ตอนนี้คงไม่มีใครที่ยังไม่เคยช้อปออนไลน์แน่นอน เพราะด้วย เทคนิคการขายของออนไลน์ บวกกับแพลตฟอร์มออนไลน์จำนวนมาก ที่สร้างภาพลักษณ์การนำเสนอสินค้าผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้อย่างน่าดึงดูด บางครั้งถึงขั้นที่เรายอมเสียเงินเพื่อซื้อบางสิ่งบางอย่าง แม้ของชิ้นนั้นจะยังไม่มีประโยชน์ต่อเรา หรืออาจไม่มีโอกาสใช้งานเลยก็ตามที ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นมาได้ง่าย ๆ เพียงเพราะคำว่า “ของมันต้องมี” นั่นแหละคือผลลัพธ์ของกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยส่งเสริมการ ขายของออนไลน์ให้ปัง ด้วยเทคนิคสุดแพรวพราว พร้อมกับ เคล็ดลับการขายของออนไลน์ ในบางเคสที่เราปฏิเสธยากเกินใจจะห้ามไหว
9 เทคนิคการขายของออนไลน์
ปัจจุบันคำว่า เทคนิคการขายของออนไลน์ ถูกนำไปใส่ไว้กับรากศัพท์สมัยใหม่อย่าง Digital Marketing วิธีที่เน้นเดินหน้าทำการตลาดบนโลกดิจิทัล ด้วยการสรรค์สร้างคอนเทนต์ต่าง ๆ มานำเสนอเรื่องราวที่ชวนให้เหล่า User ของแต่ละแพลตฟอร์ม เกิดความสนใจในแบรนด์, ธุรกิจ, สินค้า, โปรโมชัน หรือการบริการ โดยข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ เคล็ดลับขายของออนไลน์ ที่ Digital Tips คิดว่ามีความน่าสนใจสูง และจะขาดไม่ได้เลยกับยุคที่การตลาดออนไลน์มาแรงแบบนี้ เราจึงจัดมาให้ถึง 9 เทคนิคที่เข้ามาช่วยทุกการ ขายของออนไลน์ให้ปัง ขึ้นมาเปรี้ยงปร้าง
เทคนิคขายของออนไลน์ 1 : รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร
อันดับแรกเราจะเริ่มต้นเรียนรู้ เทคนิคการขายของออนไลน์ ที่เหลือไม่ได้เลย หากเราไม่รู้จักกลุ่มเป้าหมายของเราดีมากพอ ถ้าการออกสตาร์ทของเรามีความเข้าใจถึง Customer Insight ได้ดี ก็จะยิ่งส่งผลให้ เทคนิคการเพิ่มยอดขาย ที่เหลือ มีโอกาสสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมออกมาได้เช่นกัน งั้นลองมาดูกันหน่อยว่าจะหา Insight ลูกค้าได้อย่างไร
- ลองทำวิจัยการตลาดล่วงหน้าก่อนที่จะสร้างแบรนด์ หรือเปิดธุรกิจใหม่ สืบค้นข้อมูลถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ทำความเข้าใจในจุดต่าง ๆ เพื่อหาโอกาสครองใจทุกคนให้ได้มากที่สุด ลองเริ่มง่าย ๆ จากการทำ SWOT วิเคราะห์จุดแข็งของตัวเอง จะได้มีแนวทางการนำเสนออย่างมีเอกลักษณ์
- ลองพูดคุยกับลูกค้าโดยตรง ถามถึงความต้องการ รับ Feedback ให้มาก และอีกหนึ่งช่องทางที่กำลังมาแรง Social Listening ที่ช่วยให้เราติดตาม รับฟังเสียงของลูกค้าบนโลกออนไลน์ได้ง่ายดาย
เทคนิคขายของออนไลน์ 2 : แก้ปัญหาที่กลุ่มเป้าหมายพบเจอ
ถ้าเราสามารถหากลุ่มเป้าหมายที่มีข้อมูล Insight สูงในระดับหนึ่งแล้ว แปลว่า เทคนิคการขายของออนไลน์ ถัดไปที่ต้องเน้นการตอบโจทย์ตามความคาดหวัง และช่วยแก้ปัญหากลุ่มที่เป้าหมายพบเจอ สามารถทำอย่างไรได้บ้าง ให้สินค้า, บริการ หรือแบรนด์ของเรา ช่วยจัดการ Pain Point ได้ดี
- ถามคำถามถึงสิ่งที่ลูกค้าต้องการคืออะไร
- ปรับเปลี่ยนข้อเสนอ
- เพิ่มความพิเศษภายใต้เงื่อนไขที่ลูกค้าต้องการ
- สร้าง Content Marketing ที่จะช่วยนำเสนอว่าแบรนด์ของเราแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างไรบ้าง
- นำเสนอสิ่งที่แบรนด์จะช่วยดูแลได้อย่างชัดเจน และตรงไปตรงมา
