ก่อนหน้านี้การทำภาพ Graphic อาจต้องพึ่งพา Photoshop เพียงอย่างเดียว แต่ปัจจุบัน Canva คือ ทางเลือกใหม่ของ Graphic Designer ที่มอบเครื่องมือการทำงานอย่างครบถ้วน และมิติการทำงานที่หลากหลายขึ้นกว่าเดิมจนน่าตกใจ วันนี้ Digital Tips จะพาทุกคนไปเปิดโลกของ Canva ให้ครบทุกเรื่องราวในบทความเดียว
Canva คืออะไร
ทำความเข้าใจที่ชัดเจนมากขึ้นว่า แคนว่า หรือ Canva คือ อะไรกันแน่ เพราะบางคนยังอาจมีความสับสนอยู่เล็กน้อยว่านี่อาจเป็น โปรแกรม Canva แต่ที่จริงแล้วเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่สามารถใช้งานได้บนหน้าเว็บไซต์ โดยที่ไม่ต้องโหลดโปรแกรมเพื่อติดตั้งลงเครื่อง คุณเข้าใช้งานแบบออนไลน์ได้เลยทันที พร้อมกับช่องทางการใช้งานที่ไม่ได้กำหนดให้ต้องเปิดผ่าน Desktop เท่านั้น ยังใช้งานผ่านแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์พกพาได้อีกด้วย
อยากทดลองเข้าใช้งาน Canva แบบออนไลน์ สามารถ คลิก เพื่อเข้าใช้งานได้เลย
Canva สามารถใช้งานอะไรได้บ้าง
แม้ช่วงปีก่อนเราอาจรู้จักว่า Canva เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถสร้างคอนเทนต์รูปภาพได้ง่าย ด้วยกีมี Template จำนวนมากให้ใช้งานฟรี แต่ปัจจุบันเมื่อช่วงวันที่ 15 กันยายน 2022 มีการพัฒนาระบบ ให้สามารถทำได้หลายอย่างมากขึ้น จนเรียกได้ว่านี่แหละคือการพลิกวงการกันเลยทีเดียว
- เครื่องมือการสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูป
- กระดานไวท์บอร์ดเพื่อ Brainstorm แบบออนไลน์
- ลบพื้นหลังวิดีโอได้ง่ายในคลิกเดียว
- ฟีเจอร์การนำเสนอรูปแบบใหม่
- รูปแบบการสร้างสรรค์ผลงานที่หลากหลายขึ้น
- Image Engine สร้างภาพจาก Text
- เปิดตัวตลาดสำหรับผู้สร้างและนักพัฒนา
- สร้าง Community เพื่อผู้ใช้งาน Canva โดยเฉพาะ
ประโยชน์ของ Canva
ด้วยเครื่องมือที่สามารถทำได้หลากหลายของ Canva ในปัจจุบันนี้ ส่งผลให้เจ้าแพลตฟอร์มออนไลน์ตัวเก่ง สามารถสร้างประโยชน์ได้หลากหลายมุมมอง เช่น
- สร้างสรรค์ผลงานได้หลากหลาย และครอบคลุมมากที่สุด จากประเภทของฟีเจอร์ที่พร้อมให้ออกแบบเกินกว่า 10 รายการ
- มี Template พร้อมให้เราใช้งานแบบฟรี ๆ มากถึง 250,000 Templates
- แก้ไขรูปภาพได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว
- ภาพฟรี, Vector ฟรี, ฟอนต์ฟรี และเครื่องมือฟรีอีกเพียบ
- Canva ใช้งานง่าย เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานทุกระดับ
- เป็นมิตรกับงบประมาณด้านการตลาด Digital Marketing
- นำเสนอรูปลักษณ์ที่ดูมีความเป็นมืออาชีพสูง
- มีให้เลือกใช้งานทั้งแบบฟรี และแบบสมัครสมาชิก
- ดาวน์โหลดไฟล์ได้หลายประเภท
- ใช้งานได้แบบออนไลน์ ไม่ต้องโหลดแอปพลิเคชันก็ใช้ได้
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : 16 เทคนิคการตลาดผ่าน Instagram ฉบับอัปเดตปี 2023
Canva เหมาะกับใคร
ดังที่ได้กล่าวไปในหัวข้อด้านบนเกี่ยวกับการใช้งาน Canva ที่สามารถสร้างผลงานได้หลากหลาย หากเป็นในช่วงแรกอาจแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานในด้าน Graphic Designer ที่อยากลองสร้างสรรค์ผลงานด้วยตัวเอง ผ่าน Template และองค์ประกอบหลักแสนแบบ
แต่ด้วยการพัฒนาในยุคปัจจุบันที่ทำให้ Canva พร้อมรองรับการออกแบบอื่น ๆ อีกหลายมุมมอง ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ หรือ Designer จากหลายงาน ก็สามารถเข้าใช้งาน Canva เพื่อผลิตผลงานที่มีคุณภาพ และดูมีความเป็นมืออาชีพได้ทุกคนเช่นกัน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : Branding คืออะไร? มีกลยุทธ์แตกต่างจาก Marketing อย่างไร?
