Search Engine คืออะไร - Search Engine มีกี่ประเภท

โปรแกรมเสิร์ชข้อมูล หรือ Search Engine คือ สิ่งที่สำคัญสำหรับมนุษย์เราเป็นอย่างมาก ด้วยประโยชน์ที่ทำให้เราสามารถค้นหาทุกคำตอบได้ตามต้องการ เหมือนกับมีผู้เชี่ยวชาญคอยนั่งประกับอยู่ข้าง ๆ อยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวไหน เพียงแค่เรากรอก Keyword ลงไปในช่องคำค้นหาของ Search Engine ก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ทั่วโลกที่เผยแพร่แบบสาธารณะได้ หากคุณอยากเข้าใจเรื่อง Search Engine รวมถึง Google Ads และ SEO มากขึ้น Digital Tips รวบรวมความรู้เกี่ยวกับประเภทของ Search Engine เทคนิคการใช้งาน และตัวอย่าง Search Engine มาให้คุณแล้วในบทความนี้!



Search Engine คืออะไร

Search Engine คือ ซอฟต์แวร์ออนไลน์ที่ใช้สำหรับเสิร์ชข้อมูล ซึ่งจะแสดงผลเป็นเว็บไซต์ รูปภาพ หรือวิดีโอ ตาม Keyword หรือคำค้นหาของผู้ใช้งาน ทั้งนี้ Search Engine จะทำงานโดยอาศัย Algorithm ในการวิเคราะห์และจัดอันดับผลการค้นหา ก่อนคัดเลือกมาแสดงผลให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากที่สุด ด้วยเหตุนี้ ทุก ๆ องค์กรที่เน้นทำการตลาดผ่านเว็บไซต์ จึงจำเป็นต้องศึกษาวิธีทำคอนเทนต์ ให้สอดคล้องกับการทำงานของ Algorithm เช่น การทำ SEO เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้งาน Search Engine มีโอกาสค้นเจอคอนเทนต์ของพวกเขา จนกระทั่งสามารถเพิ่ม Website Traffic และ Conversion มากขึ้นได้นั่นเอง


Search Engine มีขั้นตอนทำงานอย่างไร 

ขั้นตอนการทำงานของ Search Engine คือ เรื่องราวเบื้องหลังในการสืบค้นข้อมูลของผู้ใช้งาน โดยมี Algorithm คอยจับคู่และจัดอันดับผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องขึ้นมานำเสนอ ให้เราได้มองเห็นมากที่สุดตาม Keyword ที่ใช้ในการค้นหา โดยสรุปแล้วจะมีขั้นตอนคร่าว ๆ ประมาณ 3 ขั้นตอน คือ

  • การรวบรวมข้อมูล (Crawling) : ด้วยการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ดู Code/ เนื้อหาจาก URL แต่ละรายการที่พบเจอ
  • การจัดการข้อมูล (Indexing) : จัดเก็บพร้อมจัดระเบียบข้อมูลที่พบเจอระหว่างการรวบรวมข้อมูล หากเว็บไหนที่มีข้อมูลอยู่แล้ว จะถูกจัดแสดงผลในการค้นหาที่เกี่ยวข้องต่อไป
  • การจัดอันดับ (Ranking) : ขั้นตอนการจัดเตรียมเนื้อหาเพื่อตอบคำถามผู้คนให้ดีที่สุด หมายความว่าผลลัพธ์ที่ผู้ค้นหามองเห็น มีการเรียงลำดับความเกี่ยวข้องจากมากไปน้อยให้เรียบร้อยแล้ว

อัลกอริธึมของ Search Engine

อัลกอริธึมเปรียบได้กับสมองของ Search Engine เพราะทำหน้าที่ตั้งแต่การอันดับความสำคัญของเนื้อหาต่าง ๆ ไปจนถึงการประมวลผล Keyword ที่ใช้ในการเสิร์ชข้อมูลและเลือกผลการค้นหาให้ตรงตามความต้องการ ด้วยเหตุนี้ Search Engine ต่าง ๆ จึงพยายามพัฒนาอัลกอริธึมให้สามารถเข้าใจการใช้ภาษาอย่างเป็นธรรมชาติของมนุษย์มากที่สุด อย่างไรก็ดี เพื่อให้คุณเข้าใจการทำงานของอัลกอริธึมมากขึ้น เราขอยกตัวอย่างอัลกอริธึมสำคัญ ๆ ของ Search Engine อันดับ 1 ของโลกอย่าง Google ทั้งสิ้น 4 ตัว ดังนี้