เทคนิคขายของออนไลน์ 3 : สร้าง Traffic จากหลายๆช่องทางออนไลน์
เมื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามาสังคมออนไลน์เกิดขึ้นมากมายหลายแพลตฟอร์ม ฉะนั้น เทคนิคการขายของออนไลน์ เองก็ต้องมีการพัฒนาไปข้างหน้า เพื่อตอบรับกับผู้คนที่อยู่ต่างแพลตฟอร์มให้ได้มากที่สุดเช่นกัน
- ปรับแต่งเว็บไซต์ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา ผ่านกระบวนการ SEO
- ใช้ Social Media Marketing เพื่อเป็นฐานการดึงดูดผู้ใช้งานจำนวนมากบนโลก Social ให้รู้จักแบรนด์ และมีโอกาสปิดการขายได้ด้วย
- พัฒนาข้อเสนอบนหน้า Landing Page ให้ดูมีมูลค่าน่าเข้าร่วมเพื่อรับสิทธิพิเศษเหล่านั้น
- นำเสนอโปรโมชัน หรือประชาสัมพันธ์ชุดข้อความในทุกช่องทางออนไลน์
- ทดลองการโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
- ใช้ E-mail Marketing เพื่อให้ความรู้ ทำการตลาด และสร้างสัมพันธ์ต่อลูกค้า
- สร้างเว็บไซต์ที่นำเสนอครบทั้งข้อมูล, สินค้า และโปรโมชัน เพื่อที่ลูกค้าตจะได้เข้ามาใช้งาน ดูสินค้า ตามหาสิ่งที่ทุกคนสนใจ และสามารถปิดการขายได้บนเว็บไซต์นั้นเลย
เทคนิคขายของออนไลน์ 4 : มีวิธีการชำระเงินที่ง่ายและสะดวกต่อลูกค้า
อีกหนึ่งความน่าอัศจรรย์ใจในเรื่อง เทคนิคการขายของออนไลน์ ยุคใหม่ที่แสนสะดวกสบายไปเสียทุกทาง ด้วยช่องทางการชำระเงินออนไลน์ ที่ขอแค่เพียงมีมือถือสักเครื่อง ก็ชำระเงินให้กับอะไรสักอย่างได้เพียงไม่กี่วินาที ฉะนั้นเพื่อส่งต่อความสะดวกสบาย และความรวดเร็วไปมัดใจลูกค้า เทคนิคการปิดการขายออนไลน์ ที่ดี ต้องอย่าลืมวิธีชำระเงินง่าย ๆ และหลายช่องทาง
- นำเสนอช่องทางการชำระเงินผ่านเว็บไซต์ที่หลากหลาย
- ทำขั้นตอนการชำระเงินให้ง่ายและรวดเร็วเข้าไว้
- เพิ่มเติมด้วยข้อเสนอพิเศษกับการชำระเงินในบางช่องทาง
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : Marketing Funnel คืออะไร กลยุทธ์การตลาดพื้นฐานสำหรับการทำธุรกิจ
เทคนิคขายของออนไลน์ 5 : ใช้เครื่องมือต่างๆในการติดตามและวัดผลการดำเนินงาน
ในการดำเนินการ เทคนิคการขายของออนไลน์ ที่ใช้เวลาไปสักระยะหนึ่งผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ แล้ว เราต้องติดตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น จากการนำเสนอหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการปล่อยแคมเปญโฆษณา การรันคอนเทนต์เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ และเหตุผลอื่น ๆ อีกมากมายที่เราควรจะติดตามข้อมูลหลังบ้านอยู่เสมอ โดยใช้เครื่องมือจากโลกออนไลน์ตามลิสต์รายการดังต่อไปนี้
- Meta Business: นอกจากจะเป็นตัวช่วยเผยแพร่คอนเทนต์บน Facebook & Instagram ได้แล้ว ยังสามารถติดตามผลลัพธ์หลังบ้าน พร้อมข้อมูลรูปแบบ Visual ให้เราได้ติดตามเพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อได้
- Google Analytics: เครื่องมือที่ช่วยเก็บสถิติบนเว็บไซต์ที่แสดงผลอย่างละเอียด ทำให้เรารู้ Customer Journey พร้อมนำเอา Data ต่าง ๆ ไปปรับกลยุทธ์ไปแบบชิว ๆ
เทคนิคขายของออนไลน์ 6 : มีการทำ Conversion Testing