เริ่มต้นใช้ Canva ผ่านเว็บไซต์
1. การสมัครเข้าใช้งานของ Canva
หากคุณเป็น Content Creator หน้าใหม่ที่อยากลองใช้งาน Canva สามารถเปิดเว็บไซต์ขึ้นมา แล้วทำการสมัครสมาชิกได้ทันที ซึ่งการสมัครสมาชิกเราไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลเพื่อเปิดบัญชีใหม่หมดตั้งแต่ต้น เราสามารถผูกบัญชี Canva กับ Facebook หรือ Gmail แล้วเข้าใช้งานได้เลยทันที
2. องค์ประกอบของหน้าแรกใน Canva
หลังจากที่ล็อกอินเข้าสู่ระบบกับ Canva เรียบร้อยแล้ว หน้าแรกที่เราต้องเจอจะมีแบ่งได้ประมาณ 4 ส่วนด้วยกัน คือ แถบซ้ายมือเป็นโปรไฟล์กับเมนู, แถบด้านบนเป็นเมนูการเริ่มต้นใช้งาน, ตรงกลางจอเป็น Icon ให้เราเลือกฟีเจอร์ที่ต้องการใช้งาน และพื้นที่ตรงกลางจะเป็น Template ที่ Canva เชิญชวนให้ลองใช้งาน และต่อเนื่องด้วย ไฟล์ที่เราเคยออกแบบไว้แล้วก่อนหน้านี้ไล่เรียงลงไป
3. วิธีการสร้างดีไซน์ใน Canva
- Template เป็นการสร้างรูปแบบที่เราสามารถค้นหาได้ตามต้องการ ซึ่งการค้นหา Template ของ Canva ต้องใช้ภาษาอังกฤษเท่านั้น
- Photo การเลือกภาพมาใช้งานบนดีไซน์ของเรา
- Elements การเลือกสัญลักษณ์, รูปทรง, กรอบรูป หรือกราฟต่าง ๆ เข้ามาใช้งาน ตามแบบที่ Canva มีให้เลือก
- Text การเพิ่มข้อความต่าง ๆ ลงบนหน้างานดีไซน์ของเรา
- Background การแปะภาพพื้นหลัง
- Uploads หากต้องการอัปโหลดรูปภาพจากเครื่องของเรา ขึ้นบนงานดีไซน์ Canva สามารถอัปภาพที่คุณต้องการได้เช่นกัน
- Folders เมนูสำหรับการจัดระเบียบดีไซน์ทั้งหมดของ Canva ซึ่งเทียบได้กับการจัด Layer บน Photoshop
- More ตัวช่วยที่ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อไปยังแอปพลิชันอื่น
4. เมนูจัดการการทำงาน
สำหรับเมนูจัดการการทำงานของ Canva ในหน้าการออกแบบดีไซน์ จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนในแถบด้านบนเหมือนกัน ซึ่งมีหน้าที่แตกต่างกันออกไปดังนี้
- แถบด้านบนซ้าย : Home กลับหน้าหลัก, File ตัวเลือกแสดงขอบกระดาษ / พิมพ์บรีด (ระยะตัดตก) / สร้างงานออกแบบใหม่ / บันทึก / ดาวน์โหลด, Resize ปรับขนาดภาพ, Undo (Ctrl+Z)การย้อนกลับทีละขั้นของการทำงาน
- แถบด้านบนขวา : Blog Title – Untitled ชื่อไฟล์, Share ใช้สำหรับแชร์ไฟล์ Canva ไปแอปอื่น,Download โหลดไฟล์ประเภทที่ต้องการ
เคล็ดลับการใช้งาน Canva
นอกเหนือจากการสร้าง Graphic Design บน Canva แล้ว มันยังสามารถปรับใช้งานได้อีกหลายรูปแบบ โดยเรามีเคล็ดลับมาแนะนำทุกคนดังลิสต์รายการต่อไปนี้
- สร้างไฟล์ Presentation เพื่อนำเสนอกลยุทธ์การตลาดที่ครบเครื่อง ไม่ว่าจะรูปภาพ, ตัวอักษร, วิดีโอ หรือแม้กระทั่งกราฟแผนภูมิก็ทำได้อย่างมืออาชีพ
- การออกแบบสื่อเพื่อนำไปใช้ควบคู่กับ Content Marketing ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ประเภทไหน ปัจจุบัน Canva สามารถรองรับได้หมดแน่นอน
- การสร้างโปรไฟล์หรือ Resume ด้วยตัวเลือก Template หลักแสนรายการ ทำให้เราสร้างการนำเสนอได้ตามต้องการ
- สร้างแบนเนอร์โฆษณาบนเว็บไซต์ได้อย่างครบถ้วน หรือจะทำภาพประกอบการใช้งานบน Facebook ก็ได้เช่นกัน
- ทำงานร่วมกับเพื่อนแบบออนไลน์ ผ่านฟีเจอร์ไวท์บอร์ดที่เข้ามาระดมไอเดียได้เหมือนอยู่หน้ากระดานจริง
Tips: ไม่อยากให้การสร้างสรรค์ผลงาน Graphic Design บน Canva ต้องสูญเปล่า อย่าลืมตรวจสอบขนาดรูป Facebook, Instagram, ขนาดแบนเนอร์ และช่องทางอื่นก่อน เพื่อให้เราสร้างผลงานออกมาได้พอดีกับแต่ละแพลตฟอร์ม
ข้อดี ข้อเสียของโปรแกรม Canva