Panda

คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า Google Search Engine คือ แหล่งรวบรวมความรู้ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดตลอดกาล ทุกเว็บไซต์จึงมุ่งทำทุกวิธีการ เพื่อให้อันดับบน Google ของตัวเองดีขึ้น จนอาจใช้วิธีการผิด ๆ อย่างการคัดลอกเนื้อหาเว็บไซต์ของผู้อื่น ด้วยเหตุนี้ Google จึงจำเป็นต้องสร้าง “Panda” มาเป็นอัลกอริธึมสำหรับตรวจสอบความผิดปกติเหล่านี้ และคอย Spam Keyword เมื่อพบว่ามีเว็บไซต์ไหนตั้งใจอัด Keyword ใส่ลงไปในเนื้อหา เพียงเพื่อให้เว็บไซต์ของตัวเองติดอันดับเท่านั้น

Hummingbird

อัลกอริธึมของ Search Engine จะทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก็ต่อเมื่อสามารถเข้าใจภาษาของมนุษย์ได้ Google จึงสร้าง Hummingbird ขึ้น เพื่อคาดเดา Keyword ที่ผู้ใช้งานต้องการพิมพ์ในช่องค้นหา นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่ตีความคำค้นหาแบบ Long-tail Keyword โดยประมวลผลจากความน่าจะเป็นและบริบทแวดล้อม เพื่อให้ตรงกับจุดประสงค์ในการเสิร์ชข้อมูลมากที่สุด

Pigeon

ในบรรดาเครื่องมือสำหรับค้นหาข้อมูล Google ถือได้ว่าเป็น Search Engine ที่ตอบโจทย์คนทำ Local SEO มากที่สุด และสิ่งที่ยืนยันความจริงข้อนี้ได้ดี ก็คืออัลกอริธึมชื่อ Pigeon ซึ่งทำหน้าที่จัดอันดับผลการค้นหาตาม Location ของผู้เสิร์ชข้อมูล จึงทำให้ธุรกิจที่ลงทะเบียนไว้กับ Google My Business มีโอกาสถูกค้นเจอมากขึ้น

Mobile Friendly Update

ปัจจุบันผู้คนนิยมค้นหาข้อมูลโดยใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น การมาของ Voice Search ก็ยังทำให้ผู้คนนิยมเสิร์ชข้อมูลผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่มากกว่าที่เคยเป็นมา ด้วยเหตุนี้ Google จึงนำเอาความสามารถในการใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของเว็บไซต์ มาเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดคุณภาพของเว็บไซต์นั้น ๆ ด้วย และกำหนดให้อัลกอริธึม Mobile Friendly Update ทำหน้าที่ตรวจสอบในเรื่องนี้


ประเภทของ Search Engine 

Search Engine มีกี่ประเภท

Search Engine คือ เครื่องมือสำคัญในชีวิตแต่ละวันของผู้คน ดังนั้นการพัฒนาเครื่องมือสำหรับค้นหาข้อมูลให้ตอบโจทย์กับความต้องการค้นหาข้อมูลแต่ละประเภท จึงเป็นสิ่งที่นักพัฒนาให้ความสำคัญไม่น้อย สังเกตได้จากการที่ Social Media หลาย ๆ แพลตฟอร์ม เริ่มให้ความสำคัญกับการเสิร์ชข้อมูล จนกลายเป็นว่าสังคมออนไลน์ที่เราใช้งานทุกวันนี้ มีประสิทธิภาพการค้นหาเรื่องราวบนโลกออนไลน์เพิ่มขึ้นมาด้วย และในหัวข้อนี้ เราจะมาดูกันว่าปัจจุบันประเภทของ Search Engine สามารถจำแนกได้เป็นอะไรบ้าง และ Search Engine เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร

Search Engine แบ่งตามประเภทของข้อมูล 

ประเภทของ Search Engine ลำดับแรก ๆ ที่คุณควรรู้จัก คือ Search Engine แบบแบ่งตามประเภทข้อมูล ทำงานโดยนำประเภทของข้อมูลมาช่วยในการแยกแยะรูปแบบการค้นหา ซึ่งสามารถแบ่งข้อมูลได้ออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