การทำ Conversion Testing หมายถึงการทดสอบนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ เพื่อดูว่ารูปแบบไหนคือสิ่งที่ลูกค้าชื่นชอบมากที่สุด เป็น เทคนิคการขายของออนไลน์ ที่ช่วยให้เรามองเห็นแนวทางชัดเจนมากขึ้น ว่าการโฆษณา หรือการยิงแอดของเรา ต้องออกมาในรูปแบบใด ถึงจะได้รับผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
- ทดสอบด้วยการนำเสนอโปรโมชัน หรือข้อมูลที่แตกต่าง ผ่านวิธีแบบ Call to Action เพื่อดูอัตรา Conversion ของเราถึงจำนวน, ผู้ลงชื่อ ไม่ก็ยอดผู้ซื้อสินค้าต่าง ๆ
- ใช้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น Facebook Ads ในหมวด A/B Testing ช่วยให้เราได้ลองโฆษณาที่แตกต่างแบบพร้อมกัน และดูผลตอบรับรูปแบบไหนที่คนชอบมากที่สุด
เทคนิคขายของออนไลน์ 7 : ใช้เทคโนโลยีต่างๆอำนวยความสะดวก
ผ่านกันมาตั้งหลายข้อทุกคนคงเห็นกันแบบชัด ๆ เลยว่า เทคนิคการขายของออนไลน์ มีทั้งการนำเสนอผ่านเว็บไซต์ และ Social Media เพราะเราต้องการความหลากหลายของช่องทาง เพื่อไปให้ถึงลูกค้าที่กระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่าง ๆ อย่างที่ได้กล่าวเอาไว้บ้างแล้ว ซึ่งเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้เรา สามารถเสิร์ฟสินค้า นำเสนอ Branding ได้ทั่วถึง ต้องพึ่งสิ่งเหล่านี้ค่ะ
- สร้างเว็บไซต์ที่นำเสนอสินค้า พร้อมกับ Blog ที่เพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาด้วย SEO ผู้คนที่ใช้งาน Search Engine จะได้หาเราเจอง่ายขึ้น
- สร้าง Social Media ของแบรนด์ขึ้นมา เพื่อเป็นช่องทางหลักในการสื่อสารข้อมูลต่าง ๆ ให้ User หลายสิบล้านคนมีโอกาสพบเจอง่ายกว่าเดิม
- ค้นหา Tools ช่วยในการวิเคราะห์ และสืบค้นข้อมูล แล้วจึงนำสิ่งที่ได้มาสานต่อ สร้างกลยุทธ์ ทำแคมเปญที่ตอบโจทย์ จนดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้มากพอ
เทคนิคขายของออนไลน์ 8 : ให้ความสำคัญกับการทำคอนเทนต์
ความสำคัญของการทำคอนเทนต์นั้นจะช่วยให้ เทคนิคการขายของออนไลน์ ที่เราแทรกอยู่ในเนื้อหาของสื่อ มีประสิทธิภาพและทรงพลังมากที่สุด ยิ่งคอนเทนต์ของเราให้ประโยชน์ลูกค้ามากเท่าไหร่ ก็สามารถดึงดูดผู้คนให้เข้าหาอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้กลยุทธ์ที่เราเรียกว่า Inbound Marketing ซึ่งมีตัวอย่างคอนเทนต์มาฝาก เช่น
- Infographic: การนำเสนอข้อมูลผ่านรูปภาพ โดยในเนื้อหาคอนเทนต์และภาพกราฟิกที่นำเสนอ ต้องมีข้อมูลที่มีประโยชน์ครบถ้วนตาม Topic หรือ Headline ที่ระบุ
- Video review: บางครั้งลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้ายาก เพราะไม่เคยมีใครสัมผัส, มองเห็น หรือทราบข้อมูลการใช้งานจากสินค้ามาก่อน การทำ Video review จะช่วยปิดจุดอ่อนนี้ได้อย่างดี
- Challenge: คอนเทนต์รูปแบบการท้าทายที่แบรนด์อยากให้ลูกค้าเข้าร่วม เพื่อสร้าง UGC (User Generated Content) ให้เรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ขยายออกไปเป็นวงกว้าง
- Conversion Event Ads: การนำเสนอ Conversion Event ผ่านการยิง Ads บน Facebook ที่ลูกค้าเห็นโฆษณาแล้วสามารถคลิก เพื่อเชื่อมโยงไปหาสิ่งที่ต้องการได้เลย เช่น Click to Message ติดต่อแบรนด์ผ่านข้อความ, Learn More เรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติม
เทคนิคขายของออนไลน์ 9 : การรับประกันสินค้า
