว่าหนึ่งครั้ง
- Cost per result : เป็น Metrics ที่ช่วยในการวัด ROI ของแคมเปญ ข้อมูลชิ้นนี้เป็นกุญแจสำคัญในการเปิดเผยว่าคุณได้รับผลตอบแทนเท่าไรต่อการทำโฆษณา Facebook 1 ตัว
Facebook Group Analytics
Facebook Groups เป็นวิธีที่การทำการตลาดผ่านการสร้าง Community ที่จะช่วยเพิ่มความรู้สึกดีและฐานลูกค้าให้แบรนด์ได้และเป็นวิธีที่ดียิ่งขึ้นในการรวบรวมข้อมูลว่าใครคือผู้ติดตามที่เรียกได้ว่าเป็นเหมือน แฟนพันธ์แท้ ของแบรนด์ที่สุดของคุณ ผ่านเครื่องมือ Facebook Group Analytics ที่ถ้าคุณเป็นเจ้าของ Facebook Group ก็สามารถกดเข้าไปดูข้อมูลเชิงลึกได้ทันที (สำหรับกลุ่มที่มีสมาชิก 50 คนขึ้นไปเท่านั้น)
โดย 3 Metrics ที่สำคัญในการทำ Facebook Group Analytics นั้นมีดังนี้
- Top contributors : ดูได้ว่าสมาชิกในกลุ่มคนไหนที่มีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่าง ๆ หรือการสร้างสรรค์คอนเทนต์ภายในกลุ่มมากที่สุด (เหมือนหา Tops Fans ของเพจ) ช่วยให้คุณได้รู้ว่าใครที่ภักดีกับแบรนด์ของเรามาก ๆ โดยคุณอาจจะลองตอบแทนคนกลุ่มนั้นด้วยการมอบสิทธิพิเศษบางอย่าง ก็จะช่วยให้พวกเขากล้าที่จะบอกต่อแบรนด์ของคุณไปให้ผู้อื่นรู้จักมากขึ้น
- Engagement : การทำความเข้าใจว่าสมาชิกของคุณมีความเคลื่อนไหวมากที่สุดในช่วงเวลาใด สามารถช่วยให้แบรนด์ต่างๆ เข้าใจการสร้างสรรค์คอนเทนต์ภายในกลุ่มว่าควรโพสต์เมื่อใดและควรโพสต์อะไรเพื่อการเข้าถึงสูงสุด
- Growth : อัตราการเติบโตของกลุ่มทั้งจำนวนสมาชิกและอัตราการมีส่วนร่วม (Engagement) ของสมาชิกภายในกลุ่มว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลงเพียงใด
Facebook Live Analytics
เชื่อไหมคะว่าการทำ Live สดผ่าน Facebook เราก็สามารถดูข้อมูลแล้วนำวิเคราะห์ได้เหมือนกัน ซึ่งเป็นฟีเจอร์ลับที่มีประโยชน์มากสำหรับแบรนด์ที่ขายของผ่านการทำ Live สด โดย Metrics ที่สำคัญของ Facebook Live Analytics มีด้วยกัน 3 อย่างได้แก่
Peak viewers : สามารถดูได้ว่าในการ Live สดของคุณมียอดคนดูสูงสุดที่เท่าไร
Views : จำนวนยอดวิวทั้งหมดของการ Live สดรวมถึงการดูย้อนหลังเมื่อ Live จบแล้ว
Engagement : Metrics ที่ช่วยให้เห็นว่ามีผู้แสดง Reactions, Like หรือแชร์วิดีโอ Live ของคุณมาก-น้อยเพียงใด ซึ่งข้อมูลส่วนนี้สามารถนำวิเคราะห์ในการสร้างสรรค์เนื้อหาในการ Live ได้ด้วย เช่นอาจมีกิจกรรมร่วมสนุก ผ่านการพิมพ์คอมเมนต์หรือแจกรางวัลให้ผู้แชร์ Live ของคุณ (เหมือนที่เพจขายของดัง ๆ ชอบใช้กัน)
Facebook Video Analytics
- Video retention : การวัดจำนวนผู้ที่เข้าถึงแต่ละช่วงเวลาในวิดีโอของคุณ เช่นเดียวกับโพสต์บน Facebook รูปแบบอื่น ๆ เช่นในวิดีโอนี้มีคนดูใช้เวลารับชมเฉลี่ยกี่วินาที ซึ่งช่วยในการดูว่าสิ่งใดที่โดนใจผู้ชมของคุณมากที่สุด
- Average view duration : การวัดจำนวนยอดวิวในการรับชมวิดีโอใน Facebook Page ของคุณช่วยให้คุณได้รู้ว่ามีผู้ชมกดเข้ามาดูวิดีโอของคุณกี่ครั้ง
- Video engagement : Metrics ที่ช่วยให้เห็นว่ามีผู้แสดง Reactions, Like หรือแชร์วิดีโอของคุณมาก-น้อยเพียงใด โดยตัวเลขที่ปรากฏจะแสดงเป็นค่าเฉลี่ย ไม่ใช่ค่าสุทธิ แต่ก็ทำให้คุณได้รู้ว่าผู้ชมมีส่วนร่วมกับวิดีโอคอนเทนต์ของคุณเยอะแค่ไหน
สรุป
Facebook Analytics นั้นถือว่าเป็นส่วนสำคัญของการทำ Social Media Marketing โดยเฉพาะแพลตฟอร์ม Facebook สำหรับการวิเคราะห์ปริมาณการใช้งานและการทำการตลาดของ Facebook ซึ่งช่วยให้คุณเข้าใจว่าตอนนี้ผู้ติดตามใน Facebook Page ของคุณเป็นใคร มีพฤติกรรมแบบไหน นอกจากนี้ ยังช่วยให้คุณสามารถวางแผนและปรับแต่งโปรโมชันและการตลาดผ่าน Facebook อย่างมีประสิทธิภาพได้ค่ะ
อ้างอิงข้อมูล
Christina Newberry, 3 Tools to Use Instead of Facebook Analytics, November 21, 2022
https://blog.hootsuite.com/facebook-analytics-insights-beginners-guide/#Important_Facebook_analytics_metrics