  • Web Page Search Engine: ระบบค้นหาหน้าเว็บที่เกี่ยวข้องที่สุด
  • Image Finder: การนำเสนอข้อมูลภาพที่เกี่ยวข้อง
  • Video Finder: วิเคราะห์วิดีโอ และแสดงวิดีโอที่ถูกตีความสอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการค้นหา
  • File Finder: ระบบตอบกลับด้วยผลลัพธ์ตามชื่อหรือประเภทของไฟล์

Search Engine แบ่งตามลักษณะของเครื่องมือ 

การแบ่งประเภทของ Search Engine ตามลักษณะของเครื่องมือที่ใช้ ถือเป็นการกำหนด Search Engine Type ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด และด้วยเกณฑ์นี้ เราสามารถจำแนกประเภทของ Search Engine ได้ทั้งสิ้น 4 ประเภท 

  • Crawler Based  Search Engine: ระบบการค้นหาที่ใช้ซอฟต์แวร์ในการรวบรวมข้อมูล โดยทั่วไปจะประกอบไปด้วยองค์ประกอบหลัก 2 ส่วน คือ ซอฟต์แวร์และฐานข้อมูล
  • Web Directory: สารบัญเว็บไซต์ที่ช่วยให้เราค้นหาข้อมูลผ่านการแบ่งแยกหมวดต่าง ๆ 
  • Meta  Search Engine: ระบบที่ใช้หลัก Meta Tag ในภาษา HTML เช่น ชื่อผู้พัฒนา, คำค้นหา, เจ้าของเว็บ, บล็อก หรือคำอธิบายโดยย่อ
  • Hybrid Search Engine: เป็นระบบที่รวมเอา Crawler Based Search Engine กับ Web Directory เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้เกิดกลไกที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ประโยชน์ของ Search Engine 

หากการค้นหาคำตอบบนโลกอินเทอร์เน็ตของผู้คนเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในชีวิตประวัน นั่นก็ถือว่า Search Engine คือ เครื่องมือที่ช่วยสร้างประโยชน์หลักให้แก่ชีวิตเราไปโดยปริยายแล้ว แต่หากมอง Search Engine ในมุมที่กว้างขึ้น คุณก็จะพบว่าแท้จริงแล้ว Search Engine ไม่ได้เป็นแค่สารานุกรมเล่มใหญ่ที่เอาไว้หาข้อมูลเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ด้วย ดังจะอธิบายต่อไปนี้

Search Engine คือแหล่งรวบรวมข้อมูลที่หลากหลาย

เพราะการเสิร์ชข้อมูลบน Search Engine ไม่ได้จำกัดหมวดหมู่เพียง 1 หรือ 2 รายการเท่านั้น แต่รวบรวมเอาข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ตทั้งหมดที่เกี่ยวข้องมานำเสนอผ่านการจัดอันดับให้เรียบร้อย เช่น คุณอยากหาข้อมูลเกี่ยวกับรองเท้า คุณจะได้เจอข้อมูลทั้งในด้านการแนะนำสินค้า การผลิตรองเท้า ประโยชน์รองเท้าแต่ละแบบ ประเภทของรองเท้า และอื่น ๆ อีกมากมายที่มีโอกาสพบเจอ

Search Engine คาดเดาความต้องการของคุณได้อย่างแม่นยำ

เมื่อคุณกรอก Keyword ลงไป โอกาสในการเข้าถึงข้อมูลที่แม่นยำนั้นสูงมาก เนื่องจาก Search Engine จะมีระบบที่ช่วยในการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดบนโลกอินเทอร์เน็ต คอยจัดเก็บรวบรวมเรื่องราวเอาไว้ และพร้อมนำเสนออย่างตรงประเด็นตามคำที่คุณใช้ค้นหา ซึ่งมีผลลัพธ์ที่เข้าถึงหลายล้าน

Search Engine ช่วยจัดระเบียบข้อมูลออนไลน์ทั่วโลก

ลองนึกภาพว่าถ้าโลกนี้ไม่มี Search Engine คือ หายนะดี ๆ นี่เอง เนื่องจากข้อมูลออนไลน์ทั้งหมดจะกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกทิศ จนเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าถ้าอยากได้คำตอบอะไรสักอย่าง จะไปเริ่มต้นจากตรงไหน แต่เมื่อมี Search Engine ให้บริการ หลายเว็บไซต์จึงจัดระเบียบการนำเสนออย่างมีระเบียบมากขึ้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อการทำงานร่วมกันกับ Algorithm ของเครื่องมือค้นหา และเข้าถึง Engagement ที่สูงขึ้น

Search Engine ช่วยให้การวางแผนการตลาดของคุณง่ายขึ้น

สำหรับธุรกิจทุก ๆ แขนง การทำความเข้าใจหลักการตลาดพื้นฐานอย่าง 4P, 7P หรือแม้แต่ Marketing Funnel ย่อมเริ่มต้นจากการหาข้อมูลบน Search Engine และเมื่อเข้าใจหลักการขั้นพื้นฐานทั้งหมดแล้ว ธุรกิจยังสามารถใช้โปรแกรมค้นหาข้อมูล (Search Engine) เป็นหนึ่งในเครื่องมือส่งเสริมแคมเปญการตลาดได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการทำ SEO ที่ไม่ต้องเสียเงินค่ายิงโฆษณา หรือการทำ SEM (PPC) ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า ผู้ใช้งานจำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อประมูลพื้นที่ในการโฆษณาอย่างต่อเนื่องนั่นเอง


Search Engine กับการทำการตลาดออนไลน์ 

ทำการตลาดผ่าน Search Engine

แม้จะยังไม่เริ่มต้นอธิบายถึงข้อมูลเชิงลึก เราก็เชื่อว่าเพื่อน ๆ ที่อยู่ในแวดวง Digital Marketing อยู่แล้วคงเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมเว็บ Search Engine คือ เครื่องมือสำคัญสำหรับการทำการตลาด ส่วนคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตลาดมากนัก ก็อาจพอเข้าใจได้ในช่วงนาทีแรก เนื่องจากทุกวันนี้คุณคงใช้ Google เพื่อค้นหาสินค้า หรือข้อมูลที่ต้องการอยู่แล้ว ฉะนั้นหนึ่งในหน้าที่ของนักการตลาด คือ การวางแผนกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา ให้ผู้ใช้งานอย่างเช่นเรา ๆ มีโอกาสพบเจอกันผ่าน Search Engine มากขึ้น ยิ่งเราเพิ่มประสิทธิภาพค้นหาได้มากเท่าไหร่ อันดับการแสดงผลของเว็บก็จะดีขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้มีโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าเดิม โดยเฉพาะการทำ Google Ads และ SEO ที่เราจะเล่าให้ฟังกันต่อจากนี้

Google Ads 

โซลูชันการโฆษณาออนไลน์ที่หลายธุรกิจเลือกใช้ เพื่อโปรโมตสินค้าหรือบริการลงบน Google Search, YouTube และเว็บไซต์อื่น ๆ ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ต ซึ่งการพัฒนาระบบของ Google Ads ในปัจจุบันนั้นมีฟีเจอร์ให้เราเลือกใช้งานอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะล่าสุด Performance Max ที่ทำให้เหล่านักการตลาดต้องเตรียมวางกลยุทธ์การตลาดใหม่ ให้อลังการณ์กว่าเดิม เพราะถ้าเราอยากเข้าถึงโฆษณาของ Google ที่ครอบคลุมมากที่สุด ฟีเจอร์ดังกล่าวจะเข้ามาช่วยดูแลการนำเสนอโฆษณาได้ทั่วทั้งเครือข่าย นับเป็นโฆษณาบน Search Engine ที่ทรงพลังมากที่สุดก็ว่าได้ 

SEO (Search Engine Optimization) 

นอกเหนือจากการจ่ายเงินยิงโฆษณาให้กับแพลตฟอร์มโดยตรงอย่าง Google Ads แล้ว ธุรกิจที่สนใจจะทำการตลาดบน Search Engine ยังสามารถเลือกทำ SEO หรือ Search Engine Optimization ได้อีกด้วย โดยการทำ SEO จะเน้นการปรับแต่งเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับการทำงานของอัลกอริธึม อาทิ การอัปเดตเนื้อหาให้สม่ำเสมอ ทำ Backlink ทำเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย และ ใช้ Keyword ที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น เพื่อดึงดูดให้คนคลิกมาที่เว็บไซต์แทนการเสียเงินค่าโฆษณา อย่างไรก็ดี การใช้กลยุทธ์ SEO นี้ ยังถือได้ว่าเป็น 1 ในวิธีการทำการตลาดแบบ Inbound Marketing หรือการพยายามทำให้กลุ่มเป้าหมายเดินเข้าหาแบรนด์ตามช่องทางต่าง ๆ ด้วยตัวเอง โดยไม่รู้สึกถูกยัดเยียด ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างยิ่งในช่วงนี้

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: Google Tag Manager (GTM) คืออะไร พร้อมวิธีติดตั้งแบบอัปเดตปี 2022


6 อันดับของ Search Engine ที่นิยมใช้กันทั่วโลก 

อ่านภาพรวมข้อมูลเกี่ยวกับ Search Engine คือ อะไรในหลายแง่มุมไปแล้ว ลองมาดูสิ่งที่เราต่างก็คุ้นเคยเป็นอย่างดีกันบ้างดีกว่า กับ 6 อันดับ Search Engine ที่นิยมใช้งานกันทั่วโลก ใครเคยใช้อันไหนบ้าง เดี๋ยวลองไปอ่านเรื่องราวแต่ละรายการเพิ่มเติมกันได้เลย

1. Google 

 Search Engine - Google

โปรแกรมแรกที่ทำให้ทุกคนได้รู้จักว่า Search Engine คืออะไร ก็คือ Google เครื่องมือสำหรับค้นหาข้อมูลที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ของโลก ด้วยความแม่นยำด้านการค้นหาที่มีประสิทธิภาพและมีความน่าเชื่อถือสูงที่สุด อย่างไรก็ดี กว่าที่ Google จะก้าวมาถึงตรงนี้ ในฐานะ Search Engine ที่ดีที่สุดในโลก ย่อมต้องผ่านการพัฒนามาหลายต่อหลายครั้ง และถูกปรับปรุงโปรแกรมภายในต่าง ๆ มาแล้วหลายร้อยหลายพันรายการ จนกระทั่งปัจจุบัน ทั่วโลกสามารถกล่าวขานได้อย่างตรงไปตรงมาว่า Search Engine ที่มีผู้นิยมมากที่สุดคือ Google และ Google Search Engine คือ เครื่องมือในการสร้างโฆษณาเพื่อเก็บ Lead ที่ตอบโจทย์ธุรกิจทุกแขนงมากที่สุด

>> อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: Google Trend คืออะไร สำคัญต่อการทำ SEM อย่างไร

2. Bing 

Search Engine - Bing

อันดับที่ 2 ของ Search Engine ยอดนิยม คือ Bing ซึ่งเป็นชื่อที่อาจจะพอคุ้นเคยกันอยู่บ้าง โปรแกรมค้นหาข้อมูล (Search Engine) ที่ชื่อว่า Bing นี้สร้างขึ้นโดยบริษัท Microsoft โดยปัจจุบันมี Market Share อยู่ที่ร้อยละ 2.77 เป็นอันดับ 2 รองจาก Google ที่ครอง Market Share สูงถึง 93.12% (Source: Statcounter) ทั้งนี้แม้ Bing จะท้าทาย Search Engine อันดับ 1 อย่าง Google  ในหลาย ๆ ครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถโน้มน้าวผู้คนได้มากเท่าไหร่นัก นั่นอาจเป็นเพราะทุกคนจดจำ Branding ของ Google ในฐานะเครื่องมือสำหรับค้นหาข้อมูลที่ใช้งานง่าย มีประสิทธิภาพสูง และคุ้นเคยที่สุดไปเสียแล้ว

3. Yahoo 

Search Engine - Yahoo

แม้จะมี Market Share เพียง 1.11 % (Source: Statcounter) แต่ Bing ก็คือ Search Engine ที่เคยขับเคลื่อนร่วมกันกับ Bing และ Google มาแล้ว แต่สถานการณ์ล่าสุดที่เปลี่ยนแปลงเมื่อปี 2019 ทำให้ Yahoo กับมาขับเคลื่อนพร้อมกับ Bing เพียงเจ้าเดียวเท่านั้น

4. Baidu 

Search Engine - Baidu

ตามสถิติของ Statcounter เว็บไซต์ Biadu คือ Search Engine ที่มีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 0.49% ซึ่งสาเหตุสำคัญก็อาจจะมาจากการที่ Baidu สามารถใช้งานได้เพียงแค่ภาษาจีนเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ดี การเติบโตของ Search Engine เจ้านี้ก็ยังเป็นที่จับตามอง เนื่องจากเป็นเครื่องมือสำหรับค้นหาข้อมูลที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในประเทศจีน และมีแนวโน้มจะพัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง

5. Yandex

Search Engine - Yandex

โปรแกรม Search Engine คือ สิ่งที่สำคัญสำหรับคนทั่วทั้งโลก ไม่เว้นแม้แต่ดินแดนที่ไม่คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ และสิ่งที่ตอกย้ำความจริงข้อนี้ได้ดี ก็คือการถือกำเนิดของ Yandex โปรแกรมค้นหาข้อมูล (Search Engine) จากประเทศรัสเซีย ซึ่งปัจจุบันก้าวขึ้นมาเป็น Search Engine ที่มีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกเฉลี่ย 1.15% เป็นอันดับ 3 รองจาก Bing (Source: Statcounter) แต่ถ้าเราเปรียบเทียบกับส่วนแบ่งเฉพาะในประเทศรัสเซีย Yandex สามารถเข้าถึงส่วนแบ่งในตลาดของประเทศไปได้กว่า 65% ในฐานะบริษัทอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนโดย Machine Learning

6. DuckDuckGo

Search Engine - DuckDuckGo

ตัวอย่าง Search Engine เจ้าสุดท้าย ก็คือ DuckDuckGo ที่มีส่วนแบ่งการตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0.51%  (Source: Statcounter)  อย่างไรก็ดี แม้จะมียอดการค้นหาต่อวันนั้นสูงถึง 90 ล้านครั้งต่อวัน แต่ก็ยังไม่สามารถเพิ่มค่าเฉลี่ยส่วนแบ่งการตลาดได้อยู่ดี นั่นอาจเป็นเพราะ Search Engine ของพวกเขา คือ ระบบที่อ้างอิงข้อมูลการค้นหาจากแหล่งอื่น เช่น Bing, Yahoo และ StackOverFlow จุดอ่อนตรงนี้จึงยังเป็นข้อจำกัดอันใหญ่หลวง เมื่อลองเทียบกับ Google ที่มีชุด Algorithm ช่วยกำหนดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากเว็บไซต์ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตได้ด้วยตัวเอง ทว่าสิ่งที่ทำให้ DuckDuckGo ค่อนข้างโดดเด่นเป็นพิเศษ คือหน้า Interface ที่สะอาดตา ปราศจากแบนเนอร์โฆษณา และจะไม่มีการติดตามข้อมูลใด ๆ จากผู้ใช้งานทั้งสิ้น


เทคนิคการใช้งาน Google 

Search Engine หมายถึง เครื่องมือสำหรับค้นหา ซึ่งนอกจากการพิมพ์ Keyword หรือคำถามที่ต้องการลงไปตรง ๆ ในช่องค้นหาแล้ว ยังมีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยให้การใช้งาน Search Engine ของคุณง่ายขึ้น และในหัวข้อนี้ เรารวบรวมเทคนิคการใช้งาน Search Engine อันดับ 1 อย่าง Google มาให้คุณฝึกใช้งานด้วยกัน 4 ข้อ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน!

  • ค้นหาหน้าเว็บเพจแบบเจาะจงเว็บไซต์: หากคุณต้องการทราบว่า บนเว็บไซต์ที่คุณสนใจ มีคอนเทนต์เกี่ยวกับเรื่องที่คุณต้องการจะค้นหาหรือไม่ ให้พิมพ์สูตร “site:ตามด้วยชื่อเว็บไซต์” (พิมพ์ติดกัน) ลงไปในช่องค้นหา เช่น หากคุณอยากทราบว่า เว็บไซต์ thedigitaltips.com มีคอนเทนต์เกี่ยวกับ Google Ads หรือไม่ ให้พิมพ์ “site:thedigitaltips.com Google Ads ” ระบบของ Search Engine จะรวบรวมทุกหน้าที่เกี่ยวข้องกับ Google Ads บนเว็บไซต์นี้มาให้คุณ
  • Search Engine ใช้แทนเครื่องคิดเลขได้: คุณสามารถพิมพ์โจทย์คณิตศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นบวก ลบ คูณ หารธรรมดา หรือสูตรที่มีเครื่องหมายพิเศษเช่น sin, cos, tan ลงไปในช่องค้นหา เพื่อคำนวณคำตอบได้ทันที หากยังมีข้อสงสัย ไม่แน่ใจ ลองพิมพ์โจทย์เลขดูสักข้อสิ! ยกตัวอย่างเช่น “30*200*(100^2)” ระบบของ Search Engine จะแสดงผลลัพธ์ให้ทันที
  • Search Engine ใช้แทนแอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศได้: หากคุณอยากรู้ว่าสภาพอากาศในพื้นที่นั้น ๆ เป็นอย่างไร สามารถค้นหาผ่าน Search Engine ได้ เพียงพิมพ์ “Weather ตามด้วยพื้นที่” เช่น “Waether กรุงเทพ” ลงไปในช่องค้นหาเท่านั้น
  • Search Engine ใช้แทนเครื่องมือแปลงหน่วย: หากคุณต้องการแปลงหน่วยอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นหน่วยวัดความยาว หน่วยน้ำหนัก หรือหน่วยเงินตรา สามารถแปลงผ่าน Search Engine ได้ง่าย ๆ เพียงพิมพ์ “หน่วยต้นแบบ=หน่วยที่ต้องการแปลง” ลงในช่องค้นหาเท่านั้น เช่น “1000 วอน = เยน” หรือ “100CM=M” เป็นต้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Search Engine 

Search Engine ที่นิยมใช้มากที่สุด 

จากอัตราเฉลี่ยส่วนแบ่งตลาดในข้อมูลด้านบน ทำให้เราทราบทันทีว่าแพลตฟอร์มยอดนิยมของ Search Engine คือ Google ผู้ให้บริการที่ได้รับส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 93.12% ผู้คนทั่วโลกต่างก็ใช้งานเว็บไซต์นี้ เพื่อเข้าถึงข้อมูลที่แม่นยำ และได้รับคำตอบตามที่พวกเขาต้องการ และเมื่อ Google สามารถเข้าถึงผู้คนที่ใช้งานได้เป็นจำนวนมาก เหล่านักการตลาดทุกคนก็ต้องอยากเข้าร่วม เราคงนึกภาพไม่ออกเลยว่าในอีก 5 หรือ 10 ปีข้างหน้า จะมี Search Engine ตัวไหนขึ้นมาแทน Google ได้ไหม ในเมื่อเว็บไซต์ช่วยค้นหาชื่อดัง แทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราไปเสียแล้ว

>> อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : CTR หรือ Click Through Rate คืออะไร สำคัญต่อการยิง Ads อย่างไรบ้าง

ธุรกิจ E-Commerce สามารถใช้ Search Engine เพิ่มยอดขายได้อย่างไร? 

ธุรกิจ E-commerce สามารถใช้ Search Engine เพื่อเพิ่มยอดขายได้ ผ่านการยิงแอดโดยตรงผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Google Ads และการทำ SEO เพื่อเพิ่ม Conversion บนหน้าเว็บไซต์ที่รองรับการซื้อขาย ซึ่งจะต้องอาศัยการศึกษาทิศทางของ Keyword และความนิยมของผู้บริโภค สำหรับนำมาปรับแต่งเว็บไซต์อยู่ตลอดเวลา


ข้อสรุปเรื่อง Search Engine 

คอร์สเรียน Google Ads - Digital Tips

หากเราเริ่มต้นทำการตลาดแล้ว การเข้าถึงผู้คนผ่าน Search Engine คือ วิธีที่ช่วยให้เราสร้างโอกาสได้หลายสิบหรือหลายร้อยเท่า หากดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา ให้กับ Content Marketing ของเราอย่างลงตัว ผู้คนที่ต้องการรู้ข้อมูลใกล้เคียงกับสิ่งที่เราอยากนำเสนอ ก็จะมีโอกาสพบเจอกับเว็บไซต์ของเรามากขึ้น ยิ่งเราสามารถดันให้เนื้อหาคอนเทนต์ของเรา ไปปรากฏอยู่บนหน้าแรกของ Google ได้ ก็นับว่าเปิดโอกาสได้มากเลยทีเดียว ลองศึกษาข้อมูลด้านเทคนิคหรือการใช้งานเพิ่มเติม เพื่อให้เข้าใจการทำงานของระบบนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง จนมีความรู้มากพอให้สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า และสร้างยอดการเข้าถึง พร้อมโอกาสปิดการขายที่เหนือกว่าคู่แข่ง

ทั้งนี้ หากคุณอยากรู้จักกับ Search Engine และการวางกลยุทธ์การตลาดผ่าน Search Engine แบบครบทุกแง่มุมตามที่กล่าวมา Digital Tips ขอแนะนำโปรแกรมพิเศษฉบับปรับพื้นฐาน อย่างคอร์ส “คอร์สสอน Google Ads 101 ปูพื้นฐานการทำการตลาดผ่าน Google Ads” โดยอ.บอย พรเทพ เขตร์รัมย์ Founder of Google Analytics Thailand คอร์สเดียวที่จะทำให้คุณเข้าใจระบบการทำงานของ SEO และ SEM ตั้งแต่เริ่มต้น พร้อมเรียนรู้วิธีใช้เครื่องมือต่าง ๆ การหา Keyword และหลักการ Optimize ด้วยตนเอง เจ้าของธุรกิจหรือผู้สนใจท่านใดกำลังมองหาคอร์สเรียนคุ้ม ๆ แบบนี้ อย่ารอช้า รีบสมัครก่อนเต็ม!


Source

Joshua Hardwick, How Search Engines Work, September 1, 2022 https://ahrefs.com/blog/how-do-search-engines-work/ 

Shane Lyons, How Search Engines Work https://digitalmarketinginstitute.com/resources/lessons/seo-setup_how-search-engines-work_pfwa 

Webnots, What are Different Types of Search Engines?, September 11, 2019 https://www.webnots.com/what-are-different-types-of-search-engines/ 

Steven Symes, The Advantages of Using Search Engines https://www.techwalla.com/articles/the-advantages-of-using-search-engines

ALEX CHRIS, Top 10 Search Engines In The World (2022 Update), OCTOBER 24, 2022 https://www.reliablesoft.net/top-10-search-engines-in-the-world/ 

X Demographics
Marketing | News | X (Twitter)
อัปเดตด่วน! X Demographics สำหรับทำการตลาดบน X [2024]

แบรนด์ไหนทำการตลาดบน X ห้ามพลาด! Digital Tips รวม X Demographics ที่น่าสนใจมาให้คุณแล้ว ใครอยากหาข้อมูลในการปรับทิศทางคอนเทนต์หรือกลยุทธ์การตลาดใหม่ ๆ ลองศึกษาได้จากบทความนี้…

6 YouTube Trends
News | YouTube
6 YouTube Trends จากทั่วโลก ที่ครีเอเตอร์มือใหม่ห้ามพลาด

คุณเองก็เป็นครีเอเตอร์บน YouTube ใช่ไหม? Digital Tips รวม YouTube Trends จากทั่วโลกมาให้คุณแล้ว! มาดูกันว่าครีเอเตอร์ทั่วโลกกำลังมุ่งทำคอนเทนต์ประเภทไหน และคุณควรปรับปรุงแนวทางคอนเทนต์ให้ตามเทรนด์หรือไม่ ใครเป็นมือใหม่แชร์เก็บไว้อ่านด่วน…

Online Marketing
Marketing
ตอบข้อสงสัย การตลาดออฟไลน์ยังจำเป็นอยู่ไหมในปี 2024

ในยุคที่ Online Marketing ถือครองพื้นที่ทางการตลาดแทบจะทั้งหมด แต่ละแบรนด์มุ่งแต่จะหากลยุทธ์ในการยิงแอด หรืออัปโหลดคลิปลงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ จนอาจทำให้นักการตลาดรุ่นเก๋าเริ่มสงสัย ว่าการตลาดออฟไลน์จะยังมีบทบาทอะไรหรือไม่ในพ.ศ. นี้ เพื่อไขข้อสงสัยให้กับคุณ Digital Tips…