สำหรับ เทคนิคการขายของออนไลน์ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ การรับประกันสินค้า ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้บริโภค เนื่องจากการรับประกันบางอย่าง ทำให้ผู้บริโภครู้สึกอุ่นใจอย่างมากที่จะเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์นั้น ๆ โดยปัจจุบันข้อเสนอดังกล่าว เริ่มมีแบรนด์ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ถึงขั้นทำเป็นแคมเปญเพื่อโฆษณายิงแอดบน Facebook, TikTok, Instagram และช่องทางอื่น ๆ ด้วยคำที่แสนคุ้นหูว่า “ไม่พอใจยินดีคืนเงิน”
อย่างไรก็ตามรูปแบบของ เทคนิคการเพิ่มยอดขายออนไลน์ ด้วยวิธีนี้อยู่ 3 รูปแบบด้วยกัน
- คืนสินค้าและคืนเงินเต็มจำนวน: กรณีที่ผู้บริโภคไม่พอใจต่อสินค้า สามารถส่งคืนให้กับทางแบรนด์ โดยที่จะได้รับค่าสินค้าคืนแบบเต็มจำนวน
- เปลี่ยนสินค้าให้ฟรี: หากสินค้าที่ซื้อมาแล้วเกิดมีปัญหา ไม่สามารถใช้งานได้ในช่วงวันของการรับประกัน สามารถเปลี่ยนได้ฟรีทันที
- รับประกันซ่อมหรือดูแลสินค้า: กรณีนี้ค่อนข้างคล้ายกันกับรูปแบบด้านบน เพียงแต่เมื่อสินค้ามีปัญหา ทางแบรนด์จะรับผิดชอบ ด้วยการซ่อมให้ฟรีแทนการเปลี่ยนสินค้า
เทคนิคการปิดการขาย สำหรับธุรกิจออนไลน์
พอเราเริ่มต้นกระบวนการใช้งาน เทคนิคการขายของออนไลน์ มาอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่เราต้องทำให้ได้ในปลายสุดของการขาย คือ ต้องปิดการขายให้ได้ เพราะลูกค้าบางคนอาจไม่ได้พอใจแค่คลิกซื้อสินค้า จ่ายเงินแล้วจบ อาจต้องมีการพูดคุย สอบถาม หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อดูว่าสินค้าหรือบริการที่สนใจอยู่ จะตอบโจทย์ได้มากน้อยเพียงใด จึงเป็นอีกเหตุผลสำคัญที่การสร้าง Social Media ไว้คอยตอบรับลูกค้า กลายเป็นข้อดีที่เข้ามาช่วยเสริม เทคนิคปิดการขายออนไลน์ ได้ยอดเยี่ยม ก่อนมาอ่านเทคนิคตรงนี้ ลองหาวิธีสร้างเพจ Facebook, LINE OA ฯลฯ อื่น ๆ เพิ่มเติมดูก่อนได้เลยนะคะ แต่ถ้าใครมีช่องทางติดต่อง่าย ๆ อยู่แล้ว เดี๋ยวเรามาดูเทคนิคปิดการขายต่อเลยค่ะ
- ทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ช่วยปิดการขาย เพื่อที่จะสามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้อย่างคล่องแคล่ว และรวดเร็ว
- ต้องเป็นผู้ฟังที่ยอดเยี่ยม เพราะเหตุผลหลักของการซื้อสินค้าและบริการของลูกค้าส่วนใหญ่ คือ ต้องการแก้ปัญหาอะไรสักอย่าง ดังนั้นหากเกิดคำถามจากลูกค้า ต้องฟังอย่างตั้งใจ พร้อมหาวิธีแก้ปัญหาภายใต้ความสามารถของแบรนด์ให้สำเร็จ
- เข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนในสภาพแวดล้อมใหม่ให้ดี มองหาโอกาส และมุ่งเน้นอย่างถูกทิศทาง
- นำเสนอวิธีการแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะการนำเสนอสินค้าผ่านไลฟ์ที่ลูกค้าไม่ต้องมาเลือกที่ร้าน ไม่ต้องเจอหน้ากัน แต่ก็สามารถช้อปได้อย่างมีความสุข
- อย่าลังเลที่จะแบ่งปันข้อมูล หรือสร้างเนื้อหาที่มีประโยชน์ สละเวลาเพื่อตอบคำถามคาใจของลูกค้า และเข้าถึงโอกาสปิดการขายให้มากที่สุด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการขายของออนไลน์
1. ขายของออนไลน์อะไรดี
บางครั้งการเลือกขายสินค้าออนไลน์ อาจมาจากของที่หลายคนชื่นชอบ แต่ถ้าอ้างอิง เทคนิคการขายของออนไลน์ ในสมัยนี้ เราต้องอิงกับสถิติต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อดูคาดการณ์การเติบโตของตลาด แล้วลองเลือกจากสินค้าเหล่านั้นมานำเสนอผู้บริโภคดู แต่ว่าสินค้าที่ฮิตติดอันดับจนตลาดโตต่อเนื่องสำหรับปี 2022-2023 จะมีอะไรบ้างนั้น Digital Tips ลองลิสต์มาแนะนำให้ทั้งหมด 5 รายการด้วยกันค่ะ
- อุปกรณ์เสริมสำหรับเครื่องมือไฟฟ้า: อุปกรณ์ที่พัฒนาให้ชิ้นเล็ก และใช้งานง่ายขึ้นสำหรับผู้คนทั่วไป ได้รับความนิยมถึงขั้นที่อัตราการเติบโตของคำสั่งซื้อทั่วโลก (YoY) สูงกว่า 23,418%
- รองเท้าเครื่องแต่งกาย: สินค้าแฟชั่นโดยเฉพาะดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์อย่างหมวดคอสเพลย์ หรือการแต่งตัวตามธีมแบบ Festive มีอัตราการเติบโตของคำสั่งซื้อทั่วโลก (YoY) กว่า 8,877%
- เสื้อเด็ก: ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเด็กรูปแบบไหน มีการค้นหาเพิ่มขึ้นสูงในทุกเดือน แถมอัตราการเติบโตจากคำสั่งซื้อทั่วโลก (YoY) ก็ทะลุ 5,090% ไปแล้ว
- Watch Accessories: อุปกรณ์เสริมนาฬิกา เช่น สายนาฬิกา แทนวางนาฬิกา ที่ได้รับความนิยมสูง และมีอัตราการเติบโตของคำสั่งซื้อทั่วโลก (YoY) กว่า 2,737%
- แก้วน้ำ: เพราะเทรนด์การออกกำลังกาย, การเดินป่า, การรักษ์โลก กำลังปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นทำให้แก้วน้ำได้รับความนิยมสูง โดยมีอัตราการเติบโตจากคำสั่งซื้อทั่วโลก (YoY) อยู่ที่ 2,602%
สินค้าบางตัวมีราคาที่ไม่แพงมากเท่าไหร่นัก ยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกถึงคำว่า “ของมันต้องมี” และบวกกับ เทคนิคการขายของออนไลน์ ชั้นยอดของคนไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก ทำให้เรามีโอกาสเจอสินค้าเหล่านี้เป็นจำนวนมาก ผ่านการที่แต่ละแบรนด์แข่งกันยิงแอด โดยเฉพาะการโดนยิงแอด LINE, ยิงแอด Facebook, ยิงแอด Instagram,ยิงแอด tiktok ซึ่งถ้าเราเผลอเข้าไปดู ก็จะมีไหลมาให้ดูอีกเพียบเลยทีเดียว
ข้อสรุปเกี่ยวกับการขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์ ณ เวลานี้ ไม่ว่าใครก็สามารถเริ่มได้ทั้งนั้น ทำให้โอกาสขึ้นอยู่กับ เทคนิคการขายของออนไลน์ ที่แต่ละคนจะหาวิธีปรับกลยุทธ์มาแข่งขันกันในตลาด เพื่อเข้าถึงลูกค้ามากขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์แพลตฟอร์ม ที่มีให้เลือกเข้าร่วมหลาย 10 รายการ และการสืบค้นข้อมูลถึง Customer Insight เพื่อตอบโจทย์ตามความคาดหวังของลูกค้าให้ได้ ยังคงเป็นโจทย์สำคัญที่แบรนด์หรือธุรกิจต้องตีให้แตก ด้วยเทรนด์ปัจจุบันที่ลูกค้าต้องการความใส่ใจมาเป็นพิเศษ เทคนิคขายของออนไลน์ อาจต้องพึ่งพามากกว่าการยิง Ads เพียงอย่างเดียว เน้นการเรียนรู้, ตั้งคำถาม, พัฒนา และตอบสนองไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะประสบความสำเร็จ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : ตัวจัดการโฆษณา Facebook Ads Manager ใช้ยังไง สอนยิงแอดให้ปัง ปี 2022
Source
Steve Milano, What Do Product Guarantees Do to Help Sales?, 2019
https://smallbusiness.chron.com/types-deceptive-advertisement-22945.html
Adam Rogers, 17 Trending Products and Things To Sell Online (2022), Sep 12, 2022
https://www.shopify.com/blog/trending-products