เพื่อให้มุมมองเกี่ยวกับ Canva ดูรอบด้านสำหรับการตัดสินใจเพื่อใช้งานของเพื่อน ๆ แต่ละคน เราจึงอยากนำเสนอมุมอื่นที่หลายคนอาจไม่เคยเห็น โดยเฉพาะการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียแบบชัด ๆ
ข้อดี ของโปรแกรม Canva
- ใช้งานง่าย เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานทุกระดับ
- มี Template ครบทุกแบบ
- ราคาไม่แพง จำกัดงบประมาณได้ดี
- มีองค์ประกอบให้เลือกใช้งานหลากหลาย
- ฟีเจอร์รองรับในปัจจุบันกว้างขวาง
- มีความเป็นมืออาชีพ
- ภาพถ่ายจาก Stock จำนวนมาก
- แชร์ไปยัง Social Media ได้ง่าย
- โหลดไฟล์ได้หลายประเภท
ข้อเสีย ของโปรแกรม Canva
- สไตล์ภาพรวมจะดูเด่นชัดว่ามาจาก Canva ด้วยเอกลักษณ์องค์ประกอบต่าง ๆ ที่สื่อ Brand Identity ชัดเจน
- จำนวน Template ที่มีแบ่งการใช้งานฟรีและเสียเงิน
- การดาวน์โหลดมีบางประเภทที่ต้องสมัครสมาชิก
- ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นของ Canva
- เราไม่สามารถสร้างองค์ประกอบเฉพาะแบบได้
>> ในปัจจุบันเรามีทางเลือกในการออกแบบงานหรือภาพใหม่ ๆ มากมาย ซึ่งเครื่องมือมาแรงในยุคนีย่อมไม่พ้น AI เช่น Chat GPT หรือ Alisa AI
Canva ราคาเท่าไหร่
การเริ่มต้นใช้งาน Canva นั้นเราสามารถใช้งานได้ฟรี แต่หากต้องการเพิ่มเติมบาง Template หรือเข้าถึงบางฟีเจอร์ที่มีการกำหนดการสมัครสมาชิกเอาไว้ เราอาจจะต้องชำระเงินเพิ่มเติม ซึ่งเว็บ Canva ก็ยังเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานอย่างมาก เมื่อมีการเสนอแบบ Trial หรือการทดลองก่อนเป็นระยะเวลา 30 วัน หลังจากนั้นเราต้องเลือกแผนการชำระเงินแบบรายปี หรือรายเดือน ซึ่งมีอัตราค่าใช้จ่ายดังนี้
- รายปี 1,850 บาท (ประมาณ 154.16 บาท/เดือน)
- รายเดือน 229 บาท
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Canva
1. Canva มีลายน้ำไหม?
การใช้งาน Canva จะไม่มีลายน้ำทุกกรณี แม้แต่เราที่เป็นผู้สร้างผลงานก็ไม่สามารถทิ้งลายน้ำเอาไว้บนชิ้นงานได้
2. ภาพของ Canva ไม่มีลิขสิทธิ์ ใช่หรือไม่?
เรื่องลิขสิทธิ์ภาพเมื่อดีไซน์บน Canva นั้นจะต้องแบ่งตามองค์ประกอบของงาน หากเราสร้างผลงานผ่านองค์ประกอบที่เราดีไซน์ขึ้นมาเอง จะถือว่าเราเป็นผู้มีลิขสิทธิ์บนภาพนั้น แต่ถ้าหากเราใช้งานองค์ประกอบหรือ Template ที่มีอยู่ใน Stock ของ เว็บ Canva การดีไซน์ทั้งหมดจะถือเป็นลิขสิทธิ์ของ Canva ทันที
ข้อสรุป
สรุปสุดท้าย Canva ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่น่าใช้งานอย่างมาก หากคุณคือผู้เริ่มต้นอยากทำคอนเทนต์ สร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบต่าง ๆ ที่เว็บ Canva มีพร้อมให้บริการ เนื่องด้วยความง่ายในการใช้งาน และรูปแบบที่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพ ทำให้เหมาะแก่การใช้งานทั่วไป จนถึงระดับสูงเช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการออกแบบ จัดวาง และการสร้างสรรค์ตามวัตถุประสงค์อีกทีหนึ่งด้วยนั่นเอง
Source
Luke Edwards, What Is Canva And How Does It Work? Tips & Tricks, September 13, 2022
https://www.techlearning.com/how-to/what-is-canva-and-how-does-it-work-for-education
Zach Kitschke, 10 highlights from Canva Create 2022, September 15, 2022
https://www.canva.com/newsroom/news/what-happened-at-canva-create-2022/
Digital Scholar, Top 10 Pros and Cons of Canva Design Tool, November 15, 2022
https://digitalscholar.in/pros-and-cons-of-